Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

หนังสือพิมพ์ The New York Times อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) กำลังจะอนุมัติวัคซีน BNT162b2 ที่พัฒนาโดย Pfizer และ BioNTech ให้ใช้งานกับเด็กอายุ 12 ถึง 15 ปีได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ จากเดิมที่อนุมัติให้ใช้งานในผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น

Pfizer ทดสอบเฟส 3 กับกลุ่มตัวอย่างอายุ 12-15 ปีเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในกลุ่มทดสอบขนาดเล็ก มีผู้ร่วมทดสอบเพียง 2,260 คนแบ่งทดสอบยาหลอกและวัคซีนอย่างละครึ่ง หลังการทดสอบพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 18 ราย อยู่ในกลุ่มได้รับยาหลอกทั้งหมด

แม้ผลการทดสอบนี้จะเก็บเคสผู้ติดเชื้อได้ปริมาณน้อย (ส่งผลให้ความมั่นใจต่อตัวเลขประสิทธิภาพต่ำ) แต่ผลการทดลองก็ระบุว่าอัตราการเกิดภูมิ (antibody geometric mean titers - GMTs) ของกลุ่มที่ได้รับวัคซีน สูงถึง 1,239.5 GMTs เทียบกับการทดสอบในกลุ่มอายุ 16 ถึง 25 ปีที่ได้ 705.1 GMTs เท่านั้น ขณะที่ผลข้างเคียงจากวัคซีนอยู่ในระดับเดียวกับที่พบในการทดลองในกลุ่มอายุ 16 ถึง 25 ปี

ทาง Pfizer กำลังทดสอบการใช้วัคซีน BNT162b2 ในอีก 3 กลุ่มอายุ ได้แก กลุ่ม 5 ถึง 11 ปี, กลุ่ม 2 ถึง 5 ปี, และกลุ่ม 6 เดือนถึง 2 ปี

ที่มา - ArsTechnica, Pfizer

Get latest news from Blognone

Comments

By: zyzzyva
Blackberry
on 4 May 2021 - 17:32 #1208012

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่ Alberta เริ่มฉีดไฟเซอร์ให้กลุ่ม 12-15 ปีที่มีโรคประจำตัวแล้ว (ไม่ได้ฉีดเพื่อการทดลอง)

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 4 May 2021 - 17:51 #1208014

ถึงว่าไทยวางแผนใช้ไฟเซอร์ฉีดเด็กอายุ 12-18 ถ้าเหลือค่อยไปฉีดบุคคลทั่วไป

By: Aize
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 4 May 2021 - 19:19 #1208018
Aize's picture

ห้ามเอกชนนำเข้าวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้า... ยังดีที่ ไม่มี J&J


The Dream hacker..

By: jane
AndroidUbuntu
on 5 May 2021 - 07:58 #1208038
jane's picture

เห็นหมอ ยง โพสผล Az แล้วอุ่นใจเลย
ถ้า pfizer ยังไม่พอต่อความต้องการแบบนี้

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 5 May 2021 - 08:36 #1208039 Reply to:1208038

%การเกิดภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่%การป้องกันโรคนะครับ Az ประสิทธิภาพมันก็ราวๆ 70% นั่นแหละ

ช่วงนี้เล่นกับตัวเลขกันบ่อย

By: zyzzyva
Blackberry
on 5 May 2021 - 09:29 #1208047 Reply to:1208039

หลังหมอยงโพสต์ไม่นาน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ว่า "แอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันในเลือด
”อย่างเดียว”จากการฉีดวัคซีนไม่บอกถึงการป้องกันโรค การป้องกันการติดเชื้อและความสามารถในการผ่อนหนักเป็นเบาจากวัคซีนจะอาศัยกลไกหลายอย่างไม่ใช่เพียงแต่การดูระดับของภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า neutralizing antibody อย่างเดียวเพราะต้องมีกลไกอย่างอื่นประกอบ"

By: zyzzyva
Blackberry
on 5 May 2021 - 09:19 #1208045 Reply to:1208038

ผมตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ที่แกโพสต์ผลของ Sinovac ล่ะ บอกว่า ฉีดครบสองเข็มแล้วได้ภูมิใกล้เคียงกับการติดเชื้อตามธรรมชาติ ทำให้ผมสงสัยว่า ถ้างั้นไฟเซอร์ก็ควรจะได้เยอะกว่า ไปค้นดูก็จริง ที่ลงในวารสาร Nature ไฟเซอร์มี IgG anti-spike RBD เป็น 20 เท่าของการติดเชื้อตามธรรมชาติ

ซึ่งหมอยงก็คงรู้ดีอยู่แล้ว ในโพสต์ต่อไปแกเลยขอให้คนที่ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อมาร่วมทดลองด้วย เพราะในกลุ่มแกมีอยู่คนนึง ซึ่งคนนั้นฉีด Sinovac เข็มแรกแล้วแพ้เลยฉีด AZ เป็นเข็มสองแล้วมีภูมิเป็นสี่เท่าของการติดเชื้อทางธรรมชาติ มารอดูกันว่าไทยจะแก้ไขวิกฤติวัคซีนด้วยการฉีดสลับยี่ห้อกันหรือไม่

ปล. แต่ AZ นี่แค่เข็มแรกก็มีภูมิเกือบเท่าสองเข็มของ Sinovac เลย Sinovac เข็มแรกนี่คือต่ำมาก นี่อ้างอิงจากงานวิจัยหมอยงเองเลยนะ