Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

วงการบิตคอยด์ถูกกุมอำนาจโดยนักขุดบิตคอยน์ในจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง หนังสือพิมพ์ People's Daily รายงานถึงสูตรสำเร็จของบริษัทเหล่านี้ว่าอาศัยการย้ายบริษัทเข้าไปในโซนที่ค่าไฟถูก คือ มณทลเสฉวนที่เป็นแหล่งไฟฟ้าพลังงานน้ำของจีน

เฉพาะเขตปกครองตัวเอง Garze Tibetan ทางตะวันตกของเสฉวนก็มีบริษัทขุดบิตคอยน์ 20 บริษัทในเขตเดียว ส่วนในเมือง Mabian Yi ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลเป็นที่ตั้งบริษัท Tianjia บริษัทเดียวมีเครื่องขุดบิตคอยน์ 1,500 เครื่อง มีกำลังผลิตวันละ 10 BTC มีช่างดูแลเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง

เพื่อลดต้นทุนค่าไฟ บริษัทขุดบิตคอยน์เหล่านี้มักไปตั้งเครื่องขุดกันถึงภายในโรงงานไฟฟ้า และพร้อมจะย้ายออกในหน้าแล้ง เพราะค่าไฟอาจจะขึ้นราคาถึงสองเท่าตัว

ที่มา - People's Daily

Get latest news from Blognone

Comments

By: the mee
iPhoneAndroidWindows
on 24 February 2017 - 22:37 #971815

คือผมมองว่า Bitcoin ไม่ได้ สร้าง Product ที่แท้จริงอะไรเลย
ไม่ได้อิงกับ ทรัพย์สินที่แท้จริง
แต่มันใช้ไฟฟ้าจริงๆๆก็เลยยย.......

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 24 February 2017 - 22:54 #971820 Reply to:971815
lew's picture

ตลาดหุ้น, ธนาคาร, datacenter ไม่มีอะไรจริงทั้งนั้นครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 February 2017 - 00:05 #971831 Reply to:971815
tekkasit's picture

ถ้าว่ากันขนาดนั้น จริงๆ เปลือกหอย เกลือ เมล็ดโกโก้ ก้อนโลหะแวววาว ก็ไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่แท้จริงอะไรเลย แต่มันก็ใช้แรงงานจริงๆๆๆไปหากันมาทำไม เสียเวลา เอามาทำไรทำนา หาปลาดีกว่าเอย

เอาใช้ตรรกะแบบนั้น ระบบเงินตรา ตัวเลขเงินในบัญชีของคุณทุกวันนี้ก็ไม่จริงครับ

ลองหลับตานึกภาพว่า พรุ่งนี้ประเทศประกาศยุบระบบเงินตรา เลิกใช้ 'ตัวเลข' (เครดิต) ยกเลิกธนาคาร/สำนักฝากเงิน ไม่การออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนไม่จริงทั้งสิ้น แล้วมาให้ทุกคนพกเงินเป็นก้อนๆ รับรองระบบเศรษฐกิจที่เรารู้จักทุกวันนี้จะหายวับ หดตัววูบเหลือไม่ถึง 0.1% นอกนั้นหายหมด

ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่วัตถุที่จับต้องได้ แต่หลักการสำคัญที่ปฎิวัติเศรษฐกิจ จาก barter คือ 'เครดิต' ไม่ว่าจะก้อนเงินพดด้วง ตั๋วสัญญาแลกเงิน ธนบัตร มันก็อิงบน ความเชื่อ/สัญญาร่วมกันทั้งสิ้นครับ

หลักการสำคัญของ 'เงิน' คือ ปลอมแปลงไม่ได้ ธนบัตรเองก็คือสัญญาจากผู้ปกครอง สมัยก่อนใครปลอมเงินก็มีโทษเท่ากับหลบหลู่เบื้องสูง โทษคือประหารทั้งสิ้น, ต้องมีการไว้ใจได้เชื่อถือได้ ไม่ด้อยค่าเร็วเกินไป ไม่งั้นคนก็จะไม่ใช้สกุลเงินดังกล่าว หนีไปใช้ระบบอื่นแทน, มีคนเชื่อในระบบเงินตรานั้นมาพอจนเกิดความคล่องตัวในการใช้จ่าย และสะดวกในการใช้งาน หน่วยเล็กหน่วยใหญ่ มีให้ใช้ชำระได้หมด

ซึ่งเท่าที่เห็น bitcoin มันก็ตอบครบนี่ครับ

By: holyporing1
ContributorAndroid
on 24 February 2017 - 23:42 #971832 Reply to:971815

ทองก็ไม่ได้อิงกับอะไรเลยทำไมถึงมีค่าครับ?
เพราะมนุษย์ให้ค่ามันด้วยเหตุผล
- ปลอมแปลงยาก
- หายาก/มีวันหมด
- แบ่งเป็นส่วนย่อยๆได้
ซึงบิทคอยน์ทำได้อย่างที่ว่ามาครับ

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 25 February 2017 - 09:56 #971868 Reply to:971832

ทองคำคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน
สามารถเอามาสร้างอุปกรณ์ต่าง ๆได้ทำให้ทองคำมีค่าในตัวเอง
เมื่อรวมกับจำนวนที่มีอยู่น้อยในโลกจึงทำให้มีค่ามาก
ซึ่งบิตคอยน์ด้วยตัวของมันเองทำอะไรไม่ได้เลย

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 25 February 2017 - 11:14 #971879 Reply to:971868
lew's picture
  • คุณทำให้ bitcoin คนอื่นหายไปได้ไหมครับ?
  • คุณทำให้ bitcoin ในโลกเพิ่มขึ้นมากๆ ได้ไหม?
  • ข้อหลังนี่เงินไม่จำเป็นต้องอิงกับทองครับ ทุกวันนี้ไม่มีเงินสกุลหลักใดอิงกับทอง เดินไปธนาคารแลกทองไม่ได้ แลกกระดาษธนบัตรได้อย่างมาก (ต่อให้เหรียญก็ไม่มีการกำหนดน้ำหนัก)

lewcpe.com, @wasonliw

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 25 February 2017 - 14:34 #971913 Reply to:971879

"ข้อหลังนี่เงินไม่จำเป็นต้องอิงกับทองครับ ทุกวันนี้ไม่มีเงินสกุลหลักใดอิงกับทอง เดินไปธนาคารแลกทองไม่ได้ แลกกระดาษธนบัตรได้อย่างมาก (ต่อให้เหรียญก็ไม่มีการกำหนดน้ำหนัก)"

ผมพูดถึงการเอาค่าเงินไปอิงกับทองคำ?

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 February 2017 - 13:18 #971904 Reply to:971868
Holy's picture

ถามว่าด้วย Demand ของทองสำหรับนำไปใช้งานจริงๆ เช่น ในชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ไปทำเป็นเครื่องประดับ ฯลฯ มันทำให้ทองมีมูลค่ามากขนาดนั้นจริงๆ เหรอครับ? หรือมันมีมูลค่ามากเพราะคนให้ค่ามันในฐานะสื่อกลางการแลกเปลี่ยน?

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 25 February 2017 - 14:37 #971909 Reply to:971904

ผมมองที่คุณสมบัติเรื่องการคงทนและมีจำนวนน้อยของมัน
รวมกันทำให้เหมาะกับการใช้เพื่อการแลกเปลี่ยน
สมมติว่าโลกเรามีเหล็กที่มีปริมาณเท่ากับทองคำ
คุณมีเหล็กหนึ่งกิโลกับทองคำหนึ่งกิโล
ตกลงกันว่า ข้าวหนึ่งกระสอบมีค่าเท่ากับ เหล็ก/ทองคำหนึ่งกิโล
คุณต้องเอาเหล็กมาชะโลมน้ำมันเป็นประจำเพื่อคงขนาดและน้ำหนัก
ไม่งั้นสนิมกินหมดเสียคุณค่าในตัวเองไปเรื่อย ๆ
ส่วนทองคำปล่อยไว้เฉย ๆถ้าไม่ไปแบ่งมันมันก็เท่าเดิม

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 26 February 2017 - 22:33 #972099 Reply to:971909
Holy's picture

ถ้าคุณมองเรื่อง"การคงทน"และ"มีจำนวนน้อย"

ผมบอกได้เลยว่า "ณ ปัจจุบัน" Bitcoin มีคุณสมบัติทั้งสองข้อครบถ้วนครับ เหมาะแก่การเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนตามนิยามของคุณเลย

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 27 February 2017 - 07:40 #972213 Reply to:972099

บิตคอยคุณลืมพาสทำอย่างไร
ทองคำใส่เซฟลืมพาสคุณพังเซฟเอาทองกลับมาใช้ได้
ผมยอมรับเรื่องการเอาบิตคอยน์มาใช้เป็นสื่อการแลกเปลี่ยนแทนเงินได้
ทั้งเรื่องความสะดวกและการที่ไม่มีกลุ่มคนที่คอยควบคุมเพียงกลุ่มเดียว
แต่ดูเหมือนหลายคนจะคิดว่ามันเป็นซูเปอร์เซ็ตของทองคำตรงนี้ที่ผมไม่เห็นด้วย

By: darktong
ContributorAndroidUbuntu
on 27 February 2017 - 11:44 #972307 Reply to:972213

คุณเปรียบเทียบไม่ถูกครับ ในกรณีนี้ถ้าจะเทียบกับเก็บทองใส่เซฟ คุณต้องปริ้น key หรือ seed ใส่เซฟเก็บไว้ ถ้าหายก็พังเซฟออกมา...

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 27 February 2017 - 11:57 #972311 Reply to:972213
hisoft's picture

แล้วมันเกี่ยวกับ "การมีมูลค่า" ยังไงล่ะครับนั่น?

ทองคำเอาใส่เซฟไว้ก็ถูกขโมยได้ ขนาดใส่เซฟที่ธนาคารไว้ก็ใช่จะรอดนะครับ บิตคอยน์นี่โอกาสถูกขโมยต่ำกว่ากันเยอะ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 February 2017 - 20:31 #972413 Reply to:972213
Holy's picture

ผมจะลองพยายามทำความเข้าใจตามคุณนะครับ

ประเด็นแรกที่คุณเริ่มพูดมา ผมสรุปได้ว่าทองคำมี Intrinsic Value ในตัวเอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้นอกจากการเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนอย่างเดียว ในขณะที่ Bitcoin ไม่มี ก็มีหลายท่านรวมถึงผมบอกว่ามูลค่าในปัจจุบันของทองคำมันสะท้อนถึงคุณค่าในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน มากกว่ามูลค่าในการใช้ประโยชน์ของมันเยอะ และมันมีคุณสมบัติครบถ้วนในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (มีจำกัด คงทน)

ถัดมาคุณเบี่ยงไปว่าทองมันมีตัวตนทางกายภาพ สามารถ Override Access ได้ในกรณีฉุกเฉิน ต่างจาก Bitcoin ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้หากลืม Password กรณีนี้อย่างที่ข้างบนว่าไว้ว่าคุณจะเขียนรหัสใส่กระดาษ หรือเอาเลเซอร์สลักลงบนทองที่ไม่สึกหรอของคุณก็ได้ แล้วใส่เซฟฝังดินไว้ก็ค่าเท่ากันครับ แต่อาจจะต่างกับทองตรงที่ถึงจะฝังดินไว้ คุณก็ยัง Access ถึงมันได้ตลอด ในขณะที่ทองถ้าต้องการเปลียนมือก็ต้องมีการส่งมอบกันจริงๆ ซึ่งทำให้ผมนึกขึ้นมาอีกประเด็นได้ว่า ทุกวันนี้มูลค่าการซื้อขายทองคำกันส่วนใหญ่น่าจะเป็น "ทองกระดาษ" คือเป็นพวกสัญญา Derivative ที่อ้างอิงกับราคาทองด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นของไม่มีหลักมีฐานอะไรเข้าไปใหญ่

ลงท้ายนี้คือ ผมไม่ได้บอกว่า Bitcoin ดีกว่า หรือทองคำไม่มีค่านะครับ แต่ทั้งสองอย่างก็มีข้อจำกัดเฉพาะตัว การจะบอกว่าลงทุนอันนี้ดีกว่าอันนั้นมันต้องดูบริบทการลงทุนด้วย

ปล. ถ้าผมจะลงทุนในโลหะมีค่า ผมลงใน Platinum ดีกว่าครับ

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 28 February 2017 - 06:52 #972482 Reply to:972413

ขอตอบแยกแค่ละประเด็นนะครับ
"ประเด็นแรกที่คุณเริ่มพูดมา ผมสรุปได้ว่าทองคำมี Intrinsic Value ในตัวเอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้นอกจากการเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนอย่างเดียว ในขณะที่ Bitcoin ไม่มี ก็มีหลายท่านรวมถึงผมบอกว่ามูลค่าในปัจจุบันของทองคำมันสะท้อนถึงคุณค่าในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน มากกว่ามูลค่าในการใช้ประโยชน์ของมันเยอะ และมันมีคุณสมบัติครบถ้วนในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (มีจำกัด คงทน)"
ปัจจุบันเรายังไม่สามารถหาสิ่งที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าทองคำแต่มีปริมาณมากกว่าได้ ดังนั้นถึงคนทั้งโลกเอาทองคำมาโยนทิ้ง
ด้วยคุณสมบัติที่มันมีอยู่ก็จะยังทำให้มีคนเอาไปใช้มันมีค่ามากอยู่ดี จะมากจะน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ซึ่งต่างจากบิตคอยน์ถ้าคนทุกคนรวมหัวกันไม่ยอมรับมันจะไม่มีค่าทันทีนั่นเป็นประเด็นหลักที่ผมจะสื่อ

"ถัดมาคุณเบี่ยงไปว่าทองมันมีตัวตนทางกายภาพ สามารถ Override Access ได้ในกรณีฉุกเฉิน ต่างจาก Bitcoin ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้หากลืม Password กรณีนี้อย่างที่ข้างบนว่าไว้ว่าคุณจะเขียนรหัสใส่กระดาษ หรือเอาเลเซอร์สลักลงบนทองที่ไม่สึกหรอของคุณก็ได้ แล้วใส่เซฟฝังดินไว้ก็ค่าเท่ากันครับ แต่อาจจะต่างกับทองตรงที่ถึงจะฝังดินไว้ คุณก็ยัง Access ถึงมันได้ตลอด ในขณะที่ทองถ้าต้องการเปลียนมือก็ต้องมีการส่งมอบกันจริงๆ ซึ่งทำให้ผมนึกขึ้นมาอีกประเด็นได้ว่า ทุกวันนี้มูลค่าการซื้อขายทองคำกันส่วนใหญ่น่าจะเป็น "ทองกระดาษ" คือเป็นพวกสัญญา Derivative ที่อ้างอิงกับราคาทองด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นของไม่มีหลักมีฐานอะไรเข้าไปใหญ่"
ผมไม่ได้เบื่ยงเบนอะไรเลย ผมพูดเรื่องการ"มีตัวตน" ที่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้นอกจากเอาไว้แลกเปลี่นนเพียงอย่างเดียว
ของบิตคอยน์ตั้งแต่ความคิดเห็นแรกเลยขอย้ำประเด็นผมอีกครั้ง "ทองคำมีค่าในตัวเองซึ่งบิตคอยน์ไม่มี" สื่งที่คุณพูดมาก็เป็นการยืนยันได้ว่า
ทองคำมันไม่สนใจว่าใครเป็นเจ้าของไม่ได้สนใจการเข้าถึง เอาไปไว้ที่ไหนมันก็มีค่า
ใครก็ตามที่มีทองคำในมือ(แสดงความเป็นเจ้าของได้)มันจะมีค่าเสมอ

สุดท้ายผมก็เห็นด้วยที่ว่าทองคำกับบิตคอยน์ต่างก็มีข้อดีข้อเสียในตัวเอง มีจุดที่ทับซ้อนหลักในเรื่องใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน

ปล. ผมไม่ใช่นักลงทุนครับทั้งทองคำและบิตคอยน์ ที่โต้แย้งเพราะเห็นการเปรียบเทียบที่ไม่สมเหตุสมผลเท่านั่น

By: the mee
iPhoneAndroidWindows
on 25 February 2017 - 21:34 #971959 Reply to:971832

คือ ทอง ปลอมยาก และ มีวันหมดไปจากโลกจริง แต่ Bitcoin ถ้าเกิดวันนึงผู้คิดระบบอยากเพิ่มประมาณเงินเข้าไปอีก 100 เท่า 1000 เท่าละครับ มันไม่มีอะไรที่เป็น สิ่งของให้จับต้องเลย

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 February 2017 - 22:34 #971965 Reply to:971959
hisoft's picture

แล้วธนบัตรล่ะครับ? ก็ไม่ต่างจาก Bitcoin รึเปล่า? ถ้าสมมติว่าอยู่ๆ ผู้คิดระบบเกิดเพิ่มเงินเข้าไปในระบบ (ถ้าสมมติว่าทำได้จริงๆ ซึ่งเท่าที่เห็นกันในปัจจุบันคือมันเป็นไปไม่ได้) สักสิบเท่า สภาพมันก็จะเหมือนตอน Zimbabwe hyperinflation ที่อยู่ๆ รัฐก็พิมพ์เงินอัดเข้าไปในระบบนั่นแหละครับ ไม่ได้ต่างกันเลย (หรือจริงๆ คือต่างตรงที่ว่า มันควบคุมอยู่ ไม่สามารถที่จะอยู่ๆ ก็เพิ่มเงินอัดเข้าไปในระบบได้)

By: ninja741 on 25 February 2017 - 01:01 #971836 Reply to:971815

Product ที่ bitcoin อ้างอิงมันก็คือ mathematics นั้นแหละครับ

แต่สิ่งที่ bitcoin ไม่มีคือ reliability ซึ่งการไม่มี reliability = การไม่มี value

ดังนั้น BTC เป็นได้แค่ตัวแทนของ US dollar (หรือ euro,yuan) ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ตัวมันเองไม่เคยมีค่าจริงๆ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 February 2017 - 01:48 #971840 Reply to:971836
hisoft's picture

reliability ที่ว่ามานี่คืออะไรล่ะครับ

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 February 2017 - 10:20 #971872 Reply to:971836
tekkasit's picture

ธนบัตร, ตั๋วสัญญาแลกเงิน, เช็คก็ไม่มี reliability แต่คนก็ให้คุณค่ากับมันไม่ต่างกับก้อนโลหะมีค่าครับ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 February 2017 - 13:15 #971903 Reply to:971836
Holy's picture

ผมเข้าใจว่าคำว่า "ไม่มี Reliability" หมายถึง ไม่มีคนรับรองมูลค่า (แบบที่ธนบัตรมีรัฐบาลของประเทศรับรอง, เงินในบัญชีมีธนาคารรับรอง) ถูกไหมครับ?

การที่คุณบอกว่า "Product ที่ bitcoin อ้างอิงมันก็คือ mathematics นั้นแหละครับ" ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ธนบัตรอ้างอิงกับความเชื่อถือในประเทศ เงินในบัญชีอ้างอิงกับความเชื่อถือในธนาคาร (และ DPA) นั่นแหละครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 February 2017 - 14:07 #971905 Reply to:971903
hisoft's picture

ถ้า reliability หมายถึงแบบนั้นจริง ตอนฮังการีกับซิมบับเว hyperinflation นี่ก็ธนบัตร/พันธบัตรที่ธนาคารที่มีรัฐบาลของประเทศรับรองครับ :p

No Description

คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้เท่าไหร่ แต่สักวัน Bitcoin ก็คงต้องไปอยู่สภาพในรูปนี้เช่นกัน

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 February 2017 - 11:05 #971875 Reply to:971815
put4558350's picture

แล้วต่างอะไรกับบัตรเครดิตหละครับ เงินทั่วไปเป็นตัวกลางสำหรับแลกเปลี่ยน ไม่ได้สร้างอะไรอยู่แล้ว

Bitcoin เป็น ตัวกลางอีกตัวเท่านั้น ข้อดีของมันคือค่าทำเนียมการโอนถูกกว่าธนาคารบางแห่ง และความเป็นส่วนตัว


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: platalay
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 24 February 2017 - 22:54 #971821

แล้วราคา BTC ตอนนี้นะ ทำรายได้ตกวันละ 400000บาท

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 24 February 2017 - 23:53 #971834
hisoft's picture

มณทลเสฉวน

มณทล -> มณฑล?

By: PandaBaka
iPhoneAndroidWindows
on 25 February 2017 - 00:26 #971835
PandaBaka's picture

นอกเรื่องนิดนึง คือสงสัยมานานแล้วทำไมราคา BTC ในไทยนี่เหมือนเงินเถื่อนยังไงชอบกล
อัตราซื้อกับขายคืนส่วนต่างโหดมาก = ="

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 25 February 2017 - 01:19 #971837 Reply to:971835
lew's picture

คำตอบง่ายๆ ตลาดเล็กครับ ปริมาณซื้อขายยังน้อย ก็ต้องถ่างราคาแบบนี้ (แบบเดียวกับสกุลเงินแปลกๆ ที่แลกไปแลกกลับก็ขาดทุนหนัก)


lewcpe.com, @wasonliw

By: freeriod on 25 February 2017 - 01:46 #971839
freeriod's picture

มีเวป เทรดBitcoin แบบ forex เปล่าครับ

By: pxmaster on 25 February 2017 - 08:33 #971860 Reply to:971839

bx.in.th

By: waroonh
Windows
on 25 February 2017 - 10:19 #971871

BitCoin ตอน เริ่มต้นในไทย มีคนส่งเรื่องไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ตีความว่า มันคือเงินหรือไม่ ? คำตอบคือ "ไม่ใช่" แต่ไม่ได้ตีความต่อ เหมือนสหรัฐ หรือ ยุโรป
ที่ตีความว่า BitCoin คือ "ทรัพย์สิน หรือ asset แบบหนึ่ง" พอคาอยู๋แบบนั้น
เลยกลายเป็นว่า BitCoin ในไทย อาจจะไม่มีกฎหมายรองรับ โดนโกง แลกเงินคืนไม่ได้
จะฟ้องร้องก็ไม่ได้ เพราะมไม่เข้าข่าย อะไรเลยในกฏหมาย

ถ้าใช้ความรู้สึก ผมมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ในสมัยนั้นไม่รู้อะไรเลย แล้ว
อาจจะมองว่า BitCoin = Forex ไปเลยก็ได้ครับ

By: Jaddngow
AndroidUbuntuWindows
on 25 February 2017 - 10:24 #971873 Reply to:971871
Jaddngow's picture

แสดงว่าก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วยสิครับ อย่างภาษีมรดก

By: hail_to_the_thief
iPhone
on 25 February 2017 - 19:41 #971944 Reply to:971871

bot เค้าก็รู้แหละครับ ว่า bitcoin คืออะไร ไม่ใช่มีแต่ geek ที่รู้จัก

แต่การจะให้ตีความว่ามันเป็นเงิน (ณ ตอนนั้น) bot ก็ตัองเข้าไปควบคุมตามกฎหมาย พอเข้าไป regulate มาก ๆ (ด้วยกฎหมายเก่า ๆ) geek ก็จะโวยวายอีกว่า อะไรก็ห้าม อะไรก็ควบคุมไปหมด

วิธีที่ดีกว่า คือ รอให้ ประเทศอื่น ๆ เขายอมรับ ให้คนอื่นลองผิดลองถูก แล้วค่อยลอก กฎหมายเขามาใช้ทีเดียวสบายใจกว่า

By: kritapas.t
iPhoneAndroidBlackberry
on 26 February 2017 - 22:44 #972100 Reply to:971944
kritapas.t's picture

ใช่ครับ ประเทศเราในเรื่องมาตราฐานการบัญชีก็ไปลอกเขามา มีเขียนเองก็นิดหน่อย

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 February 2017 - 20:35 #972415 Reply to:971944
Holy's picture

เพิ่มให้ว่า ถ้า BOT ออกมารับรอง มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ คนทั่วไปที่ไม่ใช่ geek จะหันมารู้จัก (แต่อาจจะไม่เข้าใจ) ยิ่งเพิ่มความสนใจในตัว bitcoin โดยไม่จำเป็นครับ ทุกวันนี้รู้จักในวงแคบๆ + ไม่ได้ห้าม คนเล่นก็เป็นคนที่รู้เรื่องจริงๆ ดีกว่าครับ รอประเทศอื่นนำหน้าแล้วค่อยตาม เพราะขนาดเรื่องง่ายๆ แบบพร้อมเพย์ คนยังเข้าใจผิดแล้วผิดอีก ด่ากันไปถึงไหนต่อไหน

By: foizy
AndroidUbuntuWindows
on 25 February 2017 - 11:59 #971889

พูดไป แอบรู้สึกว่า
บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า น่าจะสร้างเหมือง Bitcoin/หรือ blockchain-calculator
เองได้ทุกโรงเลย (น่าจะเป็นการ invest ที่คุ้มด้วย)

การขุด bitcoin ต้นทุนหลักของการขุดคือค่าไฟนี่แหล่ะ
จุดคุ้มทุนมันมีอยู่ตรงที่ว่า พอผ่าน startup-cost (การ์ด/ชิพขุด)
หลังจากนั้นจะเข้าสู่พาร์ทของ ค่าไฟ เทียบกับเงินที่ได้จากการขุดแทน

แต่โรงงานไฟฟ้าแทบทุกโรง "ต้องผลิตไฟด้วยค่าคงที่นึงๆอยู่แล้ว"
คือช่วง off-peak ก็ยังต้องผลิตเผื่ออยู่ดี ไม่ใช่หยุดไปเฉยๆได้
เอาไฟที่ต้องผลิตทิ้งมารันเหมืองนี่ เพลินๆเลย นับว่าไม่มีต้นทุนก็ว่าได้

By: loptar on 27 February 2017 - 12:54 #972315 Reply to:971889
loptar's picture

ใช่เลย

By: isk on 25 February 2017 - 19:21 #971941

มีคนสร้าง bitcoin ปลอมมั๊ย