ในวันนี้ แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.5.1 และ iPadOS 13.5.1 ซึ่งเป็นอัพเดตย่อยต่อจากอัพเดต 13.5 ที่ออกมาสองสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้แบบ OTA โดยไปที่ Settings > General > Software Update

แอปเปิลระบุว่าอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย CVE-2020-9859: unc0ver ที่ทำให้สามารถเจลเบรกอุปกรณ์แอปเปิลได้จนถึง iOS 13.5 ใน iPhone ทุกรุ่น

นอกจากนี้แอปเปิลยังออกอัพเดตระบบปฏิบัติการอื่นในเครือ ดังนี้

แอปเปิลแจ้งนักพัฒนาแอป เรื่องการขยายเวลาข้อกำหนดที่แอปส่งใหม่จะต้องรองรับ iOS 13 และเงื่อนไขต่าง ๆ จากเดิม 30 เมษายน ออกไปเป็น 30 มิถุนายน 2020

ข้อกำหนดเหล่านี้เป็นเรื่องปกติเมื่อแอปเปิลออกระบบปฏิบัติการใหม่อยู่แล้ว อาทิ แอปต้องพัฒนาจาก iOS 13 SDK, รองรับการแสดงผลบนหน้าจอ iPhone และ iPad ทุกขนาดจอ

ที่น่าสนใจของข้อกำหนดการพัฒนาแอปในปีนี้คือเงื่อนไขที่ทุกแอปที่มีระบบบัญชีผู้ใช้งาน จะต้องรองรับการล็อกอินด้วย Sign in with Apple ซึ่งเงื่อนไขนี้ก็เลื่อนกำหนดออกไปเป็น 30 มิถุนายน 2020 ด้วยเช่นกัน

ที่มา: แอปเปิล

ไฮไลท์หนึ่งของ iPad Pro รุ่นใหม่ที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อคืนนี้ คืออุปกรณ์เสริม Magic Keyboard ใหม่ ที่มาพร้อมกับ Trackpad พร้อมขาตั้งที่ยกหน้าจอ iPad Pro ให้ลอยขึ้นมา และยังมีพอร์ต USB-C สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม แต่ข่าวดีคือไม่จำเป็นต้องอัพเกรด iPad Pro เป็นรุ่นใหม่ เพื่อให้รองรับการใช้ Magic Keyboard ใหม่นี้

โดยแอปเปิลระบุว่า Magic Keyboard ใหม่นี้ จะรองรับการใช้งานร่วมกับ iPad Pro ทั้งรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว และ 11 นิ้ว ที่วางจำหน่ายในปี 2018 ด้วย (12.9" 3rd Gen และ 11" 1st Gen)

แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่แบบเงียบ ๆ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือมาพร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR (Light Detection and Ranging) แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ไร้คนขับสำหรับระยะห่างระหว่างเซ็นเซอร์และวัตถุ เพื่อนำมาเสริมประสิทธิภาพของ AR ร่วมกับกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว

ตัวอย่างการใช้งาน LiDAR กับแอป Measure คือสามารถวัดส่วนสูงคนได้รวดเร็ว โดยนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเซ็นเซอร์นี้ได้ด้วย Scene Geometry API บน ARKit

Mark Gurman จากสำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่าแอปเปิลกำลังพิจารณาเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ใช้ iOS บน iPhone และ iPadOS บน iPad ให้สามารถเลือกแอปตั้งต้นในการใช้งาน เป็นแอปจากนักพัฒนาภายนอก (3rd Party) แทนที่ Safari สำหรับเบราว์เซอร์ หรือ Mail สำหรับอีเมลได้

ที่ผ่านมา แม้ผู้ใช้งานอุปกรณ์แอปเปิลจะสามารถเลือกลงแอปอื่นแทนได้ แต่แอปเปิลก็กำหนดให้ค่าเริ่มต้นอยู่ที่แอปพื้นฐานของแอปเปิลเท่านั้น เช่นเมื่อคลิกลิงก์ก็จะถูกเปิดด้วย Safari เสมอ ประเด็นนี้ทำให้นักพัฒนาหลายรายร้องเรียนว่าอาจเป็นการผูกขาด (ตัวอย่างกรณี Spotify)

แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 13 และ iPadOS 13 โดย iOS 13 มีการใช้งานอยู่ 77% บน iPhone ที่วางจำหน่ายช่วง 4 ปีย้อนหลัง ส่วน iOS 12 มี 17% และ 6% เป็นเวอร์ชันเก่ากว่านั้น แต่หากนับรวม iPhone ทั้งหมดที่ยังมีการใช้งาน iOS 13 จะมีส่วนแบ่งเป็น 70% และ iOS 12 มี 23%

ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับ iOS 12 โดยเมื่อเดือนมกราคมในปีที่แล้ว iOS 12 มีส่วนแบ่ง 78%

แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ iOS 13.3.1 และ iPadOS 13.3.1 มีรายการปรับปรุงสำคัญคือการแก้ไขบั๊ก Communication Limits ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกปิดการทำงานของชิประบุพิกัด U1 ใน iPhone 11

รายการปรับปรุงอื่น ได้แก่ แก้ปัญหาแอปอีเมลโหลดรูปจากภายนอกแม้ตั้งค่าปิดไว้ และแก้ปัญหาการเตือนแบบพุชเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi

นอกจากนี้ยังมีรายการอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อื่นดังนี้

แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS 13.3 และ iPadOS 13.3 ต่อจากอัพเดตก่อนหน้านี้ iOS 13.2.3 ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตผ่าน OTA ได้โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update

ในอัพเดตนี้เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ที่สำคัญหลายรายการ ที่แอปเปิลเคยประกาศไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งปรับปรุงด้านความปลอดภัย อาทิ

แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.2.3 และ iPadOS 13.2.3 ซึ่งสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update ซึ่งแอปเปิลระบุว่าอัพเดตนี้มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาหลายรายการได้แก่

• แก้ไขบั๊กเสิร์ชในแอป Mail, Files, Notes
• แก้ไขบั๊กการแสดงรูปภาพ, ลิงก์ ในรายละเอียดของ Messages
• แก้ไขปัญหาที่ทำให้แอปดาวน์โหลดไฟล์ในแบ็กกราวด์ไม่ได้
• แก้ไขปัญหา Mail ไม่สามารถดึงข้อมูลใหม่ได้ และปัญหาดึงข้อความต้นฉบับหากเป็นบัญชี Exchange

ที่มา: MacRumors

แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.2.2 และ iPadOS 13.2.2 ต่อจากอัพเดตก่อนหน้า 13.2 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update

ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่ามีการแก้ไขปัญหาแอปปิดการทำงานเมื่อทำงานในแบ็คกราวด์ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผู้ใช้งานรายงานออกมาก่อนหน้านี้ใน iOS 13.2

ปัญหาอื่นที่มีการแก้ไขในอัพเดตนี้ อาทิ ปัญหาการเชื่อมต่อบนเครือข่ายมือถือ, ปัญหาเมื่อชาร์จด้วย YubiKey Lightning, แก้ปัญหา single sign-on ผ่าน Kerberos ฯลฯ

แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 13 และ iPadOS 13 ในอุปกรณ์ทั้งหมดที่รองรับเป็นครั้งแรก โดยหลังจาก iOS 13 เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปดาวน์โหลดเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ส่วนแบ่งผู้ใช้งาน iOS 13 อยู่ที่ 50% และหากพิจารณาเฉพาะอุปกรณ์ที่เปิดตัวในช่วง 4 ปีย้อนหลัง ตัวเลขจะเพิ่มเป็น 55%

แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ iOS 13.1.3 และ iPadOS 13.1.3 ในวันนี้ ต่อเนื่องจากอัพเดตก่อนหน้านี้ 13.1.2 ที่ออกมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว สามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update

อัพเดตในรอบนี้แอปเปิลระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาหลายรายการ ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพ อาทิ ปัญหาโทรศัพท์อาจไม่สั่นหรือส่งเสียงเมื่อมีสายเรียกเข้า, ปัญหาข้อมูลใน Health หลัง DST, ปัญหาดึงข้อมูล Voice Memos จาก iCloud, ปัญหาการจับคู่ Apple Watch ฯลฯ

ที่มา: MacRumors

เรียกได้ว่าถ้าพลาดอัพเดตช้าไปไม่กี่วัน ก็จะมีตัวใหม่ออกมาต่อเนื่องเลย โดยล่าสุดแอปเปิลก็ออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.1.2 และ iPadOS 13.1.2 ซึ่งเป็นอัพเดตที่ต่อจาก iOS 13.1.1 และ iPadOS 13.1.1 ที่ออกมาเมื่อวันเสาร์ สามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update

รายการอัพเดตใน iOS 13.1.2 นี้ เป็นการแก้ไขบั๊กหลายรายการดังนี้

ไม่ค่อยผิดคาดนัก แต่ก็อาจจะเร็วกว่าที่คิด หลังมีรายงานปัญหาบั๊กคีย์บอร์ดจากแอปนักพัฒนาภายนอก (Third-party) แอปเปิลก็ได้ออกอัพเดต iOS 13.1.1 และ iPadOS 13.1.1 เรียบร้อยแล้วในวันนี้

นอกจากปัญหาบั๊กคีย์บอร์ด แอปเปิลยังระบุว่า iOS 13.1.1 และ iPadOS 13.1.1 ยังแก้ปัญหาต่อไปนี้ด้วย

• ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วหลังอัพเดต
• ปัญหาการ restore ไฟล์จาก backup
• แก้ปัญหา Reminders ซิงก์ข้อมูลช้า

สามารถอัพเดตได้โดยพลันผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update

ถึงแม้แอปเปิลจะออกอัพเดต iOS 13.1 และ iPadOS 13.1 ซึ่งแก้ไขบั๊กหลายรายการสำคัญไปจาก 13.0 แต่แอปเปิลก็ได้ชี้แจงปัญหาในหน้าสนับสนุน เตือนลูกค้าเกี่ยวกับบั๊กที่ยังค้นพบใน iOS 13.1 ซึ่งจะได้รับการแก้ไขในอัพเดตถัดไป กระทบกับผู้ใช้งานที่ลงคีย์บอร์ดเพิ่มเติมจากนักพัฒนาภายนอกเข้ามา

ปัญหาดังกล่าวแอปเปิลบอกว่าคีย์บอร์ดที่โหลดเพิ่มมานั้น อาจเข้าถึงข้อมูลได้ครบทั้งหมด (full access) เท่าที่อนุญาตได้ แม้ผู้ใช้จะไม่อนุญาตก็ตาม ซึ่งอาจรวมทั้งการส่งข้อมูลออกไปทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม iOS กำหนดค่าเอาไว้ว่ากรณีเป็นการพิมพ์ช่องรหัสผ่าน (password) จะต้องใช้คีย์บอร์ดพื้นฐานของ iOS เท่านั้น แม้ตอนนั้นจะใช้คีย์บอร์ดอื่นอยู่

ก่อนหน้านี้ iPad ใช้ iOS ร่วมกับ iPhone มาตลอดจน Apple ประกาศเปิดตัว iPadOS สำหรับ iPad โดยเฉพาะ ซึ่งมีคำสั่งและวิธีการใช้ใหม่ ๆ เพียบ แอปเปิ้ลจึงส่งคลิปแนะนำวิธีการใช้คำสั่งใหม่ ๆ ของ iPadOS ขึ้นมาใน YouTube Official ของทางแอปเปิ้ลเองเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ iPadOS ได้ราบลื่นยิ่งขึ้น

คลิปนั้นจะเห็นว่ามีวิธีการใช้ต่าง ๆ ทั้ง Slide Over ที่เปิดแอพลอยเหนืออีกแอพที่กำลังทำงานอยู่, Split View เปิดแอพเดียวกันแต่แบ่งเป็นสองหน้าต่าง, คำสั่งท่าทาง (Gesture) เพื่อปรับแต่งเนื้อหารวมทั้งการพิมพ์แบบลากนิ้วอีกด้วย

แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ ระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับผู้ใช้ iPad โดยใช้ชื่อว่า iPadOS 13.1 เพื่อให้สอดคล้องกับเวอร์ชันการออกอัพเดตของ iOS ด้วย

ผู้ใช้ iPad สามารถอัพเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update

iPadOS จะมีฟีเจอร์หลักที่สำคัญตามกับ iOS มาเกือบทั้งหมด แต่ที่ใช้ชื่อแยกเพราะจะมีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะกับการใช้ iPad ตัวอย่างคุณสมบัติใหม่ที่มีเฉพาะ iPadOS อาทิ

แอปเปิลประกาศเลื่อนวันปล่อยอัพเดตระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad ที่ใช้ชื่อใหม่ว่า iPadOS จากเดิมวันที่ 30 กันยายน เร็วขึ้นมาเป็นวันที่ 24 กันยายน (ในไทยจะเข้าสู่วันใหม่ตามเวลาท้องถิ่นเป็น 25 กันยายน)

นอกจากจะมีอัพเดต iPadOS แล้ว แอปเปิลยังเตรียมออกอัพเดต iOS 13.1 ต่อเนื่องจาก iOS 13.0 ที่ออกมาเมื่อคืน ในวันเดียวกันด้วย โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่เคยประกาศไว้แต่ยังไม่ได้ใส่มาใน 13.0 อาท Siri Shortcut actions แบบอัตโนมัติ, แชร์คาดเวลาจะเดินทางไปถึงให้เพื่อนใน Maps ฯลฯ

นอกจากนี้ iOS 13.1 ยังแก้ไขบั๊กช่องโหว่ล็อกหน้าจอที่มีการรายงานออกมาก่อนหน้านี้ด้วย

วันนี้แอปเปิลเปิดตัว iPadOS โดยฟีเจอร์ส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่ามันรองรับการทำงานแบบเดสก์ทอปเต็มรูปแบบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ฟีเจอร์หนึ่งที่ไม่ถูกพูดถึงคือ iPadOS จะรองรับเมาส์

ฟีเจอร์นี้ไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน แต่อยู่ในเมนู Accessibility ที่สามารถเลือก Pointing Devices เป็นเมาส์ได้ เคอร์เซอร์จะเหมือนการแสดงเคอร์เซอร์เมื่อใช้นิ้วแตะหน้าจอ

ใช้งานได้ทั้ง iPadOS และ iOS 13 รองรับทั้งเมาส์ USB และ Bluetooth

ที่มา - TheVerge

เป็นคำถามสามัญทุกครั้งที่แอปเปิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ ว่าอุปกรณ์เดิมตัวไหนบ้างจะได้ไปต่อ และอุปกรณ์ไหนจะถูกแพไว้กลางทางเพียงเท่านี้ ซึ่งสำหรับ iOS 13, iPadOS 13 และ watchOS 6 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อคืนนี้ ก็สรุปรายชื่ออุปกรณ์ที่ได้ไปต่อได้ดังนี้

iOS 13

• iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ขึ้นไป
• iPhone X ขึ้นไป
• iPhone SE
• iPod touch 7th Gen (ตัวล่าสุดที่ขาย)

แอปเปิลเปิดตัว iPadOS เพื่อรองรับการทำงานเหมือนเดสก์ทอปมากขึ้น โดยระบุว่าถึงเวลาที่จะตระหนักว่า iPad นั้นต่างจากโทรศัพท์ที่ใช้ iOS แล้ว

ฟีเจอร์สำคัญของ iPadOS ได้แก่