หนังสือพิมพ์ USA Today มีบทสัมภาษณ์ Jonathan Ive หัวหน้าทีมออกแบบของแอปเปิล และ Craig Federighi หัวหน้าทีมซอฟต์แวร์ (ชุดเดียวกับบทสัมภาษณ์ของ Businessweek) โดยเน้นไปที่ตัวของ Ive เป็นหลัก
- ทั้งสองคนเริ่มงานออกแบบ iOS 7 เมื่อเดือน พ.ย. 2012 โดยตั้งโจทย์ไว้ว่าลูกค้าเริ่มคุ้นเคยกับการสัมผัสหน้าจอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ่มจริงอีกต่อไป จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการฉีกตัวออกจากแนวทางออกแบบที่อ้างอิงโลกความเป็นจริง (skeuomorphic) และหันไปใช้การออกแบบที่ไม่อิงกับวัตถุมากขึ้น
- UI ของ iOS 7 เป็น UI ตัวแรกที่ออกแบบมาสำหรับยุค Retina Display และ GPU พลังสูง ทำให้แอปเปิลมีอิสระในการออกแบบมากกว่าเมื่อ 7 ปีก่อน เมื่อตอนออกแบบ iOS ครั้งแรก แอปเปิลใช้เทคนิคหลายอย่างเพื่อบรรเทาข้อจำกัดของหน้าจอแสดงผล (เช่น การใช้เอฟเฟคต์เงาช่วยซ้อนใต้ข้อความให้เห็นชัดขึ้น) แต่ตอนนี้เมื่อจอคุณภาพดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคแบบนี้อีกต่อไป
- Robert Brunner หัวหน้าทีมดีไซน์ของแอปเปิลระหว่างปี 1989-1997 ประทับใจในฝีมือของ Ive ขณะที่เขายังทำงานกับบริษัทออกแบบ Tangerine ในอังกฤษ ตัดสินใจจ้าง Tangerine ทำงานร่วมกับแอปเปิลโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ได้ตัว Ive มาทำงานด้วย ตอนแรก Ive ปฏิเสธแต่ก็เปลี่ยนใจหลังมาเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของแอปเปิล
- Ive เคยไปออกรายการทีวีของ BBC และขอให้พิธีกรรายการไม่ต้องเรียกเขาว่า "เซอร์โจนาธาน" แต่เรียกว่า "โจนี่" ก็พอ
- Ive ให้นิยามของคำว่า "เรียบง่าย" (simplicity) ว่าไม่ได้หมายถึง "ไม่รก" (lack of clutter) แต่ความเรียบง่ายที่แท้จริงคือการตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือทางเลือกที่สมเหตุสมผลอื่นอีกแล้ว (no rational alternative)
- การออกแบบ Touch ID เริ่มจากโจทย์ว่าเครื่องสแกนนิ้วในความคิดของคนทั่วไป จะต้องมีกระบวนการมากมาย ซึ่งแอปเปิลตั้งเป้าไว้ว่าจะออกแบบมันได้สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ไม่เห็นกระบวนการใดๆ ระหว่างการสแกนนิ้วเลย
- Ive บอกว่าเขาจับตาดูแนวทางการออกแบบของคู่แข่งอยู่เสมอ แต่แนวทางของคู่แข่งไม่กระทบหรือส่งอิทธิพลต่อเขาเลย เพราะคนกำหนดทิศทางการออกแบบของแอปเปิลก็คือทีมงานและลูกค้าของแอปเปิลเท่านั้น
- Ive บอกว่าถ้าไม่ต้องออกแบบสินค้าเทคโนโลยี สิ่งที่เขาอยากลองออกแบบดูคือ "ถ้วยกาแฟ" (cups)
ที่มา - USA Today
Comments
ชักอยากเห็น "ถ้วยกาแฟ" ของ Ive
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
+1 ชักอยากเห็นเหมือนกันแฮะ
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าคุกจะขอให้ไอฟ์ออกแบบถ้วยกาแฟสำหรับขายเป็นของที่ระลึกใน Apple Store และแน่นอน แพงพอๆ กับที่สตาร์บัคส์ขาย
อาจมีข่าว Starbucks เตรียมซื้อตัว Ive และจากข่าวนี้ทำให้หุ้น Starbucks เพิ่มขึ้นอีก
"เพราะคนกำหนดทิศทางการออกแบบของแอปเปิลก็คือทีมงาน" (Cydia)
+++ ล้านครับ
เห็นด้วยที่สุด
สงสัยจะจริง เพราะจากที่อ่านบทสัมภาษณ์นั่นคือยอมรับกลาย ๆ ว่าดูหน้าที่การทำงานของชาวบ้านเหมือนกัน ถ้าอันไหนทีมงานเห็นพ้องต้องกันว่าดีก็หยิบยืมมาใช้ อะไรทำนองนี้
"คนกำหนดทิศทางการออกแบบของแอปเปิลก็คือทีมงานและลูกค้าของแอปเปิล" Cydia ก็ลูกค้า Apple น่ะ ;]
สรุปว่าพวกที่ใช้ iphone4 แลคจิครัเนีย จริงอับ ของใหม่ยังไงก็ต้องดูแลเครื่องเก่าด้วยก็ดีนะผมว่า
อีซัมซุงก็ไม่ยอมอับ note2 สักที ขายแต่ของใหม่
Reduce Motion แก้ได้ไหมอ่ะ
ถ้วยกาแฟสีขาว มีที่กดให้กากกาแฟไหลลงไป
เดี๋ยวๆๆๆ
จาก Tangerine มาเป็น Apple อืมม อยู่กับผลไม้ ทำให้มี "ความคิดสร้างสรรค์"
คัพ ที่อีฟออกแบบ ก็คงออกมา ดี ซินะ >//<
"คนกำหนดทิศทางการออกแบบของแอปเปิลก็คือทีมงานและลูกค้าของแอปเปิลเท่านั้น" ผมไม่ได้ลอกใครนะครับ
ก็ไม่เห็นว่ามันจะไป เหทือนกับของค่ายไหนนี้ครับ
ถ้าจะบอกว่าเหมือน ไมโครซอฟ ผมมองว่า มันดูดี กว่า ของเจ้านั้นเยอะเลยครับ
มันไม่เหมือนเป๊ะหรอกครับ แค่มีสาวๆ ที่ออฟฟิศอัพแลัวบ่นกันว่าดูคล้ายๆ แอนดรอยด์เลย ก็พอจะเข้าใจแล้ว
Win แบนราบ สี 8บิท นั้นมันต่างกันคนละโยชน์เลยนะครับ
แนวๆดรอยด์แต่เนี๊ยบคลาสกว่า ถึงไม่แอดวานซ์ยูสเซอร์เหมือนดรอยด์
ผมว่าเอาไอเดียจาก ดรอย กับ วินโดว์ มาเต็มๆ เบย
แต่ตามสไตล์แอปเปิ้ลครับ เอามาแล้วต้องทำให้ดูดีกว่า
เลียนแบบ แบบพัฒนาต่ออีกนิดส์
แต่ก็นั้นแหละครับ เค้าบอกลูกค้าอยากได้ เลยทำให้
(สงสัยลูกค้าชอบ ไอเดียชาวบ้าน เพิ่มขึ้นทุกวัน)
ในมุมมองผม ผมว่า IOS7 คือ Metro ที่ทำเสร็จแล้วอะ
ส่วน WP ยังเป็น Alpha อยู่.. (และก็ยังเป็นต่อไป) แถมยึดติดแนวทาง UI มากเกินไป ไม่ยืดหยุ่นให้เกิดประโยชน์
ตกลงจะพูดว่าเหมือนหรือไม่เหมือนครับ
"Ive ให้นิยามของคำว่า "เรียบง่าย" (simplicity) ว่าไม่ได้หมายถึง "ไม่รก" (lack of clutter) แต่ความเรียบง่ายที่แท้จริงคือการตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือทางเลือกที่สมเหตุสมผลอื่นอีกแล้ว (no rational alternative)" == lean?
อีกหน่อยคงมีหนังสือของไอวฟ์แยกออกมาเป็นของตัวเองได้สักเล่ม
ปล.ว่าแล้วก็ขัดใจไอวฟ์ในหนัง Jobs จริงๆ น่าจะหาคนหน้าเหมือนกว่านั้นสักหน่อย -*-
my blog
UI ของ iOS 7 เป็น UI ตัวแรกที่ออกแบบมาสำหรับยุค Retina Display และ GPU พลังสูง
มิน่า หน่วงกันเต็ม
+10
บางสาวกบอกไม่หน่วงนะ ทั้ง ๆ ที่เป็น 4/4s เหมืนอผม ไม่เข้าใจคำว่าไม่หน่วงของเค้าเป็นยังไง ฮ่า ๆ
สงสัย "หน่วง" เราไม่เท่ากัน
iPad 4 ยังหน่วงนิดๆเลยครับ โดยเฉพาะหน้าที่มีภาษาไทย และ Gesture ก็รูดติดมั่งไม่ติดมั่งไม่เหมือน iOS 6
เพื่อนผมก็ทำหน้าแปลกใจตอนผมบอกว่าอัพแล้วหน่วงครับ เค้าเลยหยิบ iPhone 4 ขึ้นมาลองบ้างแล้วก็บอกว่า เอ้อ หน่วงจริงๆ ด้วย ไม่เคยสังเกต
ผมว่าก็เหมือน Android นะ บางคนบอกหน่วง บางคนบอกไม่หน่วง บางคนบอกต้อง Nexus ถึงจะไม่หน่วง ฯลฯ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันคงเป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า
"คือการตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปเรื่อยๆ"
icon นาฬิกาเข็มหมุนตามเวลา นี่จำเป็นหรอ?
ลดขั้นตอนการ"แตะเข้าถึง app" เพื่อดูไงครับ
หน้า Home มันมีเวลาบอกอยู่แล้วนี้ครับ แถบเดียวกับ แบต
มันตั้งค่าปลุก, ดูเวลาต่างโซน ในแถบนั้นไม่ได้นิครับ
การที่เข็มนาฬิกาหมุนได้ก็ไม่ได้ทำให้ตั้งปลุกนาฬิกาได้นะครับ
:-)
ไม่ได้หมายถึง app นะครับ อ่านดีๆ หมายถึงแค่ที่ icon นาฬิกาหมุนตามเวลา
เขาอาจจะพูดได้ไม่ตรงจุดเท่าไหร่ แต่ผมว่าฟีเจอร์มันจะเอาไปประยุกต์ใช้ได้แบบเดียวกับ Live Tile มากกว่า สำหรับการแสดง Notification ต่างๆ แบบ Realtime นอกเหนือจาก Notification แบบเดิมที่บอกแค่ตัวเลข
เช่น โปรแกรม Weather อากาศวันนี้ดี ก็ทำให้ Icon เปลี่ยนไปเป็นรูปดวงอาทิตย์..
ไอ้ Parallax 3D อะไรนี่ก็น่าจะตัดได้นะ
เอามาใช้กับแนวคิด Layer ของเฮียเค้าน่ะครับ
ผมว่ามันควรสอดคล้องกับไอคอนแอพปฏิทินที่แสดงวันที่ปัจจุบันครับ จริงๆ ควรทำมาตั้งนานแล้วด้วย
ในเรื่องความสวยงามและ Usability ตอนนี้ผมว่า Android นำไปไกลมาก ตั้งแต่ยุค Holo เป็นต้นมา
แค่เรื่องความสวยงามของ UI (ไม่ใช่ Effect) และ Usability นะ
แต่ถูกบดบังด้วย custom ui เห่ยๆ เชยๆ ของ oem อย่าง touchwiz
เอ่อ
ui มันมีหลายเจ้าครับ
ไอคอนแอพดรอยยังตามหลังมากครับ เห่ยเป็นส่วนใหญ่
อันนั้นเป็นปัญหาของคนพัฒนา App แล้วคับ
คิดคล้ายๆ กันครับ แต่ก็ยังมีขัดใจบางอย่างใน Android อยู่ ตอนนี้ เหมือนทิศทางกำลังสวนกันในขณะที่ Android พยายามทำให้ทุกอย่างลื่นขึ้น แต่ iOS กำลังก้าวตาม Android แต่เป็นการตามในเรื่องความอืด
ใช้ iOS บนไอโฟน 4 ตอนนี้มันทำให้นึกถึงตอนที่โลกกำลังก้าวจาก Windows 98 ไปสู่ยุค windows XP ที่ตอนนั้นจำเป็นต้องอัพสเปคเครื่องเพื่อให้สามารถทำงานได้ลื่นหรือไม่ก็ต้องปิด effect ต่างๆ เพื่อให้ยังสามารถทำงานได้
iOS เริ่มต้นจากสเปกพอดี OS ตั้งต้นเขียนมาพอดี ยิ่งอัพก็ทำให้ช้าลง
Android เริ่มต้นจากสเปกเทพ และ OS ที่ตั้งต้นเขียนมาแย่ ยิ่งอัพก็ยิ่งเร็ว
like !!
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
ไม่ได้เข้าข้างใคร
แต่จะบอกว่าแอนดรอยนำ ios ไปนานแล้วครับ
เพราะสมัยนี้ สเปคเครื่องมันแรงขึ้น ตามความหน่วงของแอนดรอยได้หมดแล้ว
ผมชอบ UI iOS7 มากกว่า holo นะ เพราะมันดูสดใสดีทรานซิชั่นต่างๆ ดูดีกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความกระตุกสุดบรรยาย และ บางทีดูมีดีเลย์มากไปหน่อย
ห้ามเรียกเพราะในภาษาไทยมันฟังไม่ค่อยฉลาด
ด่ากันเยอะเลย งั้นผมขอชมบ้างละกัน :)
ขอบคุณสำหรับ iOS 7 สีสันสดใสแบบเรียบ ๆ ครับ ผมประทับใจมาก
GR8 GR8 GR8
ความยากของการออกแบบคือ
20:80
จะมีซักกี่คนที่ใส่ใจ 20 ให้ดีก่อนไปทำ 80 ?
จริงเหรอครับ โกหกระวังตกนรกเจอซาตานนะ
อัพบนเครื่องเดิมๆถึงจะหน่วงบ้างเป็นบางครั้ง ผมว่าปกตินะ แต่หากเป็นเครื่องใหม่ๆ อย่าง 5S นี่หากหน่วงก็สมควรด่า แต่ i5 ของผมที่อัพมามีหน่วงตอนพิมพ์ไทยเร็วๆครับ นอกนั้นลื่นๆดี สวยงามมาก ขนาดตั้งภาพพื้นหลังแบบเคลื่อนไหว การทำงานไม่หน่วงเลย
บอกกันว่าหน่วง ผมเลยไม่กล้าอัพให้แฟนเลย ถ้าโดนด่าทียาวเป็นเดือน