คงจะต่างกันครับ สังคม/ผู้ปกครองก็มีส่วน 191 ในบ้านมันโดนป่วน ส่วนหนึ่งเพราะเป็นบริการสาธารณะ อีกทั้งคนจำนวนไม่น้อยไม่รู้สึกรักษาสมบัติสาธารณะ เด็กไปกดโทรศัพท์สาธารณะเล่น ผู้ใหญ่ก็ไม่ห้ามปราบ แถมหลายครั้งที่มาจากเบอร์ตามบ้าน พอไล่ไปเจอต้นทางผู้ปกครองหลายคนก็ไม่มีจิตสำนึกรู้สึกรับผิดชอบต่อการกระทำของลูกหลานตนเองในการป่วนสมบัติสาธารณะ ตอบแบบแกนๆ แล้วก็มาใหม่

กลับกันต่างประเทศเค้าค่อนข้างมีจิตสำนึกกันมากกว่า รวมถึงเอาจริงเอาจังมากกว่า

ส่วนกรณี MayDay ในกรณีลองกดก็น่าจะมี แต่ถึงขั้นป่วนก็น่าจะน้อย เพราะหนึ่ง มันเป็นบริการเสริม ไม่ใช่บริการสาธารณะ คนจะใช้มันก็น่าจะมีต้นทุนทางจิตใจระดับหนึ่ง การไปป่วนเล่นโดยมีต้นทุนอยู่คงไม่สนุกเท่าไร (คนไปป่วน ไม่เพื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่ก็วุฒิภาวะเป็นเด็กเล็ก ไร้สำนึก) อีกทั้งคินเดิลทุกเครื่องมีหมายเลขประจำเครื่องอยู่ ซึ่งถ้ามีคนกดมา ระบบสามารถดึงข้อมูลมาได้หมด ว่าจากเครื่องไหน อยู่ถนนอะไร เมืองไหน ผู้ใช้ล็อคอินอะไร ประวัติ รวมถึงผมเชื่อว่าน่าจะทำ blacklist ได้ ซึ่งอาจจะมีทั้งแบบชั่วคราว หรือแบบตลอดไปเลย

* มีกรณีลูกค้าเล่น Angry Birds ไม่ผ่านด่าน พนักงานช่วยเล่นให้ผ่านได้ด้วย
* มีลูกค้าขอเดตกับพนักงาน รวมถึงขอแต่งงานด้วย

ของเขาก็มีเหมือนกันครับ เหมือน call center ทั้งหลายแหละ มีการโทรไปก่อกวน
ซึ่งอันนี้พวกระบบอัตโนมัติช่วยได้มากอยู่

ส่วนของ Mayday นี่ผมเข้าใจว่าเหมือนการขอ remote service ดังนั้นอันดับแรกเลยคือ Amazon รู้ได้ว่าลูกค้าคนไหนติดต่อ (ไม่มี anonymity ) แถมยังเห็นหน้าจอเราด้วย (personal info) ทำให้ถึงเป็นเด็ก (หรือเด็กหนวด) ก็เข้าใจว่า ถ้ากดเล่นก็ถูกจับได้ครับ

ส่วนใหญ่พวกโทรล์มักจะมีสภาพแวดล้อมที่เขาชอบอยู่ เช่น มี anonymity และ feedback ซึ่ง Amazon คงปรับได้ดีแล้วครับ