Tags:
Node Thumbnail

แฟนๆ แอปเปิลที่สนใจประวัติของบริษัทสักหน่อยคงรู้จักอดีตซีอีโอ John Sculley ซึ่งมีชื่อเสียงจากประโยคที่สตีฟ จ็อบส์ชวนเขามารับตำแหน่งซีอีโอว่า "คุณต้องการขายน้ำหวานไปชั่วชีวิต หรือจะมาเปลี่ยนแปลงโลกกับผม?" และภายหลังเขาก็เป็นคนปลดสตีฟ จ็อบส์ออกจากตำแหน่ง

ล่าสุด John Sculley มาที่ CES เพื่อโปรโมทบริษัทล่าสุด Audax ที่ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีกับการบริการสุขภาพ และให้สัมภาษณ์กับ BBC พูดถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจหลายประการ (น่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของ Sculley หลังการเสียชีวิตของจ็อบส์)

Sculley ยอมรับว่าไม่ได้อ่านหนังสือของ Walter Isaacson แต่ได้คุยกับคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้และอ่านบทสัมภาษณ์ของ Isaacson แล้ว เขาบอกว่า Isaacson ดึงความยิ่งใหญ่ของจ็อบส์ออกมาได้ดี และขอบคุณ Isaacson ที่เคลียร์ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับตัวเขาสองประการ

  • เขาไม่ได้เป็นคนไล่สตีฟ จ็อบส์ออกจากแอปเปิล
  • เขาไม่ได้เป็นคนทำลายสถานะของแอปเปิลจนตกต่ำ

    ในประเด็นแรก เขาย้อนความสมัยเข้ามาทำงานกับแอปเปิลใหม่ๆ ซึ่งความสัมพันธ์กับสตีฟ จ็อบส์เป็นไปด้วยดี จนกระทั่งจ็อบส์เปิดตัวซอฟต์แวร์ Macintosh Office ในปี 1985 และล้มเหลวอย่างแรง ทำให้จ็อบส์หดหู่และหมดกำลังใจ จากนั้นทั้งสองคนก็มีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องการลดราคาแมคอินทอชเพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะจ็อบส์ต้องการให้ลดราคา แต่ Sculley มองว่าการลดราคาแมคจะไปกินตลาด Apple II ซึ่งเป็นเครื่องจักรทำเงินของบริษัท ซึ่งเป็นการตัดสินใจในฐานะซีอีโอ

เรื่องนี้กลายเป็นชนวนให้ทั้งสองคนขัดแย้งกัน สุดท้ายเรื่องไปถึงบอร์ดบริหารของแอปเปิล และบอร์ดตัดสินใจว่าจะสนับสนุน Sculley ในฐานะซีอีโอ

(เสริม: ในแง่ระเบียบทางเอกสารแล้ว จ็อบส์ไม่เคยถูกไล่ออกจากบริษัทแต่ถูกปลดจากตำแหน่งในขณะนั้น ซึ่งเขาก็หยุดงานไปพักหนึ่ง และลาออกไปทำงานที่อื่นเอง)

Sculley ยังเสริมว่าปัญหาของ Macintosh Office เกิดจากประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ในตอนนั้นไม่เพียงพอในการทำงานที่จ็อบส์ต้องการ และคนที่แก้ปัญหาได้คือ "กฎของมัวร์" เพราะอีก 18 เดือนให้หลัง แอปเปิลพยายามทำแบบเดิมอีกครั้ง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมากจนกลายเป็นมาตรฐานของวงการสิ่งพิมพ์บนเดสก์ท็อป

Sculley ยอมรับว่าทั้งหมดนี้เป็นไอเดียของจ็อบส์ ที่มาเร็วไป 18 เดือน

ส่วนประเด็นที่สอง เขาบอกว่าแอปเปิลในตอนนั้นเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ที่มีกำไรมากที่สุดในโลก ตอนที่เขาลาออกจากบริษัทในปี 1993 แอปเปิลมีเงินสดในมือถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนเหตุผลที่แอปเปิลตกต่ำ เขาบอกว่า "มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างช่วงที่ผมลาออกแล้ว และก่อนจ็อบส์เข้ามาเป็นซีอีโอ"

ในบทสัมภาษณ์ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น Sculley พูดถึง Newton (ที่ทำในยุคของเขา) ว่ามาเร็วไป 15 ปี และ Newton ทำให้แอปเปิลต้องการซีพียูประหยัดพลังงานที่ประมวลผลข้อมูลแบบ object-oriented ได้ ซึ่งแอปเปิลก็ลงหุ้นใน ARM 47% เพื่อก่อตั้งบริษัทจนเติบโตมาได้ทุกวันนี้

เขายังบอกว่าตอนนี้ธุรกิจที่น่าสนใจคือเรื่องสุขภาพ (healthcare) ที่ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ไม่มากเท่าที่ควร โดยตอนนี้เขาเป็นนักลงทุนและที่ปรึกษาของบริษัท Audax Health ที่มีซีอีโอ Grant Verstandig อายุ 23 ปีเป็นคนดูแลกิจการ

ที่มา - BBC

Get latest news from Blognone

Comments

By: Witna
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 16 January 2012 - 23:06 #374337

น่าแปลกใจตรงที่ คนอย่างจ๊อบส์เคยมีความคิดลดราคาแอปเปิ้ล เพื่อดึงยอดขายด้วยแฮะ

ส่วนประเด็น "มาเร็วเกินไป" นี่เห็นได้จากหลายๆ เรื่องในหลายๆ วงการละนะ

พูดอีกอย่างง่ายๆ คือ "ผิดที่ ผิดเวลา"

By: raifa
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 16 January 2012 - 23:14 #374338

ทิ้งท้ายให้น่าสนใจด้วยเรื่อง CEO อายุ 23 ปี OoO

By: compleger
AndroidUbuntuWindows
on 16 January 2012 - 23:47 #374341 Reply to:374338
compleger's picture

อยากเห็นหน้าเลยล่ะ

By: taqman
Android
on 17 January 2012 - 00:02 #374346 Reply to:374341

https://www.facebook.com/people/Grant-Verstandig/646317018?sk=photos
ไปดูกันเลยครับ

By: chalee
iPhoneAndroid
on 16 January 2012 - 23:43 #374340

น่าคิด

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 16 January 2012 - 23:48 #374343
khajochi's picture

ความจริงอีกด้านหนึ่ง


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: taqman
Android
on 17 January 2012 - 00:04 #374347 Reply to:374343

ตกลงความจริงอยู่ที่ไหนครับ ยอดนักสืบจิ๋วขโจชิ

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 17 January 2012 - 12:00 #374422 Reply to:374347
khajochi's picture

คิดว่าเขาน่าจะไล่จ็อบส์ออกครับ แต่มันไม่ใช่เรียกเข้ามาในห้องแล้วบอกฉันไล่แกออก แต่เป็นการบีบให้ออก


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: Zerothman
WriteriPhoneIn Love
on 16 January 2012 - 23:58 #374345

ผมอ่านชีวประวัติที่ Isaac เขียนก็ไม่ได้เข้าใจว่าโดนไล่ออกนะ (แถมดู sculley จะเป็นห่วง jobs ช่วงที่มีปัญหากับบอร์ดด้วยซ้ำ) ตอนอ่านข่าวนี้ตอนแรกก็ยังงงๆ ว่ายังไง

By: mk
FounderAndroid
on 17 January 2012 - 00:04 #374349 Reply to:374345
mk's picture

Sculley ไม่ได้แย้งกับ Isaacson ครับ เพียงแต่เค้าบอกว่า Isaacson ช่วยเคลียร์ตัวเขาจาก "myth" ของวงการ (ที่มีมายาวนาน) ว่าเขาเป็นคนไล่จ็อบส์ออก (ซึ่งในทางพฤตินัยมันก็ใช่นั่นแหละ แต่ในเชิงเอกสารก็เป็นจ็อบส์โดนปลดและลาออกไปเอง)

By: Ishmael
iPhoneAndroidWindows
on 17 January 2012 - 00:04 #374348

"แอปเปิลก็ลงหุ้นใน ARM 47% เพื่อก่อตั้งบริษัท" เรื่องนี้ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเช่นกัน ทุกวันนี้ Smartphone ใช้ ARM เทคโนโลยีกันเกือบหมด

By: narasak
iPhoneAndroidUbuntu
on 17 January 2012 - 14:43 #374464 Reply to:374348

นี่คือความจริงหรือนี่

นอนกินไปได้อีกยาวเลย

By: giogio
Android
on 17 January 2012 - 01:10 #374363
giogio's picture

อ่านในหนังสือจะยิ่งกว่านิยายอีกครับ คล้ายๆกับมีการวางแผนจะทำปฏิวัติยึดอำนาจ แต่ 1 ในแม่ทัพเริ่มมีใจออกห่างเลยหันกับมากลับใจแจ้งความลับแก่ราชาแทน เมื่อราชารู้แผนการณ์ก็ยกเลิกกำหนดการจะประพาสต่างแดนแต่กลับต้องทัพดักรอฝ่ายกบฏแทน พอฝ่ายกบฏเดินเข้ากับดักก็โดนจับกุมแลสำเร็จโทษตัดยศริบเรือนและเนรเทศออกจากอาณาจักรไป นี่แค่เสี้ยวหนึ่งในหนังสือนะครับ หวังว่าจะไม่สปอย อิอิ

By: lew.★ on 17 January 2012 - 01:57 #374367
lew.★'s picture

อาจจะจริง เคยอ่านเจอเขาบอกว่า พอแม็คยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากประสิทธิภาพไม่พอสำหรับระบบโอเอสที่ล้ำเกิน
จ็อบส์ก็ขัดแย้งเรื่องแนวทางแก้ไขกับสกัลลีย์และหาทางจะปลดสกัลลีย์ แต่สกัลลีย์วางตัวได้ดีกว่า
เนื่องจากสุขุมเป็นผู้ใหญ่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกว่า ในขณะที่จ็อบส์มีความเครียดร้อนรนจากการที่แม็คไม่ประสบความสำเร็จและต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพแม็คซึ่งช้ากว่ากำหนด
ทำให้อาร์ตแตกเป็นระยะๆ ด้วยความอาร์ตแตกทำให้พนักงานบางคนไม่ชอบและเอาข่าวการหาทางปลดสกัลลีย์ไปบอกสกัลลีย์
สกัลลีย์เลยชิงเข้าหากรรมการบริษัทซึ่งก็เข้าข้างข้อเสนอของสกัลลีย์ที่ให้ปลดจ็อบส์ออกจากตำแหน่งคุมการพัฒนาและปรับปรุงแม็ค
ไปอยู่แผนกพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่ซึ่งงบพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่ตอนนั้นอาจจะยังน้อยเพราะเครื่องแม็คซึ่งก็ใหม่จากเตายังขายไม่ได้ ของยังเหลือเต็มสต็อก
จ็อบส์คงรู้สึกเหมือนโดนดองโดนแขวนในตำแหน่งที่ไม่สำคัญหรือโดนหักหน้าเลยชิงลาออกไปตั้งบริษัทใหม่
โครงการเครื่องรุ่นใหม่ที่จ็อบส์กำลังจะทำมันและไปสร้างขึ้นที่บริษัทใหม่แทนก็คือเครื่องเน็กซ์หรือก็คือบรรพบุรุษของ OsX นี่แหละ
ตอนนั้นถ้าจ็อบส์ยอมอยู่ต่อ แอปเปิ้ลอาจจะไม่มียุคตกต่ำเพราะหลังจากจ็อบส์ออกไปไม่นานแม็คก็ขายได้
แถมถ้าเครื่องเน็กซ์รวมอยู่กับแอปเปิ้ลตั้งแต่แรกอาจจะทำให้แอปเปิ้ลไม่เสียเวลาพัฒนาโอเอสรุ่นใหม่ที่ล้มเหลวไปหลายปี
เครื่องPDAนิวตันบรรพบุรุษของ iPhone อาจมีคุณภาพ-ราคาดีพอที่จะประสบความสำเร็จก็เป็นไปได้เหมือนกัน

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 17 January 2012 - 01:58 #374368
lingjaidee's picture

ยิ่งถ้าเคยดู the pirate of silicon valley จะอ่านหนังสือได้เร็วกว่าชาวบ้านมาก เห็นภาพเป็นฉากๆ ช่วยลำดับเหตุการณ์ได้ดีจนน่าตกใจ อ้อ ไอแซคสัน เขียนได้เป็นกลางและรักษาสมดุลหนังสือได้ดีมากจนน่าตกใจเช่นกัน ^^


my blog

By: iPannzrem
iPhoneAndroidWindows
on 17 January 2012 - 19:50 #374544 Reply to:374368
iPannzrem's picture

จริงด้วย ลอยมาเป็นฉาก ๆ เลย 55

By: amdo
iPhoneAndroidWindows
on 17 January 2012 - 09:52 #374400
amdo's picture

อ่านช่วงเวลานั้นแล้ว ผมว่าไม่มีใครผิดใครถูกซะทีเดียว ถ้าบอร์ดไม่เล่นด้วยก็ทำอะไร Jobs ไม่ได้ แถมบอร์ดเป็นคนบอกให้ Sculley รู้จักทำหน้าที่ของ CEO ซะที (คืออย่ายอม Jobs ในเรื่องงาน) เพราะตอนนั้นผมอ่านดูก็ยอมรับว่า Jobs ช่วงเวลานั้นเป็นตัวป่วนมากกว่าจะเป็นแรงผลักดันให้บริษัท สุดท้ายเลยโดนแขวน

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 January 2012 - 10:26 #374406
tekkasit's picture

ผมว่าเล่มนี้เขียนได้ดีนะ ไม่ได้อวย Jobs แถมยังให้เห็นด้านมืดของ Jobs อีกด้วย

By: altimate
ContributoriPhone
on 17 January 2012 - 10:54 #374410
altimate's picture

เรื่องนี้ผมว่าสกัลลี่ค่อนข้างน่าสงสาร เพราะในช่วงที่มีปัญหานั้นเขาต้องตัดสินใจว่าจะรักษาความสัมพันธ์กับจ๊อบส์ที่กำลังคลั่ง หรือว่าจะเลือกรักษาบริษัทเอาไว้ไม่ให้ถูกจ๊อบส์ทำพังไป เพราะตอนนั้นจ๊อบส์ก็พลาดเยอะ ถ้าปล่อยให้ทำต่อไปอาจจะพังกันหมดก็ได้ การปลดจ๊อบส์ออกจากตำแหน่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีสุดแล้ว อีกอย่างมันทำให้จ๊อบส์ได้ไปทำอะไรใหม่ๆบ้าง ได้ไปเก็บประสบการณ์การบริหารบริษัทจากเน๊กส์และพิกซ่า แล้วกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในแอ๊ปเปิ้ล

ผมคิดว่าถ้าตอนนั้นจ๊อบส์ไม่ได้ออกจากแอ๊ปเปิ้ลไป แอ๊ปเปิ้ลคงไม่ประสบความสำเร็จได้ในระดับนี้ก็เป็นได้

By: tonhady
Red HatUbuntu
on 17 January 2012 - 13:05 #374443 Reply to:374410
tonhady's picture

สุดยอดครับท่าน ผมก็ว่าแบบนี้แหละ

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 17 January 2012 - 12:17 #374432
panurat2000's picture

"Sculley มองว่าการลดราคาแมคจะไปกินตลาด Apple II ซึ่งเป็นเครื่องจักรทำเงินของบริษัท"

มันก็คือกระเป๋าซ้ายกับกระเป๋าขวาของบริษัทเดียวกันไม่ใช่เหรอคะ? = ="

By: Go-Kung
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 17 January 2012 - 12:47 #374438 Reply to:374432

ในแง่การรักษายอดขายของแต่ละ Segment บางทีก็ไม่เหมาะน่ะครับ

ถ้า Segment ไหนการแข่งขันสูงแล้วต้องการเป็นผู้นำให้ได้ตลอดก็จะต้องไม่เอาของอื่นของตัวเองมากระทบ

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 17 January 2012 - 13:01 #374441 Reply to:374438
panurat2000's picture

จริงด้วยค่ะ ^^"

By: skuma
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 17 January 2012 - 17:06 #374501
skuma's picture

เหอะๆ ผมก็ งง อ่านประวัติที่ไหน เค้าก็บอกว่า เชิญคนนี้เข้ามา แต่สุดท้าย โดนไล่ออก
งง ว่าโดนได้ไง ในเมื่อเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท -*-

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 January 2012 - 18:08 #374522 Reply to:374501
PaPaSEK's picture

ไม่เกี่ยวกับเป็นเจ้าของหรือไม่ครับ

คือตำแหน่งเจ้าของยังอยู่ แต่ตำแหน่งในบริษัทอาจไม่มีอีกต่อไป

คล้ายๆ บิล เกตส์ ครับ

By: takz1977
iPhoneUbuntu
on 17 January 2012 - 23:19 #374582 Reply to:374501
takz1977's picture

เสริมให้ครับ ต้องบอกว่าความเป็นเจ้าของก็ยังคงอยู่แต่บทบาทและอำนาจในการบริหาร,สั่งการหายไป

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 17 January 2012 - 19:39 #374539
panurat2000's picture

ส่วนเหตุผลที่แอปเปิลตกต่ำ เขาบอกว่า "มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างช่วงที่ผมลาออกแล้ว และก่อนจ็อบส์เข้ามาเป็นซีอีโอ"

มันคือเหตุการณ์อะไรเหรอคะ? - -*

By: takz1977
iPhoneUbuntu
on 17 January 2012 - 23:21 #374584 Reply to:374539
takz1977's picture

ในหนังสือมีบอกไว้ละเอียดเลยครับคันๆ อยากเล่าแต่ไม่อยากสปอยล์ครับ อิอิ

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 18 January 2012 - 10:19 #374689 Reply to:374584
panurat2000's picture

ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ^^