ระบายเฉยๆนะ
"เออ เด๋วปี 4 ทำโปรเจคกุก็ไม่ทำเองหรอก เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เด๋วจ้างเค้าเขียนเอาดีกว่า" เออแล้วเอ็งจะมาเรียน comsci กันทำไมฟะ -_-" หลายคนด้วย
ไม่ทราบว่าปี 4 ที่จ้างคนข้างนอกมาทำโปรเจคแทนให้นี่มีเยอะรึป่าวครับ เคยได้ยินมาเหมือนกัน ไม่คิดว่ามันมีเยอะขนาดนี้ T_T เสียดายทรัพยากรสาย IT
เฮอะๆ โปรเจต นั่นเป็นการฝึกฝนเลยนะครับ มองได้ในหลายแง่มุม ทั้งระบบวิธีคิดเป็นเรื่องเป็นราว วิธีการนำเสนอ การทำงานร่วมกันเป็นทีม ค้นคว้าหาข้อมูล
ทำพลาดตอนนี้ไม่มีใครตายหรอกครับ ถ้าขยัน ตั้งใจทำงาน โผล่หัวไปหาอาจารย์บ่อยๆ อาจารย์แกก็เอ็นดู ไม่เอาถึงตายหรอกครับ (ส่วนใหญ่นะ)
แต่ถ้าคุณดันเสร่อไปพลาด ตอนต้องกินเงินเดือนเค้าสิครับ เฮอะๆ
้้อ้อ เวลาร่าย resume สำหรับเด็กจบใหม่ ไม่มีประวัติงานมากมาย เค้าก็คงถามงานโปรเจตคุณ เด๋วจะดับอนาถเอา แล้วก็ระวังคนที่ชอบใส่รายชื่อทักษะที่เป็น อย่าไปมั่วเชียวนะครับ เห็นใส่เป็นโพย โดนเค้าลองของขึ้นมา อ่อนยวบ คะแนนด้านนี้จะโดนแทงเป็นศูนย์เผลอๆติดลบเสียอีก
ก็ .. แล้วแต่คนน่ะครับ
ตอนผมทำโปรเจค กลุ่มผม 5 คน มีผมและเพื่อนอีกคนที่ทำเอง
อีกคนนึงจ้างคนอื่นไกด์ให้ แล้วมาต่อยอดเอง (ประมาณว่าจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว)
อีกคนนึง จ้างเค้าเขียนเลย แล้วเวลาพรีเซนต์มันก็แป้ก (นิดนึง)
อีกคนนึงให้แฟนช่วย ให้เพื่อนแฟนช่วย ให้คนนั้นคนนี้ช่วย สหจะช่วย ก็แป้กอีกตามเคย
.
.
ไม่ต้องไปสนใจใครหรอกครับ เราทำเราก็ได้ เค้าไม่ทำเค้าก็ไม่ได้ ซึ่งถ้าเจ้าตัวเค้าไม่แคร์ ก็ต้องสุดแล้วแต่เค้าแล้วล่ะครับ อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราแล้วล่ะ
(ผมไม่ได้เรียนคอมไซน์นะ เรียนคอมพ์ธุรกิจครับ)
"ด้วยเกียรติของข้า ข้าสาบานว่าจะทำโปรเจคเองเมื่อขึ้นปีสี่"
(รวมถึงงานอื่นๆ ก่อนถึงปีสี่ด้วย)
ถึงไม่เก่งด้านนี้แต่ผมชอบสายนี้ครับเลยเลือกมาเรียน ไม่ได้เลือกตามคะแนน
แต่ตอนนี้ขออ่านหนังสือสอบก่อน = ="
ฝากปายถามมานด้วยแระกัน Say: แล้วเรียนห่าทำไม ถ้าไม่ได้เรียนด้วยใจรัก!!! (ไม่อยากเขียนแรง)
ก็มันสอบติดพอดีนะซิ
+1
พวกจบไปไม่ได้ใช้ วิศวะคอมก็มีครับ แต่โปรเจคทำเองหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าแค่วน loop for ธรรมดามันยังมีคนตอบไม่ได้ว่า loop ไหนวนกี่รอบ - -
The Phantom Thief
เอกภาษาไทยเค้ามีโปรเจ็กต์หรือเปล่า แนะนำให้ไปลองดูนะครับ
นึกถึง Season Change
นึกว่ารักภาษาซี ที่แท้ก็ตามผู้หญิงมาเรียน
onedd.net
onedd.net
+1
+100
โปรเจคต์มีไว้ใส่พอร์ทฟอลิโอครับ
ไม่ได้ทำเองก็เป็นการหลอกชาวบ้าน พอถึงเวลาเค้าบอกให้เราทำอย่างที่เราทำโปรเจคต์ ทำไม่ได้ก็ความแตกล่ะ
ทำใจครับ พวกนี้พอจะทำงานก็จะตายไปเอง
ผมเซ็งมากกว่านั้นครับ ไม่ได้ทำโปรเจ็คเองแต่ได้เกรดA ผมไม่รู้ว่าเขาวัดกันที่ไหน แต่สำหรับผมแล้วมันบ่งบอกว่า ถ้ายังไม่พร้อมก็อย่าเปิดคณะแปลกๆให้เด็กมาเรียนเลยครับ เสียเวลาสงสารเด็กตาดำๆที่หวังพึ่งความรู้จากมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้อะไรเลยนอกจากกระดาษหนึ่งใบ
ปล.ผมเรียนวิศกรรมซอฟท์แวร์ครับ
โดนใจครับ!! +100000
ผมก็เรียน Software Engineering
เอ๊ะ! เรียนที่เดียวกันด้วยนี่หว่า lolz
ชีวิตทำงานมันไม่ได้วัดที่เกรดหรอกครับ
เกรดดีก็เหมือนผู้หญิงสวยๆ คนหนึ่งใครเห็นก็อยากมอง
ถ้าแต่งกันแล้วมารู้ทีหลังว่าทำกับข้าวไม่เป็น เล่นแต่ไพ่ เมาหัวราน้ำ อยากเลิกไหมครับ ?
ถ้า sex จัดแล้วไม่มั่ว จัดกับผมคนเดียว ยังรับได้อยู่ครับ :)
Ton-Or
Ton-Or
ณ จุดๆ นี้ ต้องคุยกันยาว
เคยได้มาทำเหมือนกัน ตอนแรกไม่ทราบครับว่าเป็นโปรเจค หลังๆ เห็นแก้บ่อย (แก้ตามที่อาจารย์สั่งมั่ง) เลยถามดูว่าเรียนอยู่หรือเปล่า ซึ่งสรุปว่าใช่ เลยถามไปว่าโปรเจคหรือเปล่า ก็สรุปว่าใช่อีก
หลังจากนั้นเลย รีบๆจบงานครับ แล้วบอกไปด้วยว่า ถ้ามีแก้อีกค่าแก้เท่ากับค่างาน ก็หายไปเลย
เท่าที่เคยหาข้อมูลดู เด็กพวกนี้จะให้ฟรีแลนทำครับ เพราะว่าสู้ราคาบริษัทไม่ไหว
ถ้าคนพวกนี้ได้งานเข้าจริงๆ แรกๆ ฝึกงานสามเดือนแรกก็ได้แต่งานง่ายๆ ไปก่อน ซึ่งก็คงพอทำได้ (ไม่มีบ. ไหนให้เด็กใหม่ผจญงานหลักของบริษัทหรอก)
หลังจากนั้นเดือนที่สี่ก็เริ่มบรรจุ ถึงตอนนั้นก็รู้แล้วว่าคนพวกนี้ทำงานไม่เป็น
ผลก็คือ หัวหน้าไม่ไล่ออกอยู่ดีปล่อยให้ตะแบงทำไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ เพราะเปลี่ยนคนแต่ละทีมันหมายถึงเปลี่ยน flow งาน ก็ยุ่งอีก
สรุปแล้วมันเป็นปัญหาแน่ๆ ไม่ว่าคุณจะทำโปรเจคท์จบเองหรือจ้างเขาทำ สุดท้ายอยู่ที่ตอนสัมภาษณ์งานใครจะหลอกคนสัมภาษณ์ได้เนียนกว่า (ไม่อยากจะอธิบายอย่างนี้แต่นี่คือสิ่งที่ผมเจอในช่วงที่ผ่านมา) ก็คงจะได้งานไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ทองแท้ย่อมพิสูจน์ตัวของมันเองได้ อย่าได้ท้อหากคุณทำได้เหนือกว่าคนพวกนั้นจริงๆ
สู้ให้เต็มที่ ขอให้โชคดีครับ
ไปเจอมา (ระบบมันส่งเข้าเมล์) http://www.thaifreelancebid.com/projectdetail.php?project_id=6699
เผื่อใครมองไม่เห็นโปรเจคจบมันตั้งงบไว้ 4-6 พันเองนะ ว่าแล้วก็อยากจะบ่นอีก ยิ่งนับวันค่าตัวคนไอทีก็ดูต่ำลงๆ เพราะว่ามือปืนรับงานราคาต่ำๆ กันเอง
ไม่โก่ง แต่ก้อไม่กดไม่ลด .. งานเดวนี้ คือ คอยเกบกวาดซากงานของพวกมือปืนที่รับงานราคาต่ำๆ แต่คุณภาพก้อต่ำๆ
จะว่าไป ก็สงสารลูกค้าแหะ หากลไกมารับรองกันดีนะ .. cv กะ port ก็ไม่ช่วยไร เคยลองนึกๆ กลไกที่คนใหม่ๆ เข้าง่าย แต่ปั่นแบบ SEO ได้ยาก .. แต่ก็นึกไม่ออก
คงต้องทำให้คนทั่วไปตระหนักว่า skill ด้านนี้มัน screen กันง่ายๆ ไม่ได้ ใบ cert มันก็ติวเอา .. กับเปิดเวทีให้คนใหม่ๆ ได้โชว์ได้แสดงออกมากขึ้น
เพื่อนผมคนนึง รับทำโปรเจคจบให้พวกวิศวะ/คอม ตั้งแต่ปีหนึ่ง (มันเทพมาก) จนส่งตัวเองเรียนได้เลยครับ (ค่าเทอมสามหมื่น ค่ากิน ค่าอะไรต่อมิอะไรอีก)
เยอะไหมไม่รู้ครับ แต่มันเป้นอาชิพได้เลยล่ะคัรบ รับจ้าทำโปรเจคนี้ เงินดีด้วย
มีทุกวงการครับ รับจ้างทำอาจารย์ 3 ก็มี
แต่ไม่มีรับจ้างทำ ระดับ 9 นะเออ ปล. ผม C5 คับ
การจ้างทำโปรเจคท์
เป็นการฝึกทักษะของนักศึกษาในอีกแนวทางหนึ่ง
คือเรื่องของการหา outsource, การอธิบายงานและการควบคุมให้ outsource ทำงานให้สำเร็จ, การคิดราคาจ้างงาน, การเจรจาต่อรอง. ฯลฯ
คนที่ทำแบบนี้ควรจะเป็นนักบริหารครับ ไม่ใช่วิศวกร
ทักษะแบบนี้จำเป็นมากครับ โปรแกรมเมอร์ไทยต้องฝึกฝน อันนี้ผมจริงจังนะ ไม่ได้ล้อเล่น
อืม....น่าคิด
ผมมองว่ามันข้ามขั้นไปหน่อยนะ อย่างน้อยๆ เราก็น่าจะทำเองเป็นบ้าง ก่อนไปว่าจ้างคนอื่น ไม่งั้นก็มองไม่ออกหรอกว่างานมันยากมันง่าย ต้องใช้เวลาทำแค่ไหน
ใช่ครับ บางคนสักแต่จ้าง ไม่เคยรู้ความยากง่ายเลย มีเงินอย่างเดียวพอ
สบายก่อนไปตายผ่อนกันวันหลัง
อัตราเงินเดือนตกของสายคอมตก เงินเดือนไม่คุ้มการลงแรง
ส่วนนึงก็เพราะไม่มีประสบการณ์ประเมินงานมามากนัก
ป. ตรี มีโอกาสเก็บหนักๆ แค่ตอนฝึกงานกับโปรเจคจบ
ถ้าฝึกงานไม่ตรงสายหรือเจอที่แย่ๆ แถมโปรเจคยังจ้างทำอีก ออกมาก็ไม่รู้จะมีทักษะอะไรมาบ้างรึเปล่า
ยังไม่นับเรื่องลอกการบ้านส่งอีก :(
ส่วนตัวทำโปรเจคแล้ว ช่วงแรกที่ Plan งานกัน สนุกมาก คิดไปโลดเลย
แต่ฟอร์มทีมกันไม่ค่อยดี สุดท้ายมาเร่งกันสุดฝีเท้าตอนจบ
จบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่สนุกจริง แนะนำให้ทำครับ อย่าจ้างเลย
เห็นบ่อยจนเป็นเรื่องปกติ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
แสวงหามิใช่เพราะรอคอย เชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส ชำนาญมิใช่เพราะโชคช่วย"ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"chonlatee
เรื่องจ้างคนอื่นทำโปรเจ็คจบให้เนี่ย มีเยอะแยะมากมายครับ ผมเองก็ยังเคยได้รับการติดต่ออยู่บ้าง ก็พยายามหลีกเลี่ยงเพราะนึกถึงสมัยตัวเองเรียน ก่อนจะทำโปรเจ็คจบเนี่ยก็เขียนโปรแกรมไม่เป็นหรอก มาทำเป็นก็ตอนทำโปรเจ็คนี่แหละ พอทำได้แล้ว ก็ทำให้ตัวเองมีความมั่นใจในการเขียนโปรแกรมขึ้นมาก เลยรู้สึกว่าไม่อยากให้ใครผ่านตรงนี้ไปโดยใช้เงินแก้ปัญหา แม้หลายคนอาจจะออกไปทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องก็ตาม
ผมว่าอาจารย์ส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้หวังให้เราทำอะไรเลิศเลอนักหรอก ขอแค่เราแสดงให้เห็นถึงความพยายาม ให้เห็นว่าเรามีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากทำโปรเจ็คเสร็จ อาจารย์เขาก็พอใจแล้วล่ะ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่มาได้จนถึงปี 4 เนี่ย ถ้าตั้งใจจริงก็พอจะเขียนโปรแกรมง่ายๆ กันได้อยู่ ปัญหาคือหลายคนกลัวว่าจะไม่จบแต่ไม่พยายามจะเรียนรู้ ไม่พยายามจะทำอะไรเลยมากกว่า จบไปไม่ว่าจะไปทำงานอะไรก็เถอะ มันต้องเจอกับปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แล้วเราจะให้คนอื่นช่วยแก้ปัญหาแทนเราได้ตลอดหรือ
มีเยอะครับ มาจ้างให้ผมทำโปรเจ็คจบให้ ขอบอกว่ามันยากมาก ๆ เนื่องจากต้องเขียนให้ดู ไม่โปรมากนัก
ไหนยังต้องสอนทุกอย่างเผื่อเอาไป present ราคาที่ได้จะน้อยกว่าที่รับทั่ว ๆ ไป แต่ก็เข้าใจนะครับ
ว่าในบางมหาลัย ตัวผู้สอนเองก็ใช่ว่าเก่งนัก แบกทฤษฏีมาสอน แต่ไม่ค่อยแชร์ประสอบการณ์กับนักศึกษา
เท่าไหร่นัก ตัวผู้สอนส่วนใหญ่ไม่ชำนาญในสายงานจริงมากนักไม่เหมือน เรา ๆ ท่าน ๆ ที่อยู่ในสายงาน
จะชำนาญมากกว่า
ยังงัยก็อยากให้น้อง ๆ พยายามด้วยตัวเองให้มาก ๆ นะครับ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถเราหรอก
ตอนทำโปรเจค เคยมีเพื่อนมาขอทำโปรเจคด้วย เพราะมันทำไม่เป็น ผมก็ยืนยันว่าทุกคนต้องเขียนโค๊ดนะ (ซีเรียส) ก็ทำหน้าหงิกหน้างอ มาขอร้องบอก "เฮ้ยกรูจบไปกรูก็ไปเป็นแม่บ้าน ขอกรูอยู่เถอะ" ผมยิ่งเซ็งหนักเลยก็เลยไล่มันไปอยู่กลุ่มอื่น
ก็ได้ผลนะครับ เค้าย้ายไปอยู่กลุ่มอื่น แล้วก็ต้องมาทำเอง !
สุดท้ายก็ทำออกมาดีด้วย (ซะงั้น) ถ้ามันอยู่กับผมตอนนั้นก็คงทำโปรเจคออกมาไม่ได้ล่ะมั้ง ?
พี่ขอมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะคะ
เพราะพี่เป็นผู้หญิงที่เรียนสายคอม และก็ยอมรับเลยด้วย ว่าไม่ชอบโปรแกรมมิ่งเลย
ตอนปี 1 ปี 2 พี่ก็ให้แฟนเขียนโปรแกรมให้ตลอดเลยนะ
พอเลิกกับแฟนเท่านั้นแหละ นรกเลย
แต่ดีที่พี่ได้เพื่อนดีอ่ะค่ะ เพื่อนพี่ช่วยพี่รอดโดยที่ไม่ทำการบ้านหรือเขียนโปรแกรมให้พี่เลย
เพราะเพื่อนมันเคี่ยวเข็ญจนพี่สามารถเขียนโปรแกรมเป็นตอนปี 2 พี่เลยจบมาได้เนี่ยแหละ
และพี่ก็แนะนำนะคะ เรื่องโปรเจ็คจบอ่ะ
ถ้าน้องทำเองได้ มันจะมีผลมากตอนสมัครงานล่ะ
เพราะน้องจะสามารถพูดเป็นคุ้งเป็นแควได้ต่างจากคนที่ไม่ได้ทำเองนะคะ
อีกอย่าง น้องสามารถหาที่ปรึกษาได้นะคะ
ทำเองในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ต้องไม่ถามใครเลย
แต่คือให้น้องเป็นคนคิดเอง วางแผนทำเอง
ส่วนตามรายทางกว่าโปรเจ็คจะจบนั้น น้องไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ
ถามอาจารย์ เพื่อนๆ รุ่นพี่ที่มหาลัย หรือในบล็อกนอน
ย่อมมีคนที่ยินดีจะช่วยอยู่แล้วนะคะ
เพราะพี่เอง ถามว่าโปรเจ็คจบพี่ทำเองทั้งหมดมั๊ย มันก็ไม่ใช่อ่ะค่ะ พี่ก็มีคนช่วยชี้แนะ
ช่วยมาดูบั๊กให้ ช่วยแนะนำเวลาติดปัญหา
แต่พี่รับผิดชอบทำทุกๆส่วนของขั้นตอนการทำโปรเจ็คเอง โปรแกรมเนี่ยก็เขียนเองแต่พอเวลาติด
หรือคิดไม่ออกก็มีถามคนอื่นบ้าง มีให้ช่วยออกแบบระบบบ้าง อิอิ
จุดประสงค์สำคัญของการทำโปรเจ็คจบคือ
มันทำให้น้องได้สัมผัสการทำงานจริงๆเป็นโปรเจ็ค ได้คิดวางแผนตั้งแต่ต้นว่าจะทำอะไร
ทำอย่างไร แก้ปัญหายังไง ทำให้เป็นรูปสำเร็จได้ยังไง มากกว่านะคะ ถ้าพูดถึงในระดับปริญญาตรี
หวังว่าประสบการณ์พี่จะมีประโยชน์เนาะ
นานๆจะตอบยาวๆซักที อิอิ
::: Na - th :::
+1 โดนใจ ต้องลากเพื่อนๆ มาอ่าน comment นี้เยอะๆ ;P
+1 โดนใจ โดนเพื่อนลากมา ;P
อ้า เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เรามาเรียนด้านนี้แล้วเขียนโค้ดไม่ได้นี้ก็กะไรอยู่น่า
แล้วจบไปทำโปรเจ็คเองก็สามารถคุ้ยได้
ถ้าคนไม่ทำเองจะเอาอะไรไปเสนอตอนรับงานล่ะ
งานกลุ่มเพื่อนก็ทำ โปรเจ็คอ.ก็คิดให้
แล้วส่วนใหญ่จบไปก็ต้องเริ่มทำงาน(เป็นโปรแกรมมิ่ง) กันส่วนใหญ่อยุ่แล้ว
หรือว่าจะกระโดเป็น SA หรือ PM เลยหรอ?
มาบ่น แต่ตอนนี้ตัวเองขอแว้บไปทำงาน ก่อนครับ
<mOkin>ไม่รู้โลกกว้างไป หรือใจฉันแคบลง<mOkin/>
สบายตอนเรียน
ลำบากตอนทำงาน
แต่ถ้าไม่คิดจะทำสายโปรแกรมเมอร์
จะจ้างก็จ้างไปเถอะครับ
ที่ทำงานหลาย ๆ ที่เดี๋ยวนี้เค้าไม่สนใจแค่กระดาษแผ่นเดียวแล้ว
Project เป็นสิ่งที่ท้าทายครับ ผมคนหนึ่งเป็นไม่ชอบเขียนโปรแกรมเพราะรัก network มากกว่าแต่ยังงัยมันต้องเขียนเพราะเป็น project ของเรา
55+
ตอนนี้ก็นั่งเขียน network monitoring อยุ่ปวดหัวมากๆๆ
อายเค้า
NERD GOD
พวกนี้เจออาจารย์ต้อนเข้าหนักๆ หน่อยผมว่าตายสนิทครับ
ที่เรียนผมก็เคยมีมาแล้ว จ้างทำเนี่ย จับได้นี่โดนหนักครับ
ผิดกับผมเลยนะ
ผมอยากเรียนคอมฯ ใจจะขาด แต่ด้วยปัญญาและวาสนามันไม่ถึงเลยต้องไปเรียนสถิติ
อยากรู้อะไรเรื่องคอมฯ ก็ต้องไปเรียนรู้ ไปขวนขวายหามาเอง
เพื่อนเขาไปเที่ยวกลางคืน ไป Shopping กัน ผมก็กลับบ้าน นั่งคิด Project หาอะไรฝึกมือเล่นๆ
หนังสือคอมฯ อ่านทีเป็นตั้ง เพื่อนยังแซวว่าไม่คิดจะอ่านหนังสือสถิติบ้างเหรอ
ที่ทำไปทั้งหมดเพราะสำเหนียกว่า เรียนจบมาใครเขาจะมาจ้างเด็กจบสถิติไปเป็นโปรแกรมเมอร์
เด็กจบคอมฯ เอง ยังตกงานกันเป็นแพ
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ... ที่ผมไม่ได้เรียนคอมมาตรงๆ 555
กลับมาคราวนี้ ... เพื่อมาทวงความฝันคืน!!
ผมว่าเรียนสถิติก็ดีนะครับ ผมยังอยากศึกษาเลย หลักสถิตินี่ช่วยได้เยอะมากเวลาเจอปัญหาที่เอาคอมพิวเตอร์มาแก้ตรงๆไม่ได้ เช่น การแปลภาษา การจดจำลายมือ ปัญหาพวกนี้มีเยอะมาก เรียกว่าปัญหาส่วนใหญ่ในชีวิตเลยก็คงไม่ผิด ปัญหาพวกนี้เรียนคอมพิวเตอร์มาอย่างเดียวก็จอด เขียนโปรแกรมเก่งแคไหนก็แก้ไม่ได้
ผมว่าหนึ่งในสาเหตุของการที่จบคอมแล้วยังตกงานเป็นเพราะ จบคอม รู้เรื่องคอมอย่างเดียว แต่ดันรู้ไม่จริงอีก หรือสรุปว่าเป็นพวกไม่สนใจไขว่รู้อะไรเลย เรียนไปขอให้ได้ปริญญาเป็นพอ แบบนั้นเป็นผมก็ไม่จ้างครับ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
+1 ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ
BTW ความรู้สถิติเองก็ต้องพึ่งศาสตร์ทางด้านอื่นด้วย (ถึงจะเอาตัวรอด) ทำสถิติเป็นอย่างเดียวก็เอาตัวไม่ค่อยรอดเหมือนกัน
มันต้องมีความรู้ทางด้านอื่นเช่นคอมพิวเตอร์ บัญชี เศรษฐศาสตร์ อุตสาหการ ประกันภัย ฯลฯ มาประกอบกัน มาใช้ร่วมกัน
--
กลับมาคราวนี้ ... เพื่อมาทวงความฝันคืน!!
คนจะเซียนจริง ไม่ต้องอิงปริญญา!!!
ประโยคนี้ขอซื้อๆๆๆ
Ton-Or
Ton-Or
+1
กลับมาคราวนี้ ... เพื่อมาทวงความฝันคืน!!
อาจารย์ที่สอนผมที่คณะก็เคยเรียน ป.ตรีสถิติ เหมือนคุณนี่ล่ะครับ ตอนนี้แกต่อโทด้านคอมแล้วกลับมาสอนที่ม.
ท่านก็เก่งนะ เชี่ยวชาญด้านระบบ Security กว่าพวกที่จบวิทย์คอมมาตรงๆเลย
ผลงานของอาจารย์ท่านนี้คือ หนังสือ "เจาะระบบ ไขรหัส รู้ทัน ป้องกัน Hacker" นั่นเอง
ถ้าผมจะจ้างทำโปรเจ็กจบเป็น OS ที่สามารถเอาชนะ Windows , OSX , ChromeOS ได้
จะมีใครรับทำบ้างครับ lolz
มีแสนล้านยังไม่รู้ว่าจะทำได้เลยหรือเปล่า เหอๆ
ตื่นๆๆ
ผมทำให้ได้ครับ
เป็น OS ที่ตอบรับการสั่งงานทางจิตครับ ผู้ใช้ต้องมีสมาธิระดับนึง หรือตามหลักพุทธ ตั้งแต่ฌานสี่ขึ้นไป ไม่เช่นนั้นกระแสจิตจะอ่อนไป
OS ไม่มีการลง Program เพราะระบบประมวลผลเป็นเซลมีชีวิตขนาดเล็กเชื่อมต่อกันคล้ายการทำงานของสมองใช้ไฟฟ้าและกาซคาร์บอนเป็นอาหาร สามารถเติบโตภายในพื้นที่จำกัดและเรียนรู้ได้
ดังนั้นหาต้องการใช้งานด้านไหน ก็แค่สั่งความต้องการไป OS และระบบประมวลผลจะทำงานสร้างผลลัพท์ที่ต้องการมาให้เอง (Programer ตกงานหมด เป็นยุคทองของสำนักปฎิบัติธรรมกันเลยทีเดียว)
ระบบประมวลผลสามารถเชื่อมต่อกันเองทางโทรจิตเองได้ ไม่ต้องอาศัยหลักการของกลุ่มเมฆ แม้ปฏิบัิติการอยู่ดาวอังคารก็ส่งข้อมูลกันแบบ real time ได้เลย เมื่อใช้เครือข่ายนี้
แต่ก่อนจะจ้างผมช่วยทำระบบประมวลผล ที่ว่ามาให้ก่อนนะครับ :P
Ton-Or
Ton-Or
ผมชอบครับ ขอเอาไปจด patent ได้เปล่า เป็นยุคทองของคนมีธรรมจริงๆครับ ประพฤติศีล 5 แล้วใช้คอมได้
ถ้าจะตั้งชื่อผมขอใช้ชื่อ Dharma มีรหัสที่ต้องกรอกทุกๆ 3 ชั่วโมง คือ "4 8 15 16 23 42" :)
My Blog / hi5 / Facebook / Follow me
My Blog
เอาไปจดได้เลย แต่กลัวว่ากว่าจะมีให้ใช้จริง มันจะหมดอายุ 5 ปี หรือ 10 ปีนั่นเสียก่อนน่ะสิ อิอิ
ผมแตกมาจาก ตำนานเรื่องพระศรีอานต์ น่ะครับ ที่ ว่ากันว่าเราไม่ต้องทำอะไรนึกสิ่งใดได้สิ่งนั้น บวกกับเรื่อง The Matrix พอเอามารวมกับมันก็น่าจะเป็นไปได้ยุคที่เราไม่ต้องทำอะไร (เพราะนอนอยู่ในหลอดแก้ว) ฮ่าๆ
Ton-Or
Ton-Or
ถ้าเราทำเองทำจริงเจ๋งเองเจ๋งจริง ก็ไม่อดตายครับ
ใครมันจะทำอะไร ก็ช่างเค้าสิครับ
แนะนำว่าถ้ามีเงินไปจ้าง ก็สู้เอาเงินไปเรียนเสริมข้างนอกดีกว่าครับ ได้ประโยชน์ระยะยาว