โมโตโรล่าช่วงหลังเน้นแนวทางการปรับแต่งแอนดรอยด์น้อยๆ เริ่มเห็นผลชัดเจนเมื่อวันนี้รุ่นราคาถูกสุดคุ้มอย่าง Moto G 2014 ได้รับอัพเดต Android 5.0 Lollipop เรียบร้อยแล้ว

อัพเดตนี้จะยังปล่อยเฉพาะเครื่องแบบไม่ติดล็อกกับเครือข่ายและยังจำกัดเฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ในปีนี้เท่านั้น แม้ว่า Moto G รุ่นใหม่จะแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้าเลยก็ตามที

ที่มา - Motorola, ArsTechnica

หลังจากไม่กี่วันก่อนที่โมโตโรลาเปิดตัว Moto Maxx หรือ Droid Turbo รุ่น Global Edition ที่บราซิล หลายคนก็เริ่มหวังว่าจะมีโอกาสหาซื้อเจ้าเครื่องนี้ได้ง่ายขึ้น แต่ล่าสุดยุโรปน่าจะหมดหวังแล้วแน่ๆ หนึ่งทวีป

มีผู้ใช้ชาวฝรั่งเศสรายหนึ่งทวีตถามไปยังแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของโมโตโรลาฝรั่งเศส เกี่ยวกับการจำหน่าย Moto Maxx ในฝรั่งเศส ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่ทำให้เจ้าตัวผิดหวังกลับไป แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สิ้นหวัง ถามต่อถึงความเป็นไปได้ในประเทศอื่นๆ ในทวีป ซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า Moto Maxx จะไม่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในยุโรปนั่นเองครับ

โมโตโรลาเคยประกาศรายชื่อมือถือที่จะได้อัพเป็น Lollipop ไปแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่าพบ Moto X (รุ่นปี 2014) เริ่มทดสอบเฟิร์มแวร์ตัวนี้บนเครือข่ายจริง (soak test) บ้างแล้ว และเว็บไซต์ Droid Life ก็ได้เฟิร์มแวร์ตัวนี้มาทดสอบพร้อมถ่ายวิดีโอมาให้แฟนๆ โมโตโรลาดูให้น้ำลายหกเล่นครับ

ในภาพรวมแล้ว เฟิร์มแวร์ Lollipop ของโมโตโรลาแทบไม่มีอะไรต่างจาก Lollipop รุ่นมาตรฐานของกูเกิล แค่เพิ่มฟีเจอร์เฉพาะของโมโตโรลาอย่าง Moto Voice, Moto Display, Moto Assist เข้ามาเท่านั้น

โมโตโรลาเปิดตัว Moto 360 รุ่นสายโลหะแล้ว มีให้เลือกสองสีคืออ่อนและเข้ม ขายในราคา 299 ดอลลาร์

บริษัทยังประกาศว่าจะออก Moto 360 รุ่นสายเล็ก (slim band) สำหรับคนข้อมือเล็ก โดยจะมีรุ่นโลหะสีอ่อน 299 ดอลลาร์ และรุ่นสีทองแชมเปญ 329 ดอลลาร์ ขายช่วงสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ โมโตโรลายังเพิ่มตัวเลือกการตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาด้วยตัวเอง (My Design watch face) และเพิ่มแอพใหม่ Moto Body สำหรับวัดก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการบริโภคแคลอรีด้วย

ที่มา - Motorola Blog

เมื่อสัปดาห์ก่อน Motorola ส่งเทียบเชิญสื่อเข้าร่วมการเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ ซึ่งหลายสำนักเก็งกันว่าต้องเป็น global version ของ Droid Turbo ที่ทำตลาดเฉพาะกับเครือข่าย Verizon ในอเมริกาเท่านั้น

และในที่สุดวันนี้ทาง Motorola ก็ได้เปิดตัว Moto Maxx อย่างเป็นทางการด้วยสเปกและหน้าตาที่เหมือนกันทุกประการ ยกเว้นไม่รองรับระบบ CDMA และตรา Verizon ที่หายไป (Motorola ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องความถี่ต่างๆ ที่รองรับ ซึ่งจะอัพเดตอีกครั้งเมื่อมีการประกาศครับ) โดยจะเริ่มวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น 64 GB ในบราซิลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปด้วยราคา 2,199 เรียล (ประมาณ 28,767 บาท) ตามด้วยเม็กซิโกช่วงกลางเดือน ก่อนจะกระจายไปยังประเทศในแถบอเมริกาใต้ตามลำดับ

เป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่ช่วงต้นปี สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Motorola ของ Lenovo ยักษ์ใหญ่จากจีน ตอนนี้ดีลนี้ได้ปิดลงและ Motorola ได้กลายเป็นบริษัทลูกของ Lenovo เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว โดยการเข้าซื้อครั้งนี้มีมูลค่า 2.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทางด้าน Rick Osterloh ซีอีโอของ Motorola ได้กล่าวถึงอนาคตของบริษัทว่าจะยังคงใช้แบรนด์เดิมทำตลาดต่อไป รวมทั้งสมาร์ทโฟนซีรีย์ Moto และ Droid ก็จะยังคงอยู่ รวมไปถึงจะรักษาเอกลักษณ์การใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่แทบจะไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติม รวมไปถึงการอัพเกรดที่รวดเร็วเช่นกัน

หลังจาก Lenovo ประกาศซื้อ Motorola ต่อจากกูเกิลเมื่อต้นปีนี้ เวลาผ่านมาเกือบปี สุดท้ายดีลนี้ก็สำเร็จลุล่วงไปได้ และ Motorola กลายเป็นบริษัทลูกของ Lenovo อย่างเป็นทางการแล้ว

Motorola จะยังได้สิทธิบริหารงานแยกเป็นอิสระจาก Lenovo ต่อไป และจะยังคงสำนักงานใหญ่ไว้ที่ชิคาโกเช่นเดิม โดย Yang Yuanqing ซีอีโอของ Lenovo ประกาศชัดเจนว่าจะรวมพลังของ Lenovo กับ Motorola เข้าด้วยกันเพื่อเป็นผู้ผลิตมือถืออันดับสามของโลกให้จงได้ และขึ้นไปท้าทายกับเบอร์หนึ่ง-เบอร์สองในอีกไม่ช้า

สำหรับแฟนๆ โมโตโรลาที่อยากจะได้ Droid Turbo แต่อาจประสบปัญหาในการหาซื้อ เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ผูกอยู่กับเครือข่าย Verizon เท่านั้น ตอนนี้มีข่าวดีให้ชื่นใจกันแล้วว่าโมโตโรลาจะเปิดตัว Droid Turbo รุ่น Global Edition (ผู้เขียนเรียกเอง) หรือรุ่นที่ไม่ได้ผูกกับเครือข่าย Verizon ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ที่บราซิล

โมโตโรลาส่งบัตรเชิญให้กับสื่อของบราซิล ถึงอีเวนท์ที่จะมีขึ้นในวันดังกล่าว โดยตัวบัตรเชิญมีรูปฝาหลังที่เป็น Ballistic Nylon ของ Droid Turbo พร้อมคำประกอบภาพที่แปลว่า "technological experience without boundaries"

Rick Osterloh ซีอีโอของโมโตโรลา ให้สัมภาษณ์ให้งาน Code/Mobile ที่จัดขึ้นโดยเว็บไซต์ Re/code โดยเขาบอกว่าโลกของสมาร์ทโฟนกำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน จะเป็นขาลงของเหล่าแบรนด์ชั้นนำ และได้พูดถึงการฟื้นขึ้นมาจากหลุมของโมโตโรลาด้วยสมาร์ทโฟนราคาถูก

Osterloh บอกว่าอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนกำลังถึงจุดเปลี่ยนผ่าน (เจ้าตัวใช้คำว่า seven-year itch ซึ่งหมายถึง ความชื่นมื่นของชีวิตการแต่งงานจะค่อยๆ ลดลงหลังผ่านไป 7 ปี และอาจแอบหมายถึงแอปเปิล ที่เปิดตัวไอโฟนครั้งแรกในปี 2007 ซึ่งปีนี้ครบ 7 ปีพอดี) แบรนด์ชั้นนำของตลาดสมาร์ทโฟนจะต้องถึงคราวผลัดใบ โดยเจ้าตัวยกตัวอย่างกรณีของ BlackBerry ที่ครั้งหนึ่งเคยครองตลาดและล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งลือทั้งหลุดกันมาซักพัก สำหรับ Droid Turbo สมาร์ทโฟนเรือธงในตระกูล Droid ของโมโตโรลา ล่าสุดโมโตโรลาก็เปิดตัวเจ้า Droid Turbo ที่ว่าแล้ว โดยมาพร้อมกับหน้าจอ QHD 5.2 นิ้ว ซีพียู Snapdragon 805 แรม 3 GB พร้อมแบตเตอรี่ 3,900 mAh และ Turbo Charger และกล้องหลัง 21 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าสเปคจัดเต็มไม่แตกต่างจากที่หลุดมามากนัก (สเปคเต็มท้ายข่าว)

ฝาหลัง Droid Turbo มีสีดำ (Metallic Black) สีแดง (Metallic Red) และ Ballistic Nylon สีดำ วางจำหน่ายในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยราคารุ่น 32 GB อยู่ที่ 199.99 เหรียญ และ 64 GB อยู่ที่ 249.99 เหรียญ และต้องผูกสัญญากับ Verizon 2 ปีครับ

ทวิตเตอร์ @MotoFirmware แอคเคาท์รวบรวมความเคลื่อนไหวของ Motorola ได้ทวีตภาพกล่องแพ็กเกจของ Droid Turbo (รหัส Quark) ที่มีสเปกใกล้เคียงกับ Nexus 6 ยกเว้นขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้วและแบตเตอรี่ขนาด 3,900 mAh ซึ่งรูปยังเป็นการยืนยันว่าตัวเครื่องมาพร้อมกับปลั๊กจ่ายไฟแบบ Quick Charge อีกด้วย (ชมภาพได้หลังเบรคครับ)

โดย Droid Turbo มีคิวเปิดตัวในวันที่ 28 ตุลาคมนี้และจะวางจำหน่ายกับเครือข่าย Verizon ส่วนเครือข่าย AT&T และ T-Mobile คาดกันว่าจะมีฝาแฝดตามมาในชื่อ MOTO X Play ครับ

ให้หลังจากการเปิดตัวมาเมื่อเดือนกันยายน วันนี้โมโตโรลาประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์ Android Wear 4.4W ให้กับ Moto 360 เรียบร้อยแล้ว

ใน Android Wear 4.4W มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ และการปรับอินเทอร์เฟซหลายอย่าง ไล่เรียงเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ครับ

ครั้งหนึ่งโมโตโรลาเคยบอกว่า จะปล่อยอัพเดต Android Lollipop ให้กับ Moto X และ Moto G แต่หลังจากที่กูเกิลเปิดตัว Lollipop อย่างเป็นทางการแล้ว งานนี้โมโตโรลาเลยขอออกมาแถลงอย่างชัดเจนกันไปเลย ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นจะได้ Lollipop บ้าง ซึ่งก็มีรายชื่อดังนี้ครับ

ลือสลับกันไปมาระหว่างจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก กับโครงการ Nexus ของกูเกิล รวมไปถึงภาพหลุดต่างๆ จนในที่สุดกูเกิลก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus รุ่นล่าสุดในชื่อ Nexus 6 แล้ว โดยสเปคและตัวเครื่องไม่ได้แตกต่างจากที่หลุดมามากนัก (บอดี้เหมือน Moto X 2014) ขณะที่สเปคอย่างเป็นทางการมีดังต่อไปนี้ครับ

หลังจากที่มีข่าวลือและภาพหลุดฝาหลัง ของ Droid Turbo สมาร์ทโฟนตระกูล Droid รุ่นใหม่ประจำปีนี้ของโมโตโรลา ล่าสุดเว็บไซต์ DroidLife ได้ปล่อยภาพเร็นเดอร์ของเจ้าสมาร์ทโฟนรุ่นที่ว่านี้ พร้อมสเปคแบบเต็มๆ ก่อนจะเปิดตัว 28 ตุลาคมนี้ โดยมีความแตกต่างจากที่ลือก่อนหน้านี้เล็กน้อย ดังต่อไปนี้เลยครับ

ผู้ใช้ Google+ ที่ชื่อ Motorola News ได้กล่าวถึงเรื่องที่ผู้ใช้หลายคนสงสัยว่าสมาร์ทโฟนของ Motorola จะได้อัพเกรดไปใช้ Android L ในอนาคตหรือไม่ ซึ่ง Motorola ก็ได้ระบุว่าทั้ง Moto X, Moto G และ Moto E จะได้ใช้ Android L ครบทั้ง 3 รุ่น

เว็บไซต์ 9to5google ได้ข้อมูลหลุดของมือถือ Nexus ตัวใหม่ที่ผลิตโดยโมโตโรลา ก่อนหน้านี้มันใช้โค้ดเนมว่า "Shamu" และน่าจะใช้ชื่อ Nexus 6 หรือ Nexus X ทำตลาด

• หน้าจอใหญ่ 5.92 นิ้ว ความละเอียด 2560x1440 (ละเอียดสูงถึง 498 ppi)
• แบตเตอรี่ใหญ่สะใจ 3,200 mAh
• กล้องหลัง 13MP, ถ่ายวิดีโอ 4K UHD, กล้องหน้า 2MP ตัวเดียวกับ Moto X 2014
• หน่วยประมวลผล Snapdragon 805, แรม 3GB, ความจุ 32GB

9to5google บอกว่าหน้าตาของมันจะเหมือน Moto X 2014 ขยายร่าง โดยตำแหน่งของพอร์ตต่างๆ จะเหมือนกันเกือบทุกประการ อย่างไรก็ตาม Nexus 6/X จะไม่มีฟีเจอร์เฉพาะของ Moto X อย่าง Moto Assist หรือ Quick Capture ตามมาด้วย

Rick Osterloh ประธานโมโตโรลาให้สัมภาษณ์กับ Re/code โดยมีประเด็นสำคัญคือเขามองว่ามือถือตลาดบนราคา 600-700 ดอลลาร์เริ่มไม่มีที่ยืนในตลาด เพราะลูกค้าเริ่มมองว่าไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงขนาดนั้นอีกแล้ว

เหตุผลนี้ทำให้โมโตโรลาหันมาเล่นตลาดมือถือราคาถูกลง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับ Moto G ในหลายๆ ประเทศ เช่น บราซิล อินเดีย หรือแม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหราชอาณาจักร

โมโตโรลายังพยายามขยายตัวเองไปยังธุรกิจใหม่ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควบคู่กับสมาร์ทโฟน เช่น Moto 360 หรือ หูฟังบลูทูธ Moto Hint

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่าโมโตโรล่ากำลังพัฒนาและเตรียมจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Droid รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Droid Turbo รวมไปถึง Motorola Shamu ที่ก่อนหน้านี้ลือว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus ตัวต่อไป ) ตอนนี้ได้มีภาพหลุดฝาหลังของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นตามหลังมาแล้ว

ในบรรดาอุปกรณ์สายนาฬิกาที่ใช้ Android Wear ทั้งหลาย Moto 360 จากค่าย Motorola ถือเป็นค่ายที่วางจำหน่ายช้าที่สุด แม้จะวางขายช้า แต่ก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากมีมิตรสหายท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก ได้ Moto 360 มา ผมเลยไม่รอช้า ถือโอกาสลองเล่น Moto 360 คร่าวๆ มาให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณากันครับ (ขอบพระคุณมิตรสหายท่านนั้นมา ณ ที่นี้ด้วย)

คำเตือน ภาพเยอะมาก โปรดระมัดระวัง

โมโตโรลาเพิ่งจะเริ่มขาย Moto 360 ไปได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ตอนนี้เริ่มมีผู้ใช้ส่งรายงานความผิดพลาดทางฮาร์ดแวร์ว่าหน้าจอของ Moto 360 ติด Burn-in หลังใช้งานไปได้ระยะหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้โมโตโรลาทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนยังไม่วางขาย และได้เปลี่ยนชิ้นส่วนจอของตัวเครื่องกลับไปใช้งานจอ LCD แทนจอ AMOLED ที่ได้วางโครงการเอาไว้ในช่วงสุดท้าย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แต่สุดท้ายก็กลับมีรายงานแจ้งเข้ามาว่าหน้าจอสามารถติด Burn-in ได้ตามข้างต้น

เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้ง Moto G และ Moto X ไป แต่ดูเหมือนไลน์อัพของสมาร์ทโฟนปลายปีจากค่าย Motorola จะยังไม่หมดเพียงแค่นี้ หลังจากมีรายงานว่า Motorola เตรียมเปิดตัวมือถืออีกรุ่นสำหรับเครือข่าย Verizon โดยเฉพาะ แน่นอนว่าเป็นซีรีส์ Droid ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่แรกๆ นั่นเอง

สมาร์ทโฟนรุ่นที่ว่านี้มาในโค้ดเนม Quark และชื่อจริง Droid Turbo โดยอัดสเปคมาให้เต็มสูบทั้งซีพียู Snapdragon 805 ควอดคอร์ความถี่ 2.65GHz, หน้าจอขนาด 4.6" ความละเอียดระดับ 2K ความหนาแน่นสูงถึง 640PPI, หน่วยความจำภายใน 32GB, แรม 3GB และกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 20 เมกะพิกเซล

นอกจากสเปคสุดแรงแล้ว Droid Turbo จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และยังพ่วงฟังก์ชันชาร์จไฟด่วนมาให้อีกด้วย

ตามธรรมเนียมของ Motorola เมื่อออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ (ซึ่งล็อกเครื่อง) ไปแล้วจะออกอีกรุ่นแบบไม่ติดล็อกตามมา และปีนี้เองก็มีข้อมูลของ Moto X (2014) รุ่นไม่ติดล็อกออกมาแล้ว ว่าจะใช้ชื่อรุ่นว่า Pure Edition

Moto X Pure Edition นอกจากจะไม่ติดล็อกแล้ว ตัวเครื่องยังไม่มีโลโก้ของเครือข่ายมาอีกด้วย (เหลือแค่โลโก้ Motorola ด้านหลัง) รวมถึงซอฟต์แวร์เองก็จะไม่มีแอพจากเครือข่ายที่เราเรียกกันว่า bloatware ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้อัพเดตได้ช้าอีกด้วย

Moto X (2014) รุ่นปกติเตรียมวางขายปลายเดือนกันยายนนี้ ส่วนรุ่น Pure Edition น่าจะวางขายไล่ๆ มาอีกทีครับ

จากประเด็นข่าวเกี่่ยวกับ Moto 360 ที่อาจทำให้ Motorola เสียภาพลักษณ์ไปเล็กน้อย คือเรื่องที่ iFixit พบว่าแบตเตอรี่ภายใน Moto 360 มีความจุน้อยกว่าที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ไว้ ตอนนี้มีการชี้แจงจากฝั่ง Motorola ออกมาแล้ว

ข้อมูลสเปคของ Moto 360 นั้นระบุว่านาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 320 mAh แต่เมื่อ iFixit ได้ถอดแยกชิ้นส่วนของ Moto 360 ก็พบว่าตัวแบตเตอรี่ภายในมีการระบุความจุไว้เพียง 300 mAh เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทางเว็บข่าว Computerworld จึงส่งอีเมลสอบถามไปทาง Motorola เพื่อขอคำชี้แจงเรื่องดังกล่าว

เพิ่งวางขายได้เพียงวันนิดๆ Moto 360 นาฬิกาพลัง Android Wear จอกลมตัวแรกของโลก ก็ถูกทีมแกะอย่าง iFixit จัดการถอดชิ้นส่วนดูเครื่องในเป็นที่เรียบร้อย

เรื่องความแน่นหนาในการประกอบ เป็นไปตามคาดว่าแต่ละชิ้นส่วนถูกอัดมาอย่างเบียดเสียดด้วยพื้นที่อันจำกัด และด้วยความที่ตัวนาฬิกากันน้ำได้ ทำให้ฝาหลังถูกอัดกาวหลายชั้นกว่าจะแกะไปถึงฮาร์ดแวร์อื่นๆ ได้

ส่วนประกอบด้านใน ซีพียูเป็น TI OMAP 3 ตามที่ Motorola แจ้ง รหัสเต็มคือ TI OMAP3630 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Droid 2 และสมาร์ทวอทช์ตัวแรกอย่าง MOTOACTV (ไม่รู้แกะมาใส่เลยรึเปล่า) ส่วนแบตเตอรี่น้อยกว่าที่ระบุไว้ในสเปคมีเพียง 300mAh จากในสเปคระบุไว้ที่ 320mAh