ไอ้ทฤษฎีที่ว่า แยกโฟตอนออกเป็นสองตัว แล้วระหว่างสองตัวนั้นจะเกิดสภาวะเอนแทงเกิลเมนท์ ทำให้เวลาที่โฟตอนตัวนึงเปลี่ยนสถาณะ อีกตัวก็จะเปลี่ยนตามทันที ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันแค่ไหน ทำให้สามารถส่งข้อมูลสองจุดที่ห่างกัน ได้ด้วยความเร็วเหนือแสง นั่นน่ะครับ
อยากทราบว่า มีข่าวคราวความคืบหน้า มีงานวิจัย มี Application ที่ใช้ได้จริง ถึงแค่ไหนแล้วน่ะครับ
อ่านในวิกิจนอ้วกแล้วก็หาข้อมูลยืนยันไม่ได้ว่า สรุปมันใช้งานได้จริงๆรึเปล่า แถมมีหน้าวิกิที่บอกว่าทฤษฎีนี้ใช้งานไม่ได้อีก ยิ่งอ่านยิ่งสับสน หาข่าวก็ไม่ค่อยจะเจอ
ผมสนใจเรื่องนี้มากกว่า Quantum Computing อีก เพราะมันทำลายข้อจำกัดความเร็วแสงของ Network ข้ามโลกได้
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
แต่ฟังดูน่าสนใจดีนะครับ รออ่านคำตอบจากผู้รู้ด้วยคน
แนะนำให้อ่านหนังสือ กำเนิดควอนตัม ครับ ถ้ามีเวลาจะแวะมาตอบให้นะครับ เรื่องมันยาว...
ถ้าใช้งานได้จริง การติดต่อระหว่างดวงดาวก็จะเป็นแบบ realtime เลยเชียว
การใช้งานเครือข่าย จากที่ใช้ fiber optic ก็คงเปลี่ยนเป็นไร้สือแล้วครับ
แค่แยกสองตัวนี้ออกจากกัน ไม่ต้องการอะไรเป็นสื่ออีกแล้ว
อนาคตไม่แน่ router สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายก็จะไม่ต้องการสายอีกแล้ว
สมัครใช้บริการ Internet จากเจ้าไหน ก็จะได้รับแคปซูลบรรจุ โฟตอล มาจาก ISP เสียบเข้า router ก็ใช้ได้เลย โฟตอล อีกตัวก็อยู่กับ ISP เหอๆ
ไม่มีดีเลย์ ไม่สนใจฟ้าฝน
ทราบมาว่า สถานะที่มี จะมีอยู่ 3 สถานะรึเปล่า (ระบบ computer มี 2 ใช่ป่ะครับ 0 กะ 1)
รอผู้รู้มาตอบอีกคน อิอิ
เหมือนหนังอวกาศเลย อยู่กันคนล่ะระบบดาว แต่คุยกันได้แบบไม่มี delay เพราะส่งสัญญาณผ่าน subspace
ผมพอรู้เรื่อง Quantum Television อยู่บ้างครับ ไม่ทราบว่าพอจะต่อยอดได้มั้ย ฮา
Choose wisely, Live well
Yume Nikki
"มันยอดมากเลยซาร่าห์"
"ใช่แล้วจอร์จ"
"แต่เดี๋ยวก่อน!"
"ถ้าคุณโทรมาตอนนี้!"
Acting Reporter & My Elder Brother Blog
"คุณจะได้รับ"
"ไม่เพียงเท่านั้น!"
"ถ้าคุณโทรมาภายใน ... สายแรก"
The Phantom Thief
ปกติ เข้ามาอ่านอย่างเดียวไม่เคยโพสต์ เห็นอันนี้แล้วฮาจริง ลงทุน login มาฮาด้วยเลยนะเนี่ย..
หุหุ ก็ออกทะเลกันไป
จะเล่นอยู่แล้วเชียว
ผมเคยเห็นใน www.vcharkarn.com พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับควอมตั้มคอมพิวเตอร์อยู่ครับ เห้นมีข่าวว่าตอนนี้ค้นพบวิธีกำหนดบิตในโปรเซสเซอร์แล้วครับ ซึ่งถ้าทำได้จริงมันจะทำให้ CPU เกินขีดจำกัดความเร็วในปัจจุบันและทำลายกฏของมัวร์อีกด้วยครับ
เอามาให้ครับ http://www.vcharkarn.com/vnews/152466
http://www.vcharkarn.com/vnews/152359
สุดยอด ขอบคุณครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Quantum_teleportation
เอ่อ...ไม่ทราบว่าไม่ได้อ่านเหรอครับว่า ผมก็บอกอยู่ว่า ผมอ่านวิกิจนจะอ้วกแล้ว
คุณ cwt เค้าแปะลิงค์ไว้ให้ผมอ่านครับ
ขอบคุณ คุณ cwt ครับ
NERD GOD
แปะให้ผมด้วย
Ton-Or
Ton-Or
แปะให้ผมด้วย เพราะนอกจากทฤษฎี Quantum ที่มาตอนตีสามตีสี่แล้ว ก็ไม่เคยศึกษาเรื่องพวกนี้เลย :D
ไม่ได้อ่านครับ ขอโทษด้วย พอดีเห็นว่ามันจะออกทะเลเกินไปแล้ว ก็ยังไม่มีใครมาฉุดกลับซะที
ขอโทษอีกครับที่อ่านคำถามแบบผ่านๆ แต่ดันมาอ่านที่ออกทะเลซะละเอียด
เอาสรุปแบบสั้นๆ ก็คือใช้ได้จริง แต่ไม่ใช่ "teleport" แบบในนิยายวิทยาศาสตร์ และมันไม่ได้ส่งข้อมูลเร็วกว่าแสง
เอ่อ น้อง ก้าวร้าวไปนิดมั้ย ?
ผมว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจผิดนะ ใน Wiki ภาษาเยอรมัน เขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน พอเข้าไปอ่านในเปเปอร์ ก็ตรงตามนั้น เขา teleport state ของ Quantum ตัวหนึ่ง ไปยัง Quantum อีกตัวโดยผ่านสายไฟเบอร์ออพติคครับ เขายังบอกอีกว่า การส่งข้อมูลที่เร็วกว่าความเร็วแสง หรือ teleport วัตถุ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ข้อดีของ Quantum teleportation คือ การถ่ายทอด state ของ Quantum โดยไม่ผ่านกระบวนการวัดอื่น ๆ ทำให้การส่งข้อมูลระหว่าง Quantum หรือ การเก็บข้อมูลใน Quantum เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แผนการที่เข้าจะนำไปใช้ คือ Quantum Computing ครับ
BioLawCom.De
มันมีเอฟเฟคต์อย่างนึงที่เค้าเรียกันว่า Spooky Effect น่ะครับ
ึคือเมื่อเวลาที่โฟตอนสองตัวเกิด Entanglement ต่อกัน ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันแค่ไหน เมื่อตัวหนึ่งเกิดเปลี่ยนแปลงค่า อีกตัวจะเปลี่ยนแปลงค่าไปในทางตรงกันข้ามทันที ซึ่งตามหลักการ ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงระหว่างโฟตอนสองตัวคือ 0 วินาที
ก็เลยมีไอเดียนึงว่า ถ้าสามารถแยกโฟตอนสองตัว ให้เกิดภาวะเอนแทงเกิลเมนท์ แล้วฝากไว้ใน Photon Channel ระหว่างคอมสองเครื่อง มันก็จะรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้โดยไม่ต้องผ่านสายอะไรอีก
แต่เห็นบางงานวิจัยบอกว่า มันใช้จริงไม่ได้ เพราะสาเหตุอะไรบางอย่าง บางงานก็บอกว่าน่าจะได้
อะไรประมาณนี้น่ะครับ
เข้ามาหาข้อมูลด้วยคนครับ ผมเคยอ่านเรื่อง entanglement มาจากที่นี่ ดูแล้วน่าสนใจมากครับ
โฮ่ จารย์กิตต์ เมพมาก
ไม่มีอะไรในกอไผ่นอกจาก...หน่อไม้ | @kezuke | Facebook
น่าสนใจครับ
My Blog / hi5 / Facebook / Follow me
My Blog
เหมือนกับว่าเคยอ่านอยู่นะ.. งึมๆ
น่าจะเป็นตอนที่อ่านเรื่องทฤษฎี M, String อะไรประมาณนี้มั้ง
เดี๋ยวไปขุดหนังสือเล่มนั้นมาอ่านอีกทีก่อน
ลองไปตามอ่านจากลิงก์ที่ให้มา อืม มันเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมากเลยครับ จำได้เลาๆ ว่าเคยได้ยินพวกนี้หรืออ่านผ่านมาบ้าง แต่ไม่ได้สนใจเพราะไม่เข้าใจ -*-
ว่าแต่เรื่องสถานะของอนุภาค และสภาวะเอนแทงเกิลเมนท์ มันช่างเป็นอะไรที่สวนกับสามัญสำนึกของผมมากๆ ยิ่งอ่านยิ่งงง เหมือนตอนศึกษาทฤษฎีสัมพัทธภาพใหม่ๆ เลย จินตนาการตามลำบาก
วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือแสง ก็จะเป็นไปตามสมการ E=mc2 ครับ เข้าสู่ปรมณู อีกอย่าง มวลที่จะเดินทางขนาดนั้นต้อง ต้องลงไปเป็นมวลในระดับนิวเคลียสของสสารครับ
ผมว่า เรื่องของการแยกโมเลกุลของมวลก็เรื่องหนึ่ง เรื่องการเคลื่อนที่ (เพื่อส่งวัตถุใดๆ) ก็เรื่องหนึ่งครับ เพราะความเร็วแสงนั้น (300,000 km ต่อ วินาที) ถ้าจะใช้เพื่อการเดินทางนอกจากต้องผ่านทฤษฏีสัมพันธภาพมาให้ได้แล้ว ยังต้องควบคุมทฤษฏีรูหนอนของฮอค์กิ้นด้วยน่ะครับ แต่ถ้าควบคุมรูหนอนนั้นได้ ผมไมแ่แน่ใจว่าจะต้องสัมพันธ์กับความเร็วเหนือแสงอยู่หรือเปล่า
เหมือนว่า ถ้าเราจะไปซอยข้างๆโดยเดินทะลุกลางซอยได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งให้เร็วเท่าการอ้อมไปเข้าทางหน้าซอยใหม่น่ะครับ ประมาณนั้น ;P
Quantum Teleportation ไม่ได้พูดถึงการเดินทาง หรือแม้แต่การส่งพลังงานไปอีกที่ครับ เป็นแค่การส่ง สถานะ ของ quantum qubit เท่านั้น อย่าเพิ่งเอาพวกการเดินทาง รูหนอนอะไรพวกนี้มาปน
http://www.physforum.com/index.php?showtopic=9587
เรียนถามเพราะอยากแก้ข้อข้องใจเล็กๆ ของตัวเองครับ ว่า
เป็นไปได้ไงครับที่ระหว่างโฟตอนสองตัวนั้นไม่มีอะไรเชื่อมกันอยู่เลย แต่ดันส่งข้อมูลถึงกันได้ มันหลอนในความคิดเนาะ
พอพูดว่าวัตถุสองชิ้นมีการสื่อสารกัน ในความรู้สึกนักนิเทศศาสตร์ (หรือคนธรรมดาก็ได้ มั้ง) ย่อมปักใจเชื่อไปแล้วว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างเป็นช่องทางในการสื่อสาร ไม่ว่าจะมองเห็นได้หรือไม่ก็ตาม
แต่จริงอยู่ ทฤษฎีนี้พูดถึง "วัตถุชิ้นเดียว" แต่ดันกลายเป็น "สองชิ้น" แล้วแถมสภาวะการสื่อสารกันได้ก็ยังไม่สิ้นสุดอีก หยั่งกับเด็กแฝดสองคนที่บางทีมันมีสภาวะอุปทานหมู่เกิดขึ้นได้... มันเป็นกระแสจิตระหว่างโฟตอน?
เอาเป็นว่าถ้าฟังดูแล้วเลอะเทอะเกินจะอธิบายเยียวยาก็จะไม่ขอรบกวนละครับ ขอบคุณครับ
ไม่เลอะเทอะหรอกครับ เพราะมันขัดกับสามัญสำนึกคนทั่วไปจริงๆ นั่นแหละ เพราะลำพังทฤษฎีสัมพัทธภาพ ครั้งแรกที่ได้ยิน ก็งงกับมันอยู่นาน
ผมก็คิดเหมือนกัน แต่พอไปหาอ่านๆดูในเน็ต มีคนเขียนไว้ว่าใครจะเรียนรู้ควอนตัม ต้องปรับสามัญสำนึกใหม่ เพราะมันจะเอามาใช้กับเรื่องนี้ไม่ได้ไม่งั้นงง
ใช่แล้วครับ เคยเรียนเรื่องควอนตัมมาบ้างเหมือนกัน ต้องตัดสามัญสำนึกออกไปทั้งหมดจริงๆ ไม่งั้นจะเรียนไม่รู้เรื่องและรู้สึกขัดกับความเป็นจริงไปหมด ไม่งั้นแล้วก็จะเกิดคำถามมากมายก่ายกองที่หาคำตอบไม่ได้ (ทำไมอย่างงั้น? ทำไมอย่างนี้? และทำไมเป็นอย่างนั้นฟ่ะ -*-)
ยกเว้นแต่จะใช้ทฤษฎีควอนตัมต่างๆมาช่วยอธิบายให้
บางทฤษฎีก็บอกว่า สมองเราทำงานแบบคอมพิวเตอร์ควอนตัม ครับ
เพราะงั้นบางแนวคิดก็บอกว่า กรณีของเด็กแฝดบางคนที่ว่า อาจจะเกิดจากการที่มีควอนตัมบางส่วนเกิด Entanglement ระหว่างกันตั้งแต่อยู่ในท้อง พอคลอดออกมาก็ยังมีอยู่ ทำให้ข้อมูลบางอย่างส่งหากันได้ โดยเฉพาะข้อมูลที่รุนแรงอย่างความเจ็บปวด
ก็เป็นแค่การคาดเดานะ -
Amazing!!
ขอบคุณทุกท่านครับ
โพสผมหายไปไหน -*-
สรุปคือ มันจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อ สองฝั่งวัดมันพร้อมกัน มันถึงจะให้ค่าเหมือนกัน สินะครับ??
ผมขอถามต่อหน่อยว่า งั้นถ้าเราทำการเปรียบเทียบข้อมูล จนเชื่อได้ว่า เกิดภาวะ Entanglement ขึ้นมาจริงๆ ระหว่าง Photon สองตัว
เราจะพยายามสร้างสภาวะที่ เมื่อเราจะอ่านค่ามัน มันจะให้ค่าที่เราต้องการออกมา ได้หรือเปล่า?
ถ้าได้ เราก็น่าจะบังคับให้ตัวนึง เป็นค่าที่เราต้องการ แล้วทำการอ่านค่ามันพร้อมกันทั้งสองฝั่ง มันก็น่าจะออกมาเป็นผลที่เราต้องการ???
หากต้องอ่านค่าพร้อมกันสองฝั่งก็ไร้ประโยชน์กับระบบการสื่อสารครับ เพราะนั่นหมายถึง information content เป็นศูนย์
BioLawCom.De