อยากทราบวิธีการเป็น Blognone Writer
จะต้องโพสข่าวอย่างน้อยกี่ข่าว
แล้วก็ยากไหมคับ
คือ อาจารย์ที่มหาลัยให้เลือกทำมินิโปรเจกอ่ะคับ
ใช้เวลา 2 สับดาห์
ขอบคุนคับ
จาก Wikipedia มาสู่ Blognone แสดงว่าดังจัดแล้ว :)
2 สัปดาห์ยังไม่เคยเห็น O_O
คุ้นๆ ว่ามีอยู่นะ
lewcpe.com, @wasonliw
อย่างแรกต้องปรับเรื่องการสะกดภาษาไทยก่อนเลยครับ :)
+1
ว่าแต่แบบนี้มันเอาไปเป็นโปรเจคได้ด้วยเหรอครับเนี่ย
ได้ยินแว่วๆว่า it kmitl มีให้โพสต์ข่าวจนได้เป็นไรเตอร์ภายในก่อนสอบครับ
ฟังแล้วแหม่งๆ กับความคิดนี้
{$user} was not an Imposter
+1 ไปหาอย่างอื่นที่สร้างสรรค์กว่านี้ทำมั้ย?
ไม่ใช่ไรหรอก กลัวว่าจะได้อ่านข่าวเยอะๆ แค่สองขสามสัปดาห์ แล้วหลังจากนั้นก็หายต๋อม ^^"
ประเด็นของผมก็คือ การได้คะแนนจากการเขียนข่าวได้"ดี" จะต้องใช้ตำแหน่ง writer เท่านั้นมาตัดสิน ตัวนักเรียนเองอาจจะเขียนข่าวได้ดี แล้วเกรดตกเพราะไม่ได้เป็น writer ผมก็ว่ามันผิดหลัก
จริงๆ มินิโปรเจคที่ผมเข้าใจมันจะคล้ายๆกับ Thesis แบบสั้นๆระยะเวลาไม่นาน ถ้าเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์อาจจะจบแค่เฟสดีไซน์ อะไรประมาณนั้น แต่สิ่งที่สำคัญของคือ การแตกแนวคิดใหม่หรือรวมรวมแนวคิดต่างๆ จากหลายๆศาสตร์ครับ
ซึ่งผมมองว่าการเป็นนักอ่านหรือ writer ที่ blognone ก็ดีตอบโจทย์นี้แค่การรวบรวมข้อมูล เหมือนกับเราจะทำอาหาร ไปสรรหาวัตถุดิบต่างๆมาได้ แต่สุดท้ายก็เอามาชุบแป้งทอดหรือผัดผัก เพราะไม่ได้ฝึกกระบวนการคิดให้แตกต่าง ไม่ได้สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆซึ่งตรงนี้ผมว่าก็สำคัญไม่แพ้กัน
ผมยังจับใจความไม่ได้เลยว่าเกี่ยวกันยังไง ใครอธิบายเพิ่มเติมทีครับ
อยากเป็น Writer ก็เขียนไปเรื่อยๆครับ เค้าน่าจะดูที่ความตั้งใจมากกว่า ถ้าคิดจะมาทำแค่ 2 สัปดาห์แล้วก็ไป คงไม่มีประโยชน์อะไรกับ blognone อ่ะครับ ถ้าอยากทำโปรเจคก็เขียนไปเลยครับ นึกถึงประโยชน์ของคนอ่าน ไม่ต้องไปสนใจ Badges Writer ถึงเวลาก็ได้เป็นเอง (แต่คงไม่ใช่ 2 สัปดาห์หรอกนะครับ)
สำหรับผมข่าวแม้ข่าวเดียวก็ถือว่าเป็นประโยชน์ แต่จะเขียนข่าวเดี่ยวแล้วได้เป็นนักเขียนเลยคงไม่มี คุณ abzolute มั่นเขียนข่าว แล้วเขียนให้ถูกหลักภาษา เดี่ยวก็ได้ขึ้น แต่ผมก็งง เขียนข่าวเกี่ยวอะไรกับโปรเจ็ค?
มินิโปรเจคที่ว่านี่คือเป็น Writer ของ Blognone เหรอครับ ???
หลักการพิจารณาโดยทั่วไปคือ "ความเชื่อใจ" ครับ
Blognone's Writer คือผู้ที่ผมและ mk มอบอำนาจส่วนหนึ่งในการดูแลเว็บให้ ดังนั้นแล้วถ้าเป็นคนที่เราไว้ใจว่า เขียนดี ถูกต้อง, เนื้อหาตรงกับความสนใจของเว็บ, จะไม่สแปมเว็บ ฯลฯ เราก็จะเสนอให้มีการรับรอง Writer ให้
บางท่านมาเขียนไม่มากนัก แต่แม่นทุกข่าว อาจจะเพราะมีความเชี่ยวชาญบางหัวข้อเป็นพิเศษมากๆ เช่นคุณ Javaboom ที่เรียนปริญญาเอกด้าน High Performance Computing คงหาคนเทียบเท่าในสาขาเดียวกันได้ยาก เราก็เชื่อว่าไว้ใจได้แน่ๆ
บางท่านแม้จะข่าวจะต้องแก้ไขอยู่เรื่อยๆ (ไม่ว่าคำผิดหรือด้านเนื้อหา) แต่มีการตอบสนองต่อการติติงอย่างรวดเร็ว มีพัฒนาการอย่างชัดแจ้ง ผมก็เสนอให้เป็น Writer ครับ
Writer แต่ละท่านมีปริมาณข่าวก่อนจะก่อนได้เป็น Writer ไม่เท่ากันครับ เท่าที่จำได้ คนที่น้อยที่สุดน่าจะอยู่ที่หลัก "สิบกว่าๆ" ข่าว ส่วนคนที่มากๆ นี่ "หลายๆ สิบ" หรืออาจจะถึงร้อยผมไม่แน่ใจนัก
ขอบคุณที่ให้เครดิตครับผม
ว่าจะมาตอบเหมือนกันว่า การเลือกข่าวที่ตนถนัดก็อาจจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเป็น Writer ครับ ผมคิดว่า ถ้าเราชอบหรือถนัดในเรื่องที่เราเขียน มันจะทำให้เราเขียนออกมาสนุก(ในความรู้สึกของเรา) แต่คนอ่านจะสนุกร่วมด้วยหรือเปล่าอันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เราอยากสื่อกับผู้อ่านคือเนื้อหาในข่าวและสาระความรู้ที่อาจจะมีมากกว่าความสนุกส่วนตัวของผู้เขียนเป็นแน่นอน
My Blog
ก็คงไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่รวมถึงคุณภาพด้วยครับ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เข้ามาอธิบายเพิ่มเติมให้ฟังนะครับ
แต่ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าอาจารย์ประจำวิชาจะอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับการเป็น Blognone Writer ตามคำถามที่จขกท. ถามให้ฟังไปหมดแล้วนะครับ?
I will change the world, to the better day.
โอ้ Blognone กลายเป็น KPI ของนักศึกษาไปแล้วหรือนี่!
จริงๆ แล้วผมว่านับจำนวนข่าวขึ้นหน้าแรกให้มากพอก็น่าจะได้นะครับ น่าจะง่ายกว่า Writer (และคาดเดาได้ง่ายกว่า)
นึกว่าพี่จะไม่มาตอบซะแล้ว
ดีนะที่ไม่เริ่มในรุ่มผม สงสารน้องๆ จังเลย
เป็นโปรเจกที่เริศ อยู่นะนั่น สร้างสรรค์ทีเดียว
หมายความว่าถ้าจบภาคเรียนแล้วก็จะเลิกเขียนข่าวไปเลยหรือเปล่าเนี่ย
แสดงว่าอาจารย์ก็เข้ามาอ่าน Blognone :D
เป็นทั้งข่าวดีที่จะมีข่าวมากขึ้น แต่ก็เป็นข่าวร้าย ในความพยายามของอาจารย์ เนื่องจากการเป็นไม่เป็น writer มันไม่มี logic ที่ตายตัว และสุ่มเสี่ยงต่อการขอเกรด (เช่นพา lew กับ mk ไปเลี้ยง Oishi Grand :P[อันนี้แซว])
ผมเคยเจอเพื่อนเรียน mba ที่อาจารย์ให้เราลองปลอมตัวเป็นสาวๆ แล้วหาเพื่อนใน hi5 กับ fb ให้ได้ 5,000 ชื่อ .. ก็ฮาๆ ดี แต่ก็ได้ศึกษาอะไรไปด้วยเหมือนกัน
อ. ท่านไหนครับเนี่ย เฮ้อ .. (ผมจบที่เดียวกัน)
5000ชื่อนี้มันคือ จำนวนเพื่อนที่มีได้มากที่สุดของเฟซบุ๊กเลยนะนี่ :D
ถ้าให้ฝ่ายชายไปขอ BlackBerry PIN จากสาวๆ ให้ได้ 5,000 เป็นงานหินกว่านะ ผมคนนึงที่ทำไม่ได้
+1 very subjective
เป็นงานที่โหดหินใช่ย่อย
ดีที่ปีที่แล้วไม่มีให้ทำ ไม่งั้นตายย
ผมว่าเปิดบล็อกเองแล้วเขียนบทความดีกว่าไหม แล้วอาศัยแลกลิ้งค์หรือฟีดกับเว็บอื่นอีกทีนึงน่ะครับ จะได้เรียนรู้มากกว่าการเขียนบทความด้วย และเดี๋ยวนี้ผมว่าการมีบล็อกเป็นของตนเองนี้ง่ายกว่าตอนผมเปิดเว็บตอนม. 3 เสียอีก
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
ผมมองว่า Blognone มีมาตราฐานที่สูงนะครับ ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากกว่าการเขียนในบล็อกส่วนตัว เหมือนตอนเพื่อนผมเรียน ป.โท สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ก็ต้องเขียนบทความลงวารสารหรือนิตยสารทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ได้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเนื้อหาสาระที่เขียนมีคุณประโยชน์ได้รับการรับรองแล้วในระดับหนึ่ง
ผมว่าอารมณ์น่าจะประมาณเดียวกัน
+1 ครับ ตอนแรกก็งง แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็ลงล๊อคพอดีเลย
+1 ครับ มองในมุมนี้โอเคเลยครับ
ผมว่า ... ลองต่อรองกับอาจารย์ว่า ขอแค่เป็น Contributer ก่อนดีกว่ามั้งครับ :-)
ไม่งั้นคงตกกันระนาว ... เป็นห่วงอนาคตน้อง ๆ กัน (หน่วยนึงก็ไม่ใช่ว่าจะถูก ๆ :P)
+1 ข่าวแรกยากที่สุด
ปล. จริงๆ เขียนข่าวในหัวข้อที่เกี่ยวข้องซักสิบข่าว สำหรับผมนี่โอเคแล้วนะ
รู้สึกจะมีให้เลือกนะครับ ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำอันนี้
มีมินิโปรเจคแบบนี้ด้วยหรือ??
ให้โปรเจ็คแบบนี้นี่อาจารย์เค้าต้องคุยกับทาง BN ก่อนมั้ยเนี่ย? เดี๋ยวกลายเป็นว่ามีคนมาเขียนพอให้ได้เป็น Writer แล้วก็เลิกไป จะไม่เกิดผลกระทบกับ BN เหรอครับ
ทางผมไม่มีปัญหานะครับ
ที่ผ่านมามีคนเขียนแล้วเลิกมากมาย มีหลายคนออกไปตั้งเว็บเอง เราก็ยังเชิญมาทานข้าวด้วยกันเมื่อมีโอกาสครับ ถ้าว่างๆ หรือเกิดมันมือจะกลับมาเขียนก็ยินดี
เราถือว่าถ้าครั้งหนึ่งเคยผ่านถึงระดับ Writer ได้ ตอนหลังอาจจะเบื่อ อาจจะเซ็ง หรืออาจจะเขียนไม่ออก เราก็ยังขอบคุณที่ช่วงหนึ่งมาร่วมกับเราตลอดครับ
ขออภัยที่เข้าใจในเจตนารมณ์ของคุณเลี่ยวผิดไปครับ
แต่ก็อยากให้มี writer ประจำ blognone เยอะๆ นี่หน่า ^^
คุณเลี่ยว !
เพิ่งรู้ว่าคุณลิ่วเปลี่ยนชื่อแล้ว ตามเทรนด์จีนเลยทีเดียว
..
ฮ่าๆ แซวเล่นนนะครับ :P
บล็อกของผม: http://sikachu.com
เมื่อก่อนผมคิดว่าชื่อ "หลิว"
หมวยโคตรๆ =P
อ้าวเฮ้ย edit ไม่ได้แล้วด้วย T^T อ้าาา พึ่งรู้ว่าชื่อคุณ lew อ่านว่า ลิ่ว แงๆ
การเป็น Writer ของ Blognone ได้แปลว่าต้องมีอะไรในตัวมากพอตัว ไม่ใช่แค่นักอ่าน หรือแค่ชื่นชอบเทคโนโลยี แต่ต้องหมายถึงติดตามมันเหมือนอ่านข่าวประจำวัน เผลอๆ ข่าวเหล่านั้น ต้องไม่ได้อ่านมาจากเว็บไทยซะด้วย
อยากเห็นนะ จากมินิโปรเจคนี้จะมีคนฝ่าฟันด่านที่ผมว่าหิน :) แล้วเห็นมินิโปรเจคนี้ถ้าทำได้สำเร็จด้วยมานะ คงได้อะไรกลับมาจากการทำเองเยอะเลยทีเดียว
ปล.เห็นคำว่า "พยายามเป็น" มากกว่า "ต้องเป็น" ไม่รู้ว่าต่างกันไหม
ผมเชื่อว่าส่วนมาก Writer มาเขียนเพราะอยากหาคนคุยด้วยมากกว่าครับ
จะไปชวนฝรั่งคุยใน Slashdot ว่า Milestone เข้าเมืองไทยอะไรอย่างนั้นมันคงไม่สนุก (แถมจะโดนตอกว่าบ้านเขาใช้มาแล้วเป็นปี) มาเขียนในนี้ให้มีคนคุยกัน 30-40 คอมเมนต์นี่ล่ะถึงจะมีรสชาติ
+1 ครับ
ได้อารมณ์คนเหงา เขาไม่คุยด้วยเลยนะครับ
[Blog ZeroEngine] [@ZeroEngines]
ผมไม่เห็นมี MimiProject เลยอะ มีแต่ MegaProject เลย ฮ่าๆ
จาก Wikipedia มาสู่ Blognone แสดงว่าดังจัดแล้ว :)
2 สัปดาห์ยังไม่เคยเห็น O_O
คุ้นๆ ว่ามีอยู่นะ
lewcpe.com, @wasonliw
อย่างแรกต้องปรับเรื่องการสะกดภาษาไทยก่อนเลยครับ :)
+1
+1
ว่าแต่แบบนี้มันเอาไปเป็นโปรเจคได้ด้วยเหรอครับเนี่ย
ได้ยินแว่วๆว่า it kmitl มีให้โพสต์ข่าวจนได้เป็นไรเตอร์ภายในก่อนสอบครับ
ฟังแล้วแหม่งๆ กับความคิดนี้
{$user} was not an Imposter
+1 ไปหาอย่างอื่นที่สร้างสรรค์กว่านี้ทำมั้ย?
ไม่ใช่ไรหรอก กลัวว่าจะได้อ่านข่าวเยอะๆ แค่สองขสามสัปดาห์ แล้วหลังจากนั้นก็หายต๋อม ^^"
ประเด็นของผมก็คือ การได้คะแนนจากการเขียนข่าวได้"ดี" จะต้องใช้ตำแหน่ง writer เท่านั้นมาตัดสิน
ตัวนักเรียนเองอาจจะเขียนข่าวได้ดี แล้วเกรดตกเพราะไม่ได้เป็น writer ผมก็ว่ามันผิดหลัก
จริงๆ มินิโปรเจคที่ผมเข้าใจมันจะคล้ายๆกับ Thesis แบบสั้นๆระยะเวลาไม่นาน
ถ้าเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์อาจจะจบแค่เฟสดีไซน์ อะไรประมาณนั้น
แต่สิ่งที่สำคัญของคือ การแตกแนวคิดใหม่หรือรวมรวมแนวคิดต่างๆ จากหลายๆศาสตร์ครับ
ซึ่งผมมองว่าการเป็นนักอ่านหรือ writer ที่ blognone ก็ดีตอบโจทย์นี้แค่การรวบรวมข้อมูล
เหมือนกับเราจะทำอาหาร ไปสรรหาวัตถุดิบต่างๆมาได้ แต่สุดท้ายก็เอามาชุบแป้งทอดหรือผัดผัก เพราะไม่ได้ฝึกกระบวนการคิดให้แตกต่าง ไม่ได้สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆซึ่งตรงนี้ผมว่าก็สำคัญไม่แพ้กัน
{$user} was not an Imposter
ผมยังจับใจความไม่ได้เลยว่าเกี่ยวกันยังไง ใครอธิบายเพิ่มเติมทีครับ
อยากเป็น Writer ก็เขียนไปเรื่อยๆครับ เค้าน่าจะดูที่ความตั้งใจมากกว่า
ถ้าคิดจะมาทำแค่ 2 สัปดาห์แล้วก็ไป คงไม่มีประโยชน์อะไรกับ blognone อ่ะครับ
ถ้าอยากทำโปรเจคก็เขียนไปเลยครับ นึกถึงประโยชน์ของคนอ่าน ไม่ต้องไปสนใจ Badges Writer ถึงเวลาก็ได้เป็นเอง (แต่คงไม่ใช่ 2 สัปดาห์หรอกนะครับ)
สำหรับผมข่าวแม้ข่าวเดียวก็ถือว่าเป็นประโยชน์ แต่จะเขียนข่าวเดี่ยวแล้วได้เป็นนักเขียนเลยคงไม่มี
คุณ abzolute มั่นเขียนข่าว แล้วเขียนให้ถูกหลักภาษา เดี่ยวก็ได้ขึ้น แต่ผมก็งง เขียนข่าวเกี่ยวอะไรกับโปรเจ็ค?
มินิโปรเจคที่ว่านี่คือเป็น Writer ของ Blognone เหรอครับ ???
หลักการพิจารณาโดยทั่วไปคือ "ความเชื่อใจ" ครับ
Blognone's Writer คือผู้ที่ผมและ mk มอบอำนาจส่วนหนึ่งในการดูแลเว็บให้ ดังนั้นแล้วถ้าเป็นคนที่เราไว้ใจว่า เขียนดี ถูกต้อง, เนื้อหาตรงกับความสนใจของเว็บ, จะไม่สแปมเว็บ ฯลฯ เราก็จะเสนอให้มีการรับรอง Writer ให้
บางท่านมาเขียนไม่มากนัก แต่แม่นทุกข่าว อาจจะเพราะมีความเชี่ยวชาญบางหัวข้อเป็นพิเศษมากๆ เช่นคุณ Javaboom ที่เรียนปริญญาเอกด้าน High Performance Computing คงหาคนเทียบเท่าในสาขาเดียวกันได้ยาก เราก็เชื่อว่าไว้ใจได้แน่ๆ
บางท่านแม้จะข่าวจะต้องแก้ไขอยู่เรื่อยๆ (ไม่ว่าคำผิดหรือด้านเนื้อหา) แต่มีการตอบสนองต่อการติติงอย่างรวดเร็ว มีพัฒนาการอย่างชัดแจ้ง ผมก็เสนอให้เป็น Writer ครับ
Writer แต่ละท่านมีปริมาณข่าวก่อนจะก่อนได้เป็น Writer ไม่เท่ากันครับ เท่าที่จำได้ คนที่น้อยที่สุดน่าจะอยู่ที่หลัก "สิบกว่าๆ" ข่าว ส่วนคนที่มากๆ นี่ "หลายๆ สิบ" หรืออาจจะถึงร้อยผมไม่แน่ใจนัก
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณที่ให้เครดิตครับผม
ว่าจะมาตอบเหมือนกันว่า การเลือกข่าวที่ตนถนัดก็อาจจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเป็น Writer ครับ ผมคิดว่า ถ้าเราชอบหรือถนัดในเรื่องที่เราเขียน มันจะทำให้เราเขียนออกมาสนุก(ในความรู้สึกของเรา) แต่คนอ่านจะสนุกร่วมด้วยหรือเปล่าอันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เราอยากสื่อกับผู้อ่านคือเนื้อหาในข่าวและสาระความรู้ที่อาจจะมีมากกว่าความสนุกส่วนตัวของผู้เขียนเป็นแน่นอน
My Blog
ก็คงไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่รวมถึงคุณภาพด้วยครับ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เข้ามาอธิบายเพิ่มเติมให้ฟังนะครับ
แต่ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าอาจารย์ประจำวิชาจะอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับการเป็น Blognone Writer ตามคำถามที่จขกท. ถามให้ฟังไปหมดแล้วนะครับ?
I will change the world, to the better day.
โอ้ Blognone กลายเป็น KPI ของนักศึกษาไปแล้วหรือนี่!
จริงๆ แล้วผมว่านับจำนวนข่าวขึ้นหน้าแรกให้มากพอก็น่าจะได้นะครับ น่าจะง่ายกว่า Writer (และคาดเดาได้ง่ายกว่า)
lewcpe.com, @wasonliw
นึกว่าพี่จะไม่มาตอบซะแล้ว
ดีนะที่ไม่เริ่มในรุ่มผม สงสารน้องๆ จังเลย
เป็นโปรเจกที่เริศ อยู่นะนั่น สร้างสรรค์ทีเดียว
หมายความว่าถ้าจบภาคเรียนแล้วก็จะเลิกเขียนข่าวไปเลยหรือเปล่าเนี่ย
แสดงว่าอาจารย์ก็เข้ามาอ่าน Blognone :D
เป็นทั้งข่าวดีที่จะมีข่าวมากขึ้น แต่ก็เป็นข่าวร้าย ในความพยายามของอาจารย์ เนื่องจากการเป็นไม่เป็น writer มันไม่มี logic ที่ตายตัว และสุ่มเสี่ยงต่อการขอเกรด (เช่นพา lew กับ mk ไปเลี้ยง Oishi Grand :P[อันนี้แซว])
ผมเคยเจอเพื่อนเรียน mba ที่อาจารย์ให้เราลองปลอมตัวเป็นสาวๆ แล้วหาเพื่อนใน hi5 กับ fb ให้ได้ 5,000 ชื่อ .. ก็ฮาๆ ดี แต่ก็ได้ศึกษาอะไรไปด้วยเหมือนกัน
อ. ท่านไหนครับเนี่ย เฮ้อ .. (ผมจบที่เดียวกัน)
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
5000ชื่อนี้มันคือ จำนวนเพื่อนที่มีได้มากที่สุดของเฟซบุ๊กเลยนะนี่ :D
ถ้าให้ฝ่ายชายไปขอ BlackBerry PIN จากสาวๆ ให้ได้ 5,000 เป็นงานหินกว่านะ ผมคนนึงที่ทำไม่ได้
My Blog
+1 very subjective
เป็นงานที่โหดหินใช่ย่อย
ดีที่ปีที่แล้วไม่มีให้ทำ ไม่งั้นตายย
ผมว่าเปิดบล็อกเองแล้วเขียนบทความดีกว่าไหม แล้วอาศัยแลกลิ้งค์หรือฟีดกับเว็บอื่นอีกทีนึงน่ะครับ จะได้เรียนรู้มากกว่าการเขียนบทความด้วย และเดี๋ยวนี้ผมว่าการมีบล็อกเป็นของตนเองนี้ง่ายกว่าตอนผมเปิดเว็บตอนม. 3 เสียอีก
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
ผมมองว่า Blognone มีมาตราฐานที่สูงนะครับ ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากกว่าการเขียนในบล็อกส่วนตัว
เหมือนตอนเพื่อนผมเรียน ป.โท สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ก็ต้องเขียนบทความลงวารสารหรือนิตยสารทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ได้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเนื้อหาสาระที่เขียนมีคุณประโยชน์ได้รับการรับรองแล้วในระดับหนึ่ง
ผมว่าอารมณ์น่าจะประมาณเดียวกัน
+1
I will change the world, to the better day.
+1 ครับ ตอนแรกก็งง แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็ลงล๊อคพอดีเลย
+1 ครับ มองในมุมนี้โอเคเลยครับ
ผมว่า ... ลองต่อรองกับอาจารย์ว่า ขอแค่เป็น Contributer ก่อนดีกว่ามั้งครับ :-)
ไม่งั้นคงตกกันระนาว ... เป็นห่วงอนาคตน้อง ๆ กัน (หน่วยนึงก็ไม่ใช่ว่าจะถูก ๆ :P)
+1 ข่าวแรกยากที่สุด
ปล. จริงๆ เขียนข่าวในหัวข้อที่เกี่ยวข้องซักสิบข่าว สำหรับผมนี่โอเคแล้วนะ
รู้สึกจะมีให้เลือกนะครับ ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำอันนี้
มีมินิโปรเจคแบบนี้ด้วยหรือ??
ให้โปรเจ็คแบบนี้นี่อาจารย์เค้าต้องคุยกับทาง BN ก่อนมั้ยเนี่ย?
เดี๋ยวกลายเป็นว่ามีคนมาเขียนพอให้ได้เป็น Writer แล้วก็เลิกไป จะไม่เกิดผลกระทบกับ BN เหรอครับ
ทางผมไม่มีปัญหานะครับ
ที่ผ่านมามีคนเขียนแล้วเลิกมากมาย มีหลายคนออกไปตั้งเว็บเอง เราก็ยังเชิญมาทานข้าวด้วยกันเมื่อมีโอกาสครับ ถ้าว่างๆ หรือเกิดมันมือจะกลับมาเขียนก็ยินดี
เราถือว่าถ้าครั้งหนึ่งเคยผ่านถึงระดับ Writer ได้ ตอนหลังอาจจะเบื่อ อาจจะเซ็ง หรืออาจจะเขียนไม่ออก เราก็ยังขอบคุณที่ช่วงหนึ่งมาร่วมกับเราตลอดครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ขออภัยที่เข้าใจในเจตนารมณ์ของคุณเลี่ยวผิดไปครับ
แต่ก็อยากให้มี writer ประจำ blognone เยอะๆ นี่หน่า ^^
คุณเลี่ยว !
เพิ่งรู้ว่าคุณลิ่วเปลี่ยนชื่อแล้ว ตามเทรนด์จีนเลยทีเดียว
..
ฮ่าๆ แซวเล่นนนะครับ :P
บล็อกของผม: http://sikachu.com
เมื่อก่อนผมคิดว่าชื่อ "หลิว"
หมวยโคตรๆ =P
อ้าวเฮ้ย edit ไม่ได้แล้วด้วย T^T
อ้าาา พึ่งรู้ว่าชื่อคุณ lew อ่านว่า ลิ่ว แงๆ
การเป็น Writer ของ Blognone ได้แปลว่าต้องมีอะไรในตัวมากพอตัว
ไม่ใช่แค่นักอ่าน หรือแค่ชื่นชอบเทคโนโลยี แต่ต้องหมายถึงติดตามมันเหมือนอ่านข่าวประจำวัน
เผลอๆ ข่าวเหล่านั้น ต้องไม่ได้อ่านมาจากเว็บไทยซะด้วย
อยากเห็นนะ จากมินิโปรเจคนี้จะมีคนฝ่าฟันด่านที่ผมว่าหิน :)
แล้วเห็นมินิโปรเจคนี้ถ้าทำได้สำเร็จด้วยมานะ คงได้อะไรกลับมาจากการทำเองเยอะเลยทีเดียว
ปล.เห็นคำว่า "พยายามเป็น" มากกว่า "ต้องเป็น" ไม่รู้ว่าต่างกันไหม
ผมเชื่อว่าส่วนมาก Writer มาเขียนเพราะอยากหาคนคุยด้วยมากกว่าครับ
จะไปชวนฝรั่งคุยใน Slashdot ว่า Milestone เข้าเมืองไทยอะไรอย่างนั้นมันคงไม่สนุก (แถมจะโดนตอกว่าบ้านเขาใช้มาแล้วเป็นปี) มาเขียนในนี้ให้มีคนคุยกัน 30-40 คอมเมนต์นี่ล่ะถึงจะมีรสชาติ
lewcpe.com, @wasonliw
+1 ครับ
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
ได้อารมณ์คนเหงา เขาไม่คุยด้วยเลยนะครับ
[Blog ZeroEngine] [@ZeroEngines]
ผมไม่เห็นมี MimiProject เลยอะ มีแต่ MegaProject เลย ฮ่าๆ