Tags:

เรื่องก็คือ ผมกำลังจะจบป.ตรี ในเดือนตุลาคมนี้ เป็นการจบสามปีครึ่ง และคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะได้เกียรตินิยมอับดับหนึ่งเหรียญทอง ม.เอกชนแห่งหนึ่งครับ

ฟังดูแล้วไม่น่าคิดมากใช่ไหมครับ แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า ผมเรียนเอกเทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ ซึ่งหลักสูตรที่ผมเรียนมันเป็นหลักสูตรลูกผสม IT&Business 60:40 ครับ คือค่อนข้างจะเน้นไปทาง IT แต่ก็ยังเรียนวิชาของสายบริหารควบคู่ไปด้วย โดยไม่มีโปรเจคจบ มีแต่โปรเจครายวิชา

ทีนี้ผมจะไปสมัครงาน ผมก็เกิดปัญหาว่า "แล้วเราจะไปทำอะไรดีวะ?" ไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร ชอบอะไรมากกว่ากัน คือหลักสูตรมันเหมือนจับฉ่ายไปหมด พูดง่าย ๆ เหมือนเป็ด ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ลึกซึ้งสักอย่าง

เคยคิดไว้ว่าจะเป็น Web programmer แต่พอมาเจอโลกแห่งความเป็นจริง ก็กังวลว่า skills เรามันจะถึงหรือเปล่า ถามว่าพื้นฐานเขียนได้ไหม ตอบว่าเขียนได้นะ ไม่ว่าจะ PHP & MySQL , ASP.NET(C#),Java ก็ยังไหว แต่เหมือนโลกมันหมุนเร็วเหลือเกิน แปป ๆ ก็มีอะไรใหม่ ๆ มา ศึกษาไม่ทันยังง่วนกับ XML, Joomla พอรู้ตัวอีกทีใกล้จะจบแล้ว พวก Framwork ยังไม่ทันได้ศึกษาเลย ภาษาอังกฤษก็งู ๆ ปลา ๆ อีก อ่านไป แปลไป อ่าน text แต่ละทีเลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะจบสักเล่ม บางทีแปลไปไม่รู้ถูกหรือเปล่าด้วยซ้ำ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

เคยมีคนแนะนำให้ไปทำพวก Sales ด้วยนะ เนื่องด้วยผมเป็นคนนำเสนอได้ดีเวลาพูดต่อหน้าคนเยอะไม่ค่อยมีปัญหา

ตอนนี้อยู่ในช่วงสอบปลายภาค พอสอบเสร็จ ไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหนดี กังวลด้วยว่าเขาจะรับหรือเปล่า มีใครเป็นแบบผมบ้างไหมเนี่ย

Get latest news from Blognone
By: netfirms
iPhoneAndroidWindows
on 27 September 2010 - 10:55 #215249
netfirms's picture

ดูจากทักษะต่างๆที่คุณอธิบายมาก็น่าจะเป็น Sale จริงๆแหละครับ

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 27 September 2010 - 11:13 #215260
meawwat's picture

จบมาใหม่ๆ มักจะไม่มั่นใจเรื่องฝีมือการเขียนโค้ดครับ ต้องทำไปเรื่อยๆ เราจะมั่นใจขึ้นเอง

ผมอยากเชียร์ให้ทำ web programmer นะ ถ้าพอเขียนได้ เพราะ programmer ที่นำเสนองานเก่งๆ ผมคิดว่าดีครับ

ผมเองก็จบหลักสูตรคล้ายๆกับของคุณเหมือนกัน เพียงแต่ว่าผมไม่ถนัดทาง Business เท่าที่ควรเลยเลือกง่ายหน่อย

แต่ทางที่ดีที่สุดคือทางที่เราชอบมากที่สุดครับ ไม่มีใครแนะนำเราได้ดีเท่าตัวเราเอง

By: risc on 27 September 2010 - 11:21 #215266

ปัญหาคือ
1. ความกลัว
2. ไม่รู้ตัวเองชอบอะไร

By: KillerNay
iPhoneAndroidBlackberry
on 27 September 2010 - 11:25 #215268
KillerNay's picture

อ้ายที่บอกว่า รู้ จับฉ่าย เนี่ยอะครับ ดีกว่า คนรู้อยู่เรื่องเดียวนะครับ

ถ้ารักการเขียนโปรแกรมก็แนะนำ ให้ทำตามท่เขียนไว้ก่อนเพื่อค้นหาตัวเอง

ตอนผมจบมาก็แบบนั้น วิศวกรคอมพิวเตอร์จับฉ่าย

หลังจากทำงานสองปี ได้เรียนรู้ยุทธวิธีมากมาย (Programmer c#,SAP,Technical Consult ,Pre sale , Sale)

สุดท้าย พบว่า งานการตลาดออนไลน์ ดันมาเหมาะสมกับตัวเองซะงั้น

เราจบเร็วกว่าคนอื่น เป็นเรื่องที่ดีรีบหาประสบการณ์ หลังจากนั้น ก็มองลู่ทางตัวเอง

ปล.อย่าลืมตั้งเป้าหมาย เช่น จะมีเงินสด 1 ล้านบาท ก่อนอายุ 25 ฉนั้น ถ้าแค่เขียนโปรแกรมเป็นงานประจำเป็นไปไม่ได้แน่นอน

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 September 2010 - 11:39 #215270 Reply to:215268
tekkasit's picture

ต้องบอกว่ามีความมั่งคั่งสุทธิ (net wealth) เกิน 1 ล้าน ซึ่งอาจจะมีในรูปแบบต่างๆ พันธบัตร, หุ้น, ประกันชีวิต, ทองคำ, LTF/RMF, ฯลฯ แต่บอกว่ามีเงินสด 1 ล้านนี่น่าเสียดายครับ เสียดายโอกาสที่จะทำเงินได้

แถมถ้าจะโกง ผมกู้เอาก็ได้นะ 1 ล้านน่ะ #petdo

By: vittee
AndroidRed HatUbuntuWindows
on 28 September 2010 - 12:10 #215900 Reply to:215268
vittee's picture

เห็นด้วยกับเน นะ

แนะนำว่างานแรกๆ อย่าเลือกมาก มีอะไรก็ทำๆไปก่อน เราจะเริ่มจับทางตัวเองได้
จากนั้นก็เก็บสะสมประสบการณ์ เมื่อได้สักระยะ ก็เริ่มมองหาทางของตัวเองบ้าง

ที่สำคัญที่สุดคือการตั้งเป้าหมาย และการเริ่มต้น
หากมัวแต่คิดๆๆๆ แล้วก็คิดๆๆๆ ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง มันก็ไม่มีทางไปสู่เป้าหมายได้

By: aoddy on 30 September 2010 - 17:52 #216648 Reply to:215900

"งานแรกๆ อย่าเลือกมาก"
อันนี้ผมไม่เห็นด้วยนะครับ
ผมว่างานแรกในชีวิต..มันสำคัญมากเลยนะ ถ้า จขกท. ไม่ได้เดือนร้อยเรื่องเงิน อยากให้หางานที่อยากทำก่อนนะครับ พยายามดูก่อน เพราะเมื่อทำงานไปซักระยะ เช่น
ทำ System Engineer 1-2 ปี ได้เงินเดือน 25,000
แต่สุดท้ายแล้วอยากทำโปรแกรมเมอร์ เงินเดือนเหลือ 18,000 งี้..เราก็ไม่อยากเปลี่ยนสายละ.. เดี๋ยวจะมาเสียดายทีหลัง

ส่วนความคิดเห็นส่วนอื่นของคุณ @vittee เห็นด้วยทุกประการครับ

"Dream it. Believe it. Do it!!! "

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 September 2010 - 11:35 #215269
tekkasit's picture

อันนี้แล้วแต่คุณล่ะครับ

  • ทักษะเรื่องการสื่อสาร ความสามารถในการพูดเรื่องยากๆให้ชาวบ้าน non-IT เข้าใจได้ง่าย เป็นสิ่งจำเป็นในสาย Sales (Product Sales) ถ้ามีจินตนาการ และมีแบ็คกราวด์ด้านเทคนิคจะดีมาก
    ** ถ้าจะเป็น Project Sales ต้องอ่านคนให้ออก อ่านบรรยากาศออก เข้าหาผู้ใหญ่เป็น อาจจะต้องการตับที่แข็งแรงเป็นพิเศษ
  • มีความชอบในสายพัฒนา มี passion ในการทำงานด้านนี้ เลือกเทคนิคสักสายจับให้มั่น เช่น Java, .Net, PHP แล้วสร้างตัวตนของคุณขึ้นมา ทำให้คนในบริษัทรู้ว่า ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ถ้าต้องการคำปรึกษาในเรื่องนี้ คุณจะเป็นคนต้นๆในลิสต์
By: somkidgung
iPhoneAndroid
on 27 September 2010 - 11:38 #215273

ผมพบอย่างนึงแล้วว่าคุณเป็นคนเขียนหนังสือเก่ง และคงจะพูดเก่งด้วย
น่าติดตาม เข้าใจง่าย สนุก ได้เรื่อง กระชับ โอเคเลย

By: TakeshiBoy on 27 September 2010 - 12:28 #215293 Reply to:215273
TakeshiBoy's picture

+1

จากลักษณะการเขียนของคุณบ่งบอกว่าคุณเหมาะกับแนวการสื่อสารมาก เช่น Sale ผมรู้สึกว่าโดดเด่นตั้งแต่เขียนแล้วละ

By: mementototem
ContributorJusci's WriterAndroidWindows
on 27 September 2010 - 15:13 #215364 Reply to:215273
mementototem's picture
By: adente
ContributorSUSESymbianWindows
on 27 September 2010 - 12:03 #215278
adente's picture

1.เกรดดีนับว่าหน่วยก้านดี ไปที่ใหน เขาก็มองที่เกรดกันก่อน นับเป็นแต้มต่อที่ดี

2.สำนักทั่วไปก็ประมาณนี้ คนที่จบๆมาตามหลักสูตรจริงๆ ทำอะไรมากไม่ได้ ยกเว้นพวกปีกกล้า ขาแข็ง ฟรีแลนซ์มาตั้งแต่เรียน หรือสุ่มฝึกวิทยายุทธ์มาก่อน พวกนี้จะมั่นใจวรยุทธ์และพร้อมก้าวสู่ยุทธภพ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ถ้าที่ผ่านๆมาโปรเจคที่ทำนั้น ได้ทำจริงๆ ไม่ได้ทำแบบขอไปที ศึกษาจริงๆจัง พอไปทำงานจริงๆ ก็ไม่ต่างกันศึกษาไปเรื่อยๆ เดียวความมั่นใจจะรวมตัวกันเอง พูดง่ายๆเริ่มเจนสนามและจะตามทันพวกสุ่มเงียบได้ในไม่ช้า

3.วรยุทธ์ในโลกล้วนมีมากมาย แต่อย่าลืมหลายๆอย่างมันมีพื้นฐานมาจากสิ่งคล้ายกัน เพราะฉนั้นไม่ต้องกังวล เลือกวิชาที่คิดว่าเราชอบที่สุดมาสักสองสามอย่าง ยิ่งทำยิ่งใช้จะยิ่งเก่งไปเอง จนสุดท้ายจะจับเคล็ดวิชาได้ ตอนนั้นจะผลิกแพลงได้ร้อยแปดพันกระบวนท่าได้ไม่ใช่ของยาก

4.บุคลิกดียิ่งเป็นต่อ พรีเซนต์ตัวเองดี พรีเซนต์งานดี โอกาศได้เกิด มีสูง และผมเชื่อว่าสิ่งนี้สำคัญในทุกสายงาน รักษาและขัดเกลาสิ่งนี้ไว้ แต่อย่าลืมพัฒนาฝีมือด้านโปรแกรมมิ่งด้วยนะครับ มันจะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมกัน

  1. นับว่าโชคดีที่ได้เรียน Business เรียกว่าความรู้ด้าน model Business นี้ใช้ให้เราก้าวข้ามสายงานจากด้านโปรแกรมมิ่งไปด้าน Business ได้ไม่ยาก เพียงแต่สะสมประสบการณ์ไว้ก่อนพอถึงเวลา ก็ทะล่วงจุดลมปราณทางด้านเงินเดือนจะพุ่งทะลักทันที

สุดท้ายนี้ขอให้โชดดี น้องนั้นมีสิ่งที่ใช่ว่าทุกคนจะมีได้ เรียกความมั่นใจและอย่ากลัว ยุทธภพอันกว้างใหญ่รอน้องอยู่

By: way_cs16
ContributorWindows PhoneAndroidBlackberry
on 27 September 2010 - 12:06 #215280
way_cs16's picture

สำหรับน้องพี่แนะนำว่า
ไปสัมภาษณ์หลายๆที่ คนแบบน้องนี่แหละมีคนอยากได้เยอะ ไม่ต้องกลัวเรื่องเก่งไม่เก่ง แล้วถ้าชอบคนสัมภาษณ์แบบไหน ชอบเจ้านายแบบไหนเราก็ทำที่นั่น สำคัญคือถ้าสัมภาษณ์แล้วถูกใจค่อยทำ เรามีสิทธิ์เลือกครับ

ปล. ผมเคยคิดเหมือนน้องนี่แหละ จริงๆเก่งโปรแกรมมิ่ง แต่จบมาอยากลองเป็นเซล เลยไปลองดูประกฏว่าเจอกองเอกสาร ให้เราตรวจคำผิด หาสเป็ค ถ่ายเอกสารพิมพ์งานเป็นร้อยๆหน้า เข้าเช้าออกค่ำ เงินเดือน หมื่นต้นๆ รอสองปี ถึงจะเริ่มมีค่าคอม ส่วนเจ้านายทำงานมาหลายสิบปียังขับ City อยู่ ตัดสินใจ้ ไปเป็นโปรแกรมเมอร์อย่างที่ถนัดดีกว่า แล้วก็คิดไม่ผิด แต่มันก็แล้วแต่คนด้วย ไม่ได้สรุปแค่เล่าประสบการณ์

By: joecole on 27 September 2010 - 12:20 #215287

เอา transcript มากางดู แล้วถามตัวเองว่า

วิชาไหนที่เรียนแล้วรู้สึกสนุกที่สุด (= สิ่งที่ชอบ)
วิชาไหนที่เรียนแล้วได้เกรดดีที่สุด (= สิ่งที่ถนัด)

ถ้ามีคำตอบไหนที่ตรงกันทั้ง 2 ข้อข้างบน
ก็มีแนวโน้มว่า คุณจะทำงานกับสิ่งนั้นได้ดี

สงสัยอยู่อย่าง
เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง
แต่ไม่คล่องภาษาอังกฤษ (โดยเฉพาะในการเรียนสาขาวิชาเกี่ยวกับไอที)
แล้วคนที่เรียนได้อันดับรองๆ ลงมา
จะขนาดไหนล่ะเนี่ย ?

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 28 September 2010 - 04:02 #215705 Reply to:215287

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ

เรื่องภาษาอังกฤษผมยอมรับจริง ๆ ว่าต้องฝึกอีกเยอะ เป็นทักษะที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของผม

ส่วนคนที่ได้อันดับรองลงมาเก่งภาษาอังกฤษหลายคนครับ ผมยังไปปรึกษาอยู่เสมอ

ข้อได้เปรียบของผม น่าจะมาจากผมทำคะแนนวิชาพวก business ได้ดีครับ เลยทำให้เกรดดี

By: juliusds
AndroidUbuntuWindows
on 27 September 2010 - 13:03 #215304
juliusds's picture

ถ้าเป็นเซล น่าจะรุ่ง เพราะว่าดูพูดเก่ง แนะนำตัวเองดีครับ ลองดูครับ สู้ๆ

By: PowerBerry
Android
on 27 September 2010 - 13:29 #215314

ก็คุณคิดแต่จะเป็นลูกจ้างก็ได้แค่นี้แหละครับ สายงานมนุษย์เงินเดือน ตื่นนอนทำงานกลับบ้านเข้านอน วนอยู่อย่างงี่ตลอดอายุงาน

สาขาวิชาที่คุณจบมาดูจากความสามารถถ้าจะเริ่มทำอะไรที่เป็นของตัวเองมันก็มีเยอะแยอะผมยกตัวอย่างให้คุณลองไปพิมพ์ในกูเกิลว่า "ไทยเสียว" แล้วลองศึกษาดูของพวกนี้ทำเงินได้ถ้าคุณเก่งจริง

By: juliusds
AndroidUbuntuWindows
on 27 September 2010 - 14:07 #215324 Reply to:215314
juliusds's picture

อย่าลืมนะครับว่าในระหว่างนี้เราจะกินอะไรครับ ถ้าทำเวบเองก็กว่าจะติด index การทำ seo นานอยู่นะครับ ระหว่างนี้จะกินอะไรครับ นี้ถ้าเด็ก ต่างจังหวัดมาเรียน กทม ด้วยนี้ไหนจะค่าเช่า ไหนจะค่าอยู่ค่ากิน นอกจากว่า จบแล้วยังของซัพพอร์ตจากครอบครับอยู่ อันนี้โอเค แต่ถ้าไม่มีทุนนี้จบ

By: PowerBerry
Android
on 27 September 2010 - 15:18 #215367 Reply to:215324

ก็ใช่ว่าจะให้ไปทำ SEO นิครับมันมีอีกหลายอย่างที่ทำเงินได้อยู่ในนั้นแล้วยกตัวอย่างที่นี้ก็เพราะดูแล้วน่าจะตรงกับที่เรียนมา ทุกอย่างมันก็ต้องมีจุดเริ่มต้นอันนี้ยกตัวอย่างไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้มันต้องอาศัยดวงและจังหวะ

สายเงินเดือนเริ่มสบายแต่ไปเหนื่อยเอาตอนแก่ถ้าไม่ได้งานตำแหน่งที่เงินสูงหรือมีเงินเก็บขนาดพอที่ออกจากงานแล้วจะมีกินไปตลอดชีวิตก็เหนื่อยหน่อย

สายธรุกิจส่วนตัวเริ่มต้นเหนื่อยแสนสาหัสแต่ถ้าธรุกิจของคุณไปได้สวยโตวันโตคืนก็สบายยันลูกบวช

ก็ใช่ว่าทุกคนจะต้องมาทำอะไรเป็นของตัวเองทั้งหมดหลอกครับเพียงแต่ให้ลองนอกกรอบจากเด็กมหาวิทยาลัยจบใหม่ดูบ้าง ซึ่งเด็กเดี๋ยวนี้มีแต่คิดเรียนที่ดีๆ จบสูงๆ จะได้มีงานทำเงินเดือนเยอะๆ พอไม่ได้งานอย่างที่คิดก็ไม่เอา ซึ่งมันขายฝันชัดๆ ตอนนี้มันมีที่ไหนที่เด็กจบใหม่จะได้งานดีเงินเยอะ ถ้าเส้นหนาเงินถึงก็ว่าไปอีกอย่าง โลกความจริงมันมีแต่คุณจบ ป.ตรี ผมจะรับคุณทำงานแค่ ปวส. จะได้จ้างถูกๆ ไม่พอใจก็หาที่ใหม่เชิญคนต้องการงานมีอีกเพียบ

By: kurosame
ContributoriPhone
on 1 October 2010 - 15:29 #216931 Reply to:215367
kurosame's picture

แนะนำเหมือนกันว่าให้ลองวาดอนาคตไว้นอกจากการเป็นลูกจ้างดูบ้าง ออกนอกกรอบบ้าง สิ่งที่เรียนมาก็คือสิ่งที่เรียนอย่ายึดติด ขอแค่นำใช้ให้เป็นประโยชน์ ลองหาอ่านหนังสือพวกการลงทุนมั่งก็ดีครับจะได้ดูโลกจากมุมอื่นๆบ้าง

แต่หลายคนที่คิดจะเริ่ม ถ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจอย่าเสี่ยงเลยครับ แนะว่าให้พร้อมก่อนดีกว่า

ผมว่าการจะเข้าสายธุรกิจคุณจะต้องรู้ทุกเรื่อง บางเรื่องก็ลึกบางเรื่องไม่ต้องลึกก็ได้ แต่ต้องรู้ให้รอบ ซึ่งผมว่ามันก็ไม่แปลกที่วันนี้คุณจะหางานเป็นลูกจ้างๆไปพลางๆ วันหลังคุณเป็นนายจ้างคุณจะได้รู้ว่างานแบบนี้ลูกจ้างควนมีคุณสมบัติอะไรที่คนทั่วๆไปมองไม่ออก แต่เราเคยทำงานนี้เราแยกออก แถมธุรกิจบางอย่างก็เริ่มไปตอนทำงานประจำได้ด้วยนะครับ

การเป็นนายจ้างต้องฉลาด ฉลาดที่จะจ้างคนที่ฉลาดกว่ามาทำงานให้ :D


{$user} was not an Imposter

By: THXiLL
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 28 September 2010 - 18:22 #216031 Reply to:215324

เห็นด้วยที่สุดกับคุณ juliusds

By: mementototem
ContributorJusci's WriterAndroidWindows
on 27 September 2010 - 15:18 #215368 Reply to:215314
mementototem's picture

ผมคิดว่าการเป็นลูกจ้างเขาก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ สั่งสมประสบการณ์ในการทำงาน รู้จักผู้คนมากขึ้น อะไรแบบนี้ มันเป็นทุนที่นอกเหนือจากเงิน

ถ้าคิดว่าเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากพอแล้ว ตอนนั้นจะเริ่มต้นเองก็คงยังไม่สายมั้งครับ


Jusci - Google Plus - Twitter

By: PowerBerry
Android
on 27 September 2010 - 15:27 #215372 Reply to:215368

+1 ครับเป็นลูกจ้างไปก่อนไม่เสียหายครับ เพียงแต่แค่อยากให้มองอย่างอื่นบ้างไม่ใช่มุ่งโฟกัสไปที่จุดนั้นจุดเดียว

ทุกวันนี้ผมยังเห็นคนอีกเยอะแยอะที่จบออกมาแล้วไม่ได้งานอย่างที่คิดก็ไม่คิดจะทำอะไรเลย นั่งนอนรอผลสมัครกับความหวังอันน้อยนิดไปวันๆ

By: juliusds
AndroidUbuntuWindows
on 27 September 2010 - 16:16 #215396 Reply to:215368
juliusds's picture

+1 เห็นด้วยครับ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ แล้วค่อยทำของตัวเอง

By: nblue
Android
on 27 September 2010 - 22:27 #215552 Reply to:215368
nblue's picture

+1 สำหรับเรา ต้องเป็นลูกจ้างก่อน ไม่ต้องรีบร้อนขนาดจบมาเปิดบริษัทเลย
เคยทำงานกับเจ้าของบริษัททีไม่เคยเป็นลูกจ้างเลย เขาก็ไม่เข้าใจคนทำงานเอาเลย Turnover สูงมากๆ

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 27 September 2010 - 15:12 #215363
neizod's picture

ก่อนจะทำอะไร ลบความกลัวออกไปจากใจก่อนครับ ต้องลุยกับมันตรงๆ ดับเครื่องขนไปเลย
ผลจะออกมาเป้นยังไงก็ช่างมันครับ อย่างน้อยเราก็ทำดีที่สุดแล้ว
แม้ว่าจะล้มเหลวทุกอย่าง แต่อย่างน้อยที่ได้รับกลับมาคือประสบการณ์ที่ไม่มีใครสอนได้นะครับ

By: natt_han
ContributoriPhoneAndroid
on 27 September 2010 - 15:38 #215379

ควรจะตัดสินใจก่อน ว่าชอบอะไร อยากทำอะไร ไม่น่ากังวลเรื่อง skills ไม่ถึงหรอกครับ แค่ในระดับที่พูดได้ว่า เขียนได้ ไม่ว่าจะ PHP & MySQL , ASP.NET(C#),Java นี่ก็เก่งแล้วครับ ยังไงในการทำงานก็ต้องไปเรียนรู้งานเพิ่มเติมอยู่แล้ว

By: Tinuviel on 27 September 2010 - 16:55 #215413

sales ที่มีพื้นฐานไอที แต่เข้าใจธุรกิจ หายากออกน้องจ๋า คนไอทีส่วนมากพูดจาพรีเซนต์อะไรไม่ค่อยเข้าท่า ถ้าน้องทำได้ดีก็ไปโลดนะ นี่พี่ก็หาคนอยู่ งานออกแนว consult นะไปให้คำปรึกษากับลูกค้า ต้องเข้าใจจิตใจความคิดของลูกค้ามากๆ นะ ทำได้หรือเปล่าล่ะ ว่างก็มาคุยกันดู

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 27 October 2014 - 17:24 #216214 Reply to:215413

ขอบคุณที่ให้โอกาสครับพี่

By: iAmbAsE
Android
on 27 September 2010 - 18:27 #215441
iAmbAsE's picture

หางานไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่า คุณจะหาหรือป่าว

เขาไม่ใช่รับคนเก่ง แต่เขารับคนที่ทำงานให้เขาได้ ก็แค่นี้เอง

ถ้าคิดว่าคุณเขียน PHP & MySQL ได้ก็มีงานแล้วหล่ะ

แต่แนะนำให้ลองก้าวไปยัง ASP.NET(C#) หรือ Java ก็ได้

By: Wizard.
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 27 September 2010 - 22:50 #215567
Wizard.'s picture

ไม่อยากแนะนำว่าควรทำอะไร แต่ อยากให้ทำในสิ่งที่อยากทำ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 28 September 2010 - 00:56 #215638 Reply to:215567
mr_tawan's picture

+1 ทำไอ้ที่ไม่อยากทำแล้ว ไม่ว่าเงินจะดีแค่ไหนก็จะรู้สึกว่า ชีวิตมันไร้ค่า ...


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: equivalent
ContributorAndroid
on 28 September 2010 - 03:38 #215698

ทำ gmail instant แล้วให้คนเข้ามาใช้สิบล้านคน

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 28 September 2010 - 21:47 #216081 Reply to:215698

เดวนี้อะไร ๆ ก็ instant

google instant, youtube instant

เทรนของ web 2.0 จริง ๆ

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 28 September 2010 - 04:15 #215713

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

ขอบคุณที่ทำให้นิสิตจบใหม่คนนี้ มีกำลังใจมากขึ้น

ขอบคุณจริง ๆ

By: iPomz
ContributorAndroidWindows
on 28 September 2010 - 10:24 #215839
iPomz's picture

จับอะไรก็ได้ที่ถนัดขึ้นมาซักตัวนึง
แล้วเขียนเป็นโปรแกรมใช้งานจริงๆ เอาแค่โปรแกรมเล็กๆก็ได้
แต่เท่าที่ดู คุณคงถนัดพวกเวป ก็ทำเวปของตัวเองขึ้นมาก่อนเลย
จะทำให้คุณหางานง่ายขึ้นเยอะ
เยอะกว่าพวกที่ไม่มีผลงานอะไรเลย

By: atjr
AndroidRed HatUbuntu
on 29 September 2010 - 02:21 #216182
atjr's picture

มีงานด้าน Business Application เช่น ERP, CRM etc. งานด้านนี้ต้องการคนที่มีทักษะความใจในเรื่อง ธุรกิจ และ ไอที ควบคู่กัน ซอพแวร์สำเร็จรูปพวกนี้ มีตั้งแต่ ราคาย่อมเยาว์ ไปจนถึง หลายสิบล้าน เช่น express accounting, formula4 ไปจนถึง oracle application , SAP, etc.
-เซล เน้นการติดต่อประสานงานตามงาน อ่านเกมและเป็นคนช่างสังเกตุ สามารถพูดความสามารถของ ตัวซอพแวร์ ได้อย่างครอบคลุม ชัดเจน แต่ไม่ลงลายละเอียดมาก
-พรีเซล ช่วยเซลในเรื่องรายละเอียด ตัวซอพแวร์ เน้นความเข้าในการทำงานของ ซอพแวร์ เข้าใจลักษณะของธุรกิจลูกค้า เพื่อสามารถแนะนำการใช้งานให้ตรงตามความต้องการทางธุรกิจ ลงลายละเอียดในตัวซอพแวร์แบบเจาะลึก ทำการ demo ตัวซอพแวร์ ซึ่งรวมถึงการเตรียมข้อมูล ชอบการ present ชอบการแก้ปัญหา
-คอนซัล ทำในส่วน implement ให้ ซอพแวร์ สามารถทำงานได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ต้องการคนที่มีความเข้าใจธุรกิจเฉพาะด้าน เช่น ส่วนงานบัญชี ส่วนการผลิต ส่วนการขาย หรือ ลักษณะเฉพาะของธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม
-Developer & technical เน้น แก้ปัญหาทางเทคนิค การเขียนส่วนต่อขยาย การเพิ่มความสามารถ ให้กับตัวซอพแวร์ เช่น ซอพแวร์เดิม ไม่รองรับ ระบบการคิดภาษีในประเทศไทย ก็เขียนส่วนของระบบภาษีใหม่ ให้ทำงานได้สอดคล้องกับซอพแวร์เดิมและเป็นไปตามกฏของสรรพากร, การเขียน หรือ แก้ไข report ให้กับตัวซอพแวร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 29 September 2010 - 03:49 #216212 Reply to:216182

ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูล ผมพึ่งรู้ตอนนี้เองว่า พรีเซล กับ เซล มันต่างกันอย่างไร

รบกวนสอบถามนิดนึงว่า SAP Application Support นี้ จะได้เรียนรู้ SAP ลึกซึ้งขนาดไหนครับ ในความหมายของผมคือ สามารถนำไปสอบ cer ได้เลย

เหตุที่ถามเพราะผมได้ยินมาว่าการอบรม SAP เนี่ย มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

By: atjr
AndroidRed HatUbuntu
on 30 September 2010 - 08:22 #216538 Reply to:216212
atjr's picture

เท่าที่ทราบ ปริญญาโท ที่มีการสอนเกี่ยวกับ SAP น่าจะเป็นที่ Mahidol internation school ตรง ถนน.วิภาวดีรังสิต ครับ
application support อืม ถ้าเกี่ยวกับ ฟีเจอร์ ซอพแวร์ การปรับแต่งโฟล์ว ฟีเจอร์ ให้เหมาะกับกระบวนการ ขั้นตอนการทำงาน ต้องไปทาง งานคอนซัล ครับ ถ้าเกี่ยวข้องกับ การแก้ไขรีพอร์ต install software set database optimize database ไปทาง techinal
การอบรม การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น SAP, Oracle, etc. ส่วนใหญ่จะเปิดสอนให้กลับลูกค้า ทีซื้อระบบไปใช้งานเป็นหลัก แนะนำให้ไปสมัครงาน กับบริษัทที่เป็น Business partner ด้าน consulting service ของ SAP น่าจะดีกว่า จะได้อะไรมากกว่า การเรียนรู้ จากหนังสือ หรือ จากการเทรนนิ่งครับ >>> On the jobs Training. ถ้าเราทำงานเข้าตากรรมการ เดี้ยวมีคนส่งไปเทรน ไปสอบเรียบร้อย ได้เงินใช้ด้วย งานด้านนี้ เป็นลักษณะวิชาชีพเหมือน ตรวจสอบบัญชี อ่านหนังสือสอบ ไม่พอ ครับ ต้องการ ประสบการ์ณในการแก้ปัญหาจริง

ในตลาด Apps ด้าน ERP ผู้นำตลาดมีสองบริษัท SAP กับ Oracle Apps. ครับ ลองหางานดูใน jobsdb หรือ ที่อื่นๆ พิมพ์ คำว่า SAP หรือ Oracle Apps.

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 30 September 2010 - 19:42 #216667 Reply to:216538

ขอบคุณครับ

By: holyddog on 30 September 2010 - 17:41 #216646
holyddog's picture

ตอนนี้ที่บริษัทกำลังรับคนเพิ่มอยู่ รายละเอียดเมลติดต่อไปแล้วนะครับ

By: IZOHOZI
Android
on 14 October 2010 - 18:14 #220776
IZOHOZI's picture

ผมคิดว่า....คนเราต้องการความแน่นอนของชีวิตเกินไป....***

กลัวที่จะเผชิญหน้ากับอะไรที่เราไม่คุ้นเคย หรือปล่าว...ไม่รู้จะรับมือกับมันยังไง
ปล.ความคิดส่วนตัวและประสบการณ์ครับ

By: EThaiZone
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 14 October 2010 - 18:49 #220783
EThaiZone's picture

ถ้าไม่อยากเป็นลูกจ้าง แนะนำให้หาทุนของตัวเองให้เจอก่อนครับ
ทุนไม่ใช่แค่เงิน แต่หมายถึงทุกสิ่งเลยที่มันมีรอบตัว (ความรู้ โอกาส ชื่อเสียง บลาๆๆ)

ลูกค้าผมคนหนึ่งมีหลาน หลานชายเขามาช่วยทำงานขายปุ๋ยเคมีให้ร้าน
ปัจจุบันเห็นว่าอีกสี่ปีจะยกร้านให้หลานชาย เพราะเห็นว่าจะเกษียณตัวเอง
อันนี้แสดงว่า ตัวหลานชาย มีทุนเป็นญาติของเขานั้นเอง

ลองหาดูก่อนครับ ก่อนที่คิดจะเริ่มชีวิตการเป็น "ลูกจ้าง"

ปล. มีคนตอบให้ไปไทยเสียวด้วยแฮะ LOL


มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB