Gizmodo ได้โพสต์บทความเกี่ยวกับความพยายามของทวิตเตอร์ ที่ต้องการตัดลมหายใจ third-party client ต่าง ๆ ด้วย API ใหม่ว่าเป็นความคิดไม่ถูกต้อง และหนึ่งในเหตุผลคือแอพของทวิตเตอร์เองห่วยแตก เมื่อเปรียบเทียบกับของนักพัฒนาอิสระ
และที่สำคัญไปกว่านั้น ถ้าไม่มี client จากนักพัฒนาอิสระ ทวิตเตอร์ก็คงจะไม่มีวันนี้ โดย Craig Hockenberry ผู้พัฒนาแอพ Twitterific ได้ลิสต์สิ่งต่าง ๆ ที่ทวิตเตอร์ได้มาจากนักพัฒนาอิสระและชุมชนผู้ใช้ทวิตเตอร์ เช่น
- การเลือกใช้คำว่า "tweet" (ทวีต) เพื่อใช้อธิบายอัพเดตแต่ละครั้ง
- ไอคอนนก
- client ตัวแรกบน OS X
- client ตัวแรกบน iPhone
- ตัวเลขนับจำนวนตัวอักษรในข้อความ (character counter)
- ความสามารถในการย้อนกลับไปดูเนื้อหาการคุยกันต่อเนื่องได้ (ที่มีทีมงานของทวิตเตอร์เองร่วมมือในการพัฒนาด้วย)
พอจะสรุปสั้น ๆ ได้ว่า ความสำเร็จของทวิตเตอร์ในวันนี้ ไม่ได้เกิดจากทวิตเตอร์คนเดียว แต่จากชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาที่ใส่ใจในแพลตฟอร์มนี้ และก็หวังว่าทวิตเตอร์จะเข้าใจในจุดนี้
ที่มา - Gizmodo
Comments
ขอมอบเพลงนี้ให้นักพัฒนาอิสระครับ T_T
...ไม่บอกก็รู้ว่าเธอ ไม่มีฉันเหลืออีกแล้วในใจ เจ็บมันเป็นอย่างไร เข้าใจลึกซึ้งก็วันนี้
อยากจะบอกเธอว่ารัก อยากจะฉุดรั้งเธอไว้ เพื่อทำทุกอย่าง ที่ตัวฉันทำได้ แต่มันก็สายไปแล้วใช่ไหม...
WE ARE THE 99%
ทันด้วยเพลงนี้ ..............
ออกตัวทำไมเนี่ยกรู พลาดแล้ว orz
"ฉันคงไม่อาจทำให้เธอเปลี่ยนใจ"
แต่ฉัน reply กัน edit ได้ :p พลาดจริง ๆ ล่ะครับ
อ้าว ผมก็พลาด (O_o)
ไม่พลาดหรอกครับ เพลงออกจะเพราะ XD
//ยุคข้าวมันไก่
Dream high, work hard.
นึกอยู่ 5 วิ
ที่จริงศิลปินที่ร้องเพลงนี้เกิดวันเดียวกับผมล่ะ 555
.... แต่คนละปี (ผมเกิดทีหลัง) ก็เลยมีคนเอาชื่อเค้ามาใช้เรียกผมเหมือนกัน กลายเป็นชื่อภาษาอังกฤษของตัวเองไป :)
เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกเปิดบ่อยที่สุดช่วงผับกำลังจะปิด+เปิดไฟไล่แขก ในยุคนั้น
ถีบหัวส่ง
ตัดลมให้ใจ -> ตัดลมหายใจ ?
ตัดลมให้ใจ -> ตัดลมหายใจ ครับ #บอทตรวจคำผิด
แพ้ไปหนึ่งนาที #ขอแสดงความเสียใจ
@TonsTweetings
ข่าวต่อไป > Unofficial รวมตัวกันตั้ง server ให้บริการลักษณะเดียวกับ Twitter ผ่าน Client ตัวเอง!
my blog
UberSocial เริ่มนำร่องก่อน (มั้ง?)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เหมือนศิลปินที่ดังแล้วลืมคนที่ปลุกปั้นตัวเองมา
ผมมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่ G+ จะดึงนักพัฒนา นะครับ ว่าแต่ G+ API เปิดรึยัง
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
App G+ ผมว่ามันแจ่มกว่า FB, TW เยอะเลยนะครับ =w=! คงไม่ต้องพึ่งคนอื่น
G+ ผมว่าดีพอที่จะไม่เกิดคำวิจารณ์แบบนี้ได้ครับ
I need healing.
ผมว่า อีกอย่างที่สำคัญคือ ปุ่ม Retweet ตอนแรก ต้องก๊อปคำมาแล้วก็ พิมพ์ "RT:" เอาเอง บัญญัติ ศัพท์ RT
ตอนผมเริ่มเล่นใหม่ ผมก็ไม่ได้เล่นผ่านเว็บนะ
เมื่อก่อนถ้าให้มีแต่เว็บ (กากๆ) อย่างเดียว คงไม่รอดมาจน (ดูเหมือนจะ) เทพอย่างตอนนี้หรอกครับ
แถมฝั่ง mobile app ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลยด้วยซ้ำ
เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลแท้ๆ
I need healing.
ตั้งแต่พบกันวันนั้น ใจก็รู้ว่าเราจะมีกันวันนี้ เธอเติมเต็มสิ่งดีดี ให้ทุกวันที่มี กลายเป็นวันที่มีความหมาย...
เผาพริกเผาเกลือแช่งกันเลยอ่ะ meก็หนึ่งในนั้น
(หนีไปเขียนfacebookกันก็ได้)
เณรคุณสินะ
/me ขอ token แล้วเขียนใช้เอง ฟิน.... :P
Retweet ก็เป็นสิ่งที่ได้จาก Unofficial Clients เหมือนกันนะ :3
เจ้าแม่โซเชียลมาเองเลย :3
Official ปรับปรุงไปกี่ครั้งก็ยังไม่ถึงครึ่งของนักพัฒนาอิสระคนเดียวเลย ใช้ twicca มาตั้งแต่ต้น
อยากจะมองในแง่ดีว่าแค่ชะลอความเร็วลงหน่อย ตั้งหลักเตรียมหาเงินบ้าง .. แต่ก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี >_<*
Image Preview ด้วยนะ
อ่านข่าวกับทุกความเห็นแล้วนึกไม่ออกเลยว่า Twitter เริ่มแรกมันมีอะไรบ้าง เห็นทุกอย่างที่ดี ๆ ในวันนี้มาจากนักพัฒนาภายนอกทั้งนั้น แม้แต่การนับตัวอักษร
Jusci - Google Plus - Twitter
หนีไปทำ unofficial Facebook app ให้มันแจ่มๆเลยดีกว่า 555+
Educational Technician
ไม่มี Unofficial Client ทวิตเตอร์ก็คงไม่มีวันนี้ >>> แต่ปล่อยต่อไปอาจไม่มีทวิตเตอร์ = ='
ถ้าผู้ใช้ไปยึดติดกับ Client แทนตัว Twitter แทน วันนึงคนทำ Unofficial Client อาจะ "ลดการพึ่งพา" ทำบริการส่วนของ Twitter เองก็ได้
:: DigiKin8 ::
เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึก(?)ฆ่าขุนพล
ทวิตส่วนมากก็เอาไว้บ่นกับแปะข่าวสาร
ถ้าจะคุยกันยาวๆหรืออยากเล่นฟีเจอร์แปลกๆ ไปเล่นอย่างอื่นน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์กว่า
อีกอย่างไคลเอนท์ออฟฟิเชี่ยลเองก็ไม่ได้โ่ง่เง่าอะไร ผมก็ยังใช้ได้
นอกจากมันจะทำอะไรที่เป็นการฆ่าตัวตายเองเหมือนเฟสบุคไทม์ไลน์ คนถึงจะไปแสวงหาอย่างอื่นที่เค้าถนัด
จุดที่ไม่ชอบคือมันพรีวิวรูปเล็กๆ ก่อนแบบ tweetbot ไม่ได้ เวลาจะดูรูปต้องกดเข้าไปดูในทวีตทุกครั้ง มันเสียเวลาและเปลืองข้อมูลนะครับ แต่จุดอื่นๆ ก็ถือว่าโอเคแล้ว