ความเหมือน AirPods ของ OnePlus Buds ไม่ได้จบแค่การล้อเลียนเฉย ๆ แล้วเมื่อศุลกากรของสหรัฐที่สนามบิน JFK แถลงยึด OnePlus Buds จากฮ่องกงว่า 20,000 ชิ้น เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็น AirPods ปลอม
ศุลกากรสหรัฐแถลงบนหน้าเว็บไซต์ว่า "CBP at JFK Seizes Counterfeit Apple Airpod Earbuds" คิดเป็นมูลค่า (AirPods) กว่า 400,000 เหรียญ พร้อมโชว์รูปกล่อง OnePlus Buds ที่มีชื่อสินค้าและโลโก้ OnePlus ชัดเจน โดยศุลกากรระบุในแถลงด้วยว่า การยึดของปลอมครั้งนี้ เป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ศุลกากร
ขณะที่ทวิตเตอร์ OnePlus USA ทวีตตอบข่าวนี้ด้วยว่าให้คืนสินค้าเหล่านี้มา
ที่มา - U.S. Customs and Border Protection via TechCrunch
Hey, give those back! ?
— OnePlus USA (@OnePlus_USA) September 14, 2020
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
อย่างปั่น
โอเคมันเหมือนแบบพาให้คิดว่าตั้งใจลอกจริงๆ แต่มันไม่ได้เหมือนเป๊ะสักหน่อย กล่องก็ยี่ห้อชัดเจน ปล่อยไก่ตัวบะเร่อ
แหม่ๆ
อันนี้แซวผมป่ะครับ พิมพ์อะไรผิดป่าวหว่า
โคดฮา
อย่างจี้ แล้วดูเขาตอบกัน ฮ่าๆ รอดูอีกฝ่ายเลยเนี้ย
ยี่ห้อจีนที่ขายๆ กันในบ้านเรางี้ก็นำเข้า usa ไม่ได้หมดเลยปะเนี่ย หน้าตาแต่ละยี่ห้อหลังๆ เดินตาม Apple กันหมดเลย
ลักลอบเข้าเอาครับ
เห็นใน amazon หน้าตาคล้ายกว่าทำไมไม่โดน
ไม่ได้ก๊อป
เดี๊ยวนี้เขาเรียก การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากappleเต็มๆ....(ลอกหนะแหล่ะมแต่คำดูดีหน่อย)
อันนี้คือเข้าใจผิดว่าเป็นของลอก หรือรู้อยู่แล้วว่าเป็นของแบรนด์ไหน แต่ตีความว่าเป็นของลอกแอปเปิลครับ?
นอกเรื่องหน่อย
มีใครรู้สึกว่าหูฟัง true wireless bluetooth headset ทั้งหลายมันสะดวกน้อยกว่าหูฟัง bluetooth ทั่วไปบ้าง เพราะที่ผมเจอตอนนี้คือหูสองข้างแบตฯ เสื่อมไม่เท่ากัน การเชื่อมต่อที่บางทีหลุดข้างเดียว (แถมเป็นบ่อยกว่าแบบทั่วไป) ระยะเวลาฟังของแต่ละครั้งก็สั้นกว่าหูฟังทั่วไป แถมเวลาจะเลิกฟังก็ต้องเก็บเข้ากล่องครับ
เข้ามายกมือครับ เคยลองใช้อยู่หลายยี่ห้อ สุดท้ายขายทิ้งมาใช้ bluetooth มีสายเหมือนเดิม ไม่ฟังก็คล้องคอไว้ก่อน ไม่ต้องเก็บ
Airpods เจนแรกผมอยู่ได้เกืบสองปีแบตข้างซ้ายไปแล้วครับตอนนี้เลยไม่ได้ใช้เลยเพราะใช้ข้างเดียวแล้วแปลกๆ
ที่สำคัญกว่าคือพวกนี้ราคาอย่างแพง แถมเจ๊งทีก็แทบทิ้ง ไม่กล้าใช้เลย
ก็ไม่นะ ให้ความรู้สึกว่าสะดวกกว่ามาก
Expect อายุการใช้งาน 2 ปี ได้มากกว่านี้ ถือว่าได้กำไรแบบไม่คาดคิด
โดยยึดอายุจากตัวที่เสื่อมเร็วกว่า
ครบ 2 ปี Batt เสื่อม ก็โยนทิ้งซื้อใหม่
เมื่อก่อนเคยคิดแบบนี้ครับ
พอซื้อ Airpods Pro มาใช้ตอน 8.8 ก็ไม่เคยกลับไปใช้แบบสายอีกเลย (ของเดิมใช้ Bose QC30) มันสะดวกกว่าเยอะ สะบายกว่าเยอะด้วย แล้วไหนๆซื้อตอนลดก็เลยเพิ่ม AppleCare+ เข้าไปอีก 1200 บาทเผื่อแบตเสื่อมไปด้วยเลย
ผมว่าก็สะดวกดี คล่องตัว เบา เสียงก็ตามสไตล์ Apple เค้า แบนๆ โปร่งๆ แต่ก็ฟังได้นาน ไม่ล้าหูมาก ได้ฟีเจอร์กับการเชื่อมต่อที่สะดวกแล้วก็ไม่ค่อยหลุด ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ครับ
ผมชอบนะ สะดวกกว่าแบบเดิม ผมซื้อพวกแบรนด์ลูก Xiaomi มาใช้ ราคาไม่กี่ร้อย มีความสุขในการใช้มาก
ดีกว่าที่คาดไว้ ถ้าเสียมาก็ไม่เสียดายเพราะใช้คุ้มเกินราตาแล้ว
สำหรับผม หูฟังที่พาดคอไม่ได้ = ไม่เวิร์คครับ ที่จริงก็มีคนคิดเหมือนกันแล้วก็ทำสายคล้องคอขายอยู่เหมือนกันครับ
ผมก็คล้ายๆ กันครับ พอดีไม่ชอบ In-ear ด้วย เลยตามหาหูฟัง bluetooth เพื่อมาใช้โทรเข้าออกเวลามือไม่ว่าง มือถือใหม่ดันไม่มีรูหูฟังไม่อยากพก Adaptor แยกหรือพกหูฟังสองอัน เลยตามหาแบบมีรุ่นมีสายคล้องหากันจริงอยากได้ที่มีแม่เหล็กเกี่ยวเชื่อมหากัน กันหล่นอีกทีด้วยแต่ไม่มีตามที่อยากได้ เลยจบมีสายคล้อง ไม่ in-ear ไม่แพงมา เลิกใช้ก็ห้อยคอไว้ไม่ต้องเก็บลงกล่อง สะดวกดี
ผมก็ไม่ชอบ In-ear เพราะเป็นคนขี้หูเปียก(มาก) ต้องแคะหูทุกวัน ถ้าไม่ได้แคะซัก 2 วัน แล้วใช้ In-ear นะ หืมมมมมมมมม บอกเลยว่าเหมือนหูฟังตกใส่ไชเท้าขูดผัดเนย แล้วถ้าไม่ได้แคะซักอาทิตย์นึงนะ ถึงกับไหลออกมาเลย
อย่าลืมเหยาะน้ำมันทรัฟเฟิลด้วยนะครับ เพิ่มความหอม ถถถถ
จากโจทย์ที่บอก Urbanista Berlin ฟีเจอร์น่าจะครบนะครับ :)
ผมก็ตามหาคล้ายๆ กัน แต่ไม่ต้องแม่เหล็กก็ได้
ตัวแรกที่ได้มาใช้ก็เป็น Sony WI-SP500
และล่าสุดก็ได้ JBL Tune 205BT มาใช้อีกตัว
ส่วน Berlin นี่ก็เล็งแล้วเล็งอีก คงจะสอยมาเร็วๆ นี้ ถ้าได้โปรแจ่มๆ :P
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ขอบคุณครับ จริงก็ใช้ JBL Tune 205BT อยู่ ได้มาตอนลดนิดหน่อย ตัว Urbanista Berlin เหมือนเคยผ่านๆ ตา แต่มันออกมี silicone เปล่าตอนนั้นเลยไม่ได้สนใจ ฮ่าๆ เสียดาย
ผมว่าอยู๋ที่การใช้งานมากกว่าครับ
กรณีผมนี่ ใช้ตอนเดินทาง การจะพกแบบกล่อง ขึ้นรถไฟฟ้า หยิบกล่องมาใส่หู เก็บกล่อง พอจะลงก็ต้องหยิบกล่องมาเก็บอีก ไม่ค่อยสะดวก ใช้แบบคล้องคอสะดวกกว่า
อีกอย่างเรื่องของแบต ใช้พวก true wireless เวลาเก็บลงกล่องมันก็ charge ไฟตลอด ตามความรู้สึกคือแบตมันจะโดน charge เต็ม 100% เสมอ ซึ่งไม่ดีกับตัวแบตอยู่แล้วครับ(ทำให้เสื่อมเร็ว) แบบคล้องคอ เวลาไม่ใช้ก็กดปิด จะใช้ก็กดเปิด ไม่ได้เสียเวลาอะไร น่าจะไวกว่าหยิบกล่องอีกครับ แถมใช้งานก็อยู่ได้หลายวัน เพราะเปิดเฉพาะตอนใช้เท่านั้น ใช้มา 2 ปี แบตยังทนอยู่เลย
cycle timeของแบตมันไม่ได้นับแบบนั้นครับ มันนับเป็นรอบจาก0ถึง100 ตัวอย่างถ้าคุณใช้จนเหลือ50% แล้วชาร์จให้เต็ม
มันจะนับเป็น1cycleก็ต่อเมื่อตอนที่คุณใช้จาก100%ลงมาเหลือ50%เหมือนเดิม ถ้าคุณชาร์จจาก80%ไปจนเต็ม มันก็จะนับเป็น0.2 cycle ถ้าชาร์จทุกรอบ รอบละ20% ถึงจะครบ1cycle ถ้าไปนับแบบชาร์จตอนเกือบเต็มเป็น1รอบมันก็ตายพอดี คงเสื่อมเร็วแบบพลาสติกยังไม่ทันจะเหลือง
คุณ arth น่าจะพูดถึงการชาร์จ 100% เป็นเวลานานมากกว่าพูดถึง charge cycle มากกว่าครับ คนละอย่างกัน
แต่จริงๆผมคิดว่าผู้ผลิตน่าจะออกแบบมาให้ป้องกันกรณีชาร์จ 100% ตลอดเวลาอยู่แล้วนะครับ
ไหนๆแล้วถามต่อหน่อยแล้วกัน ผมใช้ sony 1000XM2 พวก in ear สมัยนี้มีตัวไหนเสียงพอจะสู้ได้มั่งไหม ไม่ได้ตามเลย
มันเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันครับ
ถ้าถอดๆใส่ๆหูฟังที่พาดคอได้จะสะดวกกว่า แต่ถ้าใส่ตลอดเวลา TWS จะสะดวกกว่า
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี TWS ตอนนี้ยังไม่พร้อมเต็มที่ แบรนด์ telecommunication ก็ยังเสียงไม่ดี แบรนด์ audiophile ก็ยังเชื่อมต่อไม่ดี ก็คงต้องรอซักพักจนมีการพัฒนาหรือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกัน มันถึงจะกลบข้อเสียต่างๆได้ครับ
ส่วนตัวผมคงไม่ใช้ในเร็วปีนี้ เพราะผมไม่เหมาะกับ in-ear ครับ (ทั้งความสบายและแนวเสียง) แต่ไม่รู้ทำไมถึงชอบตั้งชื่อว่า bud กันจัง ทำเอาคนอยากค้นหาหูฟัง earbud หายากไปด้วย
ผมใช้แนวๆ neckband/sportband ตลอดแฮะ
เหตุผลหลักๆเลยนอกจากมันไม่หล่น ไม่วางลืมแน่ๆ ก็คือ พวก neckband หลายตัวไมค์มันแยกออกมาจากหูฟังไกลๆ การพูดการคุยในบาง topic มันปรับไมค์ได้
ตลกดี
เอาจริง ๆ ก็เมคเซนส์นะผมว่า มันดูเหมือนแอร์พอด แต่ไม่ได้ตีตราแอปเปิ้ล ก็ดูเป็นของปลอมจริงๆ
แล้วหูฟังปลอมทั้งหลายในร้านซุปเปอร์ของเมกาทำไมไม่โดนหว่า
อาจเป็นแผนโปรโมทสินค้า
ทำเป็นเล่นไป แอปเปิ้ลอาจถือโอกาสนี้ฟ้องซะเลย แล้วก็ยกตัวอย่างว่านี่ไง ขนาดศุลกากรยังเข้าใจผิด แบบนี้ไม่เรียกว่าลอกแล้วจะเรียกว่าอะไรอีก
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ไม่มีนักออกแบบให้จ้างไปทำงานแล้วรึ หรือยุบแผนกดีไซน์ตั้งแผนกโคลนนิ่งแทน
ผมว่าฝั่ง H/W บริษัท Brand ต่างๆ นี่แทบไม่มีแล้ว ฝั่งโรงงานทำมาเลือก shop กันสนุกอยากได้แบบนี้ นุ่น นั้น แล้วก็ผลิตให้ สบายๆ แถมเดี่ยวนี้ยี่ห้อไหนดังขายดี ก้เอามาเป็นแรงบันดาลใจเลย ฮ่าๆ
ตอนแรกก็ตลก design ของ airpod นะ
แต่พอได้ใช้ true wireless ของเจ้าที่เป็นทรงเม็ดถั่ว
มันน่ารำคาญมาก ๆ เลย มันเล็กเกินไป
แต่ airpod กลายเป็นสะดวกกว่าซะงั้น ?
ฟ้องเลย
กรณีนี้แปลกๆ
1. รูปร่างของ air pod ถูกจดลิขสิทธ์ หรือ สิทธิบัตร อะไรไว้ไหม (คิดว่าไม่ เพราะทรงหูฟังแบบมีมาก่อน)
2. การที่หน่วยงานไปจับยี่ห้ออื่นแล้วบอกเป็น ของปลอมอีกยี่ห้อ มันดูไม่ใช่หน้าที่ และดูตลกมาก(ออกจะไม่ฉลาดด้วยซ้ำ)
- มันควรแจ้งหรือสอบถาม Apple ก่อนไหม ให้เจ้าของตัดสินใจเอง