ตามวาระที่รางวัล Nobel กำลังจะประกาศในช่วงนี้ (จริงๆ แล้วของการแพทย์ประกาศแล้วนะครับ) รางวัล Ig Nobel หรือ Nobel สำหรับงานวิจัยที่(ดูเหมือน)น่าขำ ก็ได้ประกาศออกมาแล้วครับ
- การแพทย์ ให้งานวิจัยที่สรุปว่า ยาหลอก (Placebo) ราคาแพง มีประสิทธิภาพดีกว่ายาหลอกราคาถูก โดย RL Waber, B Shiv (สหรัฐ), Z Carmon (สิงคโปร์)
- ชีววิทยา ให้กับงานวิจัยที่พบว่าเห็บที่อาศัยอยู่บนสุนัขสามารถกระโดดได้สูงกว่าเห็บที่อาศัยอยู่บนแมว โดย M Cadiergues, C Joubert, M Franc (ฝรั่งเศส)
- ฟิสิกส์ ให้แก่งานวิจัยที่ใช้คณิตศาสตร์ในการพิสูจน์ว่าเส้นลวด เส้นผม หรือเส้นอะไรก็ตามสามารถพันกันได้เองจนเป็นปม โดย D Raymer และ D Smith (สหรัฐ)
- เคมี มีผู้ได้รับสองกลุ่มครับ คือ SA Umpierre, JA Hill, DJ Anderson (สหรัฐ) ในการค้นพบว่าโค้กสามารถฆ่าสเปิร์มได้ และอีกกลุ่มคือ CY Hong, CC Shieh, P Wu และ BN Chang (ไต้หวัน) ในการค้นพบว่าจริงๆ แล้วโค้กไม่สามารถฆ่าสเปิร์มได้หรอก
(มีต่อ)
- โภชนาการ ให้แก่ M Zampini (อิตาลี), C Spence (สหราชอาณาจักร) ในการค้นพบวิธีเปลี่ยนเสียงของการเคี้ยวมันฝรั่งทอดกรอบเพื่อที่จะทำให้คนที่เคี้ยวรู้สึกว่ามันกรอบใหม่กว่าปกติ
- สันติภาพ ให้งานวิจัยที่ศึกษาจริยธรรมของพืช และแสดงให้เห็นว่าพืชก็มีเกียรติเหมือนกัน โดย Swiss Federal Ethics Committee on Non-Human Biotechnology (สวิสเซอร์แลนด์)
- โบราณคดี ให้งานวิจัยที่ศึกษาว่าการขุดดินของตัวนิ่มสามารถทำให้พื้นที่ที่ทำการศึกษาทางโบราณคดีเปลี่ยนแปลงได้ โดย AG Araujo, JC Marcelino (บราซิล)
- วิทยาการปัญญา (Cognitive Science) ให้กับการศึกษาที่ศึกษาการแก้ปัญหาเขาวงกตโดยตัวอะมีบา โดย T Nakagaki, H Yamada, R Kobayashi และคณะ (ญี่ปุ่น)
- เศรษฐศาสตร์ ให้กับการศึกษาที่บอกว่ารอบประจำเดือนของคนเต้นอะโกโก้สัมพันธ์กับทิปที่เธอจะได้ โดย G Miller, J Tyber, B Jordan (สหรัฐ)
- วรรณกรรม ให้กับงานวิจัยอันแสนยาวเกี่ยวกับ "ไอ้ตัวแสบ: การศึกษาเชิงบรรยายพรรณนาเกี่ยวกับความขุ่นเคืองในองค์กร" โดย D Sims (สหราชอาณาจักร)
ก็ขอแสดงความยินดี (รึเปล่า) กับผู้ได้รับรางวัลดังกล่าวนะครับ
ที่มา: Improbable Research via MedGadget
Comments
ทีมวิจัยโค้กนี่เจ๋งแฮะ
Rerng®IT
.
มันจะไม่มีความน่าสนใจอะไรเกิดขึ้นเลย หากเราแค่มองมันว่า เป็นเรื่อง "ไร้สาระ"
บางทีเรื่องที่มันดูไม่ค่อยจะเกี่ยวกันเลย กลับมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อนะครับ ฝรั่งเอาไปเขียนเป็นหนังสือขายดีมาแล้วหลายเล่ม เช่น freakonomics และ a brief history of nearly everything เป็นต้น :-)
นั่นแหละครับ ประเด็น ไอ้คำว่าไร้สาระ มันทำให้เราพลาดโอกาสที่จะเรียนรู้หลายๆ อย่างเลย
และอะไรหลายๆ อย่างที่เราเห็นกันอยู่ มันก็เคยโดนดูถูกว่าไรสาระ มาไม่น้อย :)
ผมว่าน่าสนใจออกนะ คือคิดไ้ด้ยังไง เก่งจริงๆ 5555
พยายามคิดตามอยู่ แต่อืม......ม
นักวิจัยเมืองนอกเค้าทุนหนาดีแฮะ มีเวลาวิจัยอะไรสนุกๆ เยอะแยะ
Yume Nikki
คนทำวิจัยเขาคิดอะไรอยู่นะ ...
อยากรู้จัง :-)
คิดได้ไงเนี่ย ?
เขาคิดได้นะเนี่ย...
au8ust.org
แต่ละการวิจัย สึโก้ยจริงๆ
Nice - SE7ENize.com
@NiceThai
สรุปว่า ถ้าเอาโค้กราดจะท้องไหม?
iPAtS
iPAtS
ราด อาจจะไม่ แต่ถ้า ล้าง อาจจะใช่
ถ้าโค้กแข็งก็มีสิทธิ์นะ ... :P
น่าสนใจทุกปีเลย
เวลาอ่านหัวข้องานวิจัยจะมีคำถามขึ้นมาทันทีว่า คิดได้ไง - -a
arthuran.net :: my tools
เขาว่ากันว่า คนทำวิจัย เอาทุนมาจากเป็นคนขับ Taxi
แป่ว..
Yahoo!!!
อันนี้น่าจะสลับกัน คือใช้คำว่า"สัมพันธ์กับ"มันอาจไม่บอกทิศทางความสัมพันธ์ แต่ที่นี้ถ้าบอกว่าทิปสัมพันธ์กับรอบเดือนดูจะดีกว่าเพราะ imply ว่าอะไรเป็นเหตุและผล ที่มาข่าวยังใช้คำว่า affect
เฉพาะหัวข้อนี้ได้ยินมานานแล้ว เกี่ยวกับฮอร์โมนหรือฟีโรโมนอะไรทำนองนั้น แต่พอได้ Ig Nobel มันดูเหลวไหลไปเลย (หรือเปล่า)
ผมว่ามันเป็นการศึกษาแบบ cross-sectional ไม่น่าจะสามารถบอกถึง cause-effect relationship ได้นะครับ
ผมกลับไม่รู้สึกว่างานที่ได้ Ig Nobel มันเหลวไหลนะครับ
กลับรู้สึกว่า คิดได้ไงเนี่ย เท่สุดๆ
ที่แน่ๆ คือฮาทุกอัน
สังเกตได้ว่า คนได้รางวัล ไปรับรางวัลกันจริงๆ แทบทุกคน
ไม่เหมือน Oscar & Raspberry Award
ไอ้ตัวแสบ ===?หรอเหอๆๆ
You Bastard ครับ ข้างในมีแต่คำว่า bastard
Bastard = ลูกนอกสมรส (ใช้เป็นคำด่ากัน)
มันฮาตรงที่เอาคำด่ามาขึ้นไว้หน้า subject ของ Paper นี่แหละ ทำไปได้
คนรีวิวคงจะอึ้ง เฮ้ย โผล่มาคำแรกก็ด่ากันเลย
พิเรนท์ถึงขั้น เหมาะสมกับ Ig Nobel สาขาวรรณกรรมจริงๆ
Cross sectional เป็นการศึกษาความชุกของการเกิด สามารถที่จะหาเหตุและผลได้ในเวลาเดียวกัน
การที่เราจะบอกว่าอะไรเป็นสาเหตุ อะไรเป็นผล มีหลักง่ายๆ (จริงๆ ไม่ง่าย) ตาม Hill's Criteria of Causation ดังนี้
อย่างไรก็ดี เรื่อง Causation นี้เถียงกันยังไงก็เถียงไม่จบครับ เพราะเถียงมาตั้งแต่ปี 1950 โน้นๆ บัดนี้ก็ยังเถียงกันอยู่
Reference:
Hill, A. B. (1965). "The environment and disease: association or causation?". Proc R Soc Med 58: 295–300. (pdf)
citation แน่นปึ้ก น่าเชื่อถือครับ
ไม่ตายไม่เลิก
ผมว่า สาขาสันติภาพ กับวิทยาการปัญญา มันน่ารักดีนะ ^^
แต่เคมีมันบ้าโคตร >_<.b