ภายในงานเปิดตัว BlackBerry Z10 ทาง BlackBerry Thaland ได้นำเจ้า Z10 ตัวขายจริงมาให้ลองจับกันด้วย สเปคคร่าวๆ ของรุ่นนี้คือใช้ซีพียู Snapdragon S4, หน้าจอขนาด 4.2" ด้านหน้าตัวเครื่องไร้ปุ่ม ใช้การสัมผัสผ่านหน้าทั้งหมด และกล้องหลัง 8 เมกะพิกเซล สเปคเต็มดูจากข่าวเก่าเมื่อครั้งเปิดตัวที่สหรัฐได้เลย
เกริ่นมาพอสมควรแล้วก็ลองมาดูตัวเครื่องจริงกันเลยครับ
หน้าตาของ Z10 เป็นทรงแคนดี้บาร์มาตรฐานเหมือนกับ Dev Alpha B ความต่างคือจุดโค้งมนบริเวณขอบตัวเครื่อง และวัสดุที่มีผิวสัมผัสมากกว่าอย่างชัดเจน (เพราะตัว Dev Alpha B เป็นกรอบดัมมี่แข็งๆ)
วิธีการปลุกเจ้า Z10 มีอยู่สองวิธี แบบแรกคือการกดปุ่มเปิดเครื่องที่อยู่ด้านบน เครื่องจะเปิดหน้าจอขึ้นมาแต่ยังอยู่ในหน้าล็อกสกรีน ด้านขวาล่างมีทางลัดสำหรับเข้ากล้อง แต่ถ้าสไลด์นิ้วจากด้านล่างขึ้นมาจะเป็นการข้ามหน้าล็อกสกรีนเข้าสู่หน้าหลักไปเลย
ด้านบนตัวเครื่องมีลำโพงสนทนาครอบด้วยกรอบโลหะเคลือบเมทัลลิค และกล้องหน้า ถ้าสไลด์นิ้วจากด้านบนลงมาในหน้าหลัก จะเป็นการเปิด toggle bar ครับ (แต่ถ้าสไลด์นิ้วลงมาในแอพอื่นๆ บางครั้งจะเป็นการเปิดเมนู)
ด้านล่างตัวเครื่องจะโล่งๆ ไม่มีอะไรนอกจากโลโก้ BlackBerry การสไลด์จากด้านล่างขึ้นไปจะเป็นการกลับไปยังหน้าหลัก และยังสามารถสไลด์นิ้วมาครึ่งทางเพื่อดู notification ได้อีกด้วย (จะขึ้นบริเวณขอบซ้าย)
อันนี้เป็นหน้า BlackBerry World บน Z10 ครับ สังเกตที่แถบด้านล่างจะเปลี่ยนไปตามการใช้งานของแต่ละแอพ แต่หลักๆ คือจะมีปุ่ม back อยู่ที่มุมซ้ายสุดเสมอๆ
พลิกมาดูรอบตัวเครื่อง ด้านขวามีปุ่มปรับเสียง ด้านซ้ายมีพอร์ต micro USB และ micro HDMI เรียงจากซ้ายไปขวาครับ
ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่มเปิดเครื่องตรงกลาง ข้างกันมีไมโครโฟน และพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ส่วนด้านล่างมีแง่งสำหรับแซะฝาหลังขึ้นมา
ฝาหลังของ Z10 ทำมาให้มีผิวสัมผัส เวลาจับจะรู้สึกกระชับแน่นมือ วิธีการเปิดฝาหลังใช้การแซะจากด้านล่าง ตรงฝาหลังนี่ปิดแน่นหนามาก แต่แกะไม่ยากครับ
เปิดฝาหลังไปจะเจอกับช่องเสียบซิมการ์ดขนาด micro SIM และช่องเสียบเมมโมรี่การ์ด micro SD ตรงฝาหลังสี่เหลี่ยมสีดำๆ นั่นคือ NFC ครับ
ผมลองเล่น Z10 ในงานก็ให้ความรู้สึกไม่ได้ต่างกับตอนจับ Dev Alpha B ในแง่ของความลื่นไหล และอินเทอร์เฟซ จุดต่างที่เห็นชัดเจนคือแอพใน BlackBerry World เพิ่มขึ้นมาเยอะพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นแอพดังๆ ก็ยังเปิดตัวไม่ครบอยู่ดี (โดยเฉพาะเกม)
คีย์หลักของ BB10 ก็ยังคงอยู่ที่ Hub สำหรับรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวกัน, BlackBerry Balance สำหรับปรับใช้งานส่วนตัว/องค์กร (ที่โดนชาวบ้านลอกกันถ้วนหน้า) และคีย์บอร์ดโยนคำที่ทำมาได้ดีทั้งไทย/อังกฤษครับ
จุดด้อยของ BB10 ตอนนี้กลับเป็นอินเทอร์เฟซที่การไม่มีปุ่มทำให้เกิดความลำบากในการปรับตัวใช้งาน (ครั้งแรกนี่งงทุกคน) ความไม่สม่ำเสมอในการใช้งาน อย่างการปัดลงในหน้าต่างๆ ที่ทำงานไม่เหมือนกัน หรือการปัดจากซ้ายมาขวาเพื่อกลับไปหน้าก่อนที่ใช้งานไม่ได้ทุกแอพ (บางแอพมีปุ่ม back มาด้วยอีก) และตัว BB10 เองก็ไม่ได้มีระบบสอนใช้มาให้เสียด้วย
ปิดท้ายกันที่ราคา เริ่มต้นที่ 20,900 บาท เตรียมวางขายพร้อมกับเครือข่ายหลักในไทยทั้ง AIS, dtac และ TrueMove ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ครับ
Comments
ผมว่าราคาแพงไปนิดครับ ถ้าอยู่ที่ 18k นี่ยังพอรับได้
ผมก็เคยลองเล่นดูแล้ว ตัวOSก็ดี ใช้ง่ายกว่าเก่า
ตอนแรกน่าสน เห็นราคาแล้ว เครื่องหิ้วดีกว่า
ราคายังไม่น่าเสี่ยงเท่าไหร่
20K -*- เอาไปขายใครอะครับ 555
ส่วนตัวเคยลองในงานtme ผมว่าอินเทอร์เฟส ค่อนข้างสับสนอ่ะครับ
ปัดไปปัดมา งงไปหมด
ผมก็ว่าแพงไปนิดหนี่งครับ
วิธีการปลุกเจ้า Z10 มีอยู่สองวิธี แบบแรกคือการกดปุ่มเปิดเครื่องที่อยู่ด้านบน
แล้ววิธีที่2 กดยังไงเหรอครับ
"แต่ถ้าสไลด์นิ้วจากด้านล่างขึ้นมาจะเป็นการข้ามหน้าล็อกสกรีนเข้าสู่หน้าหลักไปเลย"
ผมว่ามันใช้ง่ายกว่าแอนดรอยด์นะ มีแค่ปัดขึ้นเปิดจอ ปัดขึ้นแล้วหักไปทางขวาเพื่อเปิดดู BlackBerry Hub ที่เหลือก็แค่ปัดซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย เท่านั้น
บีบี10 มีระบบสอนการใช้งานมาให้นะครับ ตอน Activate เครื่องหรือจะเปิดดูจากแอพที่ชื่อว่า Setup ก็ได้
ราคาพอรับได้ วัสดุดี OSน่าเล่นดี แอพโดนๆยังน้อยไปนิด ถ้ามีแอพหลักๆ ดีๆ มากกว่านี้จะดีมากเลย
จุดขายคืออะไรฤๅ มีจุดไหนที่น่าสนใจกว่า iPhone, Android บ้างนิ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ล่าสุดที่ทีม BB เอามาให้ผมลองที่เชียงใหม่ WhatsApp ยังไม่สมบูรณ์นะ ส่วน Line ไม่เห็นแม้แต่เงา ครับ
รอ q10 อย่างเดียวตอนนี้ ใครมาข่าว ช่วยอัพเดทหน่อยนะคับ
วอทส์แอพ มีอยู่บน BlackBerry 10 นะครับ ก่อนหน้านี้ที่เห็นนั่นคือ การทำ Sideload แอพจากแอพแอนดรอยด์ ไม่ใช่เนทีฟแอพ ส่วนไลน์จะมาเร็วนี้ ในความเห็นผม ผมมองว่าน่าเล่นกว่า WP8 ครับ
น่าสนใจดีครับ แต่แพงไปนิด
วันนี้เพิ่งไปจับมาสด ๆ ร้อน ๆ (ขณะพิมพ์ยังอยู่ Siam Center อยู่เลย!) ตัวเครื่องแคบกว่า Lumia 920 เยอะ แต่ความยาวเท่ากัน ภาพที่ถ่ายมา Lumia 920 ให้สีที่ตรงกว่า โดยรวมถือว่าพอใช้ แต่ยังคงจะใช้ Lumia 920 ต่อไปครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger