Jake Brill ผู้บริหารของ Facebook จากทีม Site Integrity ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Business Insider เปิดเผยรายละเอียดด้านการรักษาความปลอดภัย และการต่อต้านสแปมของเว็บไซต์
- Brill บอกว่า Facebook เป็นเหยื่อของความสำเร็จของตัวเอง เพราะคนใช้เยอะมาก ปัญหาสแปมก็มากตามไปด้วย
- เนื่องจาก Facebook สร้างระบบ News Feed ที่น่าเชื่อถือและน่าสนใจ ทำให้เวลาสแปมหลุดเข้ามาใน News Feed ผู้ใช้จึงเชื่อและมักคลิกลิงก์
- สถิติของ Facebook คือลิงก์ 4% เท่านั้นที่เป็นสแปม และในวันหนึ่งๆ มีผู้ใช้ 5% ที่พบปัญหาสแปม
- Facebook กำลังแก้ปัญหานี้อย่างเต็มที่ ตอนนี้ในทีมของเขามีพนักงาน 30 คนทำงานเต็มเวลา และมีอัลกอริทึมคอยตรวจสอบสแปมตลอดเวลา มีเครื่องมือที่ดักจับคนที่ประสงค์ร้ายและลิงก์ที่มีปัญหา
- Facebook เป็นเว็บไซต์ไม่กี่แห่งที่ไม่เชื่อว่าผู้ใช้เป็นตัวจริง ถึงแม้จะใส่รหัสผ่านถูก เพราะมีระบบเช็คว่าถ้าล็อกอินที่หนึ่ง แล้วอีก 10 นาทีไปล็อกอินจากสถานที่อื่นในโลก Facebook จะบังคับให้ผู้ใช้พิสูจน์ตัวเองผ่านมาตรการต่างๆ
- Facebook ยังจับมือกับผู้ให้บริการความปลอดภัยอย่าง McAfee คอยสแกนลิงก์ว่าเป็นลิงก์ปลอดภัย ซึ่งบริการ social network อื่นๆ ยังไม่ได้ทำแบบนี้
ที่มา - Business Insider
Comments
เห็นไวรัสหลายๆตัวมันก็ยังล่องลอยอยู่ใน Facebook อยู่จนถึงทุกวันนี้
ทีมงานก็ไม่ได้ทำอะไร ผิดกับในบทสัมภาษณ์ที่ฟังดูดีมาก...
อันนี้ผมเห็นว่าส่วนหนึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้บางคนที่ชอบคลิกอะไรแปลก ๆ ได้ทุกวัน ขนาดกลเม็ดเดิม ๆ ยังโดนหลอกซ้ำ ๆ
เพราะด้วยตัว Facebook เองมันไม่ได้ติดไวรัส แต่มันเกิดจาก user ต่างหากที่ติดไวรัสแล้วมากระจายใน Facebook อีกที แล้วบางทีลิงค์ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนมีบ้างที่จะหลุดจากการตรวจจับเหมือนพวกสแปมเมล
+1 ที่ติดนั้นผู้ใช้ทั้งนั้น ไม่ได้เป็นเพราะ Facebook
+1 ในกรณีนี้ เพราะผมด่าด้วยปากด้วยซ้ำเวลามีคนมาถามว่าแก้ยังไง คลิกไม่ลืมหูลืมตาด้วยความอยากของตัวเองแท้ๆ น่าจะพอเดาได้แล้วว่าลิงก์แบบนี้ไม่ปลอดภัย ก็ยังจะจิ้มเวลาเห็นเพื่อนโพสต์ขึ้น wall ของตัวเอง
ในข้อความก็ดี .... ขนาดสอนแล้วสอนอีกว่าถ้าเพื่อนเราจริงๆ มันไม่ทักเราหรอก hi น่ะ ก็ยังจะไปคุยกับมันทั้งๆ ที่มันเป็นสคริปต์ภาษาอังกฤษ แหมมมม เพื่อนแกแต่ละคนภาษาอังกฤษแน่นมากเนาะ ไม่ดูอะไรเลยก็ยังจะคุย แล้วก็ไปกดลิงก์ที่มันให้มา ไม่รู้จะว่าไง ติดไปเต๊อะ
ชอบตรงนี้ Facebook เป็นเว็บไซต์ไม่กี่แห่งที่ไม่เชื่อว่าผู้ใช้เป็นตัวจริง ถึงแม้จะใส่รหัสผ่านถูก เพราะมีระบบเช็คว่าถ้าล็อกอินที่หนึ่ง แล้วอีก 10 นาทีไปล็อกอินจากสถานที่อื่นในโลก Facebook จะบังคับให้ผู้ใช้พิสูจน์ตัวเองผ่านมาตรการต่างๆ
もういい
ผมโดนอันเนี่ยแหละ อยู่เชียงใหม่ เน็ตหลุด รีเซ็ต Router แล้วใหม่ IP ไปอยู่เชียงราย -*-
ผมก็โดนไอ้เนี่ย เล่นใน Kindle แล้วมันต้องขึ้นว่าอยู่อเมริกา แล้วก็โดน XD
มีเครื่องมือที่ดักจบคนที่ประสงค์ร้าย >> ดักจับ ป่ะครับ ^^
Google ก็เป็นหนิ vpn หลุด + tor ข้ามไปข้ามมา โดนเลย = ='
พวก app หลอกลวง spam ไวรัส นี่บางทียังลอยนวลเลย อย่าง ปฏิทินของฉัน ที่ฮิตๆนี่ยังไม่โดนอุ้มสักที
แต่ก็เข้าใจว่ามันตรวจจับยากเหมือนกัน คนทำไม่กี่คน แต่คนสร้างสแปมมากมาย
@fb.me/frozenology@
4% ของลิงค์ทั้งหมด = โค_รเยอะ แล้วนะครับ
เข้าใจว่ายาก แต่ FB ควรรักษาระดับที่ต่ำกว่า 1% ไว้นะ
ของผมมีไม่ถึง 0.5 เปอร์เซ็นแน่นอน เจอปุ้บแจ้งลบอีกต่ะหาก ทุกวันนี้ใช้เฟสบุ้คเมลแทนเวล่ส่งอะไรให้เพื่อน
ขยะ aff ทั้งหลาย คนชอบเอาไปโยนทิ้งแถวนั้นน่าจะเก็บกวาดซะบ้างก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก