Regarding Java and Open Source, I have some good news and some bad news... ในเรื่อง Java และ Open Source, ผมมีข่าวดีบางอย่าง และข่าวร้ายบางส่วน จะบอก

# The good news is that Java is "open" in the sense that you can look at its source code ข่าวดี คือ Java ถูกเปิดในความหมายที่คุณสามารถเห็น source code ของมันได้ # The bad news is that it's not truly "open source" according to the official definition. ข่าวร้าย คือ มันไม่ได้ open source อย่างแท้จริง ตามที่ได้นิยามเอาไว้

# The good news is that you can see the source so you can work around problems. ข่าวดี คือ คุณสามารถเห็นที่มาของปัญหาที่คุณทำงานด้วยได้ # The bad news is that you can't actually fix the problems in the JDK. ข่าวร้าย คือ คุณไม่สามารถแก้ปัญหาตามจริงใน JDK ได้

# The good news is that you can fix the problems in your own version of the JDK. ข่าวดี คือ คุณสามารถแก้ปัญหาใน JDK ที่เป็นเวอร์ชั่นของคุณเองได้ # The bad news is that you can't distribute your own version to your customers. ข่าวร้าย คือ คุณไม่สามารถแจกจ่าย JDK ที่เป็นเวอร์ชั่นของคุณเองให้แก่ลูกค้าได้

# The good news is that you could always email your fix to Sun and hope that they incorporate it. ข่าวดี คือ คุณสามารถอีเมล์บอกการแก้ปัญหาของคุณไปยังซันได้ตลอดเวลาและหวังว่าพวกเขาจะรวมมันเข้าไปด้วยนะ # The bad news is that that's never really worked at all. ข่าวร้าย คือ สิ่งนั้นแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในการทำงานจริง ๆ เลย

# The good news is that Sun has now set up a real mechanism to submit bug fixes. ข่าวดี คือ ซันได้ติดตั้งระบบกลไกจริง ๆ ที่ใช้สำหรับแก้ปัญหา bug (อันนี้ไม่แน่ใจว่าแปลถูกไหม) # The bad news? Well, we'll have to wait and see if there is any bad news. ข่าวร้ายหรือเปล่า ที่พวกเราจะต้องคอยและเฝ้าดู หากมีข่าวร้ายอื่น ๆ อีก

ที่มา: http://www.javalobby.org/articles/fixing-the-jdk/

ผู้เขียนบทความนี้เริ่มจับ Java ตั้งแต่เป็น Beta เลยครับ ปัจจุบันเป็นประธานบริษัท Jazillian, Inc

---------------- ผมอ่านแล้วก็รู้สึกได้ว่า ไอ้ที่ซันพยายามทำให้นักพัฒนาได้วาดฝันเอาไว้นั้น ล้มครืนลงมาทันทีเลย สุดท้ายมันก็ยังคงกีดกันเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Gnome ถึงสนับสนุน C# Binding ด้วย GTK# แทน แม้จะทำงานช้ากว่าก็เถอะ แต่มันก็สามารถจัดการ bug ได้ง่ายกว่า ด้วยนักพัฒนาจากทุกมุมโลก

Get latest news from Blognone

Comments

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 25 October 2006 - 09:50 #11011
lew's picture

เรื่องความฝันล้มครืนนี่มันช่วยไม่ได้ครับ เขาลงทุนของเขาเอาไว้ เอาก็มีสิทธิที่จะหาประโยชน์จากมัน

มันคล้ายๆ เรื่องมือถือ ที่ผมก็อยากให้มันโทรครั้งละบาทตลอดไป แต่เขาลงเสา ตั้งบริษัท มันก็ใช้เงิน จะให้เอามาแจกกันง่ายๆ คงเป็นไปไม่ได้

เรื่องง่ายๆ คือถ้าคิดว่ามันไม่แฟร์ก็ย้ายหนี ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: deans4j on 25 October 2006 - 12:53 #11013

ยิ้มครับ : )

เรื่องจับแพะชนแกะนี่ผมยกให้คุณ Gmz เลย

อันนี้มันเป็นโปรเจ็ค open Contribute ครับ สมัยที่เค้าเริ่มเปิด jdk 6 ซึ่งก็ประมาณปีที่แล้วนู้น ซึ่งตอนนั้นซันยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าตัวเองจะ opensource จาวาด้วยซ้ำ

เดิมที jdk ก่อนหน้านั้นปิด ไม่มี weekly build snapshot ให้เราดาว์นโหลดไปทดสอบอย่างนี้หรอกครับ

ผมว่าวิธีการนี้ก็ยังดีกว่าแบบเดิม แล้ววิธีการนี้ได้ผลลัพธ์ดีกว่าที่คาดเสียอีก วิศวกรของซันเองยังยอมรับเลยว่าถ้าใช้วิธีเดิมๆ บั๊กบางตัวไม่มีทางเจอได้จนกว่าจะ release ตัวเต็มออกไปนู้นแหละ ส่วนเมื่อไหร่จาวา opensource รออีกนิดเดียวครับ คิดว่าเดือนหน้าคงมีข่าวแง้มเรื่องรูปแบบ license ที่แน่ชัดกว่านี้ ก็น่าจะหนีไม่พ้น CDDL (ความคิดเห็นส่วนตัว) ที่ผมเข้าใจว่ามันคล้ายๆ กับ license ของ Mozilla นั่นแหละครับ

พยายามได้ดีแล้วครับคุณ Gmz พยายามต่อไปครับ :)

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 26 October 2006 - 11:19 #11078
khajochi's picture

จริงๆมันก็คล้ายๆกับ open source ตัวอื่นๆไม่ใช่เหรอครับ .. อย่าง eclipse , mysql , solaris


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com