ที่งาน Open Mobile Summit นอกจากที่คุณ Stephen Elop ซีอีโอของโนเกียจะย้ำถึงความจำเป็นของบริษัทที่เลิกพัฒนาซิมเบียนแล้วไปเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์แล้ว เขายังกล่าวถึงแอนดรอยด์และแอปเปิล ดังนี้
"Apple created Android, or at least created the conditions necessary for Android to come into being"
ที่มา: Engadget
Comments
ก็ Apple created touch phone. เพราะงั้นถึงได้มีตลาดมือถืออย่างทุกวันนี้นี่แหละ
iPhone ป๋าทุกสถาบัน ฮ่าๆๆ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
แต่ไม่ป๋าที่ Blognone... 55
นั่นสิ ฮ่าๆๆ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
แต่ก็ป๋าพอที่ทำให้บางวันมีแต่ข่าวเปิ้ลอย่างเดียวเรียงกันเป็นตับ^^
เหอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รัก samsung ที่ลอกแบบไม่แคร์สื่อ เราเลยได้มือถือราคาถูก(กว่า) บนระบบปฎิบัติที่ต้องการ
โดนมากครับ 555+
งั้นไม่ต้องไปกราบ palm webos หรอครับนี่คือเจ้าแรกที่คิดค้น pda phone และระบบสัมผัสเลย ถ้าไม่มีนี่ก็ไม่มี apple iphone ครับ
พูดแล้วนึกถึงสมัยก่อนเลย ใครถือ Palm, iPaq หลังจากนั้นก็ O2, Dopod นี่เรียกว่าหล่อมาก..
สมัยก่อนอยากได้ O2 จนตัวสั่น ใครใช้แล้วหล่อจริงๆ
แต่ราคาถอยคอมดีๆ ได้เครื่องนึงเลยตอนนั้น - -"
O2 Atom สมัยนั้นใครควักมาโทรเพิ่มความหล่ออีก 10%
เคยมี O2 XDAII
ตอนนั้นไม่ได้อยากได้เล๊ยย หนัก+มีฝาหนัง
เวลาคุยฝามันจะห้อยๆ
พกไปร้านเหล้า < ใหญ่มาก กระเป๋าตุงเลย
ควักมาคุย < สาวเมิน
จิงๆ นะคับ สมัยนั้นสู้พวกคนมี Nokia ไม่ได้เลย
แต่ Apple Newton มันเกิดก่อน palm อีกนะ ถึงจะไม่ใช่ pda phone ก็เถอะ
แล้วโทรศัพย์จอสัมผัสไม่ใช่ palm ทำเป็นเจ้าแรกแน่ๆ เพราะตอนซื้อ palm IIIc มาเล่น ผมก็เห็นมือถือของโมโตโลล่าแบบจอสัมผัสแล้ว (ที่จำได้เพราะสั่งผ่าน amazon มาเล่นแล้วเค้าเมล์มาบอกไม่ส่งนอกประเทศ)
ยกให้สาวกเค้าเถอะครับ อ่านแล้วก็ยิ้มๆแล้วมองผ่าน อิอิ
สงสัย Stephen Elop เป็นสาวก ด้วยเหมือนกัน
ไปกราบก็ดีครับ เพราะเจ้านั้นเหมือนเป็นปู่ของ Touchphone เลยทีเดียวแหละ(ที่ยกให้เป็นปู่เพราะมันแยก Gen กันได้ค่อนข้างชัดเจนระหว่างกลุ่มนั้นกับ iPhone จึงเปรียบเสมือนพ่อลูกกัน ฮ่าๆ)
ปล.ผมไม่ได้ให้ไปกราบเลยนะ ติดลมมาจากข้าล่างอ้ะเปล่า?
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ถ้า Smartphone ตัวแรกของโลก สร้างโดย IBM ครับ (IBM Simon) ตัวเป็นเป็นทั้งโทรศัพท์ เพจเจอร์ แฟ็กซ์ และพีดีเอ (แอปเปิลเปิดตัวนิวตันตอนต้นปีนั้นแหละ)
ข่าวสั้นมาก
+1 ข่าวสั้นจริงๆครับ
แต่คอมเมนต์ท่าจะยาว
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ยาวจริงๆด้วย
สงสัยคุณเอลอปจะอยากดราม่า เล่นตัั้งกระทู้ล่อเป้าแบบนี้
แปลไม่ตรงนะครับ "created the conditions necessary for Android to come into being" ผมว่ามันแปลว่า "สร้างสภาวะที่ทำให้แอนดรอยด์จำเป็นต้องเกิดขึ้น" ซะมากกว่านะครับ
ไม่มีตรงไหนบอกว่า "วันนี้" นะครับ
Come into being แปลว่า "อยู่มาได้จนเป็นแบบนี้" ซึ่งก็แปลว่า "อยู่มาได้จนถึงวันนี้"
แปลภาษา ตปท. ต้องแปลโดยรวมแล้วสรุปมาเป็นภาษาที่ใช้พูดกันครับ อย่าแปลเป็นต่อนๆ คำๆ
come into being น่าจะแปลว่า "เกิดขึ้นมา" เฉยๆ นะครับ ไม่น่าจะใช่ "อยู่มาได้จนเป็นแบบนี้"
ถ้าตามความหมายของประโยคนี้แล้ว ผมจะเข้าใจว่า "แอปเปิลสร้างแอนดรอยด์ หรืออย่างน้อยก็ทำให้แอนดรอยด์เกิด" หรือถ้าจะสรุปสั้นไปกว่านั้นก็คือ "แอปเปิลทำให้แอนดรอยด์เกิดมา"
ขออภัยคุณ burlight, Pinary และผู้อ่านทุกท่านครับ พอดีผมพยายามปรับหัวข่าวให้สั้นเพียงบรรทัดเดียว เลยตัดข้อความจากที่ตั้งใจจะเขียนว่า "ทำให้เกิดขึ้นและอยู่ได้ถึงทุกวันนี้" เป็น "อยู่ทุกวันนี้" ครับ!
เอร้ยย ไม่ต้องขออภัยผมครับ ผมแปลไม่ออกน่ะครับ ก็เลยไปค้นดูแล้วก็เอามาแชร์ให้กันเฉยๆ ครับ >.<
ปล. ว่าแต่ข่าวผมผ่านรึยังครับ ฮ่าๆๆ
ลองกูเกิ้ลดูมันได้แบบนี้ be born or come into existence, to begin existence.
ผมเข้าใจว่ามันแปลว่า "เกิดขึ้น" นะครับ เพราะมี iOS แอนดรอยด์ก็เลยเกิดขึ้น (เพราะ iOS มันยอดมากแต่มันปิด กูเกิ้ลเลยอยากทำอะไรซักอย่างขึ้นมาแข่งให้มันดีกว่า) ไม่น่าจะสื่อความหมายในแนวที่ว่าเพราะมี iOS แอนดรอยด์เลยอยู่จนมาถึงทุกวันนี้ (ไม่ใช่เพราะ iOS มันห่วย Android เลยอยู่มาได้ถึงวันนี้)
ตอนแปลข่าว คำแปลมันดิ้นได้ครับ เพื่อให้ผู้อ่าน อ่านแล้วเข้าใจง่ายครับ
บางทีอ่านภาษาข่าวในแบบภาษาพูดมันทำให้รู้สึกเป็นกันเอง เข้าใจง่าย
แต่ถ้าแปลมาแบบตรงๆ บางทีมันจะดูทื่อครับ..
ประโยคน่าสน อยากรู้อังกฤษคำนี้ผมก็เลยไปค้นมาครับ ความหมายของ "Come into being"
นอนล่อเป้ามาแล้ว ยิงได้เต็มที่เลยครับ..
เค้าอาจจะได้เป็นประวัติศาสตร์ CEO คนสุดท้ายของ NOKIA ก็ได้
เค้าอาจจะได้เป็นประวัติศาสตร์ CEO คนสุดท้ายของ NOKIA ก็ได้
Nokia แอบเสี้ยม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
"Come into being" มันจะเหมือนกับ "Celestial being" ป่ะ ?
/Me ตีลังกาเข้า cockpit แล้วขี่กันดั้มไปดาวนาเม็ก เอิ้กๆ
อย่าลืมปล่อยอนุภาคหมี่เขียว
เห็นด้วยสุดๆๆ แต่งานนี้หาก Window Phone 8 ที่จะออกมาโชว์ตัวปีหน้า ยังล้าหลังเขาอยู่อีก (ทั้ง iOS และ Android) ไม่ว่า Hardware ของ Nokia จะดีอย่างไร ก็ยากที่จะมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่ม Smart Phone ได้ ผลงานนี้วัดกันในปี 2014 หลังจากโนเกียทำตลาด Window Phone ประมาณ 2 ปี
apple สร้าง iphone ที่ประสบความสำเร็จสูง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง มันจึงต้องมีอะไรอย่าง android มาเป็นทางออก ที่เค้าบอก apple สร้างแอนดรอย์ก็คือในความหมายนี้แหละครับ
ถ้าผมจำไม่ผิด
Eric Schmidt ทำงานอยู่กับ Apple ก่อนจะย้ายมา Google ซึ่งในตอนนั้นคู่หู Google ก็กำลังสร้าง Android พอดี
ลองหาอ่านข่าวเก่าๆ ดูก่อนดีกว่าครับ
ผมหมายถึงในแง่ที่ apple สร้างปรากฏการณ์จนสามารถกำหนดเทรนของมือถือได้เลย แต่เนื่องจากมันไม่ได้ตอบโจทย์ของทุกคน มันเหมือนเป็นแรงผลักดันให้แอนดรอยออกมา และออกมาดีพอหรือดีกว่า iphone อย่างที่เค้าให้สัมภาษนั่นแหละครับที่เหมือนสร้างแรงผลักดันและแรงกระตุ้นให้แอนดรอยพัฒนามาจนถึงขั้นนี้ แน่นอนครับผมสาวกแอนดรอยเต็มขั้น แต่ผมก็ต้องยอมรับว่า iphone มันสร้างปรากฏการณ์มาแล้วจริงๆ
schmidt ทำงานกับ google มาเป็นสิบปีแล้วครับ(ปี 2001) อิงจากWiki ส่วน Android Inc. ก่อตั้งโดย Andy Rubin ปี 2003 ดูท่าคำว่าอีริคย้ายเข้ามาตอนกำลังทำ คงไม่ใช่นะครับ ไทม์เฟรมคงจะผิดนะครับ
ผมไม่แม่นข้อมูลเท่าไรนะครับ แนะนำว่าลองไปอ่านข่าวที่ผมให้ลิงค์ไว้ละกัน
Schmidt เป็นทั้งบอร์ดของ Apple และ CEO ของ Google ในช่วงเวลาเดียวกันครับ และถอนตัวไปในตอนที่ Google Android กำลังจะเกิด
ส่วน Android นั้น Google ไปซื้อเค้ามาอีกทีครับ
Apple has created the path of slow painless death for Nokia and its shareholders.
@TonsTweetings
+1 แล้วก็โดน Microsoft ซื้อถูกๆ เพื่อนำไปผลิต hardware ให้ WP7 :)
ไม่พูดซะ ..
เหตุผลที่ผมว่าไม่คืออะไร andriod เกิดก่อน iphone ตั้งแต่ที่ใช้ชื่อว่า sidekick ตาม link นี้เลยครับ
http://phandroid.com/2011/06/09/stephen-elop-apple-created-android-here-we-go/
ทั้งสองค่ายต่างก็อ้างว่าตัวเองเกิดในปี 2003 ครับ แต่ถ้านับตาม time frame ในโลกจริง ๆ แล้ว Apple ได้ส่ง iOS ถึงมือผู้ใช้ก่อน Android ครับ ส่วนเรื่องแรงบัลดาลใจว่ามาจากไหน ช่วงนั้นทั้งคู่อาจจะได้มาจาก iMobile ของสามารถก็ได้ครับเพราะเล่นเสียงเรียกเข้า MP3 ได้ก่อนโนเกียซะอีก
หรือถ้านับไปก่อนหน้านั้นอีก Apple จด patent สำหรับโทรศัพท์ก่อน Jobs จะโดนไล่ออกซะอีก แต่ผมว่าดีแล้วล่ะที่มันไม่มีโอกาสได้วางขายจริง ๆ
เรื่องใครเกิดก่อน แรงกอปปี้มาจากไหน เถียงไปก็ไม่ได้อะไรครับ คนเค้าอยากจะดราม่าเยอะแยะ เราไม่ม่าตามเค้าก็พอ
จริงเหรอทมี่ imobile เล่นไฟล์ mp3 ได้ก่อนโนเกีย...
ปี 46 นี่... imobile มันยังไม่เกิดนะครับ... ตอนนั้นมือถือ Nokia ของผม มันเล่น mp3 ได้ พร้อมกับตั้งให้เป็นริงโทนได้ด้วย...
imobile เพิ่งมาออกตลาดเมื่อปี 48 นะครับ
หรือว่า ปี 48 มาก่อน ปี 46 ละเนี่ย...ผมงง
Elop พูดเหมือนยกย่อง Apple เกินไปนะ
ถ้าอย่างนั้นผมก็พูดได้ว่า PalmOS เป็นตัวก่อให้เกิด iOS ก็ได้เหมือนกัน
เพราะ PalmOS ถูกใช้ใน PDA และ Touch screen phone ก่อน iPhone จะเกิดซะอีก
แถมเป็นตัวที่ทำให้เกิด windows CE และ windows mobile ตามมาอีกด้วย
palm os ก่ะ ios นี่มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ
ส่วน ios กับandoid นี่รู้กันว่าคล้ายขนาดไหน โดยเฉพาะ samsung เอาไปโมซะเกินคำว่าคล้าย
เหมือนลอกรายงาน แล้วเปลี่ยน front เปลี่ยน lay out อารมย์นั้นเลย
หะ???
ผมว่าที่เหมือนหรือคล้ายน่ะ เพราะ TouchWiz มากกว่านะ
^
^
that's just my two cents.
คิดว่าเขาหมายถึง เพราะว่า iOS ไม่สามารถตอบสนองคนทุกกลุ่มได้ Android ก็เลยสามารถสร้างกระแสขึ้นมายันตลาดได้
ตอนนี้ผมกลัวแค่ว่า ประวัติศาสตร์สมัยที่ Windows สามารถล้ม Macintosh ได้จะกลับมาอีกครั้งหรือเปล่า อิอิ
ผมคิดว่าตอนนั้น Macintosh ขายังไม่แข็งแรงเหมือน iOS ทุกวันนี้ครับ
ตลาด Mobile OS น่าจะเป็นแบบแบ่งเค้กกันระหว่าง Apple กับ Google มากกว่า ไม่น่าจะมีฝ่ายไหนล้มหายตายจากไปเหมือนสมัยก่อน
ก้มกราบ IBM
พวกเธอจงคุกเข่า!
กราบ!!!
"I am the Alpha and the Omega, the beginning and the end"
บูชา
เหยดดดดดดด
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
กำลังคิดอยู่ว่าถ้า iOS เป็นระบบเปิด ท่าทาง Android จะไม่ได้เกิดจริงๆ
สงครามหาจุดเริ่มต้นเหรอนี่
เห็นบางคนเทียบย้อนกลับไปเรื่อย ๆ แล้วก็ขำ ไม่ได้ดูความเกี่ยวเนื่องของช่วงเวลาเลยว่ามันต่อกันหรือคนละยุคหรือไม่อย่างไร ไม่ได้ดูเลยว่าส่วนแบ่งการตลาดเป็นอย่างไรในช่วงเวลานั้นขอแค่ใครคิดก่อนเป็นพอ
ผมว่าเถียงกันแบบนี้สุดท้ายก็ต้องบูชาคนที่คิดค้นไฟได้คนแรกแล้วล่ะครับ
That is the way things are.
ห้า ห้า อ่านสนุกจริง
..: เรื่อยไป