เรื่องของเรื่องก็คือ ผมต้องการลง Windows 10 Pro บน Macbook Pro ผ่านทาง Virtual software i.e. Vmware, Parallels
ทีนี้ก็อยากจะใช้ของถูกลิขสิทธ์สักที (ปกติใช้คอมบริษัททำงานไลเซ่นถูกต้อง ส่วนคอมตั้งโต๊ะส่วนตัวที่ใช้เล่นเกมเป็นของเถื่อน)
แต่เกิดข้อสงสัยระหว่าง OEM และ FPP
เข้าใจว่า FPP นี่คือที่สุด 1 license ลงได้ 1 เครื่อง ถ้าเปลี่ยนเครื่อง ก็แค่ Deactivate ตัวเก่าและลงเครื่องใหม่ได้แน่นอนส่วนราคาก็ 199$ ในไทยขายตั้งแต่ 7300 - 8500 บาท
ส่วน OEM นี่มีข้อจำกัดว่าจะผูกติดกับเครื่อง (physical) ลงแล้วลงเลย ลงกี่ครั้งก็ได้ แต่ใช้ได้กับเครื่องเดิมๆเท่านั้น ราคาถูกกว่า ขายในไทยประมาณ 5000 บาท
นอกจากนี้แต่ละแบบก็ยังมีแยกย่อยอีกเป็น DVD, USB, Download (จากการดูในเว็ปต่างประเทศ)
ผมสงสัยกรณีลง OEM บน virtual machine บน Mac เนื่องจากตัว Windows เองไม่เคยถูกลงมาก่อนที่ไหนการลงบน virtual machine ควรจะทำได้แน่ๆ ในครั้งแรก คำถามคือ
- แล้วถ้าหากผมเปลี่ยนโปรแกรมเช่นจาก Parallel > Vmware
- หรือลบตัว Virtual machine แล้วลงใหม่
- หรืออัพเกรดเวอชั่นของตัว virtual machine
จะส่งผลให้ตัว Windows 10 Pro OEM activate ไม่ได้หรือไม่ ตรงนี้ยังข้องใจว่าทาง Microsoft จะมองว่า virtual machine คนละช่วงเวลานั้นเป็นคนละเครื่องกันรึเปล่า
ใครเคยลองแล้วสำเร็จช่วยแนะนำทีนะครับ อันที่จริงถ้าจำเป็นผมก็ยอมซื้อ FPP ก็ได้ แต่ถ้ามันใช้ OEM ได้(เนื่องจากคงใช้บน Mac อย่างเดียวนี่ล่ะ) ก็จะเป็นการประหยัดขึ้นมาหน่อยนึง
อีกคำถามครับ อยากทราบว่าตัว product key ของ Windows ไม่ว่าซื้อจากแบบ DVD, USB or Download สามารถใช้เทียบเท่ากันได้ไหมครับ เช่นซื้อ USB แต่ทำหายเหลือแต่ key เลยไปโหลดตัว ISO มาแทนเป็นต้น
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
ปรกติแล้ว OEM มันเช็คจากเลข MB เครื่องนะ
ถ้างั้นกรณีที่ผมลงบน Macbook เครื่องเดิมไม่ว่าจะ virtual machine ตัวไหน ก็ถือว่าเป็นเครื่องเดิมใช่มั้ยครับ (คิดในกรณีที่ active แค่ 1 ที่เท่านั้น)
virtual machine ใช้ hwid ต่างจากเครื่อง host ครับ และจะเปลี่ยนทุกครั้งถ้ามีการสร้างใหม่ หรือเปลี่ยนโปรแกรม
แปลว่าต้องใช้ FPP อย่างเดียวครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
OEM ของ Microsoft เดี๋ยวนี้ license เปลี่ยนไปเยอะครับ (พึ่งทะเลาะกับไมโครซอฟท์ไป เรื่อง lincense Win10 หลุด) และอยากบอกว่า จากเคสซื้อ FPP เถอะครับ อย่างไม่ลังเล เพราะ ให้เปลี่ยนเครื่องได้ จะเปลี่ยนกี่เครื่องก็ได้ ลงกี่ครั้งก็ได้ครับ
VM Machine ID มันสุ่มไปเรื่อยไม่ใช่หรือครับ? เพราะมันจำลองเป็นอีกเครื่อง ถ้าสุ่มไปเรื่อยๆ ก็จบข่าวครับ ไม่ได้แน่นอน
ส่วนจะ USB หรือ ISO ก็ใช้แทนกันได้ครับ
ขอบคุณมากเลยครับ ก็คิดอยู่ว่าถึงเราจะใช้เครื่อง physical เครื่องเดียว แต่ตัว virtual อาจจะเปลี่ยนไปแล้ว OEM จะมีปัญหา ถ้าผมใช้ laptop ทั่วไปคงเลือก OEM แบบไม่ลังเล
อย่าเลือก OEM เลยครับ ราคาต่างกันน้อยมาก ความสะดวกต่างกันเรียกว่าแทบไม่คุ้ม
ตามเงื่อนไขการใช้งาน ก็ควรต้องเป็น FPP อยู่แล้วนะครับ
เพราะ OEM มันต้องติดมากับเครื่องที่จำหน่าย
Mac และ VM ไม่ได้มี Windows OEM ติดมาอยู่แล้ว
ก่อนอื่นบอกว่าในทาง technical มันไม่มี concept ที่ deactivate (slmgr /upk) แล้ว transfer activation ไปเครื่องใหม่นะครับ MS มองแค่ว่า key ถูก activate ไปแล้วกี่ครั้ง และ activate โดย h/w id เครื่องเดียวกันหรือไม่ เพราะ MS ไม่มีมีทาง track ได้ว่าเครื่องเก่ามันถูก deactivate ไปแล้วหรือไม่
ต้องแยกก่อนว่า activation กับ license มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แม้ว่าตามเอกสาร http://download.microsoft.com/download/3/D/4/3D42BDC2-6725-4B29-B75A-A5B04179958B/OS_License_Requirements_VL_Brief.pdf บอกว่าจะว่า license (หรือสิทธิ์การใช้งาน) สามารถ transfer ไปยังเครื่องใหม่ได้ ถ้าลบในเครื่องเก่าทิ้ง แต่การ activate Windows ด้วย key ของ FPP เดิม บนเครื่องใหม่ หรือ บนเครื่องเดิมที่ถูก activate มาแล้วแต่เปลี่ยน h/w บางตัวใหม่ .. อาจจะไม่ผ่านก็ได้ โดยเฉพาะถ้าทำผ่าน online ซึ่งทั้งใน 2 กรณี ทางแก้ทางอ้อมคือ activate ผ่านทาง โทรศัพท์แทน แต่ถ้าถามว่ามัน activate บนเครื่องใหม่ได้อีกกี่ครั้งหรือเครื่อง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยลอง
ซึ่งถ้าคิดว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องแน่ๆ ก็ซื้อ FPP ไปดีกว่า OEM เพราะ OEM มันยึดติดกับ h/w id ของเครื่อง
ส่วนเครื่องคำถาม
Q1:
- แล้วถ้าหากผมเปลี่ยนโปรแกรมเช่นจาก Parallel > Vmware ==> h/w id เปลี่ยน
- หรือลบตัว Virtual machine แล้วลงใหม่ ==> h/w id เปลี่ยน
- หรืออัพเกรดเวอชั่นของตัว virtual machine ==> ถ้าหมายถึง ESXi หรือตัว VMware workstation, h/w id ไม่ควรเปลี่ยน
- จะส่งผลให้ตัว Windows 10 Pro OEM activate ไม่ได้หรือไม่ ตรงนี้ยังข้องใจว่าทาง Microsoft จะมองว่า virtual machine คนละช่วงเวลานั้นเป็นคนละเครื่องกันรึเปล่า ==> เครื่องใหม่
ถ้า h/w id เปลี่ยน MS มองว่าเป็นเครื่องใหม่
Q2:
- ตัว product key ของ Windows ไม่ว่าซื้อจากแบบ DVD, USB or Download สามารถใช้เทียบเท่ากันได้ไหมครับ เช่นซื้อ USB แต่ทำหายเหลือแต่ key เลยไปโหลดตัว ISO มาแทนเป็นต้น
ใช้ได้แทนได้หมดครับ ไม่ต่างกัน แต่ให้ระวังว่า PK บางตัวมีการ lock region
แวะมาเล่าให้ฟัง งงกับ support MS มาก คือผมซื้อ key OEM มา active ไม่ได้ support remote มาก็ทำให้ไม่ได้ สรุป support active ให้โดยใช้ kmspico แล้วก็จากไป พร้อมกับคำถามของผมในใจ แล้วจะซื้อถูกลิขสิทธ์ทำไมหว่า
เป็นไปไม่ได้ครับที่ support ของ MS จะให้ใช้ KMSPico activate ให้ครับ
ผมว่า key ที่ซื้อมาไม่เป็น key แท้ที่โดน block ไป ก็ไม่ใช่ key จริงๆ ครับ
ผมนี่แหละโดน ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเขาทำแบบนั้น เพราะผมให้เขารีโมทมาทำให้เพราะตอนแรกคุยกันใน Chat ในเวป MS นี่แหละ ผมเอา key ไปเช็คว่าทำไม activate ไม่ได้ เขาก็บอกว่า Key ปกติ แล้วรีโมทมาพยายามตั้งค่าให้นานมากกว่า 10 นาที สุดท้ายโหลด KMSPico จากเวปมาทำให้ พอผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาว่าประมาณมันต่อกับ Server ไม่ได้ แล้วก็ให้ดูว่ามัน activate แล้วนะ โอเคนะแล้วจากไป
ถ้าต่อ server ไม่ได้ OEM key มัน activate ผ่านโทรศัพท์ได้นะครับ
KMSPico มันถือว่าเป็น crack โดยสร้าง KMS server ปลอมขึ้นมาในเครื่อง ซึ่งถ้า support ทำงั้นจริง ก็ควรจะโดนเล่นนะครับ