Tom Kilroy ผู้บริหารของอินเทลให้สัมภาษณ์นักข่าวที่งาน CES 2011 ว่า อินเทลและบริษัทอื่นๆ (เช่น เดลล์) เคยพยายามกระตุ้นให้ไมโครซอฟท์พัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับแท็บเล็ตมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งไมโครซอฟท์โดนกดดันจากตลาดให้ออกวินโดวส์รุ่น ARM ในที่สุด
แต่ Kilroy ก็บอกว่าไม่ใช่มีแต่ไมโครซอฟท์เจ้าเดียวที่ช้าในตลาดแท็บเล็ต กูเกิลเองก็ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะพัฒนา Honeycomb ออกมาได้เป็นรูปเป็นร่าง
สุดท้ายเขาบอกว่าตอนนี้อินเทลตั้งฝ่ายเน็ตบุ๊กและแท็บเล็ตเป็นการเฉพาะ เผื่อผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ที่มา - CNET
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
2011 ว่าด้วยเรื่องแท็บเล็ตแน่นอน
มาแรงจริงๆ
แค่งาน ces ก็มี tablet ยี่ห้อดังๆ เกือบสิบตัวแล้ว
Happiness only real when shared.
MS เองก็เคยกดดัน Intel ด้วยการออก OS 64bit จน Intel ต้องทำ Processor ให้รองรับตามมานินา
+1
WE ARE THE 99%
ขออภัยนะครับ แต่ผมเข้าใจว่าน่าจะคลาดเคลื่อนนะครับ
WinNT 3.5-4.0 ที่ไปรันบน DEC, PowerPC, MIPS ก็รันโหมด 32-bit นะครับ แม้ว่า OS จะรองรับ 64-bit แต่ Windows นั่นรันโหมด 32-bit นะครับ
หมายถึง Home user ทั่วไปน่ะครับ
ครั้งนึง AMD ออก CPU 64bit สำหรับ Home user มาใช้ แต่ Intel เองก็นิ่งเฉย เพราะรู้ดีว่าไม่จำเป็นและ MS ไม่ออก Windows สำหรับ Home user แบบ 64bit ให้อยู่ดี
แต่ MS กลับลำไปออก Windows แบบ 64bit เลยทำให้ Intel ต้องกลับมาคิดใหม่ และกลายมาเป็นต้องทำ CPU เพื่อให้รองรับ 64bit ไปด้วย
ไม่นะครับ Intel ทำสถาปัตยกรรม 64-bit มาชื่อว่า Itanium (IA-64) ขายตั้งแต่ปี 1999 โดยตั้งเป้าที่ระดับเซิร์ฟเวอร์ หลายปีก่อนที่ AMD จะเห็นโอกาสพัฒนา AMD64 ขึ้นมานะครับ และวางจำหน่ายในปี 2003
และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา Microsoft บอกว่าจะไม่พัฒนาซอฟท์แวร์ใหม่ๆบน Itanium ต่อไป จะมีแค่ SQL Server 2008 R2 และ Visual Studio 2010 แค่นั้น จากนี้ ไม่มีอีกต่อไป
เหตุสำคัญคือ ยอดขายเครื่องแม่ข่ายที่ใช้ Itanium มัันน้อยมาก จนไม่อยากจะดูแลรักษาโค้ดต่อ ประมาณกันว่าน่าจะตกปีล่ะห้าหมื่นเครื่อง แต่ที่เครื่องแม่ข่ายใช้ x64 น่าจะราวห้าล้านตัว
แต่ว่าไปเครื่องที่ใช้ ATOM และชิปเซ็ตจาก Intel ก็ยังซดไฟกว่า ARM มาก เรียกว่าเอามาทำ Tablet คงจะกลายเป็นเครื่องออกกำลังแขนกับเครื่องทำความร้อนมากกว่า
ผมว่า คู่สามีภรรยา หยอกเอินกันมากกว่า ฉึกๆ (เลือดสาด) อย่าเถียงกันเลย รีบๆปั่นทำระบบ WinTel x64 บน Tablet เจ๋งๆออกมาก็ดีนะครับ มีคนเค้าไม่อยากแบกโน็ตบุ๊คกับ Tablet พร้อมๆกันอยู่เยอะนะ
IA64 เป็นยุคที่อินเทลคิดว่า x86 กำลังจะตายครับ ซื้อ XScale ทำ IA-64 เตรียมอพยพเต็มที่
ปรากฏว่ามันไม่ตาย....
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าไม่นับ Intel Itanium ที่ไมโครซอฟท์ออก Windows XP 64-Bit Edition มารองรับ
ก็มี Windows XP Professional x64 Edition ไงครับ ทำมาเพื่อรันบน AMD64 ต่อมาอินเทลจึงเอาสถาปัตยกรรมนี้ไป implement เกิดเป็น EM64T
งานนี้โยนกันไปมาแล้วครับ ฝ่าย INTEL ก็เจอ ARM ฝ่าย MS ก็เจอ iOS กับ Chrome OS
สำหรับอินเทลรู้สึกเหมือนกดดันไม่ได้
แถมยังต้องเป็นฝ่ายไปขอร้องด้วยซ้ำ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อินเทล "เราบอกไมโครซอฟท์ว่า ATOM เราจะขายไม่ออกแล้ว" :P
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
แท็บเล็ตมันมีมาตั้งนานแล้วนี่ ถ้าแอปเปิ้ลไม่ออกไอแพดมาก็ไม่มีใครตื่นตัวกัน ขายของแบบเดิมๆต่อไป
เหมือนว่าไมโครซอฟท์เคยพยายามจะจุดกระแสแท็บเล็ตด้วย Windows XP Tablet Edition
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไมโครซอฟท์คิดยังไง ที่เอา OS ที่ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะ Tablet มาทำ Tablet (จริงๆตอนนั้นถ้าไมโครซอฟท์เอา Windows CE มาโมทำเป็น Windows Tablet มันอาจจะไปได้ดีกว่านั้น)
น่าจะเพราะยังไม่มีคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่าก็เลยเข็นออกมาก่อนแล้ว ถ้าติดตลาดค่อยนำรายได้มาปรับปรุงต่อไปเรื่อยๆ
รูปน่าจะเป็น intel รึเปล่าครับ
เน็ตบุคจะยืนตรงไหน
apple ทำอะไรทีมันเขย่าวงการได้เลยเนาะ เหลือเชื่อจริงๆ
ผมว่าโอาสนะคงรออยู่แล้วแหละ เพียงแต่ apple เกาถูกที่คันนะ แล้วก็บังเอิญ ถูกหลายเรื่องด้วย เลยรวยเลย
ถ้าดูกว้างๆ เราจะเห็นตลาดสองแบบครับ (ผมไม่ได้เรียนการตลอด วิเคราะห์แบบบ้านๆ)
อาจารย์เคยสอนผมว่ามันมี Demand แท้ กับ Demand เทียม
ไอ้ Demand เทียมนี่แหละขายดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ขาย/ผู้ผลิตพยายามยัดใส่หัวผู้บริโภค
อย่าง สาวไทยผิวดำจะหาแฟนไม่ได้ ฟันต้องขาว รักแร้ต้องเนียน บลาๆๆๆๆ
Apple เองเป็นบริษัทนึงที่สร้างความต้องการแบบนี้เก่ง และ Apple ไม่รอให้ผู้ใช้เกิดความต้องการก่อนแล้วค่อยผลิต แต่ Apple นั้น "ยัด" ความต้องการลงในหัวผู้บริโภคเลย
สังเกตุดูได้จากบุคลิคของตาจ็อบส์ "คุณต้องการสิ่งนั้น", "คุณไม่ต้องการสิ่งนี้" พี่แกคิดให้เองหมดเลยครับ แล้วมันก็ดันโดนใจใครหลายๆ คนด้วยสิ
ผมมองว่า Microsoft เองเป็นบริษัทที่ใหญ่จนเกินไป จะทำอะไรก็กลัวพลั้งกลัวพลาด ก็เลยเก้ๆ กังๆ
ผมเองไม่รู้เป็นอะไร ผมมองว่า Microsoft เหมือนกับ Nokia ที่ไม่ยอมออกจากจุดยืนเดิมๆ ไปหาอะไรที่แตกต่าง หรือเป็นผู้นำในด้านที่ตัวเองถนัดเหมือนกับวันที่ผ่านๆ มา