Tags:
Node Thumbnail

ข่าวสั้นนี้เป็นข่าวต่อเนื่องจากข่าว "ธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งระงับการแลกเปลี่ยน Bitcoin ภายในประเทศไทย" ครับ

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ชี้แจงประเด็นที่ฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงินของ ธปท. มีมติห้ามทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin (รายละเอียดอ่านได้จากข่าวเก่า) เนื่องจาก ธปท. มีความกังวลว่าอาจมีการใช้ Bitcoin เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรค่าเงินบาทได้ โดยให้เหตุผลว่า Bitcoin มีลักษณะเหมือนธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน มากกว่าการแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยขณะนี้ ธปท. ได้ขอให้ กระทรวงไอซีที กระทรวงการคลัง และ ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบในเรื่องนี้แล้วครับ

"ในช่วงนี้ ธปท.จึงขอให้บิทคอยน์ อย่าเพิ่งเข้ามายุ่งกับเงินบาท เพราะสิ่งที่บริษัทดังกล่าวทำมีช่องที่ส่อไปทางเก็งกำไรค่าเงินบาทได้ ดังนั้นขอเวลาให้ ธปท.ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดก่อน" นายประสาร กล่าว

ทั้งนี้ สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากการที่ค่าเงิน Bitcoin มีความผันผวนมาก โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงถึงกว่า 1000% ภายในช่วงเวลา 10 เดือน (จาก 10 USD/Bitcoin ในเดือน ส.ค. 2555 เป็น 115 USD/Bitcoin ในเดือน พ.ค. 2556) และยังอาจมีมูลค่าขึ้นลงระหว่างวันสูงมาก เช่นเคยมีมูลค่าสูงสุดที่ 266 USD/Bitcoin และตกลงเหลือ 105 USD/Bitcoin ภายในวันเดียวครับ

ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 31 กรกฎาคม 2556

ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนข่าว: ผมเห็นด้วยเรื่องการห้ามเพื่อป้องกันการเก็งกำไร แต่จากเนื้อหาแปลว่าธปท. ยังไม่ได้มองว่า Bitcoin เป็นเงินตราสกุลหนึ่งหรือเปล่า?

Get latest news from Blognone

Comments

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 12:36 #603989
devilblaze's picture

ผมว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเขาไตร่ตรองแล้วล่ะ คนข้างในระดับหัวกะทิทั้งนั้น

ความเห็นส่วนตัว : ส่วนเรื่อง Bitcoin เป็นเงินตราสกุลหนึ่งหรือเปล่า ? จะเป็นหรือไม่ ไม่สำคัญ ถ้าหากเงินสกุลไหนๆผันผวนขนาดนี้ มันก็เหมือนสินทรัพย์เอาไว้เก็งได้ทั้งนั้น แต่ว่า Bitcoin มันไม่ใช่เงินทั่วๆไป มันไม่มีอะไรรองรับแบบเงินทั่วๆไป เงินทั่วๆไปเขามี ทอง เอาไว้รองรับ ส่วน bitcoin มีอะไรตอบทีครับ รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย

By: nowingnoid
iPhoneAndroidUbuntu
on 31 July 2013 - 12:39 #603991 Reply to:603989
nowingnoid's picture

เงินสกุลไหนที่มีทองรองรับ และสกุลไหนที่ไม่มีทองรองรับบ้างครับ

เอาเฉพาะสกุลหลักๆ ที่ใช้แพร่หลาย เป็นสากล หรือใช้ในปริมาณมากๆ

เช่น ดอลล่าร์ สหรัฐฯ

By: platalay
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 12:56 #604001 Reply to:603991

USA เป็นประเทศเดียวที่ไม่ต้องใช้ทองมารอบรับการพิมพ์เงินเข้าระบบ

By: paween_a
Android
on 31 July 2013 - 18:55 #604303 Reply to:604001
paween_a's picture

แต่เคยได้ยินข่าวว่าทางญี่ปุ่นทำ QE เหมือนกัน อันนี้ก็แปลว่าญี่ปุ่นก็พิมพ์เงินไม่ต้องใช้ทองเหมือนกันหรือเปล่าครับ?

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 31 July 2013 - 12:54 #603999 Reply to:603989
Holy's picture

เงินบาทมีทองและเงินตราต่างประเทศรองรับครับ เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

แต่บางประเทศใหญ่ๆ อาจจะพิมพ์เงินเพิ่มได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสินทรัพย์รองรับเท่ากับเงินที่พิมพ์เพิ่ม เช่น USA อัดฉีดเงินเพิ่มตอน QE ครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 31 July 2013 - 15:01 #604096 Reply to:603999
lew's picture

ไม่มีครับ มาตรฐานทองคำเลิกกันไปนานแล้วครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 31 July 2013 - 15:45 #604124 Reply to:604096
Holy's picture

หมายถึงของไทยหรือทั่วโลกครับ ถ้าทั่วโลกผมอาจจะเข้าใจผิดเอง แต่ถ้าของไทยผมเข้าใจว่าบัญชีทุนสำรองเงินตรายังมีรายการทองคำเป็นส่วนของสินทรัพย์อยู่ ไม่ทราบว่ามีรายละเอียดเพิ่มเติมมั้ยครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 31 July 2013 - 17:11 #604208 Reply to:604124
lew's picture

สำรองทองประเทศไหนๆ ก็สำรองครับ สหรัฐฯ ก็ยังมีทองอยู่เยอะ แต่ไม่มีประเทศไหนผูกค่าเงินของตัวเองกับทองแล้ว


lewcpe.com, @wasonliw

By: Kittichok
Contributor
on 31 July 2013 - 21:34 #604388 Reply to:604124

มาตรฐานทองคำเป็นระบบวิธีแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่ง ซึ่งบัจจุบัน ประเทศต่าง ๆ ได้ยกเลิกไป เนื่องจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศใช้ค่าเงินของตัวเองไปผูกกับทองคำในอัตราคงที่ และให้ประเทศอื่นปรับเทียบอัตราแลกเปลี่ยนตามสภาพการค้า แต่ปรากฏว่าสหรัฐขาดดุลการค้าอย่างรุนแรงในช่วง ค.ศ. 196x-197x ทำให้ค่าเงินสหรัฐอเมริกาอ่อนค่าลงอย่างมาก ประเทศอื่นจึง (รุม) แลกเอาทองคำแทน ทำให้ทองคำของสหรัฐอเมริกาขาดแหลน (มีขึ้นขั้นต้องเรียกคืนจากประชาชน) สหรัฐอเมริกาจึงขอเปลี่ยนระบบใหม่ที่ทำให้ค่าเงินไม่ผูกกับทองคำ

ทั้งนี้ ผมก็ไม่มั่นใจว่าทำไมถึงมีคนเข้าใจว่าสหรัฐอเมริกายังคงใช้มาตรฐานทองคำเป็นระบบในปัจจุบัน

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 31 July 2013 - 22:51 #604436 Reply to:604388
Holy's picture

ส่วนที่ผมงงจริงๆ คือ ผมไม่ได้เขียนว่าค่าเงินผูกติดกับทองเลย ซึ่งผมก็พยายามอธิบายว่าปัจจุบันประเทศไทยใช้เงินตราต่างประเทศร่วมกับทองเป็นเงินสำรอง ยกเว้นบางประเทศใหญ่ๆ ที่อยากพิมพ์ก็พิมพ์ ใช้ความเชื่อมั่นในเครดิตมารองรับ อันนี้ผมเข้าใจผิดเหรอครับ?

By: Kittichok
Contributor
on 1 August 2013 - 00:52 #604509 Reply to:604436

ผมคงเข้าใจประเด็นผิดตามที่คุณ Holy ทักท้วง แต่ผมไม่มีรายละเอียดที่ว่าประเทศไหนมีข้อกำหนดพิมพ์ธนบัตรเพิ่มอย่างไรครับ

อันนี้ของประเทศไทย แปะไว้เผื่อใครต้องการข้อมูล
http://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/BMD/Pages/issue_note.aspx

By: Onewings
Windows
on 31 July 2013 - 18:13 #604282 Reply to:603999

ญี่ปุ่นก็พึ่งมี QE ไปเองนี่ครับไม่เห็นต้องผูกกับค่าทอง

By: vanillasky65
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 31 July 2013 - 13:00 #604003 Reply to:603989
vanillasky65's picture

ผมว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเขาไตร่ตรองแล้วล่ะ คนข้างในระดับหัวกะทิทั้งนั้น ---> ทันยุคต้มยำกุ้งไหมครับ คนฉลาดๆ ทั่งนั้นแหละครับเป็นคนทำให้ประเทศเสียเงินหลายหมืนล้าน

By: Pinery
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 31 July 2013 - 13:01 #604007 Reply to:604003

คนหัวกะทิก็ทำงานผิดพลาดได้ครับ

แต่คนหัวกะทิก็สามารถเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตได้เช่นกันครับ

ผมว่าคราวนี้เค้าต้องไตร่ตรองให้ดีถึงที่สุดก่อนครับ ส่วนตัวผมว่าเป็นเรื่องดีนะ

By: nevermore
Windows PhoneAndroidUbuntuWindows
on 31 July 2013 - 13:17 #604019 Reply to:604003
nevermore's picture

แต่มีคนฉลาดบางคนรอดมาได้เฉยเลยนะครับ แปลกนะว่ามั้ย

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 13:28 #604024 Reply to:604003
devilblaze's picture

ทันครับ แต่ผมยังเด็ก รู้แต่ว่ามันทำให้ครอบครัวผมจากมีฐานะ กลายไปธรรมดาไป

ฉลาดๆอย่างคนตะวันตก ยังพุงแตกจากแฮมเบอร์เกอร์ ความผิดพลาดย่อมเกิดกับคนทุกระดับถ้าความโลภครอบงำ

By: timered
Android
on 31 July 2013 - 13:37 #604035 Reply to:604003

ที่บ้านเมืองฉิบหายกันก็เพราะหัวกะทิทั้งนั้น ไม่ใช่แต่เมืองไทย อเมริกายุคsub prime

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 31 July 2013 - 13:29 #604028 Reply to:603989

เรื่องหัวกะทิน่ะยอมรับ แต่ใช่ว่าผลงานจะดีไปทั้งหมดน่ะซี
-สู้ค่าเงินบาทช่วงปี40
-มาตรการกันเงินสำรองตอนรบ.ทหาร(อันนี้นโยบายจากรบ.นั้นจริง แต่คนตัดสินใจคือธปท.)
-ล่าสุดก็สู้ค่าเงินบาทอีกรอบ ก่อนที่จะยอมลดดบ.

เราเลยมาถกกันว่าเราได้-เสียอะไรจากนโยบายต่างๆ ไม่ใช่เพราะเชื่อมือเขาอย่างเดียว

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 13:43 #604042 Reply to:604028
devilblaze's picture

ถูกต้องนะคร้าบ หัวกะทิ เป็นหลักประกันว่าเขามีความรอบรู้ในเรื่องนั้นๆ ส่วนเรื่องทำผลงานเข้าตาหรือไม่ ต้องคอยดู

ที่ผมคอมเม้นไปก็เพราะ หลายๆกระทู้มักดูแคลนความสามารถของข้าราชการ หรือ หน่วยงานกลาง
มันแทบจะชินตากับคอมเม้นที่ว่า ข้าราชการในงานนั้นๆ ไม่มีความรู้อะไรเลย

ระบบราชการส่วนใหญ่ คนทำไม่ได้พูด คนพูดไม่ได้ทำ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 31 July 2013 - 14:07 #604063 Reply to:604028
Holy's picture

รอบหลังสุดไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสู้ค่าเงินเลยนะครับ นโยบายมันอิงกับดอกเบี้ยไม่ใช่อัตราแลกเปลี่ยน ทุกวันนี้แบงก์แข่งกันปล่อยสินเชื่อ แย่งเงินฝากกันรุนแรงมากแล้วครับ ถ้าลดดอกเบี้ยช่วยผู้ส่งออก แต่เงินเฟ้อพุ่งกระทบทุกคนก็ไม่คุ้มนะ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 31 July 2013 - 14:29 #604079 Reply to:604063

รอบหลังสุด ผมพูดผิดไปจริงๆครับ ไม่ได้เอาเงินไปสู้ค่าเงิน แต่เพราะแข็งขืนไม่ยอมลดดอกเบี้ย ทำให้ธปท.ทำขาดทุนไปแสนล้าน จากเงินบาทแข็งค่า

ทั้งๆที่รัฐส่งสัญญาณนโยบายบาทอ่อน ด้วยการให้ลดดอกเบี้ยตั้งเป็นปี แต่ไม่ยอมลด (อย่างอ้างว่า คนกำหนดดอกเบี้ยนโยบายคือกนง.นะ เพราะตัวแทนหลักมาจากสายธปท.ทั้งนั้น)

จนส่งออกเกือบตายเป็นแถบๆตอน 29บาทต่อ1 USD ส่วนเม่าหุ้นยิ้มร่า เพราะฝรั่งขนเงินมาเล่นหุ้นกับซื้อพันธบัตรในไทยเยอะ ธุรกิจอื่นรายได้ลด แต่สายbank ขึ้นกันตลอด

ไม่อยากมองอย่างแง่ร้าย ว่าคนแต่งตั้งสายนี้ ก็มาจากสายนายแบ๊งค์ เลยเน้นผลประโยชน์ของธนาคาร มากกว่าอย่างอื่น(จริงๆมันก็การเมือง สืบเนื่องมาตั้งแค่ยุครบ.ทหารแล้วนั่นแหละ)

เปิดงบการเงินธปท.ปี55 ขาดทุน1.08แสนล.
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20130531/508571

ธปท.โล่งบาทอ่อนลดตัวเลขขาดทุนหายไปกว่าแสนล้าน
http://www.thairath.co.th/content/eco/353246

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 31 July 2013 - 15:07 #604104 Reply to:604079
Holy's picture

เรื่องส่งออก อย่างที่บอกครับ มันก็ต้องแลกกับการคุมเงินเฟ้อไป

แต่เรื่องขาดทุนนี่ ด้วยความเคารพครับ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนทั่วไปถึงต้องห่วงมากมายด้วย แบงก์ชาติไม่ได้ใช้ภาษีของประชาชนในการดำเนินงานนะครับ ส่วนขาดทุนก็เป็นการรับรู้ทางบัญชี ถ้าจะมีปัญหาก็ต้องขาดทุนจนส่วนทุนติดลบเลยแหละ ที่สำคัญ แบงก์ชาติมีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพการเงิน ไม่ได้มีหน้าที่ทำกำไรครับ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 31 July 2013 - 16:26 #604154 Reply to:604104

อ้าวคราวนี้บอกว่ามีหน้าที่ปกป้องเสถียรภาพของค่าเงิน แต่ช่วงที่ผ่านมาค่าเงินผันผวนแข็งแบบพรวดๆนับสิบ%ในช่วงเวลาครึ่งปี ไม่โทษกนง.แล้วเหรอครับ เรื่องดอกเบี้ย :P

ดอกเบี้ยนโยบายเราสูงเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคมาตั้งนาน ผมว่าไม่ใช่กลัวเงินเฟ้อแล้วนา อีกอย่างอย่าลืมว่าบ้านเราพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักด้วย

ส่วนเรื่องขาดทุน ตอนปี40 เอาเงินไปสู้ค่าเงินจนขาดทุนเยอะแยะ ทำไมเขาไม่ตอบแบบนี้บ้างหว่า แค่ขาดทุนทางตัวเลข เงินสำรองหายช่างมัน ไม่มีผลกับเศรษฐกิจในประเทศ?

นอกประเด็นbitcoinไปไกลแล้ว พอดีกว่า

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 31 July 2013 - 16:53 #604179 Reply to:604154

เงินบาทอ่อนค่าเพราะลดดอกเบี้ย ไม่จริงครับ

เงินในกลุ่ม TIP แข็งค่ามาซักพักหละครับเพราะเงินใหลมาเทมายังตลาดใหม่

ส่วนเงินบาทมันเริ่มอ่อนค่าลงมาก่อนหน้านั่นแล้วครับ ด้วยเหตุผลว่าเงินทุนเริ่มใหลออกเพราะ QE เอาจริงๆ วันนั้นต่อให้ไม่ประกาศลด มันก็ยังลง เพราะเงินทุนใหลออกจาก TIP พอประกาศลดค่าเงินก็พอดีกับลุงเบนก็ประกาศว่าจะค่อยๆลด QE คราวนี้ฮวบกันทั่วเอเชีย

ดอกเบี้ยเราสูงกว่าเพื่อนบ้าน ? ไม่จริงครับ มีประเทศแถวๆ นี้หลายประเทศสูงกว่าเรา เงินตราที่ใหลเข้ามา ส่วนมากไม่ได้ใหลเข้ามากิยนดอกหรอกครับ เพราะว่าถ้ากินดดอก มันควรจะไปประเทศเพื่อนบ้านที่สูงๆ มาก
แต่ผมดูกราฟเทียบกับไทยกับกลุ่มเพื่อนบ้านแล้ว ช่วงก่อนที่เงินบาทจะอ่อนมันแข็งค่าอย่างรวดเร็ว เป็นไปได้ว่ามันใหลเข้ามาเก็งกำไรอะไรซักอย่าง น่าจะเป็นค่าเงินกระมัง

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 31 July 2013 - 18:03 #604276 Reply to:604154
Holy's picture

เรื่องขาดทุนปี 40 ผมเห็นด้วยมากครับว่าตอนนั้นแบงก์ชาติดำเนินนโยบายผิด

ที่จริงแล้วเกือบทุกประเด็นที่คุณถามเรื่องแบงก์ชาติ ทั้งเรื่องขาดทุน เรื่องดอกเบี้ยสูง เค้ามีประกาศชี้แจงไว้แล้วครับ ซึ่งก็เหมือนที่ผมเขียนไปน่ะแหละ แต่อ่านแล้วจะเห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่ครับ

http://www.bot.or.th/Thai/PressAndSpeeches/Press/News2556/n2256t.pdf

ปล. เสถียรภาพ "การเงิน" ครับ ไม่ใช่เสถียรภาพ "ค่าเงิน"
ปล2. เห็นด้วยเช่นกันครับว่าออกนอกเรื่อง Bitcoin ไปไกลแล้ว....

By: GeBaN on 31 July 2013 - 17:01 #604195 Reply to:604079

วันนี้ผมพึ่งไปฟัง ธปท. คุยกับ KTB ในงานเสวนาเลยครับ
ทางผู้บริหาร KTB ยังบอกเลยว่าดีแล้วที่ ธปท. ไม่ลดดอกเบี้ยมากเท่าที่กระทรวงการคลังบอก (1%) เพราะถ้าลดจริง
เงินบาทจะอ่อนเร็วมากจนน่าตกใจ (เพราะ Policy Rate ลดลง ->discount Rate ลด-> Bond Yield เพิ่ม->ราคา Bond ปรับสู่ Equilibrium -> Bond ราคาสูงขึ้น->ต่างชาติเทขาย Bond -> เอาเงินออก)

เพราะเงินที่เข้ามาอยู่ในตลาดตราสารหนี้เป็นมูลค่าสูงมากครับ นี่เค้าบอกว่าขนาดลด 0.25% ยังทำให้เงินบาทอ่อนค่าเร็วขนาดนี้

ผมเข้าใจว่าแต่ละคนอาจจะมีมุมมองต่างกันแต่อย่างไร เราก็น่าจะดูเหตุผลที่ใช้ในการตัดสินใจของแต่ละฝ่ายแล้วค่อย
พูดคุยกันโดยอิงกับข้อมูลตรงนั้นมากกว่า ที่จะรับฟังข้อมูลฝ่ายเดียวครับ

ปล.ตัวเลขขาดทุนดังกล่าวก็เนื่องจากเรามี USD Reserve สูงถ้าบาทแข็งก็ต้องบันทึก Unrealized Lose ทั้งที่ควาจริงเรามี USD reserve เท่าเดิมครับ คือมีปัญหากับต่างประเทศเราก็ยังมีกำลังจ่ายเงินเท่าเดิมเพียงแต่ถ้าเอาเงินตรงนี้มาใช้ในประเทศ ก็จะเหมือนเรามีเงินน้อยลง แต่เนื่องจากปกติ USD Reserve ไม่ได้เก็บไว้เพื่อใช้จ่ายในประเทศอยู่แล้วครับ

By: ComSci-MFU
Windows PhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 13:39 #604038 Reply to:603989
ComSci-MFU's picture

น่าจะศึกษา bitcoin มาก่อนหน้านี่ตั้งนานแล้วนะครับ ไปทำอะไรอยู่?

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 13:52 #604047 Reply to:604038
devilblaze's picture

ผมศึกษามาแล้ว แต่ไม่แตกฉาน เลยสงสัยแบบนี้ไงละครับ ผมมันโง่ครับ หลายๆแห่งอธิบายเกี่ยวกับ bitcoin ผมก็ยังงงอยู่ดี

ผมจึงอยากรบกวนท่านชี้ทางสว่างให้หน่อยครับ ความผันผวนของ bitcoin อะไรเป็นปัจจัยหลักที่แท้จริงครับ เผื่อผมจะได้เก็งมั่งถ้ามีโอกาส

By: ComSci-MFU
Windows PhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 16:23 #604150 Reply to:604047
ComSci-MFU's picture

ผมหมายถึง ธปท ครับ ขออภัยถ้าทำให้เข้าใจผิด

By: jinxplay
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 14:41 #604088 Reply to:603989
jinxplay's picture

ประโยคแรกเป็น Appeal to Authority Fallacy นะครับ ถ้าระวังได้จะดี

ส่วนเรื่องความมั่นคงของ Bitcoin สกุลเงินหลักที่ใช้แลกเปลี่ยนเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้หนุนกับปริมาณทองแล้วนะครับ(ของ US เลิกหนุนตั้งแต่ปี 1934 แล้ว)

สิ่งที่ Bitcoin ไม่มีคือ องค์กรรัฐที่ออกมายินยันว่ามันมีตัวตน ซึ่งในยุคที่เงินเป็นแค่ตัวเลขบนบัญชี ไอเทมในเกมสามารถแลกเป็นเงินจริงได้ และ สกุลเงินบางตัวที่รัฐรับรองแต่คนทั่วไปไม่ใช้ .... มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนใช้ครับ

ปล. สนใจเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่ยังไม่แน่น ผิดถูกแลกเปลี่ยนได้ครับ :)

By: Flurrywong
ContributorMEconomicsAndroidWindows
on 1 August 2013 - 00:34 #604500 Reply to:603989

การพิจารณาว่า Bitcoin เป็นเงินตราหรือไม่ เป็นประเด็นสำคัญในทางกฎหมายมหาชนที่จะชี้ว่าในที่สุดแล้วธปท. มีอำนาจออกคำสั่งหรือไม่ และถ้ามีอำนาจจะต้องอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติใดในการออกคำสั่งค่ะ เพราะตามหลักกฎหมายมหาชน องค์กรต่างๆ ของรัฐจะกระทำการใดๆ ได้ กฎหมายต้องให้อำนาจ เพื่อประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วยค่ะ

By: langisser
In Love
on 1 August 2013 - 18:15 #604974 Reply to:604500

สะดุดกับ comment นี้แฮะ ปรกติเจอแต่ "ครับ" ไม่ค่อยได้เจอ "ค่ะ"

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 2 August 2013 - 00:07 #605147 Reply to:603989

BitCoin ใช้การอ้างมูลค่าอ้างอิงจาก Hash SHA256 ที่ประมวลผลได้และตรงตามที่ข้อตกลงครับ โดยในระบบเชือว่าการได้ซึ่ง Hash มานั้นเป็นการยาก (เหมือนการขุดทอง)

By: iPongHD
iPhoneAndroidUbuntuIn Love
on 31 July 2013 - 12:46 #603996
iPongHD's picture

ระงับ Bitcoin เพราะห่วงเก็งกำไรค่าบาท >>> ระงับ Bitcoin เพราะห่วงเก็งกำไรค่าเงินบาท

แบบนี้จะดีกว่ามั้ยครับลองแนะดู

By: agent5 on 31 July 2013 - 12:49 #603997

ผมว่าน่าเป็นห่วงน้อยกว่าเรื่องฟอกเงินอีก

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 31 July 2013 - 12:56 #604002

อยากรู้ว่า ธนาคารชาติประเทศอื่นๆ เขามีนโยบายอย่างไรกับbitcoin ห้ามทำธุรกรรมไปเลย เหมือนสมัยwikileaks ไหม?

ยังงงว่า ห้ามทำธุรกรรมนี่ห้ามระดับไหน ห้ามตั้งบ.รับแลกbitcoin เป็นเงินบาทในไทย หรือว่าตั้งได้แต่ต้องแลกเป็นเงินสกุลอื่น

แล้วถ้าตั้งบ.ที่อื่นเช่นสิงคโปร์แล้วรับแลกเป็นเงินบาท ธปท.มีสิทธิ์ห้ามไหม โดยใช้การแลกเปลี่ยนเป็นเงินผ่านระบบอื่นๆเช่นpaypal หรือบัตรเติมเงิน หรือแม้แต่ส่งผ่าน True money?

เพราะอ่านจากกระทู้ข่าวอันเก่า แล้วเหมือนจะห้ามแบบห้ามซื้อขาย ส่งรับไปเลย แล้วจะมาจับนักขุดเหมืองที่อยู่ในประเทศไทย โดยใช้อำนาจหรือกฎหมายข้อไหน?

By: speedmodel
iPhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 13:30 #604030 Reply to:604002

เห็นเว็บต่างประเทศก็ลงบอกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่แบนBitcoin!

แต่ผมคิดว่าน่าจะดีและหละครับ แบนไว้ก่อนเพราะเรื่องเงินๆทองๆนี่อ่อนไหวมากและปัญหามักจะเกิดจากเงินทั้งนั้นแหละ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 31 July 2013 - 16:28 #604158 Reply to:604030

ขอบคุณครับ อ่านข่าวอีกที เหมือนจะแค่ห้าม"ให้บริการ" แต่ถ้าทำเอง ส่งเงินเอง ซื้อขาย ผ่านเวบที่ตปท.เองไม่น่าผิด

ตอนแรกกังวลว่า จะพาลมาถึงนักขุดเหมืองในไทย ว่ากลายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วยหรือเปล่า เดี๋ยวจะโดนข้อหาฟอกเงินโดยไม่รู้ตัวกัน

By: Flurrywong
ContributorMEconomicsAndroidWindows
on 1 August 2013 - 00:37 #604502 Reply to:604158

ไม่ใช่ห้ามให้บริการค่ะ ห้ามทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวกับ Bitcoin ค่ะ หมายความว่าถ้ามี Bitcoin อยู่กับตัวไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้ากระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามนี้จะผิดกฎหมายค่ะ

  1. การซื้อ Bitcoin
  2. การขาย Bitcoin
  3. การซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อแลกเปลี่ยนเป็น Bitcoin
  4. การซื้อสินค้าหรือบริการด้วย Bitcoin
  5. การส่ง Bitcoin ให้กับบุคคลอื่นที่พำนักอยู่นอกราชอาณาจักร
  6. การรับ Bitcoin จากบุคคลอื่นที่พำนักอยู่นอกราชอาณาจักร
By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 1 August 2013 - 22:11 #605090 Reply to:604502

ถ้าอย่างนี้ การใช้bitcoin ถือว่าผิดกฎหมายด้วยน่ะสิครับ

เพราะการใช้ ย่อมมีการส่งให้ผู้อื่น โดยอาจจะจงใจส่งให้ฟรีๆ หรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินจากเวบนอกราชอาณาจักร

น่ากลัวนะครับ ถ้านั่งขุดbitcoin อยู่ในบ้านแล้วผิดกฎหมายดื้อๆ เพราะคงไม่มีใครขุดสะสมไปเฉยๆ

ว่าแต่ผิดกฎหมายอะไร มาตราไหน จะโยงไปถึงฟอกเงินได้หรือไม่? ขอบคุณครับ

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 31 July 2013 - 13:51 #604045 Reply to:604002
osmiumwo1f's picture

เข้าใจว่าห้ามแลกเปลี่ยนแบบ Bitcoin <-> บาทไทยครับ

By: ilakya
AndroidUbuntu
on 31 July 2013 - 15:38 #604121 Reply to:604045

ใช่ครับ ถ้าเราซื้อขายผ่านเงินสกุลอื่น (เช่น ซื้อในอัตรา usd ที่แปลงจากค่าเงินบาทอีกที) น่าจะไม่ผิดครับ ซึ่งนั่นทำให้ไม่สามารถเก็งกำไรเงินบาทโดยซื้อ bitcoin ได้ครับ

By: moonoiz on 31 July 2013 - 14:04 #604059 Reply to:604002

ตั้งที่ต่างประเทศไม่มีสิทธิ์ห้ามครับ แต่คาดว่าน่าจะเข้ามาทำธุรกรรมในไทยไม่ได้
เช่น ใช้บัญชีธนาคารในประเทศไทย , ใช้บริการทรูมันนี่

By: ComSci-MFU
Windows PhoneAndroidWindows
on 31 July 2013 - 13:42 #604040
ComSci-MFU's picture

ผมว่าต่างประเทศพอมีข่าวเรื่อง Bitcoin ออกมาเขาก็น่าจะเริ่มศึกษากันแล้วล่ะครับว่าควรจะทำยังไง ไม่งั้นประเทศใหญ่ๆ ของคงไม่ใช้ Bticoin แทนเงินจริงในการซื้อของตามได้ร้านทั่วไปและร้านออนไลน์หรอกครับ น่าแปลกที่ประเทศเราเพิ่งจะมาศึกษาเอาตอนนี้

By: moonoiz on 31 July 2013 - 14:07 #604064 Reply to:604040

จำ Liberty Reserve ได้ไหมครับ ที่นิยมใช้รับชำระค่าบริการ รวมถึงในตลาด Forex มาหลายปี
แต่อยู่ๆโดน FBI บุกจับไปโดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้า Bitcoin จะน่ากลัวตรงที่ การไม่รู้เจ้าของบัญชีที่แท้จริง
และไม่สามารถยกเลิกรายการได้ จะเป็นช่องทางหลักที่ใช้ในการทำความผิด เช่น ใช้ในการหลอกลวงผู้อื่น และไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้

By: l2aelba
iPhoneAndroid
on 31 July 2013 - 14:03 #604058
l2aelba's picture

"ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงินค้าทองค้า"

By: sunback
Contributor
on 31 July 2013 - 14:20 #604068 Reply to:604058
sunback's picture

เสียดายที่ BitCoin ไม่ได้เกิดในเพลานั้นเจ้าค่ะ

By: thumb6455
Android
on 31 July 2013 - 19:12 #604315

T-T

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 2 August 2013 - 00:05 #605146

มูลค่า BitCoin ไม่ได้เกิดง่ายๆ แบบขุดทองนะครับ ธปท. กว่าจะได้ Hash หนึ่งเนี่ย กิน GPU กินไฟไปเท่าไหร่

By: Onewings
Windows
on 2 August 2013 - 10:24 #605318 Reply to:605146

ทองเป็นทรัพย์สินของชาติ BitCoin ไม่ใช่และอยู่นอกเหนือการควบคุมของ ธปท. ด้วยเลยสั่งห้ามไว้ก่อนเพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อน?

By: bozzini
ContributoriPhone
on 2 August 2013 - 17:19 #605569

BitCoin ไม่มีใครเป็นผู้รับประกัน ไม่มีใครเป็นผู้ดูแล หรือไม่มีอะไรที่จะบ่งบอกว่ามันเป็นเงินตราสกุลหนึ่งที่เชื่อถือได้นะครับ อย่างข้างบนที่พูดคุย (หรือเถียง) กัน ก็ด้วยข้อว่า บางประเทศมิได้มีการผูกค่าเงินกับทองคำ บางประเทศพิมพ์เงินได้โดยไม่มีขอบเขต ข้อนั้นเห็นจะจริง แต่อย่าลืมนะครับว่าตราบใดก็ตามที่คนบนโลกนี้โดยส่วนใหญ่ "เชื่อ" ในเงินกระดาษ ทั้งดอลลาร์สหรัฐ หรือยูโรก็ตาม เงินกระดาษก็ยังคงมีค่าด้วยตัวของมันเอง

อย่างดอลลาร์สหรัฐ เรามี เรายังซื้อน้ำมัน ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับหลายๆประเทศได้ ใช้เพื่อการลงทุนก็ได้ เพราะมันเป็น "เงินตราที่ได้รับความเชื่อถือ" โดยมี "ธนาคารกลางสหรัฐ" และ "รัฐบาลสหรัฐ" เป็นผู้ผลิต และให้ความเชื่อถือว่าตัวมันเองนั้นมีค่า ในขณะที่ BitCoin ไม่มีผู้ใดให้ความเชื่อถือได้เลย ไม่มีใครเป็นผู้รับประกันได้เลยว่าเงินตราชนิดนี้มีความน่าเชื่อถือเช่นใด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บางร้านค้า บางสินค้าก็ยินดียอมรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วย BitCoin

ส่วนตัวผมมองว่ามันเป็น "ผลิตภัณฑ์ทางการเงินชนิดหนึ่ง" ไม่ใช่ "เงินตรา" เหมือนกับทองคำ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (โลหะมีค่า) มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน ราคามีความผันผวน ใช้แลกเปลี่ยนเป็นเงินตราสกุลหลักได้ (ขายทอง) แต่ไม่ใช่เงินตราสกุลหนึ่งที่มีการรับรองจากรัฐบาลกลาง หรือธนาคารกลางประเทศเหล่านั้น

ส่วนกรณี QE นั้น มันก็เป็นเงิน "สมมติ" ที่พิมพ์ขึ้นมาครับ ไม่ใช่พิมพ์ลอยออกมาแล้วก็ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ถ้าให้เปรียบเป็นกลไกง่ายๆ เหมือนว่า (สมมติ) ธนาคารประเทศ ABC พิมพ์เงินดอลลาร์ออกมา ด้วยวงเงิน 10,000 ล้านเหรียญ เป็นเวลาติดต่อกัน 12 เดือน รวมแล้วโครงการนี้พิมพ์เงินออกมา 120,000 ล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้พิมพ์ออกมาเพื่อนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลประเทศ ABC เพื่อกดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (ดอกเบี้ย) ลดต่ำลง เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ ก็จะช่วยให้คนส่วนหนึ่งต้องขายพันธบัตรออก เพราะผลตอบแทนไม่คุ้มค่า คนเหล่านั้นก็นำเงินไปลงทุนอย่างอื่น ที่อาจมีความเสี่ยงมากขึ้น หรือเอาไปดำเนินธุรกิจ และเมื่อจบโครงการ ธนาคารกลางที่พิมพ์เงินดังกล่าวออกมา ก็ขายพันธบัตรที่ตนเองถืออยู่ออก (อาจจะทะยอยขายน้อยๆ ไปเรื่อยๆ) และนำเงินกลับไป ก็ทำลายแค่นั้น (เหมือนเสกเงินออกมา ท้ายที่สุดหมดโครงการก็เอามันไปทำลาย) ไม่ใช่ว่าพิมพ์แล้วพิมพ์เลย

ส่วนจุดประสงค์ของ QE นั้นคือการพยายามกระตุ้นสภาพคล่องในตลาดเงินให้เกิดมาขึ้น โดยนโยบายนี้มีใช้ครั้งแรกที่ญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราความฝืดเคืองของเงินในระดับสูงมาก คนญี่ปุ่นนิยมออมเงินกันอย่างมาก ดังนั้นเงินจึงไม่ถูกนำมาหมุนเวียนในระบบ (เหมือนมีเงินเท่าไหร่ ยิ่งหาเงินได้มาก ก็ยิ่งเก็บมาก) ถึงขั้นว่าบางคนมีอัตราการออมต่อรายรับสูงถึง 60-70% เลยก็มี ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นประสบภาวะเงินฝืดมาอย่างยาวนานมาก (นานกว่า 12 ปี) จนกระทั่งรัฐบาลชุดปัจจุบันใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (QE) เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เพื่อลดผลตอบแทนพันธบัตร, เพิ่มสภาพคล่อง ปัจจุบันญี่ปุ่นจึงมีอัตราเงินเฟ้อที่ค่อยๆทะยานขึ้นมาที่แถวๆ 1-2% แล้ว เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่เงินเยน "เฟ้อ"

ผลกระทบต่อการทำ QE คือจะทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง ซึ่งนั่นจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศของธุรกิจประเภทส่งออกด้วย เนื่องจากการพิมพ์เงินออกมาเป็นจำนวนเงินมากๆ จะส่งผลให้ค่าเงินสกุลนั้นอ่อนค่าลง เมื่อคนเห็นโอกาสว่าเงินมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ก็จะพยายามเน้นการส่งออกมากขึ้น การจ้างงาน ธุรกิจก็มีโอกาสฟื้นตัวตามไปด้วย ส่วนผู้นำเข้าก็มักจะรู้อยู่แล้วว่า การใช้นโยบายนี้เงินจะอ่อนค่าลง พวกเขาอาจได้รับผลกระทบ แต่โดยส่วนใหญ่ก็มักมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินกันอยู่แล้ว เพราะเป็นนโยบายที่เป็นสาธารณะ ดังนั้นการเคลื่อนไหวค่าเงินมักจะอ่อนค่าลงเป็นทางเดียว ผู้ประกอบการนำเข้าจึงเป็นที่รู้กันและทำการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินอยู่แล้ว

ทางด้านประเทศไทยเชิงทฤษฎีให้เราทำ QE ก็ย่อมทำได้ครับ เพราะเป็นกลไกหนึ่งที่ธนาคารกลางทั่วโลกใครๆก็ทำได้ แต่ประเทศไทยทำคงไม่มีประโยชน์นัก เพราะเงินเฟ้อเราอยู่ในระดับสูงมาก การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับดีปานกลาง ซึ่งถ้าเราทำออกมา เงินเฟ้อพุ่งทะยาน คงไม่ส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศแน่ๆ

ส่วนประเทศอื่นๆที่ยังยอมรับการใช้ BitCoin ในการทำธุรกรรมบางประเภทเช่นซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าบางชนิดได้นั้นอาจเป็นผลในข้อที่ว่า ประเทศดังกล่าวมีข้อกำหนดเรื่องการเคลื่อนไหวของเงินทุนเสรี จึงไม่มีการเข้าไปควบคุมตลาดการเงินเหล่านี้มากนัก ส่วนประเทศไทยเรายังเป็นประเทศในอันดับต้นๆ ที่ยังมีการควบคุมเงินตราอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด นับตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งเป็นประเทศมา มีเพียงกฎข้อบังคับบางชนิดที่ถูกยกเลิกไป (น้อยมากๆ) และส่วนใหญ่ยังคงควบคุมเช่นนั้นมาโดยตลอด บางกฎพึ่งเริ่มผ่อนคลายระเบียบความเข้มงวดไปเมื่อไม่นาน เช่นการออกไปลงทุนนอกประเทศ หรือการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศเป็นต้น แม้แต่เครื่องมือทางการเงินบางชนิด เช่นตราสารอนุพันธ์ของหุ้นต่างประเทศ ธปท. ยังคงมีระเบียบให้ใช้เพื่อการป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น (ในขณะที่ปกติมันควรใช้เพื่อเก็งกำไรได้ด้วย) เพื่อสร้างความสมดุลของระบบการลงทุน

ดังนั้นเราจึงเห็นนักลงทุนไทย ถ้าจะลงทุนต่างประเทศมักไม่เปิดพอร์ทในไทย เพราะระเบียบที่ "เข้มงวดเกินไป" ทำให้การดำเนินงานและกิจกรรมการลงทุนเป็นไปอย่างไม่มีความสะดวกเลย แต่ในอนาคตช่วงเปิดเสรีอาเซียน ประเทศไทยคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบนี้กันอีกมาก เพราะความเป็นเสรีทางการเงินมันจะมาพร้อมกับการเปิดเสรีในด้านอื่นๆด้วย