By: tonster 
on 7 December 2013 - 22:00
Tags:
Topics:
Bitcoin วันนี้อ่อนตัวลงจากค่าสูงสุดที่ 1,079 ดอลลาร์สหรัฐ ลงมาอยู่ที่ 576 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะกลับตัวขึ้นไปอยู่ในระดับ 800 ดอลลาร์ในขณะที่กำลังเขียน (ดูอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่นี่)
การอ่อนตัวฉับพลันนี้เชื่อว่าเป็นผลจากการที่จีนออกมาจำกัดการแพร่หลายของ Bitcoin ทั้งจากธนาคารกลางของจีนที่ไม่ให้ธนาคารถือเงินหน่วยนี้เก็บไว้ (ข่าวเก่า) รวมถึงการประกาศจาก Baidu ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกูเกิลของจีน ที่ไม่รับสกุลเงิน Bitcoin สำหรับการชำระค่าบริการ
ในสัปดาห์นี้ มีนักวิเคราะห์ด้านสกุลเงินจาก Bank of America Merrill Lynch ชื่อ David Woo ที่ออกมาให้ค่ามูลค่าที่เหมาะสม (fair value) ของ Bitcoin ไว้ที่ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา - Business Insider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เรียบร้อยครับ :)
โอ... ใครซื้อตอน $1000 นี่ติดดอยเห็นๆ อะ
$1200 ครับ Y-Y
iPAtS
นอกจากการเอามาใช้แทนตัวเงิน Bitcoin นี่เอามาทำอะไรได้หรือครับ
หากเป็นทองยังพอเอามาทำเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้
ไม่ต่างจากธนบัตรเท่าไหร่ครับ เหมือนๆ กับเงินในบัญชีธนาคารด้วย มีค่าแค่เพราะมันหายากและมีคนอยากได้ครับ
เมื่อไหร่ที่ไม่มีใครต้องการ ก็ไร้ค่า ธนบัตรก็เช่นกัน ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่ามันจะมีค่าเสมอ
แสดงว่าความน่าลงทุนเทียบเท่าพันธบัตร แต่เป็นพันธบัตรของโลกไซเบอร์ หากสมมุติว่ามีพลังงานที่สามารถได้มาฟรี โรงงานที่สามารถผลิตชิพเฉพาะด้านได้ และเทคโนโลยีลดความร้อนอันสุดยอด ตั้งซุปเปอร์ก้อนเมฆขึ้นมาได้ ถ้าเอามาลงทุนขุด Bitcoin สู้เอาไปประมวลผล Bigdata คุ้มกว่า
ก็แล้วแต่คนจะมองครับ
หลายๆ คนไม่ได้ลงทุนอะไรมากไปกว่าซื้อมาที่ราคาต่ำแล้วขายไปเมื่อราคาสูง
ค่าของมันคือ ค่าสูงขึ้นเร็วมาก เอามาเก็งกำไร หรือ Trade เป็นเงินได้เร็วมั๊งครับ
เป็น Extrinsic value
แต่ตัวมันเองไม่รู้ใครเห็น Intrinsic value รึเปล่า
ได้เวลาช้อนซื้อแล้วสินะ...
แค่จะซื้อตอนที่มันวูบลงสุดๆ สัก 1 BTC ก็ยังทำใจไม่ได้ครับ
15000 - -
แค่ 5,000 นี่ก็เอาเท้าชาวบ้านมาก่ายหน้าผากแล้วครับ
ส่วนตัว ผมคิดว่าตั้งแต่ ASIC Chip สำหรับคำนวณ Hash เริ่มทยอยส่งของออกมาในตลาด มันก็เริ่มป่วนฮะ ดูกราฟอันนี้ประกอบ
http://bitcoindifficulty.com/
4 เดือนความยากเพิ่มมาเป็นร้อยๆ เท่า
เชื่อว่าปีหน้าคงมีอุปกรณ์ที่ทำได้ 1 แสนล้าน ~ 1 ล้านล้าน hash / วินาทีเริ่มเข้ามาในตลาดในราคาจับต้องได้ (มีเริ่มผลิตกันแล้ว)
และ mining asic ที่ตอนนี้ทำได้ประมาณ 1 หมื่นล้าน hash / วินาทีตอนนี้ราคาตัวละหมื่นสองหมื่น คงตกกระป๋องกันไปตามระเบียบ (ขุดไม่คุ้มค่าไฟและค่าของ)
ตอนนี้ถ้าไม่ใช้ asic ก็แทบจะขุดอะไรออกมาไม่ได้แล้ว จำนวนที่ขุดได้ตอนนี้ก็ลดลง 30% ทุกๆ ประมาณ 2 สัปดาห์เพราะมีแต่คนปั้ม asic มาขุดกัน
(ATI 7990 สุดแรง ยังได้แค่ประมาณร้อยล้านแฮช/วินาทีเอง ไม่ต้องพูดถึง cpu นะ รันไว้ทั้งเดือนยังไม่ได้เศษเสี้ยวเลยมั้ง)
อนาคตคงเป็นสงครามแข่งกันพัฒนา asic มาขุดกันจนเหมืองแห้ง
แล้ววันหนึ่งเราจะเอาอุปกรณ์พวกนี้มาทำอะไรต่อได้ครับเนี่ย
I need healing.
ทิ้ง......(เงิบ)
กว้านซื้อมาตอนทันตอน 600 นิดๆ ตอนแรกคิดว่าน่าจะลงไปต่ำกว่า 500 เลยไม่ได้ซื้อ แต่สถานการณ์ Bitcoin แย่ เลยพา Litecoin ร่วงไปด้วย