ตอนแรก ที่มีข่าว Firefox 3 ผมก็อุตส่าดีใจว่า ซัพพอร์ท Color Profile เหมือน Safari (http://www.blognone.com/node/8058) ซักที
เวลาให้ลูกค้าดูงานหรือโชว์รูปจะได้ทำเต็มที่ได้ซักที เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องแนะนำ Browser แปลกๆใหม่ๆให้เค้าใช้ยุ่งยากเพิ่ม
แต่เมื่อวานเกิดเอะใจ ว่าทำไมลูกค้าท้วงเรื่องสีของรูปว่ามันหม่นๆ ไม่ใสเอาซะเลย ผมก็ลองเปิดเช็ค(ผมใช้ OSX ทำงาน Browser ก็เลยใช้ Safari เป็นหลักเพราะสะดวก+ง่ายกว่า Firefox)
ภาพก็ไม่เพี้ยนสวยมากๆเหมือนปกติ ^^ ก็เลยลองถามลูกค้าดูว่า ใช้อะไรเปิด IE มันเฮงซวยนะ FF3 เปิดสิ่ เค้าก็บอกว่าเค้าใช้อยู่ ตัวล่าสุดเลย
ผมก็งงดิ่ FF3 มันก็ไม่น่าเพี้ยน ก็เลยต้องให้เซพรูปแล้วไปเปิดกับโปรแกรม AcdSee ลูกค้าถึงพอใจ...
เป็นอันว่าจบไป
แต่ก็ยังสงสัยอยู่ไม่หาย เลยไปเซิร์จ หาข้อมูลต่อ หลายๆเวปก็บอกว่า FF3 แสดง color profile ได้ แถมมีรูปโชว์ยืนยันอีก
...
แต่พอโหลดมาลงในเครื่อง ปรากฏว่า ไม่แฮะ...สีเน่าสุดๆ เลย
ลองเช็คกับ http://www.color.org/version4html.xalter ก็เลยยิ่งชัวร์เข้าไปใหญ่เลย
สุดท้ายก็ยังแนะนำเรื่อง FF3 ได้ไม่เต็มปากอยุ่เหมือนเดิม - -
อุตส่านึกว่าจะได้ทำงานสบายๆ ขึ้นมาอีกนิดนึงแท้ๆ ตอนนี้ก็เลยแนะนำให้ใช้ Safari ดูรูปดูเวปสวยๆกันแทนเลย
ปล.ตกลงว่ามันใช้ไม่ได้หรอครับกับ color profile กับ FF เพราะผมหา Option ไม่เจอด้วย
รอ 3.5 มั้งครับ เหมือนจะเห็นเป็นฟีเจอร์แว้บๆ
ezybzy.info blog
รูปเทียบครับ
ไม่ทราบว่าหาด้วย keyword อะไรครับ แล้วได้อ่านเนื้อหาหรือเปล่า หรือว่าดูแต่รูปครับ
หา option ไม่เจอไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะว่ามันไม่มี GUI ให้เลือก และ function นี้ถูกปิดไว้โดยปกติครับ อยากเปิดต้องเข้าไปแก้ใน about:config หรือใช้ Add on
https://addons.mozilla.org/en-US/firefox/addon/6891
ผมคงอ่านไม่ละเอียดเองล่ะครับ
เพราะเซิร์ช มาแล้ว มันขึ้นของ Mozilla เป้นตัวแรกเลย firefox color profile
แต่มันมีก็เหมือนไม่มี เหมือนเดิมครับถ้ามีแล้วซ่อนไว้
บังเอิญผมไม่ใช่พวกขยันหา Plugin ด้วยครับ คนทั่วไปก็คงเป็นแบบผมเยอะอยู่ -*-
ว่าแต่ทำไมต้องซ่อนหว่า โหลดมาติดตั้งใช้ได้เลยครบๆ ไม่ต้องลง ปลั๊กอินบ้างเถิด - -
ผมหาด้วย color profile firefox 3 อันแรก (google.co.uk)
ถ้าอยากรู้ว่าทำไมปิดไว้ลองเข้าไปอ่านที่ http://www.dria.org/wordpress/archives/2008/04/29/633/ ดูนะครับ
ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องทำให้ถูกใจครับ ไม่มีข้อห้ามดัดแปลง firefox ครับ มันไม่มีอะไรเหมาะกับทุกคนหรอกครับ
มีคนมากมายไม่เดือดร้อนที่ใช้ color profile ไม่ได้ ดังนั้นคงไม่บอกนะครับว่าเป็นของจำเป็น
จำเป็นไม่จำเป็น ก็ควรดูในรูปที่ให้ดูครับ
คนทุกคนไม่จำเป็นต้องรูเรื่อง Color Profile ใช่ครับ แต่ทุกอย่างที่เป็นภาพ สีสัน ในระบบดิจิตอลมี color Profile หมดครับ
คนที่ใช้ Photoshop ก็ใช้ color profile โดยไม่รู้ตัว คุณสั่งพิมพ์ ระบบเครื่องพิมพ์ก็มีการแปลง color profile มันมีผลอะไรบ้างน่ะหรอครับ ภาพที่ไม่มี color profile ถ้าไปเปิดกับจอ แต่ละที่สีก็ไม่เท่ากัน
Color Profile มีประโยชน์ยังไง ??? ถ้าเบ้าเซอร์ทุกตัว โปรแกรมทุกตัวสามารถใช้มันได้ ภาพๆ นึงของคุณ เอาไปให้ที่ไหน อ้างอิงอะไรมันก็ใช้ได้ครับ
เพราะว่ามัน ใกล้เคียงกัน อ้างอิงได้ตาม "มาตราฐาน"
งานที่อ้างอิงทางวิชาการหลายๆชิ้น สี เป็นตัวแปรสำคัญ ค่าสีชั้นดิน แต่ละชั้น มีค่าชัดเจนระบุไว้ ลองค่าสีไม่ตรง ก็ความหมายเปลี่ยนได้ครับ อันนี้อาจไม่ใกล้ตัวคุณ คงจะมองไม่เห็น
แต่จากในลิ้งที่คุณให้ คุณก็เห็นใช่ไหมครับว่า "สี" มันต่างกันแค่ไหน
การที่คุณสั่งของ คุณเห็นสีของที่คุณต้องการนั้นสีสด สวย แต่พอของที่คุณได้มันกลับเป้นคนละสี มันมืด หม่น คุณอาจจะไม่เดือดร้อน
แต่คนหลายคนก็ต้องการตามที่เค้าเห็น
คุณเอาภาพแฟนคุณไปแต่งจนดูแล้วบอกว่าสวย แต่แฟนคุณเปิดผ่านเวปแล้วเจอภาพเธอม่วงๆ แล้วคุณก็บอกเธอว่าเนี่ยตั้งใจปรับให้สวยเต็มที่เลย ?? ถ้าแฟนคุณใจดีก็ดีครับ
ที่ยกตั้วอย่างมันอาจไม่เกิดขึ้นบ่อยครับ ความผิดพลาดขนาดนั้นมันน้อย แต่เรื่องภาพสีตก สีเข้มเนี่ย คุณก็คงแยกแยะไม่ออก เลยไม่เห็นค่ามันเท่าไหร่
"มีคนมากมายไม่เดือดร้อนที่ใช้ color profile ไม่ได้ ดังนั้นคงไม่บอกนะครับว่าเป็นของจำเป็น"
มีคนมากมายไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการใช้ css ให้ถูกมาตราฐาน ไม่เดือดร้อนในการใช้ IE การสนับสนุน Firefox หรือ ให้ IE ทำมาตราฐานก็ไม่จำเป็นหรอครับ
1 em ของ FF2 FF3 IE Safari ก็ไม่เท่ากัน ไม่มีใครเดือดร้อนที่ไม่เท่ากัน แต่ ถ้ามันอ้างอิงมาตราฐาน ให้เท่ากันหมด มันดีกว่าไหม ???
Color Profile เป็น มาตราฐาน ของระบบสี digital ครับ
เหมือน Css ที่เป็น มาตราฐาน ของภาษา markup ที่ใช้บน html จึงจำเป็น และควรที่จะมีครับ ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ตั้งมา มั่วซั่วๆ ให้เป็นจุดเด่นของโปรแกรมครับ
การที่ Color Profile มีแต่ปิดไว้ ผมถึงมองว่าไม่ใช่ประโยชน์ ถึงจะบอกว่า มันจะมีผลกับสีหลายๆเวป และไม่จำเป็น
คุณลองมองกลับดูครับ ว่าถ้าเปิด แล้วทุกคน ปรับให้มันถูกต้องหมด มันถึงจะถูก เหมือนกับ CSS ใน IE กับ FF ถ้า IE แสดงถูกต้อง แต่ FF เน่าก็ควรใช้ IE เปิดแทนที่จะแก้หรอครับ
แต่จากลิ้งที่คุณให้ดูผมก็เจอครับ ผมอ่านผ่านๆ ผมยอมรับว่าก็ผิด แต่ก็อย่างที่คุณบอก
ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องทำให้ถูกใจครับ ผมคงไปสอนให้ทุกคน Config ให้มันแสดงผมตามมาตราฐานไม่ไหวครับ ผมไม่มีความรู้เรื่อง config ครับ มันยุ่งยากเกินไปสำครับคนทั่วไปเกิน ไม่งั้นทุกคนคงใช้แต่ FF แล้วล่ะ
คุณต้องเข้าใจครับว่า ColorProfile ไม่ใช่ เรื่องถูกใจไม่ถูกใจ แต่เป็น มาตราฐาน
มีคนมากมายความที่ไม่เดือดร้อน เพราะของใช้ หรือโปรแกรม ที่ไม่ถูกต้องตามมาตราฐาน แต่ถ้าทุกอย่างมันตรง มันอ้างอิงได้ตามมาตราฐาน มันจะดีกว่าไหมครับ
เห็นคอนเส็ปต์ของ color.org ไหมครับ "Making Color Seamless Between Devices And Documents" น่าจะเข้าใจนะครับความหมายของมัน
สิ่งที่คุณไม่เห็นว่ามันจำเป็น ไม่ได้แปลว่าไม่จำเป็นครับ
มาตราฐาน ของสิ่งหลายๆ อย่าง หลายๆคนก็บอกว่าไม่เห้นจำเป็นเหมือนกัน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่จำเป้นครับ
ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่อธิบายแต่แรก เพราะเข้าใจว่า คุณอ่านแล้ว color.org หรือเข้าใจเรื่อง ColorProfile
เพราะคิดว่า คนที่พูดกับคนอื่น "แล้วได้อ่านเนื้อหาหรือเปล่า หรือว่าดูแต่รูปครับ" น่าจะเป็นคนที่ละเอียด หรือมีความรู้มากพอ แล้วจึงจะจับผิด เสียดสีคนได้ครับ
โอเคครับ ผมเข้าใจว่าคุณคงอ่านคร่าวๆ กับดูรูปผ่านๆ เหมือนผม
แต่ตอนนี้ผมเข้าใจว่าคุณคงไม่เข้าใจว่ามันเป็น มาตราฐาน
http://en.wikipedia.org/wiki/ICC_profile#International_Standards
มันไม่มีรูปนะครับ แต่น่าจะเข้าใจนะครับ
ถ้าไม่เข้าใจก็ลองไปอ่านครับ ดูแต่รูปก็คงไม่เข้าใจ ไม่ก็เข้าใจผิดแบบผมเหมือนกัน
หวังว่าจะเข้าใจคำว่า มาตราฐานนะครับ ถ้าไม่เข้าใจ ผมจำได้ว่าใน blognone มีบทความ เรื่อง open document format หรืออะไรซักอย่างครับ ผมอ่านไม่ละเอียด ชอบดูรูปมากกว่า ถ้าไม่เข้าใจก็ลองอ่านดูครับ ว่าทำไมต้อง "มาตราฐาน"
ผมพิมพ์มันอาจจะยาว แต่คุณควรอ่านแล้วก็ควรเข้าใจด้วยครับว่ามันจำเป็น
ขอโทษครับ ผมไม่น่าเกรียนเลย ผมเข้าใจครับว่า color profile มันคืออะไร มีประโยชน์ยังไง ผมก็ถ่ายรูป ใช้ DSLR ตั้ง color profile เป็น Adobe RGB เวลาเอารูปไปเปิดในโปรแกรมที่ไม่รองรับนี่ผมก็อารมณ์เสียเหมือนกันครับ แค่อยากจะบอกว่าถ้าคนเข้าใช้แค่อ่านข่าว มันก็ไม่เดือดร้อนเค้านะครับ browser ไม่ได้มีไว้ดูรูปอย่างเดียวนะครับ ถ้ามันกด link แล้วไม่ไปนี่ค่อยน่าว่าหมดกัน เพราะจุดประสงค์หลักของ browser คือใช้ hypertext ได้ (ไม่มี browser ตัวไหนทำไม่ได้) เหมือนโทรศัพท์ถ้าโทรไม่ได้ถึงจะเรียกว่าหมดกัน ถ้าแค่ส่ง MMS ไม่ได้นี่ผมว่าไม่ถึงขั้นหมดกันครับ
ยกกรณี CSS ของแต่ละ browser ไม่เหมือนกัน ผมว่ามันผิดประเด็นนะครับ เรื่อง CSS นี่มันคือประกาศว่าจะสนับสนุนมาตราฐาน แต่ดันออกมาไม่เหมือนกัน อย่างนี้ผมว่าก็ควรจะทำให้ได้ตามมาตราฐานนะครับ แต่ถ้ามองกรณี Firefox กับ color profile นี่ผมว่ามันเปรียบเทียบกันไม่ได้นะครับ ถ้า Firefox ที่เปิดใช้ color profile แล้วให้สีไม่ถูกต้องค่อยน่าเอามาเปรียบเทียบ แต่ถ้าคุณจะเอาเรื่อง CSS มาเปรีบจริงๆเนี่ยผมว่าเหมือนเอา browser ที่ปิด style sheet มาเทียบกับตัวที่เปิด มันจะเทียบกันได้ยังไงครับ
ต้องเข้าใจครับว่ามาตราฐานบางอันไม่ใช่กฎหมายครับ ไม่ทำตามก็ไม่มีความผิด ถ้าคุณบอกว่ามีมาตราฐานแล้วต้องทำตาม iPhone รุ่นที่ส่ง MMS ไม่ได้นี่ก็ต้องหมดกันเหมือนกันซินะครับ เพราะ MMS เค้าก็ออกมาตราฐานมาเหมือนกัน แบบนี้คนที่ออกมาว่า iPhone ไม่ดีทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ใช้ iPhone ไม่เคยส่ง MMS ก็ไม่ผิดซินะครับ
ผมหมั้นไส้สาวกน่ะครับ จากข่าวลุง Jobs แอบซุ่มทำของใหม่อยู่ ยิ่งเห็นหัวข้อกระทู้นี่ยิ่งจี๊ดครับ แค่หาไม่เจอเองบอกว่าหมดกันซะแล้ว พูดซะอย่างกับว่ามันทำคนเจ๊งกันทั้งโลก ช่วยตั้งหัวข้อกระทู้ให้สื่อตามความเป็นจริงหน่อยนะครับ อย่าทำตามพฤติกรรมที่คุณไปว่าคนอื่นเค้าไว้ได้ไหมครับ ขอยกจากความเห็นที่คุณไป +1 ไว้หน่อย "แสดงถึงทัศนคติของตัวคุณเองทั้งนั้น" ถ้าคิดไม่ออกก็ตั้งว่า "ทำไมผมใช้ Color Profile ใน Firefox 3 ไม่ได้" หรือ "ทำยังไงถึงจะใช้ Color Profile ใน Firefox 3 ได้" ฯลฯ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องตั้งหัวข้อกระทู้สาดเสียเทเสีย Firefox ครับ
ยกกรณี CSS ของแต่ละ browser ไม่เหมือนกัน ผมว่ามันผิดประเด็นนะครับ เรื่อง CSS นี่มันคือประกาศว่าจะสนับสนุนมาตราฐาน แต่ดันออกมาไม่เหมือนกัน อย่างนี้ผมว่าก็ควรจะทำให้ได้ตามมาตราฐานนะครับ แต่ถ้ามองกรณี Firefox กับ color profile นี่ผมว่ามันเปรียบเทียบกันไม่ได้นะครับ ถ้า Firefox ที่เปิดใช้ color profile แล้วให้สีไม่ถูกต้องค่อยน่าเอามาเปรียบเทียบ แต่ถ้าคุณจะเอาเรื่อง CSS มาเปรีบจริงๆเนี่ยผมว่าเหมือนเอา browser ที่ปิด style sheet มาเทียบกับตัวที่เปิด มันจะเทียบกันได้ยังไงครับ
FF ก็ทำให้คนทั่วไปหลายคนคิดว่าซัพพอร์ตั้งแต่ 3 เหมือนกัน(อย่างที่ผมอ้าง ผมก็อ่านจากในนี้ แถมไม่เห็นมีใครในนี้พูดเรื่อง colorProfile ว่าปิดซักคน เห็นแต่ซาฟารีโดนเจาะ Firefox ผ่าน ACID engine ใหม่เร็วมาก บลาๆ)
- - ผมก็เข้าใจอย่างนี้มาตั้งแต่มันเปิดเบต้าอย่างนั้นล่ะครับ
ผมถึงยังบอกไงครับว่า ถ้ามีแล้วใช้ไม่ได้มันก็เหมือนกันไม่มี อยู่ดี เพราะอย่าง Safari2 เนี่ย ก็ซัพพอร์ท ครึ่งๆกลางๆ ถ้าตัวไหนมีก็ใช้ ตัวไหนไม่มีก็ดันยัดให้มีอีกเลยเพี้ยนๆมั่ง(ถ้าผมจำไม่ผิด) แต่มันก็ยังเปิด แถมแทบไม่ได้มีใครรู้อีก ผมก็รู้ช่วงหลังๆด้วยซ้ำว่าซัพพอร์ท
มาตราฐานมันไม่ได้บังคับว่าต้องมี ก็ถูกครับ แต่ควรมี และจำเป็นต้องมีเหมือนกัน ถ้ามองไกลหน่อย อนาคตอันใกล้ๆ ไม่ได้มองแต่ปัจจุบันจะรู้ครับ
เมื่อหลายปีก่อน Browser ใช้ CSS ไม่ได้ ใช้ได้บางตัว บางตัวใช้ Javascript อีกหลายๆตัวก็ใช้ไม่ได้ ตอนนั้นหลายคนก็บอกเหมือนคุณครับ คนเปิดเวปเพื่ออ่าน ไม่ได้เล่นสคิร์ป แล้วทุกวันนี้เป็นไงครับ ทุกตัวต้องมี CSS ่javascript ต้องทำให้เป็นมาตราฐาน แข่งกัน ทั้งๆที่สมัยนั้นทุกคนก็บอก มีก็ดีไม่มีก็ไม่เป็นไร ถ้าพูดแบบนี้คงเข้าใจที่ผมอธิบายนะครับ ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ควรจะมี และจำเป็นต้องมี ยิ่งสิ่งที่เป้นมาตราฐาน มันก็สมควรอย่างที่ผมกล่าวครับ
คุณจะมั่นไส้ผมก็ไม่ผิดครับมันเป้นเรื่องของความคิดความรู้สึก แต่ผมก็หมายความแบบนั้นครับ ว่าหมดกัน Firefox ผมแสดงออกถึงความผิดหวังใน Firefox จริงๆ เพราะผมก็คาดหวังว่ามันดีครับ ถึงได้แนะนำหลายๆคนใช้ หรือว่าผมใช้คำผิดไป? ผมว่าถ้าผมบอกว่า FireFox เฮงซวย ชาตินี้ลาก่อน หรือ Firefox หมาๆ หรือว่า ไหนว่าดีกันนัก Firefox สู้ Safari ไม่ได้ซักอย่าง ??? คุณค่อยมาเกรียนใส่ผมครับ
ถ้าคุณกลางๆหน่อย หรือว่าเป็นคนที่คุณรู้สึกดี คุณน่าจะรู้สึกน้อยกว่านี้ เพราะเนื้อหาที่ผมเขียนผมว่าผมเขียนกลางๆนะ
"ก็เลยลองถามลูกค้าดูว่า ใช้อะไรเปิด IE มันเฮงซวยนะ FF3 เปิดสิ่ "
เขียนแบบมุมมองคนใช้ ไม่ใช่เซียน FF ไม่ใช่สาวกแมค แมคเทพ ก็รู้ว่าในนี้หลายคน มีอคติกับคนใช้ Mac แล้วก็ค่อนข้างรู้เรื่องเทคโนโลยี โปรแกรมต่างๆเยอะ แต่คนที่ใช้เวปนี้ เข้ามาอ่านแสดความคิดเห็น ใช้คล่องมีเท่าไหร่หรอครับ
ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจนะครับ ว่าคนใช้ทั่วไปไม่ได้มีความรู้เหมือนๆกัน มีคนใช้ FF ถึง 50% ไหมที่ชอบ Customize หรือว่าสนใจ ผมว่าคนที่โดนเป่าหัวยัดเยียดให้ใช้ FF โดยไม่รู้เรื่องในไทย นี่ก็น่าจะเยอะอยู่
ช่วยอธิบายให้หน่อยสิว่ามันเป็นการพูดถึงข้อเสียของ Apple ตรงไหนเหรอ ชี้ชัดถึงจุดด้อยอะไรเหรอ เท่าที่เห็นมันเหมือนแสดงถึงทัศนคติของตัวคุณเองทั้งนั้น พฤติกรรมดูถูกคนอื่นโดยธรรมชาติแล้วมั๊งแบบนี้อะ
คุณเห็นไหมครับ ว่าผมแสดงทัศนคติที่ไม่ดีต่อ FF มันเป็นจริง ??? ไม่ได้ใช้ทัศนคติเมค หรือรู้สึกว่ามันแย่เอง ??? ชี้ชัดนะครับ ว่า FF3 ใช้ colorprofile ไม่ได้จริงๆ ผมว่าคุณน่าจะพิจารณาตัวเองนะครับ ว่าใครมีพฤติกรรม แบบที่ผมไป + ไว้
ผมหรือคุณที่แสดงทัศนคติส่วนตัว ในการโจมตีกล่าวว่า คนอื่น "ผมหมั้นไส้สาวกน่ะครับ" ผมว่าคุณแสดงออกถึง ทัศนคติส่วนตัวของอารมณ์คุณมากกว่านะ ??
ผมก็ไม่ชอบครับ คนที่ว่าคนอื่นโดยใช้เหตุผลส่วนตัวอ้างอิง แต่ผมก็เข้าใจเหมือนกันว่าคนเราหลุดกันได้ แต่หลุดบ่อยๆ ก็ไม่ควรนะครับ ผมถึง +1 คำพูดนั้นไว้ อีกอย่างถ้าลองดูๆ ที่ผมไปแก้ต่างให้เนี่ย เป็นคนๆไปนะที่ผมแสดงออกเลยว่างี่เง่า ทั่วไปก็ปกติ กับบางคนที่เบี่ยผมก็เบี่ยด้วย
เพราะอาการ ตีว่าคนนู่นนี้เป็นสาวก โดยอารมณ์นี่ล่ะครับ จำนวนสาวกที่ว่ากันมันเลยเพิ่ม ต่างฝ่ายต่างไม่มองเหตุผล ไม่ทำความเข้าใจก่อน
เอ้อ ก็ยังจะตอบอีก ผมอุตส่าห์บอกว่าเกรียนแล้วนะ -_-"
ก็ยังยืนยันอีกหรอครับว่า FF3 ใช้ color profile ไม่ได้ ขนาดเอามาให้ดูแล้ว ว่าไปเปิดใช้ได้ มันเหมือนมีรถสปอร์ตวิ่งได้ 300 km/h แต่กฎหมายไม่อนุญาติเลยต้องติดตั้งตัวควบคุมความเร็วไว้ แบบนั้นจะถือว่าทำไม่ได้หรอครับ
เรื่องอื่นผมขี้เกียจพูดนะ มันไม่จบครับ
ผมก็ขี้เกียจอธิบาย เหมือนกันครับ
แต่ถ้ามีแต่ไม่ได้เปิดไว้ ใช้งานไม่ได้ ก็เหมือนไม่มีครับ
ผมว่ามองกันคนละมุม มากกว่านะครับ เข้าใจมุมของผู้ใช้ปกติบ้างครับ
ไม่ได้เปิดไว้กับใช้งานไม่ได้ มันต่างกันเยอะนะครับ
ถ้าบอกว่า ไม่บอกว่ามีกับมีแต่ใช้งานไม่ได้ มันก็ไม่ต่างจากไม่มีนี่ยังพอใกล้เคียงกันหน่อย
onedd.net
onedd.net
+100
ใช้งานไมไ่ด้ == ไม่มี
ปิดฟีเจอร์ไว้ == มี แต่ยังไม่อยากให้ใช้
อ่านๆแล้วก็งงเหมือนกัน มันเป็นข้อดีแท้ๆ แต่ดันปิดไว้ - -'
จริงครับ มันเป้นข้อดี แต่ทำไมปิดไว้ก็ไม่ทราบ - -"
หรืออาจจะเพราะใช้ CP แล้วมันจะซดแรมหนักขึ้นกว่าเดิมหว่า ?
มันซดทั้งแรมและซีพียูเลยครับ เค้าถึงปิดมาไว้จนกว่าจะหาวิธีการทำให้มันเร็วขึ้นได้ ซึ่งใน 3.5 น่าจะหาเจอแล้ว
onedd.net
onedd.net
ตกลงประเด็นมันมีอยู่แค่นี้ใช่มั้ยครับ - -" ผมเข้าใจทุกฝ่ายนะ แต่เหมือนทุกคนจะหลงประเด็นไปหน่อย ฝ่ายหนึ่งบอกว่ามีแล้วจะปิดไว้ทำไม ปิดก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ เพราะผู้ใช้ทั่วไปเปิดมันไม่เป็น อีกฝ่ายก็บอกว่าก็มันมี จะบอกว่ามันไม่มีไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะปิดอยู่ก็เถอะ
แต่ไหงไม่มีใครถามว่าทำไมมันปิดล่ะ? ได้คำตอบแล้วทุกอย่างน่าจะคลี่คลายแล้วนะผมว่า
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
จริงๆสาเหตุที่ปิดไปมันก็มีอยู่ในลิงค์สักลิงค์ด้านบนๆแล้วนะ (หลักๆก็คือมันทำให้ช้าลง และมีปัญหากับปลั๊กอิน?)
แต่ผมว่าคำตอบนี้มันก็ไม่ได้แก้ปัญหาของสองฝ่ายอยู่ดี เพราะเหมือนจะพูดกันคนละมุมมอง กลุ่มนึงมองในมุมของผู้พัฒนา อีกกลุ่มมองในมุมของผู้ใช้
LongSpine.com
ขนาด mk ยังยอมแพ้เลยคุณ ปล่อยไปเถอะ
แล้วไงครับ?
เค้าคุยกันด้วยเหตุผลครับ
มีอะไรไม่เห็นด้วยก็ยกเหตุผลขึ้นมาสิครับ ไม่น่าจะมาทำตัวกระแนะกระแหนแบบนี้นะครับ
คุ้นๆ ว่ามีคนบอกว่า รักแอปเปิลเพราะร๊าก ไม่ต้องใช้เหตุผล
เดี๋ยวตายโดยไม่รู้ตัว :P
ท่าทางจะไม่รอดครับ :p
ไหนครับ?
ผมก็คุ้นๆเหมือนกันว่า เมื่อวานผมเห็นสัตว์ประหลาดเดดซีที่โถปลาทองในห้องนอนผม
ผมคิดว่าเราว่าจะพูดกันเป็นเรื่องๆนะครับ ไม่น่าไปขุดเรื่องไม่เป็นเรื่องมาให้ทะเลาะกันเลย
เท่าที่อ่านมาด้านบนมันเหมือนกับคนเก็บความโกรธจากเรื่องเก่าๆมาสานต่อในกระทู้นี้ ไม่สร้างสรรค์ซะเลย
LongSpine.com
ผมตอบแบบคนหมั่นไส้พวกสาวกนะ ผมว่าสาวกอารมณ์ค้างด้วยส่วนหนึ่งล่ะ พักหลังดูเก็บกดผิดปกติ
ผมว่ามันเรื่องปรกติมากเลยนะครับที่ซอฟต์แวรจะไม่รองรับมาตรฐานทั้งหมด (คนละเรื่องกับความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจรองรับ)
การที่คุณใช้ฟีเจอร์ที่ Firefox ยังไม่ได้เปิดใช้งานในตอนนี้ แล้วมันจำเป็น แสดงว่า Firefox ไม่เหมาะกับคุณ
เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมก็จบครับ
อีกทางหนึ่งแล้วผมไม่รู้ (และไม่สนใจเป็นการส่วนตัว) ว่ามีคนเปิดฟีเจอร์นี้กันเยอะแค่ไหน ถ้าคุณทำเว็บโดยอิงกับฟีเจอร์นี้แล้วคนจำนวนมากจะใช้งานไม่ได้ นั่นเป็นทางเลือกที่คุณเป็นคนเลือกเองครับ คุณใช้โดยที่เบราเซอร์ไม่รองรับจำนวนมาก ก็มีผู้ใช้จำนวนมากรู้สึกไม่ดีก็เท่านั้น
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมพลาดเองครับ ที่คิดว่าใช้ได้เต็มที่ ผมเลยอัพโหลดรูปให้ดูตรงๆ แทนที่ปกติจะใช้ PDF แทน
ส่วนฟีเจอร์นี้ใช้งานจริงคุณจะเห็นเลยครับ ว่าถ้ามี จะดี ถ้าไม่มีมันจะไม่ถึงกับใช้งานไม่ได้ เพียงแต่ไม่เท่าครับ โอกาสน้อยมากที่จะเป้นแบบในเวปเทส นอกจากจอคุณจะเพี้ยนมั่วซั่วมาก
FF ไม่เหมาะกับผมในการใช้งานปกติมานานแล้วครับตั้งแต่ FF1 สมัยนั้นผมยังต้องไปใช้ Maxthon แทนเลย ยกเว้นเข้าเวปเสี่ยงๆแค่นั้นล่ะ
แล้วยิ่งตอนใน OSX ใช้ไทยตัดคำเพียนๆ แล้วต้องไปหาตัวของคุณ HUI ซึ่งก็ไม่ทันอัพเดทๆ - -
ถ้าไม่ใช่เข้าเวปอันตราย+ จำเป็นผมก็ใช้ IE กับ Safari ใช้งานเป็นหลักครับ
อธิบายอีกนิดที่ FF ไม่เหมาะเนี่ย อย่างแรกเลย มันไม่ครบเท่าไหร่ ต้องมาปรับ+เปิดโปรแกรมจะช้ามาก ส่วนซาฟารี นี่เปิดเร็ว แต่ถ้าใช้หลาย tab + นานๆ คุณจะเข้าใจครับว่ามัน - - อาการเดียวกับ IE เลย
3.5 นี่เปิดไว้โดยปริยายแล้วนะ รอแปบ รอแปบ
@kengggg เร็วกว่า
ใน Firefox 3 รองรับแต่ต้องไปเปิดเอง ตั้งแต่ 3.5 ขึ้นไปไม่ต้องแล้ว
เสริม: ลองเอาไปทดสอบดูครับ Firefox 3.1 Beta 3
หมาไฟ
หมาไฟ
จริงด้วยยย
ทำไมน้องหมาน่ารักกว่าปกติ!
ถ้าอ่านดีๆ จะเป็นว่า Moezilla Firefox :D
อ่านยังไงครับ
โมเอะซิลล่า ไฟร์ฟอกซ์ครับ
แปลว่า หมาป่าโมเอะ... (แปลบ้าอะไรเนี่ย :D)
+1
ทำไงหน่ะครับ
ป.ล. หมู่นี้ open source เค้าเน้นแนวนี้กันเหรอครับ :P ดึงดูดผู้ใช้ได้ดีทีเดียวนะเนี่ย
_________________pawinpawin | blog
+1 เจาะตลาดกลุ่มโอตาคุได้อย่างน่ากลัวมากครับ
ใช่ Stylish ครับ ><
ขอบคุณครับ เปลี่ยนมั่งๆ
_________________pawinpawin | blog
เรื่องสีไม่ใช่เรื่องตลก
คนที่ไม่เคยงานออกมาสีเพี้ยน สีเน่า ไม่เข้าใจหรอกครับ
ทำออกมา a แต่ดันออกมา a.1 นี่มันก็เครียดแล้วนะครับ ความรู้สึกมันก็เหมือนกับตอนเปิดเว็บที่ dev นั่งทำmark upแทบตายแต่พอเปิดใน ie6 แล้วเละไม่เป็นขี้ ซึ่ง ff ไม่ใช่แบบนั้น dev ก็สบายไป ie รุ่นก่อนที่ไม่สนับสนุนมาตรฐานเรื่องนี้ก็โดน dev โจมตีกันไปตามเนื้อผ้า แต่พอ ff(ตัวเต็ม) ไม่สนับสนุนเรื่องโปรไฟล์สีมาแบบค่าปริยาย มันก็ต้องโดนพวกคนทำงานที่เค้าใส่ใจในรายละเอียดเรื่องสีด่าเป็นปกติ ไม่เห็นจะต้องออกมาโวยวาย พาลนู่นพาลนี่ แถมโชว์ความ bias ออกมาจนทำให้ความคิดเห็นตัวเองดูด้อยค่าลงไปอีก ไม่ใช่คนทุกคนหรอกที่จะมานั่งคอนฟิกเองตลอด หาextentionโหลดกันให้วุ่นวาย มันเป็นมาตรฐานที่ควรจะเปิดมาเป็นค่าปริยายอยู่แล้ว จะให้สนแต่มาตรฐานที่ตัวเองได้ใช้ อะไรที่เราไม่ได้ไม่เสียประโยชน์จากมันก็เหวี่ยง มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยครับ
เรื่องมาตรฐานของ mms ถ้าคุณมองให้มันกว้างจริงๆ มือถือมันมีหน้าที่ "เอาไว้โทร" ครับ ถ้ามันทำหน้าที่ที่แท้จริงของมันได้ดี มันก็ถือว่ามีมาตรฐานแล้ว ในทางกลับกัน browser มีหน้าที่ "แสดงผล"แต่กลับแสดงผลค่าสีออกมาไม่ถูกต้อง (โดยต้องไม่ปรับแก้อะไร เหมือนที่โทรศํพท์คุยได้อย่างเต็มที่มาโดยปริยาย) มันแสดงให้เห็นว่า "ยังทำหน้าที่ไม่ดีพอ" และถ้าเรามองเรื่อง mms ของไอโฟนให้ไกลอีกนิด ไอโฟนที่ขายอย่างถูกต้อง (ไม่นับรวมเครือ่งเปล่า ที่ไม่ใช่ตลาดที่แท้จริงของเค้า) ต่างมีแพคเกจที่มี unlimited edge กันทั้งนั้น มีอย่างงี้ แล้วเราจะใช้ mms ไห้เมื่อยตับเมื่อยไตกันทำไมครับ ส่งได้ทีละเท่าไตมด แต่ราคาเท่ากระโหลกช้าง
mms สำหรับมือถือเป็นเพียง feature ครับ จะมีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร
แต่ profile สีของบราวเซอร์มันเป็นมาตรฐานที่ designer หลายคคนนั้นมีชีวิตผูกติดไว้กับมัน
safari (4 เบต้า) นี่อืดและปิดตัวบ่อยมากครับ ยิ่งถ้าเปิด transmission (bit client) ไปด้วยนี่แทบอยากจะไปตบหัวจ๊อบจริงๆครับ
แอบหนีไปซบอก ff รอบนึง แต่ดันเป็นคนขี้หงุดหงิดเวลารอเปิดโปรแกรมที่มันช้า เรื่องโปรไฟล์ และ interface ที่ดูหนา ซึ่งผมไม่ชอบ (อย่าไล่ให้ไปโหลดธีมครับ ขี้เกียจ 55) ก็เลยทนกลับมา safari จนได้
อะไรแย่เราก็ด่าครับ แต่อะไรดี เราก็สรรเสริญอย่างไม่เป็นกลาง ตามคอนเซปท์ของเว็บนี้ครับ
ผมหมายความว่ามาตราฐานการรับส่ง MMS มันมีอยู่ครับ ถ้าจะใช้ก็ต้องทำตามมาตราฐาน
แล้วก็ browser หน้าที่หลักอย่างเดียวคือเอาไว้ดึงเอกสารที่ link กันไว้ผ่าน hypertext markup language ครับ ที่เหลือมันคือมีก็ดี ไม่มีก็ไม่ผิด ถ้าเปรียบเทียบกับกรณีโทรศัพท์ก็คือโทรได้ก็พอแล้ว ไม่ต้องสามารถส่งเสียงทุกช่วงที่หูมนุษย์ได้ยินได้ก็ไม่เป็นไร (GSM ไม่สามารถส่งได้ครบ) ถ้าคุณจะเอา browser มาเพื่อแสดงรูป ตอนนี้มันก็เหมือนนักดนตรีเล่นเพลงให้คนฟังผ่านโทรศัพท์น่ะครับ คือ พยายามทำอะไรที่มันเกินความสามารถของสิ่งที่ใช้ หรือพูดง่ายๆว่าใช้งานผิดประเภทครับ โลกนี้มันไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบครับ ต้องหัดเรียนรู้ที่จะอยู่ในความไม่สมบูรณ์แบบครับ
สุดท้ายครับ คุณได้เคยช่วยสนับสนุน Mozilla Foundation ไหมครับ ทรัพยากรณ์เค้ามีจำกัดครับ อะไรที่สำคัญเค้าก็ต้องทำก่อนครับ อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางครับ ถ้าอยากได้จริงๆเนี่ย ใช้ปากมันไม่เกิดขึ้นหรอกครับ ไปลงมือทำเถอะครับ ถ้าตังไม่ออก มือไม่ช่วย ด่าอย่างเดียว เค้าเรียกพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำครับ
อ้อ แบบนี้นี่เอง ผมดันเข้าใจไปเองว่าการเปิดภาพที่ให้สีที่ถูกต้องมันต้องเป้น 1 ในสิ่งที่เบราเซอร์ควรจะทำได้ (1 ใน html) ถ้าเป็นแบบที่ว่าผมก็เห็นด้วยว่ามีแล้วปิดไว้ หรือไม่มีก็ไม่ผิดครับ พอดีความรู้น้อยไปหน่อย - -a ขออภัยครับ
แต่เรื่องที่ว่า "ใช้ปากมันไม่เกิดขึ้นหรอกครับ ไปลงมือทำเถอะครับ ถ้าตังไม่ออก มือไม่ช่วย ด่าอย่างเดียว เค้าเรียกพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำครับ" ผมว่าออกจะรุนแรงไปหน่อยนะครับ - -" ใจเย็นๆ กันหน่อยดีกว่านะครับใจเย็นๆ
ผมคนนึงล่ะที่ไม่เคยออกตังค์ให้ใครที่ไหนพัฒนาซอฟท์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ใดๆ แต่ผมก็บ่นๆ บ้างเหมือนกันนะครับ ผมคิดว่าเสียงบ่นต่างๆ ทั้งหลายแหล่ มันก็เป้นเหมือน comment ที่ส่งกลับไปยังผู้พัฒนาได้พัฒนาสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ไม่ใช่เหรอครับ? ไม่งั้นคงไม่ต้องมีระบบ Feed back กระมัง? เพราะงั้นแทนที่จะใช้คำพูดประโยคนั้น เปลี่ยนเป็น "ลองส่ง Feed back ไปที่ Mozilla สิครับ เขาจะได้เร่งปรับปรุง หรือยกเอามาพิจารณา ถ้ามีผู้ใช้ส่งมาเยอะๆ"
ทาง Mozilla ก็จะได้รู้ว่ามีผู้ใช้ "จำนวนหนึ่ง" ที่อยากให้ฟีเจอร์นี้เปิด ทางผู้ใช้ก็อาจได้ประโยชน์ ถ้า Mozilla ยกเอามาพิจารณา win-win นะครับ
ด้วยความเคารพ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ยอมรับครับว่าใช้คำพูดรุนแรง ประเด็นของผมคือในเมื่อมันมีอยู่แล้ว แค่ไปเปิดใช้ก็ใช้ได้แล้ว แล้วก็ไม่มีใครห้าม repackage แล้วทำไมไม่ทำล่ะครับ ถ้าเห็นว่ามันดี ทำไม่เป็นก็ถามได้ ทำไมมานั่งโวยวายอยู่ได้ว่ามันจำเป็น สำคัญ น่ารำคาญครับ แล้วก็อย่างที่คุณบอกน่ะแหละ ช่องทางให้ส่ง feedback ก็มี ทำไมไม่ไปใช้ล่ะครับ แค่ไปใช้ก็ถือว่ามีส่วนร่วมแล้วครับ มาบ่นอยู่นี่ทำไมครับ ไม่เกิดประโยชน์ครับ
ส่วนประเด็นเรื่องเรื่องมีส่วนช่วยในการพัฒนาหรือเปล่า ผมหมายความว่าของมันฟรี คุณไม่ต้องเสียอะไรในการใช้ คุณก็ไม่น่าจะไปว่าอะไรเค้า เหมือนมีห้องสมุดส่วนตัวที่เจ้าของเค้าเปิดให้คนอื่นใช้ด้วย แต่เค้าไม่ได้จัดหนังสือตามหมวดหมู่ตามแบบสากล จะต้องออกมาโวยวายให้คนนอกฟังไหมครับ อ้อ แล้วก็ผมล้อเลียนประเด็นว่า ไม่ได้ซื้อมาใช้ ยังจะบ่น ที่สาวกชอบยกมาใช้ด้วยน่ะครับ
ผมส่งไปแล้วครับ ส่งไปก่อนมาบ่นทีนี่อีก
คุณเข้าใจไหมครับว่า เวลาส่งงาน ผมไม่ได้ส่งให้ตัวเองดูน่ะครับ ส่งให้ลูกค้าดู ซึ่งลูกค้าหลายๆคนก็ใช้ ff กัน (ผมแนะนำเองแหละ)
ผมไม่ได้ด่าอะไรเลยมากไปกว่า "ทำไมมันเปิดมาตั้งแต่แรก"แค่นั้นแหละครับ แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้โวยวายด้วย ผมแค่อธิบายให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการที่จำเป็นต้องใช้ตัวนี้เข้าใจด้วย
คุณลองอ่านสองย่อหน้าของคุณดีดีด้วยนะครับ มันparadoxกันและกัน อันบนคุณบอกว่า แค่ส่งfeedback โอเค อันล่างคุณบอกว่า ถ้าไม่ช่วยก็อย่าบ่น
ผมก็แค่ออกมาบอกให้ชาวบ้าน(คนนอก) ได้รับรู้ถึงข้อนี้ (อย่างน้อย designer/ช่างภาพ หลายคนก็ได้ประโยชน์แหละครับ)ต้องให้เค้ามาเจอเอง แล้วก็มาบ่นๆอย่างที่ผมบ่นๆไปแบบนี้มันจะดีเหรอครับ ให้เค้ารู้ก่อนแล้วมาทำการแก้ไขก่อนที่จะเจอประสบการณ์ไม่ดีแบบผมมันจะดีกว่าไหมครับ
"ไม่ได้ซื้อมาใช้ ยังจะบ่น ที่สาวกชอบยกมาใช้ด้วยน่ะครับ"
ผมไม่ได้ใช้ตรงไหนครับ ถ้าผมไม่ได้ใช้จริง ผมจะมาบ่นปาวๆอย่างด้านบนได้ไง อันนี้มันแค่ฟรีแวร์ตัวเดียว แค่โหลดมาใช้ แค่เปิดโปรแกรมมันก็ได้รับประสบการณ์แล้ว ต่างกับเรื่องนั้นที่มันต้องซื้อมันต้องใช้ไปนานๆ เพราะว่ามันรวมกันทั้ง h/w s/w อะไรมากมาย อะไรทีว่าดีผมก็ชมครับ safari อืดผมก็ด่า ไม่ใช่ว่าหลับหูหลับตาดา่ หลับหูหลับตาชม จะหยิบอะไรมาล้อเลียนคนอื่นเค้า ช่วยดูให้มันชัดเจนก่อนนะครับ มันจะกลายเป็นการล้อเลียนตัวเองแทน
สรุปนะครับ ที่ผมพิมพ์ๆมาด้านบนทุกคอมเมนท์ ผมแค่มีจุดประสงค์ที่ว่า
"color profileสำคัญกับพวกผมอย่างไร"
"ทำไมไฟร์ฟอกซ์ถึงไม่ได้เปิดฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่แรก"
แค่นั้นเองครับ
น่านะแนะนำ Safari for Windows ตั้งแต่แรก อิอิ
ผมว่าห่วยมากครับ แครชบ่อยมาก - -'
+1
อ่านตกคำว่า ซื้อ ไปซินะครับ อย่าดิ้นครับ อย่าดิ้น ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ
แล้วส่ง feedback ก็ดีครับ ขอชื่นชม แต่ต้องแยกประเด็นกันครับ บ่นกับ feedback ไม่เหมือนกันครับ ใจๆเย็นค่อยๆคิดนะครับว่ามันต่างกันยังไง
แล้วทำไมไม่แนะนำให้ลูกค้าใช้ Safari ล่ะครับ ผมยังสงสัยอยู่ ช่วยอธิบายด้วยนะครับ
ผมเข้าใจครับว่า color profile มันสำคัญกับพวกคุณ (พวกที่คิดว่า Safari ทำได้ ดังนั้นข้าจะใช้)
ส่วนทำไมถึงไม่ได้เปิดมาตั้งแต่แรก ก็กรุณาสละเวลาเข้าไปอ่านที่ผมให้ link ไว้ด้วยนะครับ จะได้เข้าใจครับ
สรุปว่า ผมเห็นว่าจุดประสงค์ของคุณนี่มีคนตอบไปหมดแล้วนะครับ
ถ้าอ่านดีดี จะรู้ครับว่าใครดิ้นไปดิ้นมา
แล้วที่ผมไม่แนะนำ safari ไปตั้งแต่แรกเพราะคิดว่า firefox ดีกว่าไงครับ
เข้าใจไหมครับ ^.^ ถึงจะมีข้อเสียด้านนี้ ผมก็ไม่ได้มอง firefox ห่วยไปเลย
ผมก็แก้ปัญหาด้วยการส่งเป็น pdf ซึ่งมันทำให้ผมยุ่งยากกว่าการส่งภาพด้วยฟอร์แมททั่วไป
แต่ก็ต้องยอมครับ ดีกว่าให้ลูกค้าไปนั่งแก้นู่นแก้นี่ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเค้า
"profile สีของบราวเซอร์มันเป็นมาตรฐานที่ designer หลายคคนนั้นมีชีวิตผูกติดไว้กับมัน"
"เวลาส่งงาน ผมไม่ได้ส่งให้ตัวเองดูน่ะครับ ส่งให้ลูกค้าดู ซึ่งลูกค้าหลายๆคนก็ใช้ ff กัน (ผมแนะนำเองแหละ)"
อ้าว สรุปว่าใช้ pdf หรอครับ ผมงงครับ แล้วที่อธิบายมาตั้งแต่แรกมันอะไรครับ
เอ... เค้าก็บอกอยู่หนิครับว่า Firefox มันแสดงผล Color Profile ไม่ได้ เลยส่งเป็นไฟล์ PDF ไปให้ลูกค้าดูแทน
อ่านอีกรอบแล้วก็เพิ่งสังเกต
สงสัยว่าทำงานเว็บรึเปล่าครับ เพราะถ้าไม่ได้ลองใช้ FF เปิดดูแล้วคุณมั่นใจได้ยังไงว่างานที่ออกมามันใช้ได้ ไม่ต้องเทสก่อนส่งเหรอครับเนี่ย ทั้งๆที่สีเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย(สำหรับคุณและลูกค้า) น่าจะต้องทดสอบมากกว่านี้นี่ครับ
แต่ว่าถ้าทำงานสิ่งพิมพ์แล้วส่งกันผ่านอีเมล์อะไรทำนองนั้นก็พอเข้าใจได้อยู่
onedd.net
onedd.net
ทำครับ แต่ในที่นี้พูดถึงรูป/หรืองานอาร์ตเวิกสิ่งพิมพ์ที่ต้องการความถูกต้องของสีครับ
โอย....รู้สึกเหมือนที่พูดไปไม่ได้ช่วยอะไรเลยแฮะ...
ผมยอมแพ้แล้วครับ แต่ก่อนจะหายไปจากกระทู้นี้ ผมขอแสดงความเห็นสักนิดครับ อยากจะบอกว่าผม "รู้สึกได้" ถึงความคิดที่ "ติดลบ" อีกฝ่ายครับ ฝ่ายหนึ่งอาจจะเริ่มติดลบก่อน ฝ่ายหนึ่งอาจจะติดลบทีหลัง หรือโผล่มาตรงกลางก็ตามที แต่ผมบอกได้เลยว่า "สัมผัสได้" ถึงความขัดแย้งที่มีอยู่ชัดเจนเลยครับ ผมไม่รู้นะว่าก่อนหน้านี้ไปทะเลาะอะไรกันมา แต่ตามอ่านๆ ไปรู้สึกเริ่มหลุดประเด็นมากขึ้นเรื่อยๆ จะพูดยังไงดี เหมือนตอนแรกเป็นสุดยอดผู้นำคุยกัน คุยไปคุยมา กลายเป็นประชุมสภาไทย ซักพักคงกลายเป็นประชุมสภาใต้หวัน แล้วคงกลายเป็นประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเลยกระมัง - -"
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ถ้าตัดคำพูดที่แฝงอารมณ์หรือความคิดติดลบอีกฝ่ายออก ทั้งสองท่านมีเหตุผลที่น่าฟังทั้งคู่เลยครับ ซึ่งผมตามอ่านแล้วได้ความรู้อย่างมาก ต้องขอขอบคุณทั้งสองท่านมา ณ ที่นี้
แต่อย่างที่บอก ถือว่าเป็น feed back จากแฟนๆก็แล้วกันนะครับ ถ้าลด ละ เลิก ส่วนที่ผมกล่าวถึงไปได้ เนื้อหาสาระมันจะยังอยู่ครบถ้วน win-win นะครับผมว่า (ส่วนผมที่ตามอ่านก็ win แบบสุดๆ เพราะไม่ต้องลงแรงอะไร แหะๆ ^^)
แต่ก็นะ นโยบายของที่นี่เขาไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ซึ่งผมก็เข้าใจดี ผมจึงเลือกที่จะไป ผมถือว่าเลือกฟังเฉพาะช่วงประชุมสุดยอดผู้นำก็แล้วกัน ;P แต่ก่อนไปก็เลยฝากอะไรไว้เท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าท่านทั้งสองจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ก็ตามสะดวกของท่าน หวังว่าคงไม่ว่ากันที่พูดตรงๆนะครับ ขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลยครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมพูดถึงโทรศัพท์น่ะครับ ไม่ได้พูดถึง "การมี mms อย่างมีมาตรฐาน" - -'
แล้วที่คุณบอกว่า หน้าทีหลักเอาไว้ดึงเอกสารที่ลิงค์กันไว้ผ่าน html เนี่ยมันก็ถูกต้องครับ ไม่ผิด
ถ้าจะมองกันแค่นี้ แต่อันที่จริงแล้ว สมัยนี้เรามีสื่อต่างๆมากมาย เราไม่ได้ตอ้งการแค่ข้อมูลนิครับ ในสมัยนี้ ไม่งั้น css จะเกิดขึ้นมาทำไม tag สีต่างๆจะเกิดขึ้นมาทำไม จริงไหมครับ รูปมันก็คือข้อมูลชนิดนึง ที่บราวเซอร์ควรจะแสดงผลได้ถูกต้องครับ ถ้าคุณจะบอกว่า browser หน้าที่หลักคือส่ง html อย่างอื่นทำไม่ได้ก็ช่างมัน ถ้าไฟร์ฟอกซ์ดันเกิดเล่นวิดีโอบนอยูทิวบ์ไม่ได้ อันนี้ ก็ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ
แล้วด้านบนผมก็ไม่ได้ด่า ff อะไรอย่างไร้เหตุผลเลย ผมแค่ต้องการอธิบายถึงความจำเป็นในเรือ่ง cf และก็แสดงความผิดหวังที่ ff3 ไม่ได้เปิดเป็นค่าปริยายมาเท่านั้นเอง คนไม่ช่วยบริจาคเงินให้ mf นี่ติเตียน ff ไม่ได้เลยเหรอครับ งี้คุณก็ช่วยไปไล่ด่าคนใช้ ubuntu หลายๆคนในนี้ด้วยนะครับ ผมเชื่อเลยว่าคนที่มาด่า linux บางคคนก็ไม่ได้ช่วย donate เงินให้หรอกครับ ถึงไม่ได้ช่วย แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะติเตียนครับ
ตามใจล่ะกันครับ...
ผมชักเริ่มสงสัยแล้วว่า iPod Classic ผมมันดูรูปได้นี่มันรองรับ color profile หรือเปล่า ตอนนี้พอดีว่าไม่มี cable ลองไม่ได้ครับ แล้วสมมติว่าถ้าไม่ได้นี่ผมต้องออกมาโวยไหมครับว่า iPod สมควรรองรับ color profile หรือถ้ามันมี sound format ไหนที่ iPod เล่นไม่ได้นี่ผมต้องออกมาโวยวายไหมครับ ... แต่ผมไม่ทำหรอกนะ ไร้สาระน่ะ
คุณนี่ก็แถไปเรื่อยนะครับ
จะมีกี่หัวที่จะเอาไฟล์ใส่ไปใน ipod แล้ววิ่งเอาไปให้ลูกค้าดู ตลกมากเลยนะครับ คิดได้ไง 5555
ส่วนเรือ่ง ipod มีกี่คนที่อยากจะฟังฟอร์แมทแปลกๆบน ipod ครับ ในเสปคเค้าก็บอกอยู่แล้วว่าเล่นอะไรได้บ้าง ถ้าในนั้นบอกว่าเล่นได้ แต่ไม่ได้บอกอีกว่าต้องแพทช์ซอฟท์แวร์เอง อันนี้ก็สมควรโดนด่าครับ
ที่จริง จะคุยกันเรื่องอะไรก็ยกมาคุยแต่เรื่องนั้นมาสิครับ ไม่เห็นจะต้องแถไปเรื่องอื่นเลย??
แหม ตอนแข่งบอลยังเอาวิดีโอทีมคู่แข่งยัดไอพ็อดมาให้นักเตะดูเลยนะครับ
เกิด CP พลาด เห็นลูกบอลเป้นสีเดียวกับสนามจะทำไง 55+
เอ้อ งั้นผมบอกว่า firefox เค้าก็บอก spec มาแล้ว ไม่ใช้ตามนั้ก็ไม่รู้จะว่าไงครับ นอกจาก ... RTFM
จะให้ย้ำกี่ครั้งครับว่า browser ในปัจจุบันไม่ใช่โปรแกรมดูรูป
เห้อ - -"
http://www.mozilla.com/en-US/firefox/features/#standards เค้าบอกว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ แล้วก็ไม่ได้บอกว่าต้องเปิดเองนี่สิ
Updated: อ่านพลาดไปหน่อยแฮะ เค้ามีเขียนไว้ว่ามันปิดไว้
onedd.net
onedd.net
แล้วไม่ได้ใช้ของแอปเปิล มีสิทธิว่าได้ไหมครับ :)
onedd.net
onedd.net
วิจารณ์แบบที่ไม่โดนฟ้องซิครับ (ฮา -- คิดเอาเองนะว่าได้ขนาดไหน)
ezybzy.info blog
= 0
อิอิ
ไม่โดนฟ้อง แต่โดนด่า
onedd.net
onedd.net
เพราะผู้บริโภคส่วนนึงคิดว่า "เขาก็อุตส่าห์ให้ใช้ฟรีแล้ว จะเอาอะไรมากมาย" M$ ถึงได้ยังเป็นใหญ่ไงครับ เขาสามารถตอบโจทย์คนที่ต้องการมากกว่านั้นได้ เช่น ความง่าย ความสะดวก
ผมว่าติเพื่อก่อดีกว่านะ เพราะมี demand จึงมี supply มันแปรผันตามกันครับ
โอ้ว ความรู้เพียบ..
------
Unlimited Asian Music (ดูเอ็มวี ไทย, เกาหลี และญี่ปุ่น ฟรีๆ)
ถ้าเป็นภาพถ่ายเพื่อแสดงบน web ผมว่าปวดหัวพอสมควรเลยล่ะ
สงสัยว่าเรื่อง ICC นี่ทำไม browser อย่าง FF เพิ่งจะมา support แถมยังมีอีกหลายตัวที่ยังไม่ support เพราะมันเพิ่งจะมี ?
ผมว่ารอหน่อยก็ไม่เสียหายครับ แต่ถ้าจะส่งงานยังไงผมก็คิดว่าในตอนนี้ web ไม่ใช่ทางอกที่ดี หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องระบุชื่อรุ่นของ software ที่เรามั่นใจว่าเราจะสื่อสารกันได้ไม่ผิดเพี้ยน ถ้าซีเรียสเรื่องสีมากๆอย่าลืมบอกลูกค้า calibrate จอด้วยครับ
มี link มาฝาก ผมอ่านแล้วยังมึนๆอยู่เลย
ปกติผมก็ใช้ PDF ส่งน่ะครับ แต่เกิดนึกได้ว่า FF3 เนี่ย มันดี ก็เลยอัพไปตรงๆเลยครับ เพราะPDF กับ jpg ขนาดมันต่างกันพอสมควร โดยเฉพาะต้องใช้เน็ตผ่านมือถือ
แต่ดันเข้าใจผิดว่ามันใช้งานได้เลย สำหรับคนทั่วไป ไม่ต้องไปแก้อะไรลึกลับซับซ้อนครับ
สงสัยต้องรอ 3.5 นั่นล่ะถึงจะได้ สบายขึ้น ^ ^
เข้า about:config แล้วหา color เสร็จแล้วไปเลือก
gfx.color_management.enabled
เป็น true ก็เรียบร้อยครับ เปิดใช้ฟังก์ชั่น color management แล้ว เปิดหน้าที่คุณให้มาเป็นปกติแล้ว
ปัญหาคือ ไม่มีใครเก่งขนาดนั้นไงครับ แล้วถ้าจะส่งภาพให้ลูกค้าดู บอกลูกค้าไปโหลด Firefox แล้วให้มา Config อย่างนี้อีก มันคงจะช่วยอยู่หรอก -_-"
อันนี้จริง การบอกว่าไปคอนฟิกโน่นนี่เป็นเรื่องที่บ้องตื้นมาก ให้ผมคอนฟิกก็ได้ แต่กระ..ที่ให้มันจะเดินไปบอกลูกค้าทุกคน ในเมื่อของมันห่วยก็ยอมรับความห่วยกันหน่อย ไม่ใช่เอาสีข้างไถไปมาเรื่อยๆ
มี browser ไหนรองรับอีกบ้างครับ เท่าที่ลอง ie + firefox + chrome ไม่ได้สักตัวแฮะ
Safari
ถ้าแบบนั้นทำไม Firefox ต้องเปิดมาเป็น default ด้วย ทั้งๆที่มันกิน CPU มาก แล้ว Browser กระแสหลักก็ยังไม่รองรับ
เบราเซอร์กระแสหลักไม่รองรับนี่ไม่เท่าใหร่
แต่ถ้าให้คนใช้นับล้านเสียซีพียู 10-15% เพิ่มโดยมีคนใช้งานน้อยมากๆ
สุดท้ายแล้วเราจะได้เบราเซอร์อ้วนๆ ทำได้ทุกอย่าง แต่กินแรมมหาศาลและทำงานอืดๆ มาอีกตัว
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าผู้พัฒนาบอกว่าของไม่มีปัญหา แต่ผู้ใช้บอกว่ามันมีปัญหา
ถ้าแบบนี้ผมว่ามีปัญหาที่การหา requirement แล้วแหละ จะไม่ลองฟังความเห็นผู้ใช้บ้างหรือ?
LongSpine.com
Wiki: Due to the standardization of sRGB on the Internet, on computers, and on printers, many low- to medium-end consumer digital cameras and scanners use sRGB as the default (or only available) working color space.
firefox = web browser = on the net ใช้ sRGB กันเถอะ จะได้ไม่ต้องพิสดาร 555
---------- iPAtS
iPAtS
ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนคงต้องบอกว่าใช้ b/w กันเถอะ
LongSpine.com
ปัญหาคือ ต้อง convert โปรไฟล์เดิม เป็น sRGB แล้ว Discard Profile ทิ้ง จึงจะแสดงผลถูกครับ เพราะมันไม่รับ Profileเลย sRGB ไปก็แสดงผลเพี้ยน - -
เข้าใจว่าที่ยังไม่ default enable เพราะว่า
โดยส่วนใหญ่คนใช้งานทั่วไปไม่ได้ใช้งาน color profile ส่วนใหญ่จะถ่ายรูปมาเสร็จ
ก็ upload เลยไม่ได้ set default profile ใน color management ใน windows
เป็น sRGB เข้าใจว่า vista set เป็น default ถ้าเอารูปไปทำต่อยิ่งไปกันใหญ่ ลองดูง่ายๆ
จากที่ post รูป test ข้างบนสีท้องฟ้ายังคนละสีกันเลย
อันนี้สงสัย ไม่รู้ว่าจะ off topic ไปรึเปล่านะครับ
การแสดงรูปเป็นหนึ่งในมาตรฐานของการแสดงผลบนเว็บ ดังนั้นบราวเซอร์ที่รองรับ HTML ก็ควรจะต้องแสดงรูปได้ด้วย
แต่ Color Profile นี่น่าจะไม่ได้ถูกระบุไว้เป็นมาตรฐานของการแสดงผลบนเว็บ ถ้าไม่มีนี่ถือว่าแสดงผลเกินมาตรฐาน ถูกหรือไม่?
การที่ไม่รองรับ ถือว่าไม่ผิด ใช่หรือไม่?
เช่นเดียวกับวิดีโอ ถ้ามีบราวเซอร์ไหน เล่นยูทูปไม่ได้ก็ไม่ผิดใช่หรือไม่ เพราะแฟลชไม่ได้เป็นมาตรฐาน แต่เป็น de facto
onedd.net
onedd.net
Color Profile ไม่ใช่มาตรฐานเว็บ Browser ไหนไม่รองรับก็ไม่น่าจะผิดนะครับ แต่ในกรณีนี้ ผมว่า Firefox ผิดที่บอกว่ามันมี Color Profile เป็น 1 ใน Feature และเอามาโปรโมทด้วย แต่ไม่ได้บอกให้ละเอียดว่าถูกปิดไว้แต่แรก ถ้าอยากใช้ต้องไปเปิดเอาเอง มันเลยสร้างความเข้าใจผิดให้ผู้ใช้ครับ
ถ้าสมมุติเปลี่ยนกรณีนี้เป็น Internet Explorer บอกว่ารับ Color Profile แต่ไม่ได้บอกว่าถ้าอยากใช้ต้องไปแก้ Registry เอา ก็อาจจะโดนด่าได้เหมือนกัน
ใน http://www.mozilla.com/en-US/firefox/features/#productivity เขาบอกว่า
Color Profile Support
Photographers and photo fans, your view of the Web from Firefox just gets better. You can choose to enable top-of-the-line image display which uses technical data, like the amount of light available and relevant distance information, to render images in an amazing new way.
มีไว้ แต่ต้องเปิดใช้เองเพราะว่า
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.dria.org/wordpress/archives/2008/04/29/633/
อ่อครับ โทษทีครับผมดูไม่ทั่วเอง
เมื่อเช้าผมอ่านข้ามตรงตัวหนาไปแฮะ ขอบคุณครับที่ชี้ทางสว่าง
onedd.net
onedd.net
ไม่น่าล่ะ Safari ถึง "แดก" CPU ซะ ...
ขอโทษด้วยครับที่ต้องใช้คำไม่สุภาพ
เพื่อที่จะได้เห็นภาพ :-)
เพิ่มเติมอีกหน่อย http://kb.mozillazine.org/Gfx.color_management.enabled
ส่วนตัวก็คือคิดว่า pdf ยังเหมาะสมในการส่งอยู่ แต่ก็เห็นใจอย่าง บางลูกค้า acrobat พระเจ้าเหา ให้โหลด Reader 9 ก็ติดตั้งไม่ได้ โดน admin lock ฯลฯ
พอส่งรูปทางเว็บ ก็เจ๊งอีก...
และที่สำคัญก็คือบอกให้เขาเปิด config FF ก็คงยากตามเคย..
-- Flex | Java | REALBasic --
จะไปบอกให้ลง Safari for Windows ก็ไม่ได้อีก
อ่านดูแล้ว ผมนึกถึงมือถือที่มี Bluetooth ปกติมันก็ไม่ได้เปิดมาให้เป็นค่า Default เพราะมันซดแแบต
อืมมม... นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า Microsoft ล้ำหน้ามากที่ทำตามมาตรฐาน! :P
จำได้ว่า browser ที่ดีที่สุดในเรื่องการจัดการสีคือ ... แอ่นแอ๊นนนน ... IE for Mac - -"
ส่วน Safari นั้น... ปล่อยมันไปเถอะ มันแค่เกือบฉลาด
ส่วน FireFox นี่ผมว่าถ้าเปิดฟีเจอร์นี้แล้ว มันก็ฉลาดใช้ได้เลยนะ คิดว่าฉลาดกว่า Safari ด้วย (ใช้ใน Windows XP และติดตั้ง Color Control Panel ไปแล้ว ไม่รู้ว่าเครื่องทีไม่ติดตั้ง Color Control Panel จะเป็นไงมั่ง?)
จำได้ว่า IE for Mac สามารถใช้งาน Color Profile ได้ แต่ IE for Windows ไม่สามารถใช้ได้ -*-
Windows เพิ่งจะมาทำเรื่อง Color Profile ไม่นานมานี้นี่ครับ (เข้าใจว่าแถวๆ ช่วงที่ Vista จะออกนะ)
ezybzy.info blog
ถูกต้องครับ ie for mac ซํพพอร์ทเรือ่งโปรไฟล์มาตั้งนานแล้ว - -'
ว่าไป ซอฟท์แวร์ไมโครซอฟท์ผมเห็นหลายอย่างแล้วนะ ที่ for Mac มันดีกว่าบน Windows -*-
เท่าที่รู้ตอนนี้มี WMP plugin ของแมค เสียงดีกว่า WMP บนวินโดวส์ มี Office 2008 ที่ว่ากัน่วาดีกว่า 2007 เยอะ แล้วก็ไอ้ IE for Mac เนี่ย - -
IE for Mac นี่ตายไปตั้งแต่ IE5
onedd.net
onedd.net
คิดว่าพวก Mac only feature นี่แหละที่ทำให้มันตาย (และเข้ากับชาวบ้านชาวช่องไม่ได้)
ezybzy.info blog
iCon ของ Microsoft Office for Mac นี่สวยมากครับ ชอบ ....
เขียน icon ว่า iCon ให้ความรู้สึกว่าแอปเปิล "มากกกกกกกกก" 55+
ผมก็ว่างั้นแหละ เห็นตัว iWhatever ทีไร นึกว่า Product ของ Apple
iE
...
อะไรคือ iE ?
เคยเห็นแต่ IE อิอิ
ปล. i ของ Apple มีความหมายอะไรหรือเปล่าไม่รู้แฮะ
internet ไง จำได้ว่าเริ่มใช้ครั้งแรกกับ iMac G3 เพื่อสื่อว่าไอ้นี่มันต่อเน็ทได้ - -"
iPod ต่อเน็ตได้ด้วยรึ - -"
แต่ผมฮาโฆษณาล้อเลียนอันนึง น่าจะเคยเห็นกัน ที่มันมี iRack , iMicrowave , iRan อะไรนั่น
"Ipod Touch" ต่อได้ครับ :D
ปล.จะมาบอกเพื่อ...
กร๊ากกก เคยดูๆ ขำมาก ^^
ส่วน iPod นั่น...อืมๆ เริ่มแรกมันก็ไม่ต่อโดยตรง แต่ content ที่เอามาใช้งาน สามารถซื้อออนไลน์ได้จาก iTunes Store ไง มันก็เลยเกี่ยวข้องกะ internet ไปอ้อมๆ :P
Mac กะ Firefox
เจอไม่ไม่เป็นเรื่องนี่ยอมให้ด่าเลย
คลั่งลัทธิกันทั้งคู่นั้นแหละ
ต่างกันที่เป้นลัทธิคนละประเภท แต่เป็นซับเซ็ตของลัทธิซอฟท์แวร์เหมือนกัน ;D
แล้วคุณปรับ format ของรูปไม่ได้เหรอครับ ?
ผมเป็นตากล้องนะภาพผมก็ไม่ได้เพี้ยนอะไรครับ
และทดสอบเปิดผ่านคอมหลายๆเครื่องแล้วด้วยนะ
ผมว่าคุณทั้งสองที่เถียงกันยาวๆ ดูเหมือนมีสาระ แต่มันไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่
โตๆกันแล้ว
เปลี่ยนฟอร์แมท?
เป็นตากล้องถ่ายรูปหรือกล้องแคมฟรอกครับเนี่ย
JPEG/RAW เป็นแบบหลักๆที่เห็น
RAW นี่มีอีกหลายฟอร์แมทนะครับ มันเป็นไฟล์ภาพที่ไม่ได้ผ่านการบีบอัดใดๆเลยจากกล้อง กล้องแต่ละยี่ห้อ ก็มีฟอร์แมทแตกต่างกันไป
ขนาดมันใหญ่มากนะครับ
ปกติ ก็ JPEG/RAW ครับ
แต่เรามาแปลง file อีกทีได้ แล้วก็สามารถแก้เป็น format for web ได้ด้วย
เท่าที่ทำมาไม่เคยเห็นภาพสีเพื้ยนนะ นอกจาก web ฝากรูปฟรีมันเอารูปผมไปย่อ
แล้วก็ RAW files ก็แปลง เป็น gif/png/tiff เยอะแยะอ่ะครับ แต่ผมก็ใช้ jpg นั้นแหละ
ทุกวันนี้ใช้ http://www.flickr.com/ อยู่ group nikon ครับ
ก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไรนะ ภาพที่ได้ก็แทบจะ 100% กับดูใน iPhoto / Aperture น่ะครับ
พยายามต่อไปครับ
ง่ายสุดคือการรับฟังคนอื่นบ้าง แล้วก็แก้ที่ตัวเราครับ ไม่ใช่ไปโทษเทคโนโลยี
หืม? ใช้ระบบจัดการสีเต็มรูปแบบแ้ล้วหรือเปล่านี่? - -?
เอาอะไรกับคนตาถั่วละครับ
อ่านเจอ "ภาพผมก็ไม่ได้เพี้ยนอะไรครับ และทดสอบเปิดผ่านคอมหลายๆเครื่องแล้วด้วยนะ"
ผมก็เลิกพูดด้วยแล้ว
ผมงงตรงที่ที่เถียงกันข้างบนเถียงกัน
เรื่องฟีเจอร์ Color Profile ใน Firefox (RGB)
แต่เวลายกตัวอย่างความสำคัญ
ดันยกเรื่องสิ่งพิมพ์ (CMYK) มาเสียนี่
แสดงถึงความ (งงในการพูดถึงมาตรฐานจำนวน) สองมาตรฐาน
จริงๆ นะครับเนี่ย
เถียงกันจนงงหรือเปล่าครับ ว่า Color Profile ในงานพิมพ์นี่
มันเป็นเรื่องใหญ่มานานแล้วเพราะมันจำเป็น
แล้วเทคโนโลยีมันพัฒนามาจะครึ่งศตวรรษแล้ว
ส่วนเทคโนโลยีด้าน Color Profile สำหรับ RGB นี่
ยังพัฒนากันไม่จบเลยจนถึงทุกวันนี้ (สิ่งพิมพ์ทุกวันนี้
จะ Include Profile RGB ไปแต่ละทีต้องคิดแล้วคิดอีก
ดูหน้าดูหลัง ทั้งกระบวนการต้อง ISO ตั้งแต่คนแรกที่ทำไฟล์
ยันคนสุดท้ายที่พิมพ์ บลาๆๆ)
แต่เรื่อง Color Profile on Browser เนี่ย มันเป็นเรื่องที่
แต่ละค่ายเค้าจะสรรหามาเป็นฟีเจอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวเอง
และมันยังไม่ใช่มาตรฐานกลาง "สำหรับเบราเซอร์ทุกวันนี้"
เลยแม้แต่น้อย เพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใช่เรื่องใหญ่ถ้า
"เบราเซอร์ยี่ห้อนี้ไม่มี Color Profile ว่ะ อย่าไปใช้มันเลย"
ทำไมน่ะเหรอครับ? ก็เพราะมันยังพัฒนากันไม่เสร็จน่ะสิครับ
การเปิดเป็นฟีเจอร์หลักสำหรับอะไรที่สุ่มเสี่ยงอย่างนี้
ถ้าดีก็ดีไป ถ้าเสียต่อแบรนด์จะให้ทำยังไงครับ?
ให้ตามไล่ปิดให้ user ทุกคนทีหลังน่ะเหรอครับ?
ผมเองก็ทำสิ่งพิมพ์และเว็บ เข้าใจความสำคัญของ Color Profile
และผมพยายามเข้าใจเจ้าของกระทู้ด้วยเช่นกัน
แต่รู้สึกถึงอคติในตรรกะของเจ้าของกระทู้อย่างรุนแรง
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นครับ ถ้าอยากใช้ฟีเจอร์ ก็เปิดใช้
แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้ตาม หรือเจ้าของแบรนด์ไม่ได้เปิดให้อัตโนมัติ
ก็อย่าตื่นเต้นจนเกินการเลยครับ
สงบลงสักนิดเถอะครับ ขอบคุณนะครับ
ผลิตภัณฑ์ที่ดี เป็น ผลิตภัณฑ์ที่มี Color Profile
ผลิตภัณฑ์นี้ เป็น ผลิตภัณฑ์ที่มี Color Profile
ดังนั้น
ผลิตภัณฑ์นี้ เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ดี
แต่
ผลิตภัณฑ์นี้ ดันไม่เปิดเป็น default
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์นี้ เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดี
อันบน
p -> q
p
q
แต่อันล่าง
p -> q
~r
~q
แปลกๆ
onedd.net
onedd.net