By: magnamonkun 
on 3 February 2013 - 17:33
Tags:
Topics:
ก่อนหน้านี้การใช้งาน BlackBerry ทุกรุ่น ผู้ใช้ต้องใช้งานบนเครือข่ายที่รองรับการใช้งาน BlackBerry Internet Service หรือ BIS ซึ่งนอกจากจะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมต่างหากแล้ว ยังเป็นการผลักภาระส่วนใหญ่มาที่ผู้ใช้ ซึ่งส่วนแบ่งย้อนกลับไปยังผู้บริการทำได้น้อยมาก จึงเป็นเหตุให้แพ็คเกจของ BlackBerry ทุกเครือข่ายมีราคาต่อเดือนค่อนข้างสูง
แต่ใน BB10 ที่เพิ่งเปิดตัวไป หลายคนยังกังวลอยู่ว่าจะต้องมีการสมัครแพ็คเกจเสริมหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ PSA ได้รับการยืนยันจาก BlackBerry แล้วว่า ตั้งแต่ Z10, Q10 เป็นต้นไป ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสมัครแพ็คเกจเสริมที่มี BIS กับ BES (BlackBerry Enterprise Service) แล้ว เพียงแค่ขอให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ Data ได้เท่านั้น ก็จะสามารถใช้งานบริการของ BlackBerry ได้ทั้งหมด ยกเว้นรุ่นเก่าๆ (ก่อน Z10) ยังคงต้องมีการสมัคร BIS เพื่อใช้งานเหมือนเดิมครับ
ทั้งนี้ BlackBerry ยังให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า ต้องการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของผู้ใช้ ซึ่งบริษัทก็มองว่า BIS Server มันเป็นเพียง filter เท่านั้น ดังนั้นถ้าตัดมันทิ้งก็คงไม่มีผลอะไรมากครับ
ที่มา - Engadget
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ผมหมดไปกับ BIS แพงกว่าค่าเครื่องอีก
อ่านแล้วขำ ที่ผ่านเรียกว่า ค่า ....
เงิบ
พึ่งรู้ว่า RIM มองว่า "BES เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของผู้ใช้" ทำซึ่งให้รู้ว่า "ที่ผ่านมามันเป็นเพียง filter เท่านั้น" และที่สำคัญคือ "ตัดมันทิ้งก็คงไม่มีผลอะไร" แล้วก่อนหน้านี้ ทำไมถึงจำเป็นต้องมีทั้งๆที่ "ปัจจุบันกลับไปมองว่ามันเป็นแค่ภาระ"
แล้วในทางกลับกัน จะเอา BES ได้หรือเปล่า? บริษัทผมยังต้องการอยู่นะ ในกรณีการคอนโทรลเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ หรือฟีเจอร์ของ BES
ข่าวต้นทางบอกไม่ได้เช่นกันครับ แต่ต้องรอดูอีกทีนึงน่ะฮะ ' '
เกิดเคสเครื่องหายนี้ Admin ล็อคเครื่องไม่ได้ ต้องให้ User ทำเอง แบบนี้ไม่ฮานะเนี้ย ทำไมตีตัวจากองค์กรไปแบบนี้ละ ;_;
ถือเป็นข่าวดี
Coder | Designer | Thinker | Blogger
พึ่งคิดได้
ถือเป็นข่าวดี ทีนี้ก็เหลือแต่ปริมาณแอพดีๆแล้ว
ข่าวนี้หมายถึงในระดับ User ทั่วไปนะครับที่ยกเลิกไม่มี BIS
ในภาคธุรกิจองค์ยังมีอยู่ครับ
BES10 แถมตอนนี้เพิ่มให้สามารถ ใช้งานกับ ios และ android ได้ด้วย
http://us.blackberry.com/business/software/bes-10.html
BIS จริงๆ แล้วมีประโยชน์มากครับ สำหรับการใช้งานองค์กร และภาคธุรกิจ
ข้อมูลที่วิ่งอยู่บน BIS จะถูกเข้ารหัส และบีบอัดข้อมูล ให้ปลอดภัยและรวดเร็ว
ยกตัวอย่าง ที่เราได้ยินทั่วไป ดาราชื่อดัง ใช้ LINE, Whatsapp คุยกันยัง
ดึงข้อมูลมาให้เป็นข่าวกันได้
นึกถึงถ้าส่งข้อมูลสำคัญทางธุรกิจไปใน IM หรือ Mail แล้วถูก Hack ได้คงไม่สนุกหละครับ
คุณไม่จำเป็นต้องใช้เลยคิดว่ามันสิ้นเปลืองครับ
line, whatsapp ของดาราคงมาจากการเอามาโชว์เองเพราะอยากสร้างข่าวมากกว่าครับ คงไม่มีใครเสียเวลาไป hack ข้อมูลหรอก
ลูกค้าทั่วไปไม่มีนี่เห็นด้วยอย่างมาก แต่แบบบริษัทที่ต้องการความปลอดภัย หรือบริการเสริมควรมีทางเลือกให้นะครับ
เมื่อนึกถึงอดีต
มีความรู้สึกไม่อยากเอาใจช่วยให้ฟื้นได้เลย
สุดจะเห็นแก่ได้
Consumer ไม่ได้ต้องการ security อะไรสูงขนาดนั้น เอา BIS ออกนี่แหละดีแล้วครับ
แต่ฝั่ง Enterprise ถ้าใหญ่ๆหน่อยก็คงต้องการ BES อยู่เพราะความลับมันเยอะ บางอย่างมีค่ามากว่าค่า BES license โข
เอิ่ม ตัดทิ้งมันก็คงไม่มีผลอะไร
แล้วทำไมไม่ตัดซะตั้งนานแล้ว -*-
จากคนเคยใช้ BlackBerry
เมื่อก่อนรายการเสริมที่ต้องจ่ายนี้คิดหนักตรงจุดนี้แหละเลยไม่ใช้ BB
เห็นด้วยกับการเอา BIS ออก นะครับ เพราะสำหรับ User ทั่วๆไปแล้ว BIS คืออะไรเค้าก็ไม่รู้ เค้ารู้แค่ว่าถ้าจะใช้ BB ก็ต้องสมัคร Package BB ซึ่งความสามารถส่วนใหญ่ของ BIS ตัว User เองก็ไม่ได้ใช้ และไม่จำเป็นต้องใช้เลย
ส่วน BES จำเป็นจะต้องมี เพราะเรื่องความปลอดภัยขององค์กรเป็นเรื่องใหญ่ครับ
แต่ถ้าจะให้ดี ก็ควรมีให้ลูกค้าเลือกว่าจะเอา BIS หรือไม่ แต่ถ้าทำแบบนี้ ก็จะเป็นภาระของ Operator อีก เพราะคนที่จะใช้ BIS จริงๆก็คงมีน้อยจนไม่คุ้มที่จะลงทุน (ถ้าใช้กับของเก่าไม่ได้)
ผมเลิกใช้ BB เพราะ BIS เนี่ยแหละ - -* ค่าอะไรก็ไม่รู้ ไร้สาระ
ผมกลับชอบ BIS เพราะทำให้เมลมัน push ได้นะ
แต่จะว่าไป.. มันก็เสียดายเงินจริงๆ แหละ แถมถ้าใครไม่ใช้ unlimited ยังมีปัญหาอีกนะในการเข้า browser