Tags:
Node Thumbnail

Mark Zuckerberg เล่าชีวิตส่วนตัวในรายการ Morning Brew Daily (ตอนเดียวกับ ข่าวนี้ และ ข่าวนี้) หลังได้รับคำถามว่า เขามีสไตล์การบริหารบริษัทอย่างไร หลังเปิดบริษัท Facebook/Meta มานาน 20 ปีแล้ว (เริ่มก่อตั้งปี 2004)

Mark ตอบว่าในตอนแรกสุดนั้นเขาไม่ได้มีความตั้งใจเปิดบริษัทเลย เขาแค่ชอบสร้างสิ่งต่างๆ เท่านั้น (I like building stuffs) เขาไปเรียนมหาวิทยาลัยโดยตั้งเป้าว่าจบไปคงไปเป็นวิศวกรในไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม แม่ของเขาเคยดักคอเอาไว้ว่า เดี๋ยวลูกก็ไปเปิดบริษัท ซึ่งเขายืนกรานว่าไม่ทำแน่ๆ และแม่ของเขาก็เคยปรามาสว่าเขาต้องเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยแน่นอน

นอกจากนี้ น้องสาวของเขา Randy Zuckerberg ก็เคยท้าทายว่าเธอจะต้องเรียนจบมหาวิทยาลัยก่อนเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งแม่และน้องเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง เพราะสุดท้ายเขาต้องเปิดบริษัทเพื่อสเกล Facebook ให้ใหญ่ขึ้น ต้องรับเงินลงทุนจากภายนอก แปลว่าต้องมีโมเดลธุรกิจ มีรายได้ และโครงสร้างบริษัทที่ชัดเจน

No Description

Mark Zuckerberg โพสต์ภาพเมื่อ 20 ปีก่อน - @Zuck

Mark เล่าว่าเมื่อเขาเปิดบริษัทของตัวเองแล้ว ตอนแรกมันมั่วมาก เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการตั้งบริษัทมาก่อนเลย สุดท้ายเขาต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไปทีละขั้นด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเขาศึกษาจากการทำงานร่วมกับคนเก่งๆ โดยบุคคลสำคัญคือ Sheryl Sandberg อดีตซีโอโอของ Facebook (เพิ่งลงจากตำแหน่งบอร์ด Meta เมื่อเดือนที่แล้ว) ที่คุยกันเล่นๆ สนุกๆ ว่า Sheryl เหมือนเป็นหัวหน้างานของ Mark และเกือบเป็นผู้ปกครองด้วยซ้ำ (like as a parent almost)

เขาบอกว่า Facebook ในช่วงแรกๆ คือเด็กๆ กลุ่มหนึ่งพยายามทำอะไรบางอย่าง สร้างของที่คิดว่าเท่ และหาผู้บริหารมืออาชีพมาช่วยดูแลบริษัท แต่ตอนนี้เด็กๆ ทุกคนเติบโตกันหมดแล้ว คนที่อยู่มานานๆ อย่าง Chris Cox (Chief Product Officer) หรือ Andrew Bosworth (Reality Labs) อยู่กับบริษัทมานาน 18-19 ปี กลุ่มคนเหล่านี้ร่วมกันเรียนรู้ว่าควรบริหารบริษัทอย่างไร เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่ทำงานร่วมกันมานาน ผ่านประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกันมา ตัวของ Mark คิดว่าคนอื่นให้เครดิตเขามากเกินไปว่าสร้าง Facebook ขึ้นมาได้สำเร็จ แต่จริงๆ แล้วเกิดจากคนกลุ่มนี้เป็นสำคัญ

ส่วนสไตล์บริหาร Mark บอกว่าเขาไม่ได้เชื่อเรื่องการแจกจ่ายงาน (delegating) ตามหลักการบริหารธุรกิจมากนัก เขาคิดว่าการทำงานของผู้ก่อตั้งธุรกิจ ควรทำหน้าที่ตัดสินใจและยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในบริษัทให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ แต่ก็ต้องรู้ว่าลิมิตของตัวเองอยู่ตรงไหน และงานอะไรที่ไม่ถนัด ไปยุ่งแล้วจะสร้างภาระให้คนที่รับผิดชอบงานนั้นๆ

Get latest news from Blognone

Comments

By: pmakblognone on 21 February 2024 - 08:46 #1306256

"ต้องรู้ว่าลิมิตของตัวเองอยู่ตรงไหน และงานอะไรที่ไม่ถนัด ไปยุ่งแล้วจะสร้างภาระให้คนที่รับผิดชอบงานนั้นๆ"