ไมโครซอฟท์หยุดวางจำหน่าย Surface Pro 2 แท็บเล็ตพีซีเรือธงของไมโครซอฟท์ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว (และตอนนี้ก็มีอายุประมาณปีกว่า ๆ แล้ว) อย่างเงียบ ๆ ในหน้าเว็บไซต์ของ Microsoft Store ขณะที่ Surface 2 ที่เปิดตัวพร้อม ๆ กันนั้นยังคงวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้

ทั้งนี้ ยังคงมีความเป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์จะยังคงวางจำหน่าย Surface Pro 2 ในร้านค้าของตัวแทนจำหน่าย ทั้งช่องทางออนไลน์ และผ่านหน้าร้าน ซึ่งเมื่อไมโครซอฟท์หยุดการวางจำหน่าย Surface Pro 2 ไปแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่า Surface Pro 2 ได้เดินทางมาถึงสถานะ "หมดระยะเวลาการขาย" หรือ the end of sales life นั่นเอง

ใครมี Surface Pro 2 อยู่ตอนนี้ ก็คงเรียกได้ว่า "ท่านได้ถือครองเครื่องที่หายากที่สุด ณ เวลานี้" แล้วครับ

แฟนๆ แอปเปิลคงรู้จักร้าน Apple Store สาขา Fifth Avenue ที่นครนิวยอร์กในฐานะ "ร้านเชิงสัญลักษณ์" กันเป็นอย่างดี ร้านแห่งนี้นอกจากความโดดเด่นในแง่สถาปัตยกรรมแล้ว ตัวทำเลที่ตั้งคือถนน Fifth Avenue ยังมีชื่อเสียงในฐานะถนนช็อปปิ้งสายหลักของโลกอีกด้วย (แน่นอนว่าค่าเช่าที่ก็แพงระยับ)

ล่าสุดมีข่าวลือจากหนังสือพิมพ์ New York Daily News ว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเช่าที่เพื่อเปิดร้าน Microsoft Store ที่ถนน Fifth Avenue เช่นกัน โดยทำเลที่ตั้งคืออาคารหมายเลข 677 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านแอปเปิลมากนัก เดิมทีอาคารแห่งนี้เช่าโดยแบรนด์แฟชั่น Fendi ซึ่งย้ายไปเช่าที่อื่นแทนแล้ว และกำลังมองหาผู้เช่ารายใหม่อยู่ครับ

เรียกได้ว่าเกทับกันเต็มที่ สำหรับทางไมโครซอฟท์ที่พยายามโชว์จุดขายของ Surface Pro 3 ที่ว่าสามารถทดแทนแล็ปท็อป โดยเฉพาะ MacBook Air ได้ ล่าสุดไมโครซอฟท์สโตร์ในสหรัฐและแคนาดาประกาศจะให้เป็นเครดิตของทางสโตร์ สูงสุดถึง 650 เหรียญ หากนำ MacBook Air มาแลกซื้อ Surface Pro 3

ทั้งนี้มูลค่าของเครดิตที่จะได้ ขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพของ MacBook Air และต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ โดยหน้าจอต้องไม่เสียหายและตัวเครื่องไม่มีการโดนน้ำมาก่อน อย่างไรก็ดีทางไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า MacBook Air รุ่นไหนบ้างที่สามารถนำมาแลกซื้อได้

ทางไมโครซอฟท์เปิดให้นำ MacBook Air ไปแลกซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคมนี้

ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าแคมเปญเอาอุปกรณ์คู่แข่งมาเป็นส่วนลดซื้อของตัวเองต่อไป จากเดิมที่สามารถใช้ iPad มาแลกส่วนลดได้เริ่มต้นที่ 200 เหรียญ ตอนนี้ขยายไปถึงฝั่งสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ก็สามารถมาแลกส่วนลดได้บ้างแล้ว

โดยแบรนด์สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตที่สามารถแลกส่วนลดได้เท่าที่ดูในข่ายจะมีแอปเปิล แบล็กเบอรี่ และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ ซึ่งมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 350 เหรียญ

แคมเปญนี้ไมโครซอฟท์จับมือกับ Clover Wireless ที่รับรีไซเคิลอุปกรณ์ไอทีอยู่แล้ว แน่นอนว่ายังจำกัดอยู่เฉพาะในสหรัฐฯ และแคนาดาเท่านั้น

ผมลองเลือก HTC One มาเทียบราคาดู พบว่าได้แค่ 225 เหรียญเองครับ (ประมาณเจ็ดพันบาท)

ไมโครซอฟท์ออกแคมเปญให้ลูกค้านำ iPad มาแลกเป็นส่วนลดซื้อสินค้าเริ่มต้นที่ 200 ดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับสภาพ) โดยทางไมโครซอฟท์จะให้บัตรของขวัญมีมูลค่าอย่างน้อย 200 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถนำไปแลกซื้อ Surface, Surface Pro หรือสินค้าตัวอื่นภายในร้านค้าปลีก Microsoft Store ได้

แคมเปญนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 27 ตุลาคม และมีผลเฉพาะกับร้านค้า Microsoft Store บางสาขาในอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น ไม่รวมร้านค้าออนไลน์

ทั้งนี้เงื่อนไขของ iPad ที่รับแลกคือ iPad 2, 3 และ 4 เท่านั้น

เว็บไซต์ Windows Phone Central รายงานว่า เว็บไซต์ Microsoft Store สหรัฐได้ขึ้นสินค้า Lumia 1020 บนเครือข่าย AT&T แล้ว โดยระบุว่าจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า 16 กรกฎาคมนี้ และหากใครซื้อแบบติดสัญญา 2 ปีจะได้รับกริปกล้องฟรีอีกด้วย (ของแถมมีจำนวนจำกัด)

นอกจากนั้น Microsoft Store ยังระบุหน่วยความจำในเครื่องของ Lumia 1020 ว่ามีให้เลือกทั้ง 32 และ 64 กิกะไบต์ ทาง Windows Phone Central คิดว่าคงเป็นการพิมพ์ผิดเฉยๆ

อัพเดต ข้อมูลบน Microsoft Store ได้รับการแก้ไขแล้ว มีแค่รุ่น 32 กิกะไบต์เท่านั้น

ปรากฏการณ์แถมนี่เริ่มตั้งแต่ก่อนวางขายจริงเลยนะ

บริษัทวิจัยตลาด DFG ออกมาประเมินว่าไมโครซอฟท์ขาย Surface RT ได้เพียง 500,000-600,000 เครื่องเท่านั้น จากที่เคยมีข่าวว่าสั่งผลิต 3-5 ล้านเครื่องแล้วลดจำนวนในภายหลัง

DFG ให้เหตุผลว่าปัญหาหลักของ Surface คือช่องทางการขายของไมโครซอฟท์เองที่จำกัดมากๆ เพราะวางขายเฉพาะในร้าน Microsoft Store ที่มีสาขาไม่เยอะนักในสหรัฐ (31 สาขา) แถมยังไม่วางขายในร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อย่าง Best Buy ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสลองจับก่อนซื้อน้อยลง

นอกจากนี้ DFG ยังบอกว่าราคาตั้งต้นของ Surface นั้นแพงไปมากจนไม่จูงใจ ไมโครซอฟท์ควรตัดราคาแล้วขายที่ 399 ดอลลาร์แบบมีคีย์บอร์ด (เดิมขาย 599 ดอลลาร์)

Microsoft ได้ทำการเปิดตัว Microsoft Store นอกทวีปอเมริกาเหนือแล้ว ที่เมือง San Juan ประเทศเปอร์โตริโก้, Microsoft Store ที่นี่มีขนาด 4,000 ตารางฟุต จะมุ่งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ Microsoft และให้บริการสนับสนุนสำหรับผู้บริโภค และธุรกิจขนาดเล็ก โดยก่อนทำการเปิด มีผู้คนมารอต้อนรับประมาณ 1,200 คน และมีบางคนถึงขนาดรอพักค้างแรมก่อนทำการเปิด Store และในพิธีเปิดมี Hernán Rincón ประธานของ Microsoft Latin America มาเปิดตัวด้วยครับ

ที่มา - TechNet

ก่อนหน้านี้ไม่นานมีข่าวที่ผู้ซื้อสมาร์ทโฟน เดลล์ Venue Pro หลายรายไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่มีการรักษาความปลอดภัยได้ ล่าสุดพนักงานของไมโครซอฟท์สโตร์ได้ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะทางร้านได้ส่งมอบเครื่องที่เป็น engineering sample ไปให้ลูกค้าหลายราย และทางร้านได้เรียกให้ลูกค้าเหล่านั้นมาเปลี่ยนเครื่องเป็น HTC HD7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มีผู้ซื้อเดลล์ Venue Pro หลายรายออกมายืนยันว่าสินค้าที่ซื้อมาเป็น engineering sample จริง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าอาจเกิดความผิดพลาดอะไรซักอย่างกับสินค้าที่ส่งออกจากโรงงานของเดลล์เป็นแน่แท้

ผมไม่แน่ใจว่าได้แรงบันดาลใจมาจากร้านสุกี้แถวบ้านเราหรือเปล่านะครับ แต่ร้าน Microsoft Store สาขา Mission Viejo เขามีช่วงให้พนักงานเต้นประกอบเพลงเหมือนกัน แถมมีคนถ่ายวิดีโอมาให้ดูอีกต่างหาก

แต่ดูทั้งท่าและเพลงแล้ว ยังเป็นรองบ้านเราอยู่พอสมควร :P

ที่มา - Engadget

ไมโครซอฟท์ปลด Windows 7 USB/DVD Download Tool (WUDT) เครื่องมือช่วยให้ผู้ที่ซื้อวินโดวส์ 7 จากเว็บไซต์ Microsoft Store สามารถสร้างแผ่นดีวีดีหรือคัดลอกไฟล์ลงธัมป์ไดร์ฟเพื่อใช้ในการติดตั้งได้ เนื่องจากถูกระบุว่าอาจละเมิดอนุสัญญา General Public License (GPL)

โดยผู้ที่เปิดเผยคือเว็บไซต์ Within Windows ซึ่งพบว่าโค้ดโปรแกรมดังกล่าวอาจมาจาก CodePlex ชื่อโปรเจค ImageMaster ที่อยู่ภายใต้อนุสัญญา GPLv2 ทาง Within Windows ได้ระบุว่าไมโครซอฟท์เข้าข่ายที่จะละเมิด GPLv2 ด้วยเหตุผลสองประการ คือ

ในโอกาสวันเริ่มขาย Windows 7 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดร้าน Windows Café แล้วที่ใจกลางกรุงปารีส ร้านกาแฟดังกล่าวเป็นร้านแรกและร้านเดียวในโลกของผู้ผลิตระบบปฏิบัติการหมายเลขหนึ่งของโลก

Windows Café เป็นร้านกาแฟ กล่าวคือ ไม่มีการขายอุปกรณ์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือไม่มีการให้คำแนะนำหลังการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ (ซึ่งนักข่าวฝรั่งเศสวิจารณ์ในเรื่องนี้ว่าไมโครซอฟท์พลาดโอกาสเพราะเปิด Microsoft Store ในสหรัฐฯ แต่ทำไมไม่ทำที่ฝรั่งเศสเพื่อให้เป็นแห่งแรกในยุโรป) แต่จะขายเครื่องดื่มและของทานเล่น

หลังจากมีข่าวมาสักระยะ ร้าน Microsoft Store แห่งแรกก็ได้ฤกษ์เปิดทำการพร้อมกับ Windows 7

ร้านนี้อยู่ที่เมือง Scottsdale ในรัฐแอริโซนา (แผนที่) ก่อนเปิดร้านมีคนต่อแถวประมาณร้อยกว่าคน โดยที่คนแรกมาตั้งแต่ 6 โมงเย็นของคืนก่อนหน้า บุคคลสำคัญที่มาทำพิธีเปิดร้านคือ Kevin Turner ซึ่งเป็น COO ของไมโครซอฟท์ (บัลเมอร์ไปเปิดตัว Windows 7 ที่นิวยอร์ก)

ต่อจากข่าวเก่า ไมโครซอฟท์จะเปิดร้าน Microsoft Store ชนกับ Apple Store ตอนนี้มีสไลด์ของคอนเซปต์ร้านหลุดออกมา คนทำสไลด์คือบริษัท Lippincott ซึ่งไมโครซอฟท์ว่าจ้างให้ช่วยออกไอเดียสำหรับร้าน Microsoft Store อย่างไรก็ตามตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่านี่ยังเป็นแค่ไอเดียเบื้องต้นเท่านั้น ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้ไอเดียเหล่านี้จริงจังแค่ไหน

รายละเอียดภายในสไลด์

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไมโครซอฟท์เตรียมเปิดร้าน Microsoft Store มาได้สักระยะแล้ว ไมโครซอฟท์ถึงกับจ้าง David Porter อดีตผู้บริหารของ Wal-mart มาดูแลกิจการร้านขายปลีกของไมโครซอฟท์โดยเฉพาะ กำหนดเปิดร้านคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้

ล่าสุด Kevin Turner ซึ่งมีตำแหน่งเป็น COO ของไมโครซอฟท์ได้ประกาศเพิ่มเติมในงาน Worldwide Partner Conference ว่าร้าน Microsoft Store ชุดแรกจะอยู่ใกล้ๆ กับร้าน Apple Retail Store และบางร้านจะเปิดติดกันชนิดหายใจรดต้นคอเลย (ดูประกาศของทีมประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์ใน Twitter)

จากข่าวเก่า ไมโครซอฟท์เตรียมตั้ง Microsoft Store Robbie Bach หัวหน้าฝ่าย Entertainment and Devices Division ซึ่งรับผิดชอบการขายปลีกฮาร์ดแวร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ว่า มีคนจำนวนมากนำไมโครซอฟท์ไปเปรียบกับแอปเปิล ซึ่งมี Apple Store เหมือนกัน

Bach อธิบายว่าจุดประสงค์ของไมโครซอฟท์กับแอปเปิลนั้นต่างกัน ในกรณีของแอปเปิลคือช่องทางการจำหน่ายสินค้า (distribution) เพราะในอดีตนั้นแอปเปิลไม่มีระบบตัวแทนจำหน่าย จึงจำเป็นต้องเปิดร้านค้าปลีกของตัวเอง

แต่ในกรณีของไมโครซอฟท์ซึ่งมีช่องทางของตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากอยู่แล้ว การเปิดร้านค้าปลีกจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า และช่วยสร้างแบรนด์ของไมโครซอฟท์ให้เข้มแข็งขึ้นมากกว่า

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ว่าจ้าง David Porter ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานกับห้าง Wal-Mart กว่า 27 ปีเพื่อดูแลกิจการด้านร้านค้าขายปลีกของบริษัทเอง โดย David นั้นจะเป็นผู้ตัดสินใจถึงรูปแบบ และสถานที่ที่จะตั้งขึ้น

"ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราสามารถทำได้ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะช่วยผู้บริโภคตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ และเราจะแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้จากการจัดตั้งร้านนี้กับร้านที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย" เขากล่าว

ยังไม่มีข่าวว่าร้านค้าปลีกดังกล่าวจะออกมาในรูปแบบไหน แต่หลายคนสงสัยว่าร้านดังกล่าวนอกจากจะขายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์แล้วก็อาจจะมีบริการทางเทคนิคที่คล้ายกับ Genius Bar ของ Apple Store ก็ได้