กระแสความตื่นตัวของ Bitcoin และเงินคริปโตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 มาจนถึงต้นปี 2018 และมีสถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลกที่ "ทดลอง" นำเงินคริปโตไปใช้งานในแง่มุมต่างๆ
แต่เมื่อปี 2018 ใกล้สิ้นสุดลง กระแสเงินคริปโตซบเซาลงไปมาก การทดลองเหล่าก็ไม่บังเกิดผลสักเท่าไร และมีธนาคารหลายแห่งเริ่มชะลอหรือยกเลิกโครงการด้านคริปโตแล้ว
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลก และเป็นรายแรกๆ ที่หันมาจับด้านการลงทุนในเงินคริปโต ก็พับแผนบริการด้านเทรดเงินคริปโตลงไป และการนำ Bitcoin มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ Non-Deliverable Forward (NDF) ก็มีลูกค้าเพียง 20 รายเท่านั้น
ส่วน Morgan Stanley ก็พยายามขายฟิวเจอร์ส (futures หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า) ของ Bitcoin แต่ก็ไม่มีธุรกรรมเกิดขึ้นจริง ฝั่งของ Citigroup ก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าพบอุปสรรคด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแล
ฝั่งธนาคารอังกฤษ Barclays เคยจะทำตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโต แต่ก็พับแผนไป และผู้บริหารที่จ้างมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านนี้ก็ลาออกไปแล้ว โฆษกของ Barclays ก็ระบุว่าตอนนี้ไม่มีแผนงานใดๆ เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินคริปโตอีก
ที่มา - Bloomberg
Comments
อ้าว เห็นในเวป "ไทย กลุ่ม โซ่" เขามีข่าวด้านมีความสนใจในการนำไปใช้กับสถาบันการเงินบ่อยมากๆเลยครับ แถวสถาบันการเงินจะมาลงทุนอีกต่างหาก
ซบเซาขนาดที่ สื่อ ยังไม่ใคร่จะอยากนำเสนอ
นับแค่ข่าวที่ Blognone นำมาลงก็ไม่มีข่าวคราวมาครบเดือนพอดี ตั้งปลายเดือนที่แล้วมาจนถึงปลายเดือนนี้
สื่ออื่นๆไม่เห็นหัว(ข้อข่าว)เลย
มาเร็วไป(เยอะ)
เก้าอี้ดนตรีดีๆนี่เอง
อยากรู้ว่าธนาคารม่วงเงินจมหรือลอยเท่าไหร่
ธนคารที่มีแต่โปรเจคสร้างบ่อนถูกกฏหมาย ก็ควรติดขัดอยู่แต่เนื้อข่าวไม่น่าเหมารวมกับเหรียญคริปโตในส่วนเรียลเซคเตอร์อย่างการใช้บล๊อคเชนเพื่อการโอนเงินนะครับ
ลุกช้าจ่ายรอบวง
เงินคริปโตมันซับซ้อนไป ไม่ทันใจกลุ่มธนาคาร
เดี๋ยวนี้พิมพ์เงินกระดาษ(QE)ออกมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจกันง่ายกว่า
ผมว่ามันดีนะ
แต่ก็มองว่าการ Decentralize เนี่ยทำให้มันเอาไปใช้งานแบบ Legal ได้ไม่จริงเท่าไร
และพอติดเรื่อง Legal ที่ทำให้เงินจริงทุกทางที่เข้ามาในระบบต้อง trace ได้ มันก็ทำให้ความน่าใช้แบบ Currency ลดลงไป
เหลือแต่ความน่าใช้ในแบบ blockchain เฉยๆ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับความน่าใช้ในแบบ currency ..