มีซื้อไหม มีลิขสิทธิ์ไหม มีแจกเกลื่อนไหม มีแกะเองไหม
เห็นพูดถึง Photoshop ในกระทู้ก่อน เลยอยากรู้ว่าเขาจะสรรหาอัลกอริธึมกันจากไหน
จำได้อย่าง mp3 ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์นิครับ เคยจะทำเกมแล้วเจอปัญหาเรื่องนี้ ส่วนการเขียนโปรแกรม ผมก็สร้าง format ขึ้นมาเอง เข้ารหัสง่ายๆแค่นั้นเอง ให้มันเปิดได้กับโปรแกรมเราเอง
หมายถึง entension แบบ exe pdf vmx พวกนี้เหรอครับ
ตรงที่มีแสง
แนวคิดมีอย่างไม่ซับซ้อน
สมมุติว่า คุณมีโปรแกรมตัวหนึ่ง เพิ่งสร้างมา ยังไม่ดัง
โปรแกรมตัวนี้ ใช้จัดการความฝัน ซึ่งมันยังไม่เคยมีมาก่อนเลยใช่ไหม โปรแกรมแบบนี้
ดังนั้นคุณจึงเลือกที่จะให้นามสกุลไฟล์ว่า .dream ละกัน
จากนั้น เนื้อหาไฟล์ด้านใน คุณก็ต้องกำหนดเอง เช่น
ไบท์ที่ 0 จนถึง ไบท์ที่ 2048 กำหนดเป็น Header ใช้บอกว่า ไฟล์ต่อไปนี้ มีความฝันยาวเท่าไหร่ ความฝันชื่ออะไร หรือข้อมูลอื่นๆ
จากนั้นตั้งแต่ไบท์ที่ 2048 เป็นต้นไป คุณเก็บส่วนของเนื้อหาไฟล์ หรือ Body คุณก็ต้องกำหนดเอง ว่าคุณจะเก็บอะไรลงไปบ้าง รูปแบบไหน ยังไง คุณก็เก็บลงไป เก็บลงไป ตามรูปแบบที่ต้องการ (รูปแบบ = format)
จนสุดท้าย ครบไฟล์ ครบทุกข้อมูลที่คุณต้องการ คุณก็เซฟ และบันทึกเป็นนามสกุล .dream
จนวันนึง โปรแกรมของคุณดัง .dream ก็ถูกใช้จำนวนมาก และเป็นมาตรฐาน
ไฟล์ทุกรูปแบบก็มีแนวคิดง่ายๆแบบนี้แหละครับ แต่ว่า แนวคิดในส่วนของ Body ของไฟล์ต่างหาก ที่ซับซ้อน เช่น jpg มีรูปแบบเข้ารหัส ทำให้เก็บข้อมูลรูปภาพได้ โดยใช้พื้นที่น้อยลง
เวลาโปรแกรมจะ่อ่าน Body ของไฟล์ เพื่อแสดงผลได้ (ไม่ว่าจะแสดงรูปแบบไหนก็ตาม) ก็ต้องอ่าน Body และ ตีความตามแนวคิด หรือรูปแบบ ที่ถูกกำหนดไว้
รูปแบบของไฟล์ บางรูปแบบ ก็ถูกเปิดเผยออกมา ว่าจะสามารถอ่านไฟล์นี้ได้ยังไงบ้าง ตั้งแต่ไบท์เท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่ หมายถึงอะไร
แต่ไฟล์บางรูปแบบ ก็ไม่ถูกเปิดเผย รวมถึงอาจมีการเข้ารหัสลงไปอีก เพื่อเหตุผลด้านลิขสิทธิ์ ต้องการขายโปรแกรมอ่านไฟล์นี้แต่เพียงผู้เดียว ไม่เช่นนั้น ถ้าใครรู้ว่า แต่ละไบท์ของไฟล์ คืออะไร และจะอ่านมันได้ยังไง ก็จะมีคนสร้างโปรแกรมอ่านมันขึ้นมา ครับ
ไบท์ในไฟล์จะเป็นข้อมูลดิจิตอล 0,1 เสมอ ทำให้ไฟล์ดูจะเป็นเรื่องยากเหมือนกัน ที่จะตีความออกมา ถ้าไม่รู้ว่า รูปแบบที่เค้าบันทึกลงไป มันหมายความว่าอะไร
+1 ขอบคุณครับ : D
+1
ขอบคุณมากครับ อยากรู้มานานแล้วแต่คิดคีย์เวิร์ดคำถามไม่ออก ไม่ทราบพอมีตัวอย่างให้ดูซักอันมั้ยครับ
ที่ชัดที่สุดก็เช่นระบบการเก็บข้อมูลภาพครับ ค่าสีต่างๆ จะถูกเก็บเป็น 3 channel (แดง เขียว น้ำเงิน) วิธีเก็บค่าสีที่ตรงไปตรงมาที่สุดคือเก็บเป็นแมทริกซ์สามชุด (หรืออาเรย์สามมิติ สองมิติแรกคือขนาดของภาพ มิติที่สามมีขนาดเป็นสาม คือสีแดงเขียว น้ำเงินนั่นเอง) การเก็บแบบนี้จะบอกเราว่าที่พิกัดภาพใดๆ ค่าสีทั้งสามสีเป็นเท่าไร เวลาอ่านก็แค่แปลออกมาเป็นสีให้เราเห็นเท่านั้นเอง วิธีเก็บแบบนี้คือ extension แบบ tiff นั่นเอง สังเกตุว่าเก็บแบบนี้ถ้าภาพมีขนาดเท่ากัน ขนาดไฟล์จะเท่ากันเสมอ ข้อดีคือภาพเป็นยังไงก็เก็บข้อมูลมาครบไม่มีผิดเพี้ยนเลยซักนิด และไม่มีการ encode ใดๆ ทำให้อ่าน-เขียนเร็ว ข้อเสียคือใช้พื้นที่ในการเก็บเยอะมาก และพอเอาเข้าจริง เมื่อภาพขนาดใหญ่มาก (แปลผันตามขนาดภาพ) การอ่าน-เขียนก็เริ่มช้าลง
ต่อมาเลยเริ่มมีการพัฒนา format อื่นๆ ตามมา (jpg, gif, png, etc.) เพื่อเก็บข้อมูลภาพโดยใช้พื้นที่เก็บน้อยลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบ lossy หรือเป็นการ encode ที่เวลา decode กลับแล้วข้อมูลบางส่วนจะหายไป (เวลาใช้โปรแกรมแต่งภาพเซฟภาพเป็น format ต่างๆ มักจะมีตัวเลือก quality มันก็คือการกำหนดว่าจะยอมให้ข้อมูล loss เท่าไหร่นั่นเอง ซึ่งแลกกับพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้นถ้า loss น้อยลง)
โอ๊ะ อธิบายยาวเกิน หวังว่าจะไม่ขี้เกียจอ่านก่อนนะครับ ขอโทษด้วยที่ยาวครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ขอบคุณครับ ไม่ได้ยาวเลย
+1 ขอบคุณครับ
แกะเองก็เคยทำบ้างครับ บางคนเค้าทำฟอร์แมทไม่ซับซ้อนมากก็พอจะถอดได้ (ใช้ Hex Editor)
แต่ส่วนใหญ่จะซับซ้อนมาก ถ้าไม่ใช้โปรแกรมที่ debug โปรแกรมชาวบ้านได้ (SoftICE ?) ก็เหนื่อยครับ
เข้ามาเสริม ถ้าต้องแกะก็ต้อง Reverse Engineering ย้อนกลับเอง กรณีที่ไม่มี tool ใดๆ
พวกเรียกไอ้พวกที่มานะทำจนได้นี่ว่าพวกไม่ปกติครับ อดทนเกิน ฮ่าๆ
Ton-Or
อยากทราบว่า มันมีมาตรฐานในการตั้งชื่อ extension ไฟล์มั้ยครับ หรือว่า first come first serve ครับ คิดได้ก็ตั้งไปเลย
เพราะผมยังไม่เคยเห็น extension ซ้ำกันเลย (หรือว่าผมไปมุดอยู่รูไหนมาหว่า?)
เยอะแยะครับ ที่ซ้ำกัน ยกตัวอย่าง .DAT
http://filext.com/file-extension/DAT
ที .DAT ซ้ำเยอะน่าจะเพราะมันย่อมาจาก DATA ครับ ฟอแมตที่บ.เก่าผมตั้งเองก็ใช้ .DAT
ผมว่า .dat ซ้ำเยอะนะครับ เก็บหนังกับข้อมูลบางอย่างของโปรแกรมบางตัว
ผมถามตรงๆเลยนะครับ ถ้าเอา .pdf มาเข้ารหัสใหม่ ให้เป็น .xxx จะผิด ลิขสิทธิ์รึป่าวครับ
น่าจะเป็นเรื่องของสิทธิบัตรมากกว่าลิขสิทธิ์นะครับ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
กระทู้มีประโยชน์ +1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
โอ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ ฮ่าาา
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
จำได้อย่าง mp3 ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์นิครับ เคยจะทำเกมแล้วเจอปัญหาเรื่องนี้
ส่วนการเขียนโปรแกรม ผมก็สร้าง format ขึ้นมาเอง เข้ารหัสง่ายๆแค่นั้นเอง ให้มันเปิดได้กับโปรแกรมเราเอง
หมายถึง entension แบบ exe pdf vmx พวกนี้เหรอครับ
ตรงที่มีแสง
แนวคิดมีอย่างไม่ซับซ้อน
สมมุติว่า คุณมีโปรแกรมตัวหนึ่ง เพิ่งสร้างมา ยังไม่ดัง
โปรแกรมตัวนี้ ใช้จัดการความฝัน ซึ่งมันยังไม่เคยมีมาก่อนเลยใช่ไหม โปรแกรมแบบนี้
ดังนั้นคุณจึงเลือกที่จะให้นามสกุลไฟล์ว่า .dream ละกัน
จากนั้น เนื้อหาไฟล์ด้านใน คุณก็ต้องกำหนดเอง เช่น
ไบท์ที่ 0 จนถึง ไบท์ที่ 2048 กำหนดเป็น Header ใช้บอกว่า ไฟล์ต่อไปนี้ มีความฝันยาวเท่าไหร่
ความฝันชื่ออะไร หรือข้อมูลอื่นๆ
จากนั้นตั้งแต่ไบท์ที่ 2048 เป็นต้นไป คุณเก็บส่วนของเนื้อหาไฟล์ หรือ Body คุณก็ต้องกำหนดเอง ว่าคุณจะเก็บอะไรลงไปบ้าง รูปแบบไหน ยังไง
คุณก็เก็บลงไป เก็บลงไป ตามรูปแบบที่ต้องการ (รูปแบบ = format)
จนสุดท้าย ครบไฟล์ ครบทุกข้อมูลที่คุณต้องการ คุณก็เซฟ และบันทึกเป็นนามสกุล .dream
จนวันนึง โปรแกรมของคุณดัง .dream ก็ถูกใช้จำนวนมาก และเป็นมาตรฐาน
ไฟล์ทุกรูปแบบก็มีแนวคิดง่ายๆแบบนี้แหละครับ แต่ว่า แนวคิดในส่วนของ Body ของไฟล์ต่างหาก ที่ซับซ้อน
เช่น jpg มีรูปแบบเข้ารหัส ทำให้เก็บข้อมูลรูปภาพได้ โดยใช้พื้นที่น้อยลง
เวลาโปรแกรมจะ่อ่าน Body ของไฟล์ เพื่อแสดงผลได้ (ไม่ว่าจะแสดงรูปแบบไหนก็ตาม) ก็ต้องอ่าน Body และ
ตีความตามแนวคิด หรือรูปแบบ ที่ถูกกำหนดไว้
รูปแบบของไฟล์ บางรูปแบบ ก็ถูกเปิดเผยออกมา ว่าจะสามารถอ่านไฟล์นี้ได้ยังไงบ้าง
ตั้งแต่ไบท์เท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่ หมายถึงอะไร
แต่ไฟล์บางรูปแบบ ก็ไม่ถูกเปิดเผย รวมถึงอาจมีการเข้ารหัสลงไปอีก เพื่อเหตุผลด้านลิขสิทธิ์
ต้องการขายโปรแกรมอ่านไฟล์นี้แต่เพียงผู้เดียว
ไม่เช่นนั้น ถ้าใครรู้ว่า แต่ละไบท์ของไฟล์ คืออะไร และจะอ่านมันได้ยังไง ก็จะมีคนสร้างโปรแกรมอ่านมันขึ้นมา ครับ
ไบท์ในไฟล์จะเป็นข้อมูลดิจิตอล 0,1 เสมอ ทำให้ไฟล์ดูจะเป็นเรื่องยากเหมือนกัน ที่จะตีความออกมา ถ้าไม่รู้ว่า
รูปแบบที่เค้าบันทึกลงไป มันหมายความว่าอะไร
+1 ขอบคุณครับ : D
+1
ขอบคุณมากครับ อยากรู้มานานแล้วแต่คิดคีย์เวิร์ดคำถามไม่ออก ไม่ทราบพอมีตัวอย่างให้ดูซักอันมั้ยครับ
ที่ชัดที่สุดก็เช่นระบบการเก็บข้อมูลภาพครับ ค่าสีต่างๆ จะถูกเก็บเป็น 3 channel (แดง เขียว น้ำเงิน) วิธีเก็บค่าสีที่ตรงไปตรงมาที่สุดคือเก็บเป็นแมทริกซ์สามชุด (หรืออาเรย์สามมิติ สองมิติแรกคือขนาดของภาพ มิติที่สามมีขนาดเป็นสาม คือสีแดงเขียว น้ำเงินนั่นเอง) การเก็บแบบนี้จะบอกเราว่าที่พิกัดภาพใดๆ ค่าสีทั้งสามสีเป็นเท่าไร เวลาอ่านก็แค่แปลออกมาเป็นสีให้เราเห็นเท่านั้นเอง วิธีเก็บแบบนี้คือ extension แบบ tiff นั่นเอง สังเกตุว่าเก็บแบบนี้ถ้าภาพมีขนาดเท่ากัน ขนาดไฟล์จะเท่ากันเสมอ ข้อดีคือภาพเป็นยังไงก็เก็บข้อมูลมาครบไม่มีผิดเพี้ยนเลยซักนิด และไม่มีการ encode ใดๆ ทำให้อ่าน-เขียนเร็ว ข้อเสียคือใช้พื้นที่ในการเก็บเยอะมาก และพอเอาเข้าจริง เมื่อภาพขนาดใหญ่มาก (แปลผันตามขนาดภาพ) การอ่าน-เขียนก็เริ่มช้าลง
ต่อมาเลยเริ่มมีการพัฒนา format อื่นๆ ตามมา (jpg, gif, png, etc.) เพื่อเก็บข้อมูลภาพโดยใช้พื้นที่เก็บน้อยลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบ lossy หรือเป็นการ encode ที่เวลา decode กลับแล้วข้อมูลบางส่วนจะหายไป (เวลาใช้โปรแกรมแต่งภาพเซฟภาพเป็น format ต่างๆ มักจะมีตัวเลือก quality มันก็คือการกำหนดว่าจะยอมให้ข้อมูล loss เท่าไหร่นั่นเอง ซึ่งแลกกับพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้นถ้า loss น้อยลง)
โอ๊ะ อธิบายยาวเกิน หวังว่าจะไม่ขี้เกียจอ่านก่อนนะครับ ขอโทษด้วยที่ยาวครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ขอบคุณครับ ไม่ได้ยาวเลย
+1 ขอบคุณครับ
แกะเองก็เคยทำบ้างครับ บางคนเค้าทำฟอร์แมทไม่ซับซ้อนมากก็พอจะถอดได้ (ใช้ Hex Editor)
แต่ส่วนใหญ่จะซับซ้อนมาก ถ้าไม่ใช้โปรแกรมที่ debug โปรแกรมชาวบ้านได้ (SoftICE ?) ก็เหนื่อยครับ
เข้ามาเสริม ถ้าต้องแกะก็ต้อง Reverse Engineering ย้อนกลับเอง กรณีที่ไม่มี tool ใดๆ
พวกเรียกไอ้พวกที่มานะทำจนได้นี่ว่าพวกไม่ปกติครับ อดทนเกิน
ฮ่าๆ
Ton-Or
อยากทราบว่า มันมีมาตรฐานในการตั้งชื่อ extension ไฟล์มั้ยครับ
หรือว่า first come first serve ครับ คิดได้ก็ตั้งไปเลย
เพราะผมยังไม่เคยเห็น extension ซ้ำกันเลย (หรือว่าผมไปมุดอยู่รูไหนมาหว่า?)
เยอะแยะครับ ที่ซ้ำกัน ยกตัวอย่าง .DAT
http://filext.com/file-extension/DAT
ที .DAT ซ้ำเยอะน่าจะเพราะมันย่อมาจาก DATA ครับ ฟอแมตที่บ.เก่าผมตั้งเองก็ใช้ .DAT
ผมว่า .dat ซ้ำเยอะนะครับ เก็บหนังกับข้อมูลบางอย่างของโปรแกรมบางตัว
ผมถามตรงๆเลยนะครับ ถ้าเอา .pdf มาเข้ารหัสใหม่ ให้เป็น .xxx จะผิด ลิขสิทธิ์รึป่าวครับ
น่าจะเป็นเรื่องของสิทธิบัตรมากกว่าลิขสิทธิ์นะครับ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
กระทู้มีประโยชน์ +1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
โอ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ ฮ่าาา
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ