Tags:
Node Thumbnail

ช่วงหลังๆ RIM หันมาจัดงานที่เกี่ยวกับนักพัฒนาในประเทศไทยอยู่หลายครั้ง เช่น งานแข่งพัฒนาแอพ BlackBerry JamHack 2012 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ และงานสัมมนาใหญ่ระดับเอเชีย BlackBerry Jam Asia ปลายเดือนพฤศจิกายน

ผมได้รับคำเชิญจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ RIM เข้าไปสังเกตการณ์งาน BlackBerry JamHack 2012 ที่โรงแรมดุสิตธานี และมีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารของ RIM ในเรื่องนี้ด้วยครับ

งาน BlackBerry JamHack ครั้งนี้จัดแข่งในเมืองสำคัญของเอเชีย 10 เมือง เพื่อหาผู้ชนะในแต่ละเมืองไปร่วมชิงชัยกันที่งาน BlackBerry Jam Asia ปลายปี โดยรูปแบบงานเป็นงาน hackathon นั่งพัฒนาโปรแกรมกันข้ามคืน 3 วัน 2 คืน โดยมีคนของ RIM ให้คำแนะนำ

สุดสัปดาห์นี้จัดแข่งกัน 5 เมืองพร้อมกันคือ กรุงเทพ โฮจิมินท์ซิตี้ จาการ์ตา เซี่ยงไฮ้ เมลเบิร์น ส่วนอีก 5 เมืองแข่งไปแล้วในสัปดาห์ก่อนคือ บังกาลอร์ เดลี กัวลาลัมเปอร์ มะนิลา สิงคโปร์

สำหรับงานที่เมืองไทย จัดงานโดย Apstrak Studio บริษัทพัฒนาแอพหน้าใหม่ที่รับทำแอพบนแพลตฟอร์ม BlackBerry ด้วย และ RIM ให้การสนับสนุนเรื่องข้อมูล-ทีมงาน-ของรางวัล

ตอนที่ผมไปชมงานเมื่อวานนี้ ผู้เข้าร่วมยังอยู่ระหว่างการพัฒนาแอพครับ (งานสิ้นสุดวันนี้ 21 ต.ค.) เท่าที่เดินชมแบบเร็วๆ แพลตฟอร์ม BB10 ค่อนข้างลื่นไหลเหมือนในวิดีโอตัวอย่าง และมีฟีเจอร์สำคัญคือข้อมูลโซเชียลจาก BBM สามารถแชร์ไปยังแอพอื่นๆ ได้เลย (เหมือนกับ Facebook Connect) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แพลตฟอร์มอื่นไม่มี (แต่สุดท้ายแล้วก็คงต้องมาดูกันว่าฐานลูกค้า BBM ในบ้านเรายังเหลืออยู่เยอะแค่ไหนด้วย)

alt="BlackBerry JamHack Bangkok"

ผู้บริหารของ RIM ที่ผมคุยด้วยคือคุณ Andrew Vardon ตำแหน่งเป็น Director of Alliance, Asia Pacific ของ RIM Singapore ครับ ข้อมูลที่จดมาแบบสรุปๆ มีดังนี้

ทำไมถึงมาจัดงานที่ประเทศไทย?

  • ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ RIM รองจากอินโดนีเซีย โดยอินโดนีเซียมีฐานผู้ใช้ BlackBerry มากถึง 10 ล้านราย ส่วนเมืองไทยมีราวๆ 1 ล้านราย
  • ปัจจุบัน RIM มีลูกค้าทั่วโลกเกิน 80 ล้านรายแล้ว และตัวเลขในตลาดเอเชียแปซิฟิกกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ
  • การเลือกจัดงานที่ประเทศไทยก็เพราะประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาค ปีที่แล้ว RIM อยากจัดงานที่กรุงเทพแต่เจอปัญหาน้ำท่วม เลยต้องหลบไปจัดที่สิงคโปร์แทน ปีนี้จึงมีสัญญาใจว่าต้องกลับมาจัดที่ประเทศไทยให้ได้

อะไรเป็นเหตุผลที่นักพัฒนาแอพในไทย ควรเลือกทำแอพบน BlackBerry

  • พฤติกรรมของลูกค้า App World จ่ายเงินเพื่อซื้อแอพมากกว่า จะเห็นว่าผู้ใช้ Android คุ้นกับการใช้แอพฟรีมากกว่าแอพเสียเงิน ซึ่งกรณีของ RIM นั้นกลับกัน
  • โครงการ $10K Developer Commitment ช่วยสนับสนุนรายได้ให้นักพัฒนาให้ครบ 10,000 ดอลลาร์
  • การพัฒนาแอพบน BB10 รองรับเทคโนโลยีหลากหลาย ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่เยอะ คนที่เคยทำ iOS มาก่อนสามารถใช้ Native Toolkit ได้, คนที่ทำบน Android สามารถพอร์ตแอพมาได้, นอกจากนี้ยังมี WebWorks และ AIR อีกด้วย

RIM กับประเทศไทย

  • BB10 จะรองรับภาษาไทยอย่างแน่นอน เพราะ RIM ทราบดีว่าการทำตลาดประเทศไทยต้องมีภาษาไทยเต็มรูปแบบ ซึ่งตอนนี้กำลังพัฒนาอยู่ (ยังไม่มีของมาโชว์นะครับ)
  • ตอนนี้ RIM ยังไม่มีสำนักงานในประเทศไทย โดยสำนักงานหลักของภูมิภาคอยู่ที่สิงคโปร์
  • RIM กำลังมองหาพนักงานมาร่วมงานด้านพัฒนาธุรกิจ (business development) และด้านความสัมพันธ์กับนักพัฒนา (developer relations) สำหรับตลาดประเทศไทย (แต่ทำงานในสิงคโปร์) ใครสนใจก็ไปสมัครงานกันได้
Get latest news from Blognone

Comments

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 21 October 2012 - 13:19 #494209
lingjaidee's picture

แต่ตอนนี้ Rim ชักจะอยู่ริมๆ ใจผู้ใช้ซะแล้วน่ะสิ ตรงกลางเป็น iOS & Android ซะหมด สู้ๆ เค้าเน้อ รอดูอยู่ ;D


my blog

By: IonRa
iPhone
on 21 October 2012 - 15:01 #494236

บรรยากาศน่าไปจัง

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 21 October 2012 - 15:03 #494238

รู้สึกดีมีคนให้ความสำคัญตลาดบ้านเรา ทำให้ดีๆ เร็วๆ หน่อย เผื่อจะกลับมาได้

By: thaitanatana
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 21 October 2012 - 17:57 #494277
thaitanatana's picture

อินโดนีเซียมีฐานผู้ใช้ BlackBerry 23:1 (ประชากรประมาณ 230 ล้านคน)

ประเทศไทยมีฐานผู้ใช้ BlackBerry 70:1 (ประชากรประมาณ 70 ล้านคน)

ปัจจุบัน RIM มีลูกค้าทั่วโลกเกิน 80 ล้านราย

อยู่อินโดนีเซีย 8:1, อยู่ประเทศไทย 80:1

"ย้ายมาทำตลาดในเอเชียให้แรงๆ เลยครับ ก่อนจะไม่มีที่ยืน ครับ!"

By: tontpong
Contributor
on 21 October 2012 - 20:59 #494302 Reply to:494277

+1 .. ช่างคิดแหะ ปกติทำอาชีพด้านนักวิเคราะห์รึป่าวนี่?

By: thaitanatana
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 21 October 2012 - 22:54 #494317 Reply to:494302
thaitanatana's picture

ผมเห็นตัวเลขสวยดี ครับ

ผมคิดว่า RIM ควรจัด Campus tour ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ แนะนำ BB10 Platform สร้างความคุ้นเคยให้
กับนักศึกษาปี 3-4 ที่ใกล้จบการศึกษา ผมว่าจะเป็นกำลังสำคัญต่อไปในอนาคตเลย ครับ (ถ้า RIM ยังยืนอยู่ได้นานพอ)

By: tontpong
Contributor
on 22 October 2012 - 03:10 #494373 Reply to:494317

คงต้องรอลุ้นว่า "งาน developer relations สำหรับตลาดประเทศไทย" ที่เค้ากำลังหาคนอยู่นี่ จะหาคนได้เมื่อไหร่ แล้วมีเส้นสายอยู่หนใดบ้าง.. แผนและงบแบบเชิงรุก รวมถึงการวาง life-cycle ของ ecosystem ถึงจะตามมา

แต่ถ้านั่งที่สิงคโปร์นี่น่าจะทำงานลำบากมั้ง จะเดินสายประสานงานยังไงหว่า คุ้นๆ ว่ามี sale office ในไทยแล้วนินา น่าจะมานั่งในไทยแทนน้า.. หรือไม่งั้นจะพึ่ง swpark หรือ sipa ก้อคงได้ แต่คงไม่สะดวกเท่านั่งในไทยอยู่ดี

ส่วนชะตาของ RIM นี่.. อย่างน้อยคงยังฟักตัวในตลาดองค์กรได้อยู่มั้ง คู่แข่งที่สูสีในตลาดนี้คงมีแค่ microsoft

By: thaitanatana
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 22 October 2012 - 15:04 #494564 Reply to:494373
thaitanatana's picture

+1 เห็นด้วยทุกอย่าง ต้องทำให้เร็ว แรง และตั้งใจมากๆ (Enterprise service ของ RIM ผมไม่เคยใช้ เลยไม่ทราบแนวทางจริงๆ ว่าข้อดี ข้อด้อยในตลาดองค์กรเป็นอย่างไร )

By: tontpong
Contributor
on 23 October 2012 - 01:10 #494842 Reply to:494564

ไม่ค่อยได้ตามตลาดองค์กรใกล้ชิดเหมือนกัน.. เข้าใจว่ากลุ่ม iOS กับ android ยังไม่มี solution แบบครบวงจรสำหรับให้องค์กรใช้จัดการ device ในกลุ่มนี้ แต่ของ RIM จับกลุ่มนี้มาแต่ไหนแต่ไรละ

ส่วนของ microsoft นี่ได้อานิสงส์จาก platform ใหม่ที่อิงกับ platform สาย windows อย่างใกล้ชิด.. ทำให้ใช้ได้กับ solution ที่มีๆ อยู่แล้วสำหรับสาย windows (จะว่าไปจะนับว่าคือ platform เดียวกันก้อได้ แต่มันก้อมีส่วนที่ต่างกันอยู่บ้าง เลยอาจถือว่าต่าง platform กัน แต่ก้อใกล้เคียงกันมาก)

By: folkeza
iPhoneWindows PhoneBlackberrySymbian
on 22 October 2012 - 00:27 #494354
folkeza's picture

เปิดตัวไวๆสิ เผื่อได้อุดหนุนกัน