Tags:
Node Thumbnail

สิ่งที่กูเกิลยังอุบเงียบมาโดยตลอดก็คือ ตกลงแล้ว Android ทำรายได้ให้กูเกิลเท่าไรกันแน่ ซึ่งบริษัทใช้วิธีรวมตัวเลขรายได้เข้าเป็นก้อนเดียวกับรายได้จากมือถือ (ซึ่งมีแหล่งรายได้อื่นๆ นอกเหนือจาก Android ด้วย) ก่อนหน้านี้เลยมีแต่ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เท่านั้น

แต่คดีความระหว่างออราเคิลกับกูเกิล บังคับให้กูเกิลต้องเปิดเผยข้อมูลภายใน (อีกแล้ว) คราวนี้เป็นเอกสารนำเสนอของ Andy Rubin ในปี 2010 ซึ่งมีตัวเลขรายได้ของ Android แบบชัดๆ หลุดออกมาเป็นครั้งแรก

Rubin นำเสนอเอกสารชิ้นนี้ในเดือนกรกฎาคม 2010 (ช่วงที่ Galaxy S รุ่นแรกเปิดตัวพอดี) สถิติต่างๆ ของ Android ในช่วงนั้นได้แก่

  • ยอดขายรวม 20 ล้านเครื่อง
  • อัตราการเปิดใช้งาน 160,000 เครื่องต่อวัน
  • แอพใน Android Market 70,000 แอพ
  • อัตราการค้นหาข้อมูลเฉลี่ยวันละ 2.65 ครั้งต่อเครื่อง
  • รายได้จากโฆษณา 9.83 ดอลลาร์ต่อปีต่อเครื่อง
  • รายได้รวมจากโฆษณา 120 ล้านดอลลาร์ต่อปี

เอกสารของกูเกิลยอมรับว่าแอปเปิลยังเข้มแข็งในตลาดอุปกรณ์พกพา กูเกิลยังตามหลังในเรื่องเพลง วิดีโอ อีบุ๊ก อัตราการซื้อแอพยังต่ำ ระบบการจ่ายเงินซื้อแอพยังจำกัด และมีปัญหาถูกกีดกันจากโอเปอเรเตอร์ในหลายๆ เรื่อง

No Description

ประเด็นสำคัญคือ "รายได้" ของ Android มีดังนี้

  • รายได้จริงของปี 2009 = 16.8 ล้านดอลลาร์
  • รายได้จริงของปี 2010 (นับถึง พ.ค.) = 132.1 ล้านดอลลาร์ (คาดว่าจะได้ 240.3 ล้านดอลลาร์ พลาดเป้าไปเยอะ)
  • รายได้คาดการณ์ของปี 2010 ตลอดปี = 278.1 ล้านดอลลาร์
  • รายได้คาดการณ์ของปี 2011 = 507.3 ล้านดอลลาร์
  • รายได้คาดการณ์ของปี 2012 = 840.2 ล้านดอลลาร์
  • รายได้คาดการณ์ของปี 2013 = 1,336.3 ล้านดอลลาร์

สำหรับสัดส่วนรายได้ของปี 2010 (คาด 278.1 ล้านดอลลาร์) แยกย่อยได้ดังนี้

  • รายได้จากโฆษณา 158.9 ล้านดอลลาร์
  • รายได้จากการขายแอพ 3.8 ล้านดอลลาร์
  • รายได้จาก DTC (ไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไรกันแน่) 115.4 ล้านดอลลาร์

No Description

ส่วนรายได้ของ Android เทียบกับรายได้จากแหล่งที่มาอื่นๆ ในหมวดของมือถือ ก็ตรงตามข่าวที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ว่า ฝ่ายมือถือของกูเกิลมีรายได้หลักมาจากแอปเปิล (ค่าใช้งานผลิตภัณฑ์ของกูเกิลบน iOS) ประมาณ 281 ล้านดอลลาร์ ส่วน Android เพิ่งโตขึ้นมาเป็นรายได้อันดับที่สองแบบห่างๆ ในไตรมาสแรกของปี 2010

แหล่งรายได้ที่เยอะพอๆ กับ Android ในช่วงนั้นคือค่าใช้งานของโอเปอเรเตอร์ญี่ปุ่นสองราย DoCoMo และ KDDI (ประมาณรายละ 100 ล้านดอลลาร์) ที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ เช่น BlackBerry ที่มีไม่เยอะนัก แค่ประมาณหลักสิบล้านดอลลาร์เท่านั้น

No Description

เอกสารนี้ยังแสดงยุทธศาสตร์ของกูเกิลในช่วงเวลาต่างๆ

  • ปี 2008-2010 เน้นการสร้าง ecosystem ของ Android ให้เกิดได้
  • ปี 2010-2011 ใช้ Android ช่วยขยายธุรกิจหลักของกูเกิลคือ ค้นหา โฆษณา แอพ
  • ปี 2011-2013 ขยายช่องทางทำเงินอื่นๆ เช่น เพลง วิดีโอ อีบุ๊ก
  • ปี 2013 เป็นต้นไป เน้นเพิ่มรายได้จากโฆษณาและแอพ รวมถึงขยายฐานผู้ใช้ของ Android ไปยังมือถือระดับฟีเจอร์โฟน

สำหรับประเด็นเรื่องการขายเพลง อ่านในข่าว ประเมินรายได้ของ Google Music ไม่เข้าเป้าอย่างแรง ข้อมูลมาจากสไลด์ชุดเดียวกัน (สไลด์ชุดเต็มอ่านได้จากที่มาครับ)

โฆษกของกูเกิลก็ออกมาแถลงว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเก่าของปี 2010 ซึ่งถือว่าล้าสมัยสำหรับปัจจุบันแล้ว และไม่สะท้อนความเป็นไปของ Android อีก (แต่ก็ไม่เปิดเผยข้อมูลปัจจุบันอยู่ดี)

ที่มา - The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 30 April 2012 - 22:43 #414475
Be1con's picture

พึ่งมา!!!!

ช้าเปล่าเจ๊เกิ้ล


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: alcanfane
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 30 April 2012 - 22:49 #414482
alcanfane's picture

สงสัยว่าทำไมกูเกิลไม่ต้องชี้แจงข้อมูลตรงนี้ครับ เมื่อแถลงผลประกอบการแต่ละไตรมาส

By: jack8855
iPhoneAndroidRed HatSymbian
on 30 April 2012 - 23:03 #414491
jack8855's picture

รายได้ทุกทางน้อย ยิ่งรายได้แอพนี่!ไปไม่รอดมีหวังนักพัฒนาอยู่กันไม่ยืดยาว อนาคตมีจบ..

By: giogio
Android
on 2 May 2012 - 02:06 #414979 Reply to:414491
giogio's picture

ณ ขณะนี้ ผมไม่คิดเช่นนั้นนะครับ ^^

By: massacre
AndroidUbuntu
on 1 May 2012 - 00:01 #414533

แสดงรายได้น้อย เพราะถ้าแพ้คดีจะได้โดนคิดเงินน้อยหรือเปล่า?

By: breambeem
UbuntuWindows
on 1 May 2012 - 01:44 #414593

ปี 2010 หนิอ่านกันด้วย -___-*

By: cnim16
AndroidUbuntuWindows
on 2 May 2012 - 00:22 #414932
cnim16's picture

คิดว่า Android น่าจะเป็นเหมือนกองทัพมด เน้นขยายอาณาเขต
เรื่องหลักๆ ที่เป็นกำไร ก็เป็นโฆษณา