Tags:
Node Thumbnail

ขออนุญาตมาเล่าข่าวเก่าที่น่าสนใจครับ

เมื่อเดือนที่แล้ว หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal (WSJ) รายงานว่า ไมโครซอฟท์เคยคิดที่จะทำเว็บอีคอมเมิร์ซเพื่อมาแข่งกับอเมซอนและอีเบย์ โดยบริษัทได้พูดคุยกับร้านค้าปลีกและบริษัทด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับตลาดสินค้า (marketplace) ร้านค้าที่ขายสินค้าหลากหลายประเภท ช้อปปิ้งการ์ดแบบรวมศูนย์ ตัวเลือกในการจัดส่งสินค้า และส่วนลดสินค้าโดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากร้านค้าที่ลงโฆษณาบนบริการค้นหาข้อมูล Bing หรือที่อื่นมาเป็นอุดหนุน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์หวังที่จะให้บริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Windows บนคอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์อื่น อาทิ เกมคอนโซล Xbox สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตบนแพลตฟอร์ม Windows แต่ท้ายที่สุดบริษัทก็ล้มเลิกความคิดดังกล่าวไป

โฆษกของไมโครซอฟท์ก็ยอมรับถึงโครงการนี้ ซึ่งมีโค้ดเนมว่า Brazil โดยกล่าวว่ามันเคยเป็นโครงการที่จะเปิดช่องทางค้าขายโดยตรงระหว่างลูกค้า ร้านค้า และแบรนด์สินค้าต่างๆ ถึงบริษัทได้ยกเลิกโครงการนี้ไปแล้วแต่ยังยืนยันที่จะหาหนทางใหม่และแตกต่างในการที่จะทำให้เกิดอีคอมเมิร์ซที่เพรียบพร้อมและเน้นการใช้งาน (task oriented) และการโฆษณาออนไลน์ต่อไป แต่โฆษกก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าได้ยกเลิกโครงการ Brazil นี้ไปเมื่อไรและเพราะอะไร

WSJ กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกนั้นแสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟท์พยายามมองหาผลิตภัณฑ์ บริการ และพันธมิตรใหม่เพื่อมาชดเชยกับสายธุรกิจเดิมที่เริ่มประสบปัญหา อาทิ การทำแท็บเล็ตเองในชื่อ Surface, การเจรจาดีลเพื่อเปิดบริการเพลงออนไลน์ (เข้าใจว่าเป็น Xbox Music เนื่องจาก WSJ รายงานข่าวนี้ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวบริการดังกล่าว) หรือข่าวลือที่บริษัทเจรจาซื้อธุรกิจมือถือจากโนเกีย

ไมโครซอฟท์เคยเป็นส่วนหนึ่งของการขายสินค้าออนไลน์มาแล้ว โดยบริษัทเคยจัดโปรแกรม Live Search ที่จะคืนเงินให้ผู้ซื้อสินค้าที่ทำการซื้อสินค้าผ่านจากผลการค้นหาของทางเว็บ โปรแกรมดังกล่าวสิ้นสุดเมื่อสามปีก่อนเนื่องจากไม่ค่อยประสบความสำเร็จ บริษัทยังทำธุรกิจโฆษณาออนไลน์ด้วยแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก ดังจะเห็นได้จากการที่บริษัทขายแอตลาสโซลูชัน (ผู้ให้บริการโฆษณา) ให้เฟซบุ๊กเมื่อต้นปีนี้

ปัจจุบันนี้ไมโครซอฟท์มีบริการ Bing Shopping เว็บไซต์ให้ผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าสามารถค้นหาและเปรียบเทียบราคาสินค้า ในส่วนธุรกิจโฆษณานั้น (เข้าใจว่าในที่นี้หมายถึง Microsoft Advertising) บริษัททำรายได้ได้เพียงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดของบริษัทในแต่ละปี

บริษัทวิจัยตลาดอีมาร์เก็ตเตอร์ (eMarketer) ประมาณการว่า การค้าขายอีคอมเมิร์ซจะมีมูลค่าสูงถึง 1.3 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 18 และจะเป็นครั้งแรกที่มูลค่าเกิน 1 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนเจพีมอร์แกน (J.P. Morgan) ประมาณการว่า ปีที่แล้วอเมซอนมีส่วนแบ่งในธุรกิจอีคอมเมิร์ซในสหรัฐสูงถึงร้อยละ 26

ที่มา: The Wall Street Journal

Get latest news from Blognone

Comments

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 19 July 2013 - 14:39 #599160
iStyle's picture

การเมืองสินะ


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: waltz154
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 19 July 2013 - 23:06 #599351
waltz154's picture

โค้นเนม Brazil นี่กะว่าจะข่มว่าใหญ่กว่า amazon รึเปล่า XD

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 20 July 2013 - 08:45 #599452
PH41's picture

ข่าวต่อไป กูเกิลออกมายอมรับเหมือนกันว่าเคยคิดแบบเดียวกัน แต่ติดปัญหาด้านผูกขาด