ใบอนุญาตชั่วคราวจากรัฐบาลสหรัฐ ที่อนุญาตให้ Huawei ยังดำเนินการกับบริษัทบางแห่งได้แม้จะถูกแบน ทำให้มือถือรุ่นที่วางจำหน่ายก่อนเดือน พฤษภาคมปี 2019 (เดือนที่คำสั่งแบนออก) เช่น Huawei P30 ยังสามารถอัพเดตเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ หรืออัพเดตความปลอดภัยต่างๆ จาก Google ที่เป็นบริษัทสหรัฐได้อยู่ และใบอนุญาตนี้ ได้หมดอายุลงไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อใบอนุญาตนี้หมดอายุ อาจแปลว่าการอัพเดตจาก Google ทั้งตัวแอนดรอยด์และแอปต่างๆ ของ Google อาจต้องหยุดลงด้วยเช่นกัน แต่มือถือที่ใช้ HMS (Huawei Mobile Service) จะยังได้รับการอัพเดตต่อตามปกติ เพราะใช้แอนดรอยด์เวอร์ชั่น open-source ที่ได้รับอัพเดตโดยตรงจาก Huawei ไม่ใช่จาก Google
Huawei P30 Pro หนึ่งในรุ่นที่อาจจะไม่ได้ไปต่อ
เว็บไซต์ Android Authority รายงานว่า Huawei "กำลังติดตามและประเมินสถานการณ์อยู่" ส่วน Google ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนในกรณีนี้ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาปล่อยแพตช์ให้ Huawei โดยอาศัยใบอนุญาตชั่วคราวข้างต้น แปลว่าเมื่อใบอนุญาตนั้นหมดอายุ การอัพเดตของมือถือ Huawei รุ่นเก่า ก็อาจจะหมดอายุไปด้วยเช่นกัน คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - Android Authority
Comments
ประเมิณ -> ประเมิน
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
เรียบร้อยครับบ ขอบคุณครับ
เรื่องใหญ่เลย -.- เพิ่งทำจอเสียไป แล้วก็เพิ่งเปลี่ยนจอหมดไป 4000 บาท ตอนนี้จะอัปไม่ได้แล้วหรอ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ถ้าเผลอๆเกิด app ใช้ไม่ได้เลย อาจขอเคลมเต็มจำนวนได้นะ 55
ผมยังสงสัยบ้างที่ก็ตีความว่า จะโดนระงับ GMS ด้วย
เพราะบางที่ตีว่าเป็นการให้บริการแก่หัวเหว่ย....อืมมม
ผมเข้าใจว่าหยุดความสัมพันธ์ทุกอย่างระหว่าง Huawei กับ Google แต่มือถือที่เราซื้อมาแล้วเป็นความสัมพันธ์ของเรากับ Huawei และความสัมพันธ์ของเรากับ Google นะครับ
นั่นหมายความว่า อย่างมากที่สุด Google จะไม่ส่งอัพเดทและแพทช์ให้กับ Huawei มาปรับแต่งและส่งต่อมาให้มือถือ แต่แอปต่างๆในเครื่องเราก็ยังได้รับอัพเดทจาก Google อยู่
แต่ก็นะ แต่ละสำนักข่าวก็ยังตีความไม่ตรงกัน รอดูต่อไปดีกว่า
จะว่าไปที่เมื่อก่อน Huawei รับประกันว่าใช้ GMS ได้ 2 ปีนี่มันหมดรึยังหว่า?
ผุ้ใช้หัวเว้ย ไม่เดือดร้อนหรอก หา gms มากันจนได้แหละ สบายๆ หายห่วง
จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุด Opensource มาแล้ว อันที่จริงทุกวันนี้ก็ตรวจสอบยากมากเพราะว่าโค็ด Opensource หลายๆ แห่งมีขนาดใหญ่ขึ่นเรื่อยๆ เกินจะตรวจสอบด้วยคนๆ เดียวไหว จะแอบวางโค้ดอะไรไว้ที่ไหนซักแห่งก็ง่ายดาย
มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับการวางโค้ดในโครงการ Opensource ด่านแรกก็มีอาสาสมัครช่วยรีวิวโค้ดอยู่แล้ว ถ้าเป็นโครงการเวอร์ชั่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็เขียนเป็น Modular แยกรีวิว และแก้ไขเฉพาะส่วนได้ ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ก็ยังมีระบบอัตโนมัติตรวจลักษณะ Pattern ที่มุ่งร้าย ซึ่งโดยปรกติแล้วพวกนี้มีลักษณะเฉพาะเหมือนลายเซ็นต์เฉพาะของคนสร้างอยู่ แล้วคนสร้างจริงๆ จังๆ จนใช้งานระดับโลกได้มีไม่กี่กลุ่มหรอก ใช้ ML สแกนเข้าไปแล้วหา Pattern ส่งให้คนรีวิวตรวจอีกที แต่ที่มีปัญหาจริงน่าจะเป็นพวกปล่อยให้โหลด Binary ไปใช้งานฟรีมากกว่า
เคยมีคนพูดแบบนี้แหละ แล้วก็ไปบังคับทีมงานเขียนโค๊ดเอง แล้วก็บั๊กตายโง่ๆ แก้ไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องบากหน้ามาใช้ opensource
I need healing.
แปลว่าถ้า Closesource แล้วคนไม่กี่คนในบริษัทใหญ่ๆ บริษัทเดียว "มีปัญญา" ตรวจสอบ code ไหว? ว่างั้น?
บริษัทไหนหรือครับ ที่มีจำนวนคนตรวจสอบ code มากกว่า Opensource ครับ?
พวกคุณเข้าใจประเด็นที่ผมจะสื่อผิดไป ผมจะบอกว่าต่อไป Huawei ต้องไปทาง Android Opensource เต็มตัวสิ่งที่จะตามมาคือ นักพัฒนาจาก Huawei จำนวนมากที่จะเข้ามาในโครงการนี้ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มองคำว่า Opensource ยังไง เวลาเจอบั๊ก เจอปัญหาจะทำแบบไหนจะเปิดเผยหรือขายให้รัฐบาล สุดท้าย Opensource ก็จะพังลง แต่นั่นแหละ ผมอาจจะมองผิดไปก็ได้
development flow ของ opensource ไม่ได้ยัดโค้ดลงโครงการได้ง่ายขนาดนั้น
พึ่งซื้อได้ 2 วันโดนลอยแพซะแล้ว