Tags:
Node Thumbnail

ความคืบหน้าของโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทางประชาชาติธุรกิจอ้างแหล่งข่าวระบุว่ารัฐบาลกำลังหารือกับธนาคารกรุงไทยเพื่อใช้แอปเป๋าตังค์ในการแจกเงินดิจิทัลในโครงการนี้ โดยผู้รับเงินทอดแรกๆ จะไม่สามารถถอนเงินสดออกมาได้ แต่ต้องนำไปซื้อของต่อตามเงื่อนไขจึงนำเงินออกได้

นโยบาย 10,000 บาทดิจิทัลเป็นหนึ่งนโยบายในชุด Blockchain Hub แห่งอาเซียนของพรรคเพื่อไทย และถูกตั้งคำถามถึงความจำเป็นต่อการใช้งาน blockchain เรื่อยมา และพรรคเพื่อไทยเคยระบุว่าการร่วมโครงการนั้นผู้จ่ายเงินใช้เพียงบัตรประชาชนและ QR เท่านั้น จึงไม่ชัดเจนว่า blockchain จะอยู่ตรงไหนของโครงการนี้

ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ

Get latest news from Blognone

Comments

By: orchidkit on 6 September 2023 - 13:23 #1293174

เวทีการแถลงนโยบายดูไม่ค่อย "อนาคต" เลยแฮะ มันคุ้นๆ 55555555

By: ปาโมกข์
iPhoneAndroidWindows
on 6 September 2023 - 13:26 #1293175
ปาโมกข์'s picture

คำ "แหล่งข่าว" อีกแล้ว

By: whitebigbird
Contributor
on 6 September 2023 - 13:46 #1293178
whitebigbird's picture

ถ้าให้ใช้กับแอพพวกลาซาด้าช็อปปี้ได้ ผมจะหันกลับมาเลียเพื่อไทย

By: me.may.mine on 6 September 2023 - 14:02 #1293180 Reply to:1293178
me.may.mine's picture

ถ้าเป็นร้านที่จดทะเบียนการค้าผมโอเคนะ แต่ถ้าเป็นพวก
รับสินค้าจีนมาขายไม่ผ่าน อย. มอก. หรือร้านที่ขายของ
ไม่ตรงปกแบบนี้ไม่โอเค

By: whitebigbird
Contributor
on 6 September 2023 - 14:28 #1293182 Reply to:1293180
whitebigbird's picture

ถ้าอยากให้เม็ดเงินมันสะพัด มันต้องมีข้อละเว้นบ้าง "ย้ำว่าบ้าง" ไม่ใช่ละมันทุกอย่าง หรือเข้มงวดทุกอย่าง ตั้งบาร์อย่างสูงจนกลายเป็นเงินไปเข้าธุรกิจขนาดใหญ่หมดครับ

ได้มาหมื่นนึง ซื้อข้าวหน้าเป็ดข้างทางไม่ได้เพราะไม่มีอย. ซื้อของจากร้านคนไทยตามหมู่บ้านที่นำเข้าจากจีน ไม่มีมอก.ไม่ได้ แบบนี้ก็สบายร้านสะดวกซื้อ หรือห้างค้าปลีก ค้าส่งเลยครับ

By: windyouhh
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 6 September 2023 - 16:30 #1293199 Reply to:1293182

มันก็ต้องหาวิธีอะครับ ว่าจะทำยังให้เข้าพวกตัวใหญ่น้อยสุด
เพราะทางนั้นก็ต้องการเอาเงินบางส่วนกลับคืนมา แต่คืนมาในรูปรายได้จาก VAT และภาษีเงินได้นิติบุคคล
ซึ่งทางนั้นประเมิณไว้ว่าจะมีเงินคืนกลับมา 10-20% (น่าจะราวนี้ๆ ถ้าจำไม่ผิด)
ถ้าปล่อยให้ฟรี เงินรัฐจะก็จะหายไปไม่มีคืนกลับมาในระบบ

ซึ่งผมเองก็ไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยฟรี

By: chieffy on 7 September 2023 - 14:02 #1293321 Reply to:1293182

การซื้อขายสินค้าจากต่างประเทศหรือร้านแบบชอบปี้ลาซาดาถือว่าเป็นการใช้เงินอัดฉีดเศรษฐกิจที่ล้มเหลวอย่างที่สุดครับ เดิมที่แค่การแจกเงินก็ถือว่าเป็นการจ่ายที่ด้อยกว่าวิธีอื่นอยู่แล้ว เพราะไม่ได้มีการผลิตจริงเกิดขึ้น ยิ่งการจ่ายตรงทีเดียวไปซื้อแบบนี้คือไม่มีผลต่อระบบใดๆทั้งสิ้น ต่อให้คุณจะซื้อสินค้านั้นมาขายก็ตาม ดังนั้นการจำกัดซื้อขายบางอย่างยังต้องมีเอาไว้เพื่อให้เงินหมุนในส่วนบุคคลหรือชุมชนมากที่สุด

ส่วนการซื้อขายร้านคนไทยที่ขายของนำเข้าแม้จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรเพราะต้องนำเงินไปนำเข้าของเพิ่ม แต่ในจำนวนนั้นก็ยังมีกำไรและภาษีที่เกิดขึ้นและนำมาใช้เป็นทอดๆในระบบ

มีข้อขัดแย้งใดๆศึกษาเพิ่มเติมได้จากเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นระดับมหาลัย ในส่วนของเศรษฐกิจมหภาคนะครับ เน้นส่วนของตัวทวีคูน

By: whitebigbird
Contributor
on 7 September 2023 - 17:52 #1293349 Reply to:1293321
whitebigbird's picture

เรื่องที่ว่าใช้เงินดิจิตอลซื้อร้านช็อปปี้ลาซาด้าคือการอุดหนุนเศรษฐีอันนี้เห็นด้วยครับ ซึ่งผมก็รู้แต่แรกอยู่แล้ว

แต่ผมอยากได้อ่ะ ถึงบอกว่าถ้าทำได้จะหันกลับมาเลียเพื่อไทย เพราะถ้าทำจริงคนด่าแน่

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 6 September 2023 - 13:52 #1293179

คงกำลังโยนหินถามทาง

เดาว่าเงื่อนไขการถอนเงินต้องมีการหมุนต่อของtoken(เงิน)ขั้นต่ำ xx ต่อและมีระยะเวลา 6 เดือนถึงจะถอนได้

ต้องทำให้ ecology ครบถ้วนไม่งั้นร้านเล็กสายป่านสั้นตายเพราะขายของได้แต่นำไปซื้อวัตถุดิบไม่ได้เพราะไม่มีเงินสำรอง แต่ถ้าทำให้เจ้าใหญ่รับได้(อาจจะกำหนดโควต้าหรือต้องเป็นร้าน tier2 ห้ามคนทั่วไปซื้อตรง) เงินหมุนกันมันแน่

ป.ล.เห็นในข่าวอื่นๆกลัวเงินประชานิยมบลาๆ แต่นโยบายเด่นๆของพรรคอื่นเช่นให้เงินคนแก่เดือนละสามพัน นี่แค่สองปีก็ใช้งบมากกว่านโยบายdigital walletแล้วนะ

By: GodPapa
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 7 September 2023 - 07:30 #1293262 Reply to:1293179
GodPapa's picture

เงินคนแก่เขาไม่เอามาใช้จ่ายรึครับ หรือคิดว่าเขาจะสะสมไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน

By: chieffy on 7 September 2023 - 14:28 #1293327 Reply to:1293179

การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นการอัดฉีดเงินในระบบส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจเสมอ ปกติแล้วเงินโอนจากรัฐหรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าการแจกจะมีผลน้อยกว่ารูปแบบอื่นเสมอ แต่การจะทำให้เงินนั้นมีประสิทธิภาพยังไงอยู่ที่การกำกับดูแล และการใช้ของประชาชน ตัวอย่างเงิน 3000 สำหรับมุมประชาชนอาจเป็นการแจกเหมือน 10000 แต่สำหรับคนทำนโยบายสามารถทำให้เป็นเงินลงทุนได้ เพราะเงินนี้หากควบคุมการใช้จ่ายให้ถูกต้องทั้งเป้าหมายและการใช้ เป็นการลงทุนให้กับคนในครอบครัวมีเงินเพิ่มขึ้นทดแทนเกือบอาทิตย์จากเดิมที่ต้องออกไปทำงานหาเงินเพิ่มเพื่อให้เกิดรายได้ในการดูแลรักษาผู้สูงอายุ ลดภาระลงมีเวลาให้กับคนสำคัญมากขึ้น แม้การหารายได้เสริมจะหยุดไปแต่ก็เปิดช่องว่างให้คนที่ต้องการงานเข้าไปแทนและสร้างรายได้จุดนี้จะเกิดการผลิตเกิดการสร้างงานขึ้นมา ส่วนการใช้จ่ายให้ถูกที่ก็อาจจะมีการให้ความสะดวกในการจ่ายสินค้าผู้สูงอายุ ยา หรืออาหารได้ง่ายกว่า นอกจากนี้รายได้สามารถเกิดจากการบริหารงบประมาณที่วางเอาไว้เพื่อหนุนเรื่องนี้

อาจจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามีการศึกษามาในสาขาของมันควาทเป็นไปได้สูงมาก ผมเองสามารถใช้การจัดการด้านการเงินบริหารเงินในระดับที่หยุดการขาดทุนของกิจการและผ่านโควิทมาได้โดยไม่ได้กู้เงินที่ไหนเลย มีเงินทุนแค่เงินสดหมุนเวียนไม่ถึง 50000 ด้วยซ้ำ เอาแค่การแก้ปัญหาเรื่องเงินทอนงบก็เท่าไรคนทำงานราบการรู้ดี แองค์กรไม่ทุจริตก็ยังทำ คืนงบมันยุ่งยากแถมปีหน้าโดนลดลงบเพราะใช้ไม่ถึงด้วย ส่วนใหญ่เลยไปซื้อของมาเก็บไว้จนกลายเป็นขยะ

แต่ไอ้การสร้างเงินขึ้นมาแบบนโยบายนี้ ที่อ้างว่าไม่ใช้เงินงบแค่นั้นก็เจอปัญหาหลักระดับโลกแล้ว เรื่องการยอมรับในเงินนี้ สำหรับคนนอกมันคือการที่เราพิมพ์เงินมาใช้เอง (อธิบาายสาเหตุมันจะยาวไป)

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 September 2023 - 16:20 #1293340 Reply to:1293327

ตอบรวมๆสองท่านนะครับ 3000 มันภาระงบประมาณระยะยาวครับ

ประชากรที่อายุเกิน 60 ทุกวันนี้มี 13ล้านคน(ตัวเลขปีก่อน) มีข้าราชการบำนาญราวๆ 6แสนคน(ตัวเลขเก่า) ปัดให้กลมๆ หักไปล้านนึงเหลือ 12ล้านคนแจกคนละสามพัน ก็เดือนละ 3.6หมื่นล้าน ปีนึงก็4.32 แสนล้านแล้ว แถมสถิติน่าจะต้องจ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เถียงเรื่องรัฐสวัสดิการควรมี แต่การเติมเงินทีละน้อยๆมันเหมือนประทังชีวิตครับ แค่พอประทังแต่มันไม่ได้บูสเศรษฐกิจเท่าที่ควร แถมคนสูงอายุค่าใช้จ่ายก็มักจะไม่ได้เข้าระบบ ไม่ส่งเสริมเศรษฐกิจมหภาคไม่ต่างจากสมัยคนละครึ่ง ไม่ได้ขยับGDP เลย (แต่ตอนนั้นมันช่วยเรื่องโควิท ก็คนละเรื่องกับปัจจุบัน)

ผมแค่ทักว่า ถ้าคนกลัวว่างบกระตุ้นเศรษฐกิจห้าแสนล้านใช้ครั้งเดียวในสี่ปีเยอะเว่อ โครงการจ่ายคนสูงอายุสามพันใช้งบมหาศาลและระยะยาวมากกว่าเยอะเท่านั้นแหละ ถ้าบอกเงินห้าแสนล้านนี้เป็นไปไม่ได้ งบสามพันบาทคนแก่ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ยิ่งกว่าซะอีก

By: ninja741 on 6 September 2023 - 14:22 #1293181

blockchain มันเป็นแค่ข้ออ้าง เค้าไม่ได้อยาก develop จริงๆ

แต่.. ปัญหามันมาจาก เพื่อไทยไม่มีเงิน 5แสนล้าน เอาไปใส่ app เป๋าตังค์ให้ไปใช้กันจริงๆ (update ตอนนี้ไปกู้รัฐวิสาหกิจมาแทน)

เลยใช้ blockchain เป็นเหยื่อเพื่อที่จะ generate คูปองศูนย์อาหารมาแจก(ทางทฤษฏีจะแจกซัก ล้านๆก็ได้เพราะมันสร้างมาจากอากาศ)

แล้วค่อยมาเงินมาคืนตอนที่ แต่ละร้านเอาคูปองมาแลกเป็นเงิน(หวังว่าจะหัก vat , ภาษี bla..bla..bla ได้ เหมือนมาแลกคืน 100 จ่ายคืนแค่ 90 หลังหักนู้นนี่)

By: chieffy on 7 September 2023 - 14:34 #1293328 Reply to:1293181

อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นก็จะแนวๆนี้
กู้ = ดอก = ผลตอบแทนกิจการ = ปันผลผู้ถือหุ้น

ใครบอกว่าไม่มีปัญหานี้หรือตอบแนวว่านี่รัฐวิสาหกิจนะทำเพื่อประชาชนสิ อยากบอกว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมาขนาดการไฟฟ้าไม่ได้ถูกขายหุ้นยังเป็นเครื่องมือนายทุนได้ รัฐวิสาหกิจอื่นที่ขายหุ้นไปแล้วบอกเลยว่าไม่มีทาง

By: rattananen
AndroidWindows
on 6 September 2023 - 14:32 #1293183

"แจก" ก็เอา แต่อยากเห็นความ "เปลี่ยนแปลง" มากกว่า
แค่แจกใครๆ ก็ทำได้

By: wegang
ContributorAndroid
on 6 September 2023 - 14:39 #1293185
wegang's picture

สูงสุดสู่สามัญ สุดท้ายก็กลับมาที่เดิม (แต่ก็ดีแล้ว ประหยัดเงินค่าพัฒนาแอพใหม่)

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 6 September 2023 - 14:41 #1293186

จะให้มัน blockchain ยังไง? ไปจ้างเด็กน้อยทำเว็บลง xampp แล้วรันระบบไรงี้เหรอ

By: schanon
Android
on 6 September 2023 - 14:53 #1293188
schanon's picture

มองแบบไม่สนการเมืองนะ นโยบายมันยังขาดรายละเอียดที่สำคัญอีกมาก ประเด็นและข้อกังขาใหญ่ ๆ ยังคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น 1-ซื้อของที่ไหนได้บ้าง 2-เงินจะมาจากไหน 3-4 กม. กลางกรุงเทพ vs อมก๋อย จะยังไงต่อ 4-ขึ้นเงินได้ตอนไหน

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 6 September 2023 - 15:01 #1293190 Reply to:1293188

คำถามพวกนี้มีคนถามตั้งแต่ตอนหาเสียงแล้ว ก็มีคำตอบคร่าวๆมาแล้ว

ถ้าจำไม่ผิดเรื่องระยะทาง จะพิจารณาตามสภาพภูมิศาสตร์จริงอีกที เช่นอ.รอบนอกก็คงขยายสิทธิ์ทั้งอำเภออะไรแบบนี้ เรื่องซื้อที่ไหนได้บ้าง คือร้านค้าต้องเข้าระบบภาษีจดทะเบียนการค้าถึงจะลงทะเบียนรับโอนได้ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็รับหรือขายของด้วยเงินนี้ได้(บังคับให้เข้าระบบในตัว) ขึ้นเงินได้ตอนไหนตอนนั้นเหมือนตอบคร่าวๆว่า 6เดือนหลังเริ่มโครงการ(อันนี้ไม่แน่ใจ) โดยเน้นให้มีการหมุนของเงินในระบบแอพก่อน เช่นขายของได้ ก็เอาเงินนี้ไปซื้อวัตถุดิบจากร้านส่ง ฯลฯ จนสุดท้ายค่อยมาขึ้นเงินได้ก็เป็นเทคนิคชะลอการหางบมาจ่ายนั่นแหละ และบังคับให้เงินหมุนเวียนในตัว

ไม่มีอ้างอิงนะแต่จำจากข่าวตอนนั้น แต่จริงๆแนวคิดคือเหมือนให้คูปองไปหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจในระบบนั่นแหละ ไม่ว่าผ่านระบบอะไรก็ตาม แต่ความยากคือตอนขึ้นเงินจะมีเงื่อนไขอะไรแค่ไหน เช่นอาจจะให้เครดิตภาษี หรือต้องบังคับการหมุนไม่ต่ำกว่ากี่ขั้น(เพื่อให้รัฐมีรายได้จากvatหลายต่อ) ที่แน่ๆ จะขายของแล้วดองเงินเฉยๆ6 เดือนร้านเล็กๆคงทำไม่ได้ ต้องหมุนเงินต่อด้วยการไปซื้ออย่างอื่นจากร้านที่รับ

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 6 September 2023 - 15:08 #1293192 Reply to:1293190

ผมมีคำถามอย่างนึง
ถ้าผมไปซื้อดอกไม้ในตลาดแถวบ้าน (<4km)
แต่แม่ค้าต้องไปซื้อของที่ปากคลองตลาด (>4km)
แล้วพ่อค้าส่งที่ได้เงินตรงนี้ไปเขาจะไปซื้อข้าวกิน (<4km)
ผมว่าเรื่องข้อจำกัดระยะทางมันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะนะ
สู้ไปกำหนดว่า ห้ามห้างใหญ่รับ น่าจะง่ายกว่า

แต่ก็อีกล่ะ แม่ค้าซื้อหมูแมคโครมาขายจะทำยังไง

หรือจริงๆ ก็กำหนดรอบการหมุน ก่อนเอามาขึ้นเงินได้ พวกห้างใหญ่ก็จะต้องหมุนเงินออกมาโดยปริยาย

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 6 September 2023 - 15:15 #1293193 Reply to:1293192

ถ้าดูย้อนไปถึงจุดประสงค์แรกโดยตัดเรื่องการเมือง คือเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เลยกำหนดระยะทางในการใช้งานมาแต่แรก แต่ก็จะเกิดช่องโหว่ถ้าชุมชนนั้นไม่มีร้านส่งหรือตัวแทนขายจริงๆนั่นแหละ ซึ่งถ้าเป็นเมืองใหญ่หรือกทม.จะไม่มีปัญหามีร้านส่งแทบทุกหัวถนนอยู่แล้ว แต่พอเป็นอ.เล็กๆอาจต้องกำหนดระยะทางระดับอำเภอเลย

ส่วนถ้าปกติร้านข้ามจังหวัดหรือไปซื้อจากแหล่งใหญ่ไกลๆ ก็อาจใช้ประโยชน์จากเงินนี้ไม่ได้ แต่ถ้ามองย้อนว่าเป้าหลักคือให้เงินสะพัดในชุมชนก่อน แม้ต้นทุนอาจจะเพิ่ม(เพราะร้านส่งใกล้บ้านขายแพงกว่าเจ้าใหญ่)แต่ได้ยอดขายมหาศาลจากเงินส่วนนี้ชดเชยก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้

จริงๆผมว่าช่วงแรกนี่จดทะเบียนร้านหรือกิจการขนาดเล็กเพื่อมาเน้นรับรายได้ตรงนี้ ก็จะเกิดอาชีพใหม่ๆเพียบเลย รวมถึงคนหาทางแก้ช่องโหว่(แบบคคห.ล่างที่มีคนรับโอนข้ามเขตติดกันเป็นทอดๆ)แต่ก็ต้องบริหารภาษีดีๆ เพราะจะต้องนับเป็นรายได้การขายทั้งหมด

อย่าลืม ชุมชนคุณมีกี่คน เพิ่มกำลังซื้อคูณเงินหมื่นเข้าไปมันกระตุ้นงานมหาศาล ยิ่งกว่าสมัยmiyazawa อีก

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 6 September 2023 - 15:39 #1293196 Reply to:1293193
hisoft's picture

แต่ก็จะเกิดช่องโหว่ถ้าชุมชนนั้นไม่มีร้านส่งหรือตัวแทนขายจริงๆนั่นแหละ

แต่ถ้ามี ก็จะไปติดประเด็นที่ร้านส่งหรือตัวแทนขายนั่นว่าแล้วรับมาแล้วจะไปใช้ยังไงต่ออีกที

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 6 September 2023 - 17:08 #1293205 Reply to:1293196

ก็คงต้องผันเงินไปใช้จ่ายอื่นๆในชุมชนครับ เชื่อว่าแม้แต่ร้านส่งก็ต้องมีการใช้จ่ายในพื้นที่ (จริงๆพวกค่าจ้างแรงงาน ก็สงสัยว่าจะมีช่องทางให้ใช้ได้ไหม หรือต้องออกแบบยังไงเพื่อป้องกันการโกง ไม่งั้นผมรับจ้างน้องๆญาติๆผมทำงานส่วนตัวเลยง่ายดี? ถ้าให้เสียภาษีเงินได้ก็ไม่ยากนะ)

ไม่งั้นก็คงต้องรอให้ครบเวลาแล้วไปแลกเงินอีกที ก็เป็นทางเลือกว่าจะรีบใช้(ในชุมชน)หรือว่าจะรอไปเคลมกับภาครัฐ

สุดท้ายก็ต้องรอฟังเงื่อนไขจริงๆครับ

By: chieffy on 7 September 2023 - 14:38 #1293333 Reply to:1293190

สงสัยอย่าง หลังแจกแล้ว จำได้ว่า โครงการมีอายุราวๆ 6 เดือน จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินที่ไม่ได้เกิดการใช้หรือแลกเปลี่ยนออกไป

By: Sephanov
iPhoneUbuntu
on 6 September 2023 - 15:03 #1293191
Sephanov's picture

จากข้อจำกัด 4km อาจจะเกิดอาชีพใหม่ รับโอนเงินเป็นทอดๆจนถึงปลายทาง

By: Fzo
ContributorAndroid
on 6 September 2023 - 15:21 #1293194
Fzo's picture

blockchain #เพื่อการโฆษณาเท่านั้น (อีกครั้ง?)


WE ARE THE 99%

By: bankbook555
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 6 September 2023 - 18:33 #1293218 Reply to:1293194

เขาฝืนจะทำก็มีคนบ่น
เปลี่ยนใจไม่ทำก็มีคนบ่น
เอาใจยากแท้

By: GodPapa
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 6 September 2023 - 16:57 #1293204
GodPapa's picture

หลายทอด?
ถ้าจ่ายให้ แมคโคร แล้วทางบริษัทจะใช้ยังไง ให้ผู้จัดการเอาโทรศัพท์บริษัทไปแสกนจ่ายรึเปล่า
พอเข้าบริษัทใหญ่ๆ แล้วจ่ายออกลำบาก ไม่ใช้ก็กลายเป็นขายเงินเชื่อระยะยาวหลายเดือนอีก

By: kentaonline
iPhoneWindows PhoneBlackberry
on 6 September 2023 - 17:11 #1293207

พึ่งได้ยินข่าว เรื่อง "หลายทอดก่อนจะเบิกถอนเงินสดได้"

สมมุติถ้าเป็นสินค้าหรือบริการที่มันต้องเสียภาษี 7% หรือ มีนโยบายหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายนี่
ถ้าเก็บไป 10 ทอด ปลายทางจะเหลือกี่บาทเชียว...

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 6 September 2023 - 18:05 #1293213 Reply to:1293207
hisoft's picture

ถ้าเก็บไป 10 ทอด ปลายทางจะเหลือกี่บาทเชียว...

นั่นคือจุดประสงค์ของเงินอัดฉีดอยู่แล้วนี่ครับ เราคาดหวังแบบนั้นกันมาเสมออยู่แล้ว 😅

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 6 September 2023 - 18:13 #1293215 Reply to:1293207

ผมฟังสัมภาษณ์แต่แรก เขาคาดหวังvat 7ครั้งนะครับ แล้วชูว่าจริงๆแล้วใช้เงินไม่ถึงห้าแสนล้าน เพราะได้คืนเป็น vatมาเยอะ

ซึ่งถ้าคนทั่วไปอยู่ในระบบอยู่แล้วก็ไม่น่าต้องกังวลอะไร แต่กลัวจะเหมือนสมัยคนละครึ่ง ที่ร้านค้าเจอสอบภาษีแล้วโวยวายกันเพราะหนีภาษีกันมานานมากกว่า

แต่เงื่อนไขต่างๆก็คงต้องรอดูของจริง

By: Tasksenger on 6 September 2023 - 19:53 #1293227 Reply to:1293207

นั่นแหล่ะที่เขาต้องการ เขาจะเน้นให้ใช้จ่ายกับธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกันเพื่อให้รัฐสามารถเก็บภาษี Vat คืนกลับมาได้หลายต่อ เรื่องของเศรษฐศาสตร์มหภาค เราไม่สามารถเอาเศรษฐศาสตร์ทั่วไปไปกำหนดเงื่อนไขได้ เพราะมันไม่ได้ตรงไปตรงมา หน้าที่รัฐคือกระตุ้น แล้วเก็บคืนไม่ใช่จากผู้รับเงิน แต่จากเอกชนที่ขายสินค้า และ Supplier ของเขา ในรูปแบบของ Vat และภาษีอื่นๆ เหมือนให้เอกชนช่วยเก็บภาษีให้นั่นแหล่ะ ถ้าสินค้าตัวนั้นมีห่วงโซ่อุปทานยาว รัฐก็จะยิ่งได้คืนเยอะในรูปแบบภาษีแบบต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในไทยที่ทำได้แล้วไม่ค่อยมีปัญหาเวลาแจกเงินเพราะไทยมีผู้ผลิตสินค้า และผู้ผลิตวัสดุในห่วงโซ่อยู่ในประเทศซะเป็นส่วนใหญ่ มันทำให้เก็บ Vat ได้หลายต่อ แต่ประเทศที่นำเข้าสินค้าเยอะๆ แบบเพื่อนบ้านทำอย่างนี้ยากเพราะห่วงโซ่อุปทานอยู่ต่างประเทศ

ถ้าให้ผมเดาเขาคงเน้นยิงไปที่ภาคท่องเที่ยว สินค้าอุปโภคบริโภคตามห้างค้าปลีก convenience store และผู้ค้าที่อยู่ในระบบภาษี นั่นแหล่ะ เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่ห่วงโซ่อยู่ในไทยทั้งหมด

By: suriyan2538 on 6 September 2023 - 18:32 #1293217
suriyan2538's picture

อ่านคอมเม้นต์ในนี้แล้วประเทืองปัญญาดีครับ

ไม่เหมือนในเฟซ อันนั้นเน้นแซะอย่างเดียว

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 6 September 2023 - 22:04 #1293242
TeamKiller's picture

ที่อยู่บ้านอยู่เชียงใหม่ แต่ทำงานกรุงเทพ ต้องบินกลับไปซื้อของในรัศมี 4 กิโลเปล่านะ

By: bankbook555
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 7 September 2023 - 00:18 #1293254 Reply to:1293242

ประโยชน์อีกอย่างนึงของโครงการ
ส่งเสริมให้ย้ายทะเบียนบ้านตามมาที่ที่อยู่ปัจจุบัน

ทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องทะเบียนบ้านไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบัน ส่งผลให้การจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะสามารถสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลเจาะพื้นที่ต่างๆได้โดยดูจากฐานข้อมูลประชากร ก็กลายเป็นใช้ไม่ได้

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 7 September 2023 - 13:20 #1293311 Reply to:1293254
TeamKiller's picture

ถ้างั้นกรุงเทพคงพอละครับ หนาแน่นเกินไปแล้วเปล่า แต่บางเขตแบบเขต Office กลางวันแน่น กลางคืนโล่งอีก

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 September 2023 - 16:22 #1293341 Reply to:1293311

จริงๆก็ควรจะย้ายทะเบียนบ้านตามจริงครับ เพราะการจัดเก็บภาษีเงินได้ เขายึดตามทะเบียนบ้านที่สังกัด

ผมมาWFHตจว.ก็เกรงใจเทศบาลแถวบ้าน เพราะภาษีจ่ายให้เขตในกทม.ทั้งๆที่สามปีมานี้อยู่กทม.ไม่ถึง1เดือนเลยครับ

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 7 September 2023 - 21:16 #1293356 Reply to:1293341
TeamKiller's picture

ย้ายเข้าหอพัก ห้องเช่า กัน คงวุ่นวายกันน่าดูเลยนะครับ