Tags:
Node Thumbnail

Apple ได้ยื่นข้อเสนอไปยัง U.S. Copyright Royalty Board ซึ่งเป็นคณะกรรมการดูแลค่าลิขสิทธิ์ของสหรัฐฯ โดยใจความหลักในข้อเสนอครั้งนี้คือการแก้ไขวิธีการจ่ายเงินที่ได้จากบริการสตรีมมิ่งเพลงให้กับศิลปินและค่ายเพลงใหม่

ปัจจุบันบริการสตรีมมิ่งเพลงต่าง ๆ นั้นมักจะใช้วิธีทำสัญญากับเหล่าศิลปินและค่ายเพลง โดยจะจ่ายเงินเป็นส่วนแบ่งประมาณ 10.5-12 เปอร์เซ็นของรายได้ทั้งหมด ซึ่ง Apple ได้ยื่นข้อเสนอใหม่ในการเปลี่ยนกฎคือจะให้จ่ายเป็นจำนวนเงินแบบตายตัว เป็นเงิน 0.00091 ดอลลาร์ต่อการสตรีมหนึ่งครั้ง ซึ่งค่าลิขสิทธิ์ที่นักแต่งเพลงจะได้เมื่อมีการสตรีม 100 ครั้งจะเท่ากับการขายเพลงผ่านการดาวน์โหลด 1 ครั้ง โดยวิธีจ่ายเงินแบบใหม่นี้จะทำให้การนับยอดเงินง่ายขึ้น และโปร่งใสขึ้น

แม้ว่าข้อเสนอของ Apple จะทำให้การจ่ายเงินง่ายขึ้น รวมถึงฝั่งศิลปินก็ได้เงินเป็นจำนวนค่อนข้างแน่นอนก็จริง แต่การจ่ายเงินแบบใหม่นี้จะทำให้บริการฟรีทั้งหลายเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็น Spotify หรือ YouTube เนื่องจากบริการฟรีเหล่านี้ไม่สามารถสร้างรายได้เยอะมากเท่ากับบริการที่ให้ผู้ใช้จ่ายเงิน เนื่องจากรายได้หลักของบริการเหล่านี้มาจากโฆษณา

ไอเดียของ Apple ที่เสนอไปนี้ยังคงอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น ซึ่งยังต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการก่อน และการที่ไอเดียของ Apple จะได้รับการตั้งเป็นกฎจริงน่าจะยังไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้

ที่มา - Billboard

Get latest news from Blognone

Comments

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 11:02 #926399
put4558350's picture

apple เพราะแข่งตรงๆไม่ใด้ จึงขัดขาคนอื่นไปเรื่อยๆ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: ravipon
iPhoneWindows
on 16 July 2016 - 11:23 #926403 Reply to:926399
ravipon's picture

ขัดขายังไงครับ?

By: i_kyle
Android
on 16 July 2016 - 12:23 #926413 Reply to:926403

น่าจะขัดขาตรงที่ว่าถ้าเพลงดัง spotify ต้องจ่ายเยอะขึ้น เพราะมี บริการ ฟังฟรี

ขณะที่ แอปเปิล เก็บรายเดือนหมดไม่มี ฟังฟรี รายได้อาจเยอะกว่า

By: ravipon
iPhoneWindows
on 16 July 2016 - 12:43 #926414 Reply to:926413
ravipon's picture

ถ้าศิลปินเรียกร้อง spotify ก็คงต้องยอม

By: carrot on 16 July 2016 - 11:33 #926406 Reply to:926399

จ้า

By: mrBrightside
iPhoneWindows
on 16 July 2016 - 12:12 #926411 Reply to:926399

ศิลปินเองก็เรียกร้องครับ

By: bflower
Android
on 16 July 2016 - 12:44 #926415 Reply to:926399

กลัวเรื่องที่ยังไม่เกิดหรอ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 15:38 #926433 Reply to:926415
put4558350's picture

ถ้า apple กำจัด free service ใด้ก็จะเป็นผลดีกับ apple music แต่คนที่ไช้ Spotify แบบ free หรือ Youtube หละ

ผู้ไช้เสียประโยชน์แต่ก็มีคนก้มหน้าเฮต่อไป ไม่ต่างจากกรณี e-book เลย


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: nrml
ContributorIn Love
on 16 July 2016 - 16:38 #926443 Reply to:926433
nrml's picture

จะดีขึ้นหรือแย่ลงใครได้ประโยชน์ใครเสียประโยชน์ตรงนี้ผลของมันยังไม่เกิดเลย ซึ่งถ้ามีใครสักคนที่เสียประโยชน์ก็ยังมีหนทางในการเรียกร้องได้ อย่างกรณี ebook ซึ่ง Apple เองก็ถูกลงโทษไปแล้ว

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 16:43 #926444 Reply to:926443
put4558350's picture

แต่นานมากกว่า Apple จะถูกลงโทษ และราคา e-book ในตอนนี้ถึงจะลดลงแต่ไม่เท่าเดิม ลูกค้าก็ยังคงเสียหายอยู่


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: nrml
ContributorIn Love
on 16 July 2016 - 17:00 #926447 Reply to:926444
nrml's picture

เอาจริงๆ คือตอนนี้ผมยังนึกไม่ออกว่ามันจะมีการไปกระทบอะไรกับบริการอื่น มันเป็นเรื่องของศิลปินกับ Apple Music ซึ่งถ้ามันไม่เวิร์ค Apple กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะต้องปรับเงื่อนไขหรือปรับตัวทีหลังเอง ส่วนการอัพโหลดไว้ที่อื่นอย่าง Youtube คนฟังก็ฟังฟรีเป็นปกติอยู่แล้ว ตรงนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 17:34 #926451 Reply to:926447
put4558350's picture

ถ้าเก็บตามจำนวนครั้งการเล่น Youtube / Spotify ก็อาจจะให้บริการ free ไม่ใด้ต้องเปลี่ยนมาเก็บเงินอย่างเดีัยวนะสิ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: bflower
Android
on 17 July 2016 - 12:34 #926517 Reply to:926433

ถ้าสู้ไม่ได้ก็ควรหายไปนั่นถูกต้องแล้ว

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 17 July 2016 - 13:10 #926520 Reply to:926517
put4558350's picture

ไม่ไช่สู้ไม่ใด้หรือหายไป แต่เป็น ลูกค้าต้องจ่ายมากขึ้น / ad เยอะขึ้น นะครับ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: bflower
Android
on 17 July 2016 - 20:35 #926540 Reply to:926520

แพงไปก็ไม่ต้องซื้อ / ads เยอะขึ้นเพราะเลือกจะเพิ่มให้ลูกค้า

By: errin on 16 July 2016 - 12:51 #926416 Reply to:926399

ผมว่าคิดเงินแบบนี้มันแฟร์กับศิลปินมากเลยนะ ไม่น่าเรียกว่าขัดขานะครับ

ส่วนแบบเดิม(ที่ใช้อยู่)นี่หาข้อมูลยากมากว่าคิดยังไงใน 10% ที่แบ่งให้ค่ายเพลงกับศิลปิน (ตามไปอ่านแหล่งข่าวก็บอกว่าเป็น Complex formula)

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 15:46 #926435 Reply to:926416
put4558350's picture

แต่แทนที่จะตกลงกับค่ายเพลงเพื่อจ่ายรายเพลงเพียงเจ้าเดียว เสนอ Copyright Royalty Board เพื่อให้เจ้าอื่นต้องทำตามด้วย น่าคืดหรือปล่าวหละ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: errin on 16 July 2016 - 15:54 #926437 Reply to:926435

มันเป็นไปตามกฎหมายรึเปล่าครับ ถ้ามันไม่ดีจริงหน่วยงานก็คงปัดตกไปเองแหละครับ ที่ยื่นนี่คือ(อาจจะ)ต้องการให้มีการตรวจสอบก่อน

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 16:06 #926439 Reply to:926437
put4558350's picture

รูปแบบที่แบ่ง % ตอนนี้เป็นการตกลงกับค่ายเพลง ไม่ต้องแจ้งหน่วยงานใหนครับ

การที่แจ้งหน่วยงานแบบนี้ น่าจะเป็นการกำหนดมาตรฐาน และอาจคุยกับค่ายเพลงเอาไว้แล้วเหมือนกรณี e-book ปลายทางคือ Spotify และ Youtube อาจต้องทำตาม นั้นคือส่วนที่ผมด่าเอาไว้ก่อน


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 16 July 2016 - 13:22 #926420 Reply to:926399
Be1con's picture

ตรรกะอะไรของคุณครับ ระบบก่อนมันไม่ชัดเจนว่าคิดเงินยังไง แต่อันนี้ชัดเจนดี มันขัดขาคู่แข่งตรงไหนครับ?


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: vevysang on 16 July 2016 - 13:47 #926421 Reply to:926399

อ่านคอมเม้น แล้วหันไปมองชื่อ user
อ่อ..... เจ้าประจำ

By: JamesBond007
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 16 July 2016 - 19:10 #926462 Reply to:926421

ติ่งตูดซัมซุง ค่ายอื่นทำรับรองว่าผิด ซัมซุงทำรับรองว่าดี

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 16 July 2016 - 19:19 #926464 Reply to:926462
lew's picture

คุยกับคนอื่นอย่างสุภาพไม่เป็นคงต้องเชิญไปแสดงความเห็นที่อื่นนะครับ

ผมเตือนครั้งเดียวนะ


lewcpe.com, @wasonliw

By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 16 July 2016 - 11:24 #926404
gotobanana's picture

แบบนี้เพลงดังมีแต่จะรวยขึ้น หน้าใหม่ไม่มีโอกาศได้เกิดนะ

By: anekkij
Android
on 16 July 2016 - 14:42 #926425 Reply to:926404

เพลงที่ดังจริงก็สมควรได้รับผลตอบแทนให้สมกับที่มันดังนะครับ

By: Kazu
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 16 July 2016 - 15:24 #926430 Reply to:926404

ไม่เกี่ยวเลยครับ เพลงที่ไม่ดังเดิมก็ได้น้อยอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่ทำมัยได้น้อยมันคลุมเคลือนั้นแหล่ะ เพราะแบ่งมาจากรายได้ที่แพลงนั้นทำ 10% ปีญหาคือเพลงนั้นทำรายได้ไปเท่าไหร่ มันเห็นไม่ชัดเจน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นยอดวิว รายได้ที่จะได้ก็คำนวนจากยอดวิวไปเลย จบ

By: john dick
iPhone
on 16 July 2016 - 14:15 #926419
john dick's picture

พอเป็น apple ก็ด่าไว้ก่อน ทั้งที่เขาก็คิดระบบให้โปร่งใสขึ้น เฮ้อ...

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 15:41 #926434 Reply to:926419
put4558350's picture

ผมว่าเอาไว่ก่อนเพราะดูว่าเป็นการพยายามกำจัด free service มากกว่า


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: jakapong
iPhoneAndroidBlackberryWindows
on 16 July 2016 - 15:24 #926432

พอเป็น apple ก็เลียไว้ก่อน ทั้งที่ระบบที่คิดจะโปร่งใสหรือคิดจะเพิ่มเงินเข้ากระเป๋าตัวเองหรือขัดขาชาวบ้านรึเปล่าไม่รู้

เกรียนมันเยอะจริงๆ เขาเลยบังคับให้เกรียนตอบได้แค่วันละ 5 ไงครับ

By: john dick
iPhone
on 16 July 2016 - 16:13 #926441 Reply to:926432
john dick's picture

พอเป็น apple ก็ด่าไว้ก่อน ทั้งที่ระบบที่คิดจะโปร่งใสหรือคิดจะเพิ่มเงินเข้ากระเป๋าตัวเองหรือขัดขาชาวบ้านรึเปล่าไม่รู้
เกรียนมันเยอะจริงๆ เขาเลยบังคับให้เกรียนตอบได้แค่วันละ 5 ไงล่ะ

ปล.ตอบกันไว้ก่อน เพราะคนนี้ชอบมาแก้ข้อความ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 July 2016 - 17:51 #926454 Reply to:926441
put4558350's picture

เรื่องโปร่งใสจริงๆก็คงไม่ช่วย เพราะ apple, Google, Spotify เป็นคนเก็บสถิติ ไม่ไช่ค่ายเพลง


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: jakapong
iPhoneAndroidBlackberryWindows
on 16 July 2016 - 22:35 #926479 Reply to:926441

ผมว่าคุณคงมั่วแล้วล่ะ ผมไม่เคยแก้ข้อความ

จะทำอะไรก็เชิญเลย เพราะผมไม่ได้ทำผิดกฏเวปจนต้องโดนลงโทษตอบได้แค่วันละ 5 แบบเกรียนแถวนี้ครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 16 July 2016 - 16:21 #926442
lew's picture

งงว่ากฎแบบเดิมมันซับซ้อนอย่างไร เพราะการแบ่งตามสัดส่วนรายได้มันใช้กันโดยทั่วไป อย่าง kindle unlimited หรือบริการอื่นๆ ก็ใช้แนวทางนี้ ค่าบริการต่ำเกินไปศิลปินก็ถอนเนื้อหาออกจากเว็บนั้นๆ ไป

ตรงกันข้ามถ้าใช้แบบนับครั้งแบบนี้ ถ้าผู้ใช้เล่นเพลงไม่มากนักเงินทั้งหมดจะตกไปอยู่กับบริการสตรีมมิ่งเป็นส่วนใหญ่ ราคาที่แอปเปิลให้มา ถ้าค่าบริการเดือนละ 5 ดอลลาร์ก็ต้องเล่นไปถึง 5500 รอบ ถึงจะครบ แทบจะต้องเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา


lewcpe.com, @wasonliw

By: HoMm
AndroidWindows
on 16 July 2016 - 16:49 #926445 Reply to:926442
HoMm's picture

login มาเพื่อ + ให้เม้นนี้เลยครับ 5500 รอบ !!!

By: palmer45
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 16 July 2016 - 17:32 #926449 Reply to:926442
palmer45's picture

+1

คิดเหมือนกันเลย การจ่ายให้ศิลปินตามจำนวนที่เล่นเนี่ยเหมือนจะดูดีนะ แต่ถ้าต้องเล่น 5500 รอบถึงจะเท่ากับค่าบริการที่จ่าย อย่างที่ท่านว่า ดูเหมือนเงินส่วนใหญ่ก็จะไปตกที่ Apple ซะมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ต้องมาคำนวณค่าเฉลี่ยจำนวนรอบของคนฟังอีกทีว่าแบบไหนจะคุ้มค่ากว่า

By: ryochan on 16 July 2016 - 17:27 #926450

ถ้าโหลด offline ละครับ

By: anekkij
Android
on 16 July 2016 - 17:34 #926452 Reply to:926450

+1 นั่นสิ แบบนั้นจะคิดเงินยังไง

By: basz
Android
on 16 July 2016 - 17:51 #926453 Reply to:926450
basz's picture

เค้านับแล้วล่งกลับเวลาออนไลย์มั้งครับ เพราะitune นับตลอดอยู่แล้ว

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 16 July 2016 - 17:54 #926455 Reply to:926450
lew's picture

น่าจะ track ได้เหมือน kindle ล่ะครับ ต่อ network ทีมันก็รายงานกลับไปที


lewcpe.com, @wasonliw

By: Hadakung
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 16 July 2016 - 20:42 #926471

ผมไม่รู้ว่าแบบเก่ามันแฟร์กับศิลปินแค่ไหนนะ แต่ระบบใหม่แอปเปิลก็ไม่ได้แฟร์กว่าหรอกครับ เพราะสุดท้ายบริษัททุกบริษัทเขาไม่ได้แคร์ว่าศิลปินจะได้ประโยชน์หรอกครับ เขาแค่แคร์ว่าบริษัทตัวเองและผู้ถือ้นได้ประโยชน์​ เท่านั้นแหละครับกลเมผ็ดการแบ่งผลประโยชน์แบบไหนจูงใจศิลปินมาหามากกว่าก็ทำขึ้นมาแล้วค่อยหาวิธีสสร้างกำไร หรือทุ่มตลาดคนเจ้าอื่นตายเรียบแล้วค่อยทำขั้นถัดไปก็แล้วแต่ว่าหากำไรได้ตรงไหนแค่นั้นเองครับ​ไม่ต้องเถียงกันว่าแอปเปิลคือผู้ทรงคุณธรรมหรือขัดขาคนอื่น เหนื่อยกันเองเปล่าๆ

By: nrml
ContributorIn Love
on 16 July 2016 - 21:37 #926474 Reply to:926471
nrml's picture

จริงๆ ผมก็คิดว่ามันมีเท่านั้นแหละครับ เรื่องพวกนี้ถ้าคู่แข่งเห็นว่ามันจะสร้างความไม่ยุติธรรม เขาก็จะหาทางแย้งเข้าไปเอง

By: 白羊
In Love
on 17 July 2016 - 01:06 #926492
白羊's picture

ไม่มีคำว่าฟรีในโลกนี้นะจ๊ะ Ad ที่กดข้าม ๆ กัน ที่ชอบบล็อกกัน ข้อมูลส่วนตัวที่โดนเก็บเอาไปขาย ฯลฯ
วิธีหารายได้มีเย้ออออ แบบที่ผู้บริโภคอาจจะนึกไม่ถึง

By: olan16
AndroidWindowsIn Love
on 17 July 2016 - 01:08 #926493
olan16's picture

ประเด็นนี้น้ำหนักมันเท่าๆกันทั้ง2ฝั่ง
ขอไม่ออกความเห็นแล้วกัน

By: RyoDaii
Windows PhoneAndroidWindows
on 17 July 2016 - 10:01 #926507

ผมนึกว่าจ่ายแบบนี้ตั้งนานแล้วซะอีก งี้ใครทำเพลงอะไรมั่วๆยิงขึ้นแอปเปิ้ลมิวสิคก็ได้เงินหมดสิตอนนี้

By: ZeaBiscuit
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 17 July 2016 - 14:02 #926525
ZeaBiscuit's picture

ถ้าเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ คนแบบผมที่ฟังมั่งไม่ฟังมั่งนี่ คงแทบไม่ก่อรายได้ให้ศิลปินเลยสินะ

ถ้าของเดิมแบบตอนนี้ ฟังไม่ฟัง ศิลปินก็ยังได้เงิน ใช่หรือเปล่าครับ ?

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 18 July 2016 - 08:47 #926623

มันมีข้อดีสำหรับบางกลุ่ม และแย่กว่าสำหรับบางกลุ่มอยู่แล้วแหละ แต่ฟัง 100 รอบ = 1 ซื้อนี่ใช้เวลานานเหมือนกันนะเนี่ยกว่าจะได้เงินเท่าซื้อ บางเพลงที่ผมซื้อยังฟังไม่ถึง 100 รอบเลย


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: isk on 18 July 2016 - 13:03 #926663

ผมฟังยูทูบเอา บางทีผมอยากฟังแบบที่คนเอามา cover มากกว่าฟังจากศิลปินเจ้าของเพลงซะอีก