ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Robert Mueller หนึ่งในคณะสืบสวน FBI ยื่นคำฟ้องร้อง 37 หน้า ฟ้องพลเมืองสัญชาติรัสเซีย 13 คน และบริษัท 3 แห่งของรัสเซีย ในข้อหาจัดทำแคมเปญโฆษณาชวนเชื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ในคำฟ้องของ Mueller ได้เปิดเผยด้านอันตรายอีกด้านหนึ่งของ Facebook Groups ด้วย

คำฟ้องระบุว่า 10 คนที่ถูกกล่าวหา ถูกว่าจ้างโดย Internet Research Agency ซึ่งเป็น troll farm ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลรัสเซีย จำเลยวางตัวเป็นคนสหรัฐและสร้างตัวตนปลอม ทำแคมเปญผ่านเพจ, groups โดยใช้เงินหลายพันดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อสนับสนุนเพจและ groups ที่มีลักษณะผูกติดกับเชื้อชาติ ศาสนา เช่น Secured Borders, For Black Lives Matter, Blacktivist, United Muslims of America, Army of Jesus เป็นต้น ผู้กระทำยังมีความพิถีพิถันในการติดตามการเติบโตของกลุ่มผู้ใช้ สร้างแคมเปญให้ดูมีลักษณะเป็นอเมริกัน และสร้างบทความที่คิดมาแล้วว่าจะต้องเป็นไวรัล

Joel Kaplan รองประธานฝ่ายนโยบายทั่วโลกของ Facebook (vice president of global policy) ออกมาระบุถึงคำฟ้องดังกล่าวว่ารู้สึกซาบซึ้งที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการอย่างจริงจังต่อผู้ที่ใช้บริการของ Facebook ในทางที่ผิด พร้อมระบุจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อ

ภาพจาก Facebook

Facebook Groups แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อให้เกิดความใกล้ชิดมากขึ้นในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มีความสนใจร่วมกันโดยเฉพาะ และอาจขยายไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์กันในโลกออฟไลน์ ปี 2017 Facebook ระบุว่ามีคนเข้าร่วม Facebook Groups แล้วกว่า 100 ล้านราย Mark Zuckerberg เองก็บอกว่าคาดหวังตัวเลขคนเข้าร่วม Facebook Groups 1 พันล้านราย

ที่มา - The Verge 1, 2