Joe Belfiore หัวหน้าทีม Windows Phone ออกมาทวีตหลัง Instagram ออกเวอร์ชัน Windows Phone ว่าในช่วงปลายปี 2014 หรืออีก 1 ปีถัดจากนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของ Windows Phone ที่ปัญหา "ขาดแคลนแอพ" จะหมดไปสักที
เขายังบอกด้วยอีกว่า "เราเป็นมือถือขั้วที่สามเรียบร้อยแล้ว" (The 3rd ecosystem is decidedly here!)
ตอนนี้มี Instagram และ Waze เรียบร้อยแล้ว แฟนๆ WP คงได้แต่หวังว่าอีก 1 ปีหลังจากนี้ ไมโครซอฟท์จะเจรจากับกูเกิลเรื่องแอพบน WP ได้สำเร็จสักทีครับ
ที่มา - Pocketnow
We're all gonna look back on the end of 2014 as the ending of the app-gap for Windows Phone. The 3rd ecosystem is decidedly here!
— joebelfiore (@joebelfiore) November 20, 2013
Comments
ยิ่งใหญ่ มันมีพลังจริงๆ!!!
ถ้าถึงประมาณ 10% แล้วก็จริงครับ ตามนั้น เป็นขั้วที่ 3 อย่างเป็นทางการ OS อื่นที่จะมาเป็นขั้วที่ 4 ต้องทำการบ้านหนักกว่า ms อีกเท่าตัวครับ มันยากแล้วครับ
ตอนนี้ขาดแคลนแอป Facebook ที่สามารถคุยแบบกลุ่มได้ และมีการเตือนแบบทันทีครับ
ตัวข้อความของ Windows Phone เองใช้คุยได้ดีมาก เตือนตรงเวลา แต่ดันคุยเป็นกลุ่มไม่ได้
ก็ดีครับ แข่งกันเยอะๆ
I need healing.
นี่ขนาดไมโครซอฟท์ กว่าจะประกาศว่าเป็นอันดับสามยังต้องทุ่มเงินทองและใช้เวลากันขนาดนี้
แล้วกว่า Tizen, Firefox OS หรือตัวอื่นๆ จะเป็นที่สี่ได้ ต้องไม่ธรรมดาเลย
จะช็อคมากถ้าออกเวอร์ชั่น 64 บิท แล้วรวมสโตร์สำเร็จ ใช้แอพรวมกัน จริงๆตอนนี้แอพก็เยอะแล้วนะ แต่คุณภาพบางตัวยังดีไม่เท่าสองขั้วแรก
บางครั้งปัญหาอาจจะอยู่ที่ยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดก็ได้ครับ เพราะ MS มัวแต่ไปมุ่งตลาดบนจนเกินไป ซึ่งมันเป็นการยากที่จะเจาะตลาดนั้นและจำนวนผู้ใช้ตลาดนั้นก็น้อยกว่าตลาดล่าง
บางที Tizen อาจจะแซงหน้า Windows Phone ก็ได้ครับ เพราะถ้าระดับล่างติดตลาดได้ ขั้วใหม่จะเกิดทันที
Windows Phone ที่ขายดีที่สุดคือตลาดล่างนะครับ โปรโมทไม่น้อยเหมือนกัน แต่มันไม่มีอะไรให้คุยมากอยู่แล้ว
หวังว่าแอพที่มีอยู่บน Winphone เช่น Line facebook ที่ยังมีฟีเจอร์ไม่ครบ จะได้รับการแก้ไขให้เท่าเทียม platform อื่นด้วยนะครับ
เป็นนักพัฒนา Windows Phone's Apps ต้องจ่ายตังหรือ่ปาวครับ?
อย่างน้อยก็ต้องจ่ายค่า Windows 8 + Visual Studio ละมั้ง
จ่ายแค่ Windows 8Pro กับสมัครสมาชิก Appdev center 19เหร๊ยญุ 600กว่าบาท
ทำแอพขายได้ทั้ง Windows 8 และ Winphone 8
ค่า license Visual Studio ไม่ต้องใช้ต้ว express ฟรีครับ
ต่อปี นะครับ
(เทียบกับ PlayStore ที่จ่ายครั้งเดียวตลอดชีพ แถมถ้าไม่อยากจ่ายก็ยังเขียน+แจก APK ได้เอง)
ขอบคุณมากครับ พอดีเมื่อวานหมดโควต้าคอมเมนท์เลยไม่ได้เข้ามาแก้ข้อความตัวเอง แต่ก็ขอบคุณมากครับที่ช่วยเมนท์ต่อให้
จ่ายรายปีครับ ส่วนเรื่อง Windows นั้นต้องจ่ายอยู่แล้วครับ(ถ้าไม่เถื่อน) 7หรือ8ก็ได้ DevTools ใช้ VS Express ก็ได้ครับ ฟรี
ขอให้จริงครับ ลูกค้าจะมีทางเลือกมากขึ้นไม่ใช่มีแค่ios กับ android เท่านั้น
เอ๊ะ หรือว่าปีหน้าการหลอมรวมระบบปฏิบัติการจะสำเร็จ และแอพต่างๆ ก็พร้อมพอดี
กลายเป็นระบบปฎิบัติการณ์อันดับหนึ่ง...ของ PC ไป
Line ตัวเต็ม, youtube ถ้า 2 ตัวนี้มาเต็ม ๆ เมื่อไหร่จะเริ่มกลับไปดูนะ
Youtube นี่ตราบใดที่กูเกิ้ลยังเกลียดMSเข้าไส้แบบนี้ อย่าคุยกันเลยครับ
ระหว่างนั้น MS ก็สะกิดด้วย Scroogledต่อไป (ช่วยได้มากเลยจริงๆ :-( )
+1 ใช้สองตัวนี้ประจำ รอมันสมบูรณ์ค่อยว่ากันใหม่เหมือนกันครับ
มีเท่า OS อื่น
แต่ความสามารถในตัวแอป ไม่ได้ครึ่งของ OS อื่นๆ
อย่างน้อยๆคุณภาพ OS ก็ดีกว่า Android นะคับ
and by quality, you mean?
There are many types of quality.Just because it's better at one or two qualities doesn't mean that it has better 'overall' quality.
As 'this point' of time, the only one WP seems to be winning is stability and it just wins by a 'very' little bit. In term of reliability, functionality, flexibility and other qualities overall, Android as of now does it better.
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ดีกว่ายังไงครับ ระบุมาเป็นข้อๆ เลยครับ ผมพร้อมจะรับฟัง
เช่น
คับ จริงๆอาจจะมีอีก แต่นึกไม่ออกคับ แต่ถึงผมอธิบายไป สาวกแอนด๋อยก็คงไม่เข้าใจหรอก (เพราะผมพิมพ์ไปไม่รู้กี่ทีละ) หรือเพราะผมต้องการความเนี๊ยบจนเกินไปก็ไม่รู้ แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็ให้คุณภาพของ iOS สูงกว่าแอนด๋อยนะ เพราะเพื่อนผมทุกคนหนีจากแอนด๋อยไปหาไอโพนเกือบหมดละ ซึ่ง คุณภาพของ Windows Phone มันอยู่กึ่งกลางระหว่าง iOS กับแอนด๋อย สรุปก็คือ สูงกว่าแอนด๋อย แต่ (น่าจะ) ยังต่ำกว่า iOS
ผมไม่ใช่สาวกแอนดรอยนะครับ ถึงจะเป็นสาวก Google ก็เถอะ
สรุปคือ iOS6 vs Windows Phone 8 vs Android 4.2 ใช่ไหมครับ -_-
App windows Phone คุณภาพยังไม่เท่า android ครับ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
หมายถึงตัว OS เองใช่ไหมครับ
ข้อดีของ WP อย่างที่ว่าผมเชื่อนะ (ไม่ใช่สาวกด๋อยนะ 555) แต่ที่ผมเลือกด๋อยเพราะมันปรับแต่งได้ตามใจ อิสระ ชอบรูปแบบด๋อยที่มันคล้ายๆ Windows desktop
ส่วนข้อดีของ WP ก็เป็นข้อดีของ iOS ไปด้วย ซึ่ง iOS ก็ทำได้ดีกว่า เหนือกว่า งั้นใช้ iPhone ดีกว่าไหม
เรื่อง Performance ยอมรับว่าแอนดรอยเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้สู้ iOS และ WP ไม่ได้ แต่ Google เข้าใจจุดนี้เลยพยายามแก้ไขมาตลอด เช่นการทำ Project Butter รวมถึง KitKat ที่พยายามปรับ requirement ลงทำให้เครื่องสเปกไม่แรงก็ลื่นได้ (แต่ผมขำที่ iOS ดันทำตรงข้าม ยิ่งใหม่ยิ่งช้า แต่อาจจะต้องให้เวลาหน่อยเพราะเพิ่งเปลี่ยน OS ใหม่ยกเครื่อง)
Web Browser กับ Internationalization ผมไม่เห็นความแตกต่างนะ ทุก OS ทำได้ดีหมด เพราะ Web Browser มันเป็นอะไรที่ยากถ้าจะสามารถทำออกมารองรับทุก Web บนโลก หรือแม้แต่ เรื่องภาษาไทยที่ตอนแรก WP เองก็ไม่ยอมทำ แต่ก็ได้อานิสงค์จาก Nokia ซึ่งเชียวชาญตลาดนอก US
ผมก็ใช้ WP อยู่ อยากลองของใหม่และตั้งใจว่าจะเปลี่ยนจากแอนดรอยแต่สุดท้ายไม่ไหว ต้องกลับไปใช้สองเครื่องเลยตอนนี้ แต่ก็ยังชอบความลื่นไหลของ WP และชอบ features ของแอนดรอย และชอบแอปของ iOS ตอนนี้เลยเป็นไอ้บ้าพก 3 เครื่อง 555+ ที่ผมอยากจะบอกคือแต่ละ OS ก็มีข้อดีของมัน ใช้อันที่เราพอใจก็พอครับ ^^"
Web Browser ของแอนด๋อยกับ iOS จะมีปัญหากับ Content ที่มันแปะแบบ Fix ตำแหน่งหน้าจอคับ เช่น แถบสีน้ำเงินด้านล่างในหน้าดูกระทู้ของเว็บพันทิพ ถ้าเป็นแอนด๋อยหรือ iOS เวลาซูม มันจะเหมือนกับมันเปลี่ยนขนาดหน้าจอ ทำให้แถบนั้นมันแปะอยู่ล่างจอตลอดเวลา แล้วเราก็จะสกรอแถบนั้นไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็น Windows Phone เวลาซูมมันจะเหมือนซูมด้วย Viewport (น่าจะ) ไม่เปลี่ยนขนาดหน้าจอ ทำให้สามารถสกรอแถบนั้นได้
อาจจะดูเหมือนมันไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเจอเว็บที่มัน Fix ตำแหน่งของ Content นั้น อย่าง Popup ที่เขียนด้วย JavaScript (แนวๆหน้าต่างของ Facebook) จะเจอปัญหาทันที ผมเจอมาหลายทีละในแอนด๋อย
ส่วน Internationalization แอนด๋อยฟอนต์ไทยไม่มีตัวหนาและตัวเอียงคับ แถมไม่สามารถตัดคำไทยได้ แถมยังมีปัญหากับตัวอักษรแบบ Non-spacing อีก (เช่น สระของไทยที่ต้องมีตัวอักษรอื่นคู่) แต่ปัญหานี้เหมือนตัว 4.1.3 จะไม่มีปัญหาแล้ว ไม่รู้ว่า Samsung เป็นคนแก้เองหรือถูกแก้มาจากแอนด๋อย (ผมใช้ Galaxy S II)
คุณต้องลืมภาพ Android 2.x ทิ้งแล้วกลับมาดู 4.x นะครับ มันไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย แต่เรื่อง App ต้องยกให้ iOS ครับคุณภาพดีกว่าจริงๆ
ผมใช้ Galaxy S II 4.1.3 คับ
เวลาเทียบฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ เทียบกับเวอร์ชันเก่ากว่าปัจจุบัน 3 เวอร์ชัน?
ผมเคยใช้แค่นั้นผมก็เทียบแค่นั้นคับ แล้วอีกอย่าง เขาบอก 4.x นั่นหมายความว่าผมสามารถเทียบด้วย 4.1 ได้
คอมเมนต์นี้ไม่ระบุเวอร์ชัน?
ผมชอบการเปรียบเทียบใน Spec ที่เท่ากันนะ
ถ้าเครื่อง Android แรงกว่ามากๆ
อย่าเอามาเทียบกันเลย
แต่มันจะนานไปหรือเปล่า ? ปีนึงแน่ะ
ปัญหาตอนนี้คือ App ที่ซื้อไปแล้ว หลังจาก Hard Reset แล้ว จะติดตั้งใหม่ต้องซื้ออีกรอบ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ไม่ต้องซื้อนะครับ ลงได้เลย เครื่องเดียวกันหรือข้ามเครื่องผมก็ลงมาแล้ว ไม่เสียเงิน
ผมซื้อ rowi ไว้จ่ายเงินด้วย Dtac วันนี้ผมเปิด Market place เข้าไปจะ download กลายเป็น buy
ผมลองกดเข้าไปดูเผื่อว่ามีอะไรผิดกลายเป็นว่าต้องซื้อ แต่ผมไม่ซื้อ ผมก็เลยกด back
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ปกติมันจะขึ้นว่า buy แต่ถ้ากดไปหน้า confirm มันจะกลายเป็นแจ้งว่าเคยซื้อแล้วนะครับ
ลองไปเช็คใน https://www.windowsphone.com/en-us/my/purchase-history ดูก็ได้ครับว่าประวัติยังอยู่รึเปล่า search ชื่อแอปตามปกติก็ได้ ในหน้าเว็บจะเขียนไว้เลยว่า Already purchased แล้วมีปุ่ม reinstall ให้กด
ถ้าไม่อย่างนั้นผมว่ามีปัญหากับทาง DTAC แล้วล่ะครับ เห็นตอนนี้คนที่ใช้แจ้งว่าระบบจ่ายเงินด้วย DTAC หายทั้งเติมเงินทั้งรายเดือน แถม DTAC pick หรืออะไรสักอย่างก็หายไปแล้ว อาจจะมีปัญหามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วเลยต้องระงับก่อน
Buy ก็จริงครับ แต่กดแล้วมันบอกว่าซื้อแล้วแน่นอนครับ ตอนแรกผมก็มึนเหมือนกัน แต่กดแล้วก็ไม่ต้องจ่ายเงินอะไรเพิ่ม
คงต้องลุ้นกันอีกรอบซินะครับ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ไม่ต้องลุ้นครับ มันมี history เก็บไว้ครับ
ผมลองมาหลายแอพละ
ไม่ต้องลุ้นครับ กดแล้วมันจะขึ้นว่า You have already purchased this app... บลาๆๆ แต่ถ้ายังไม่เคยซื้อก็เข้าสู้ขั้นตอนการจ่ายเงินครับ
ถ้าเคยซื้อแอพนั้นแล้ว มันจะมีประวัติการซื้ออยู่นะครับ สามารถกดที่ซื้อและติดตั้งใหม่ได้เลย
ถ้ากลัวกดพลาดซื้อแอพไป ก็ตั้งรหัส Pin ในกระเป่าสตางค์ครับ
เพราะเราจะสามารถรันแอพ Android ได้ (แว๊กกกก)
เพราะจะไม่มี Windows Phone อีกต่อไป แว๊ก(กว่า)
อ่ะ... เห็นเคยเปรยๆ กันว่าอีกหน่อยจะไม่ทำแบรนด์ nokia แต่จะออกแบรนด์ของตัวเอง (ก่อนหมดสัญญาใช้ชื่อ nokia มั้ง) ทำไม Windows Phone จะรีแบรนด์ไม่ได้นะ
งั้นปี 2015 ค่อยว่ากันอีกที
อยากให้เปิดโฟลเดอร์ที่เข้าถึงได้สำหรับแอพเพิ่ม เช่น Podcasts หรือ Books ในตัวเครื่อง/sd card
ตอนนี้มันจำกัดจำเขี่ยเอามากๆเลยครับ แอพต่อให้มีก็ฟังก์ชันไม่ครบ
+1 ผมเข้าใจนะว่า sandbox มันปลอดภัย แต่น่าจะมีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้สักที่นึง ไว้โอนไฟล์ข้ามกันได้บ้าง
คอยดูกันต่อไป M$180 (แบบนี้ผิดกติกาป่าว?)
อยากรู้จังว่าหัวหน้าแผนกคนนี้วางแผน WP ไปยังไง เพราะฟีเจอร์ที่คนต้องการก็ไม่เคยเอาลงสักที มัวแต่ไปสาละวนกับอะไรอยู่ก็ไม่รู้
MS นี่แปลกมากๆ คือเป็นบริษัทซอฟท์แวร์แท้ๆ แต่ทำอัพเดททีช้ามาก ปล่อยให้บริษัทที่เด่นด้าน search อัพเอาๆ
ปกติถ้าเป็นตัว Windows ผมจะมองว่ามันคงติดพวก backward compatibility สารพัดที่ต้องเอาใจตลาดองค์กร แต่ WP นี่มันไม่ใช่แบบนั้น ทำไมไม่รีบๆ ทำก็ไม่รู้
ผมคิดว่า ปัญหาน่าจะเกิดจาก อยากให้ Windows เป็น Standard เดียวกันทั้งหมด ทั้ง PC,Xbox,WP,Tablet เลยทำให้กว่าจะตัดสินใจทำอะไรที ก็คงต้องคุยกันหลายฝ่ายว่ากระทบกันหรือเปล่า อย่าง Notification Center นี่ผมว่าคงคุยกันจนมึนแน่ๆว่าจะทำยังดี ต่างจาก Android หรือ IOS อิสระในการออกแบบเลยทำให้สามารถ update ได้อย่างเร็วมากกว่า
ผมไม่ชอบ UI Windows Phone เลย โดยเฉพาะ
- Windows Phone ไม่มี Wallpaper (มีแค่ Lock Screen) ทำให้เครื่องมันดูจืดชืดไปเลย ซึ่งต่างกับ Windows ที่ใช้บน Desktop หรือ Windows 8.x ที่อย่างน้อยๆ มันก็เปลี่ยน Graphic พื้นหลังตามสีหรือใส่พื้นหลังก็ได้
- Windows Phone ไม่มีระบบปักหมุด ใน iOS, Android มันยังมีแถบที่มันจะไม่เคลื่อนไปไหน เวลาที่ปัดหน้าจอ (อย่างน้อยๆ ก็ 4 ไอคอนล่ะ) ซึ่ง Windows Phone ไม่มี ทำให้เวลาที่อยากจะกดโทรศัพท์, ดู Message, ดูรายชื่อ, เข้าอินเทอร์เน็ต ต้องปัดขึ้นไปข้างบนเพื่อไปกดไอคอนเท่านั้น ซึ่งถ้าแอพฯ มีลงไว้เยอะ ก็จะทำให้มันยาวววววว จนทำให้ลำบากเวลาที่จะเลื่อนไปบนสุด ทีใน Desktop ยังมี Super Bar ให้ปักหมุดไอคอน ทำไม Tile ถึงไม่ทำ (รวมถึง Windows 8.x ด้วย) ทำให้การใช้งานมันดูติดๆ ขัดๆ (ซึ่งการใช้งาน Quick Launch หรือ Super Bar ที่ปักหมุดไอคอน ทำให้ผมชินกับการเรียกใช้งานแอพฯ, โปรแกรมแบบเร็วนี้ไปแล้ว)
- อีกข้อ ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ผมมักจะหาพวกแอพฯ Monitor Status มาติดตั้ง ไม่ว่าจะ PC หรือ Mobile บน PC ในโหมด Desktop มันจะมี System Tray อยู่ ซึ่งมันก็สามารถใช้ทั้งเรียกโปรแกรม, ดูสถานะการทำงานของโปรแกรมหรือเครื่องได้ ซึ่งตรงนี้ทั้ง iOS, Windows Phone, Start Screen มันไม่ได้มีแถบสถานะที่เอาไว้โชว์สถานะแอพฯ, โปรแกรมบอก แต่ Android มี ซึ่งตรงนี้มันตรงกับ Life Style ของผมเอง ทำให้ตัวเลือกอย่าง iOS, Windows Phone ตกไปในเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการใช้เครื่อง และแน่นอนว่า Android ไม่ทำให้ Status Bar สูญเสียพื้นที่ไปเปล่าๆ ก็ทำให้มันรองรับการแจ้งเตือน พร้มโชว์สถานะไอคอนเอาไว้ที่ Status Bar ด้วย ทำให้สามารถนำ Status Bar ไปใช้สอยได้ด้วย บางคนอาจจะบอกว่ามันดูรก Status Bar ชอบโล่งๆ ก็อยู่ที่ Life Style ของแต่ละคนแล้วล่ะครับ
ถ้าจะโทรศัพท์นะครับ ผมจะกด Start Button
เรื่องปักหมุด wp มีนะครับ สามารถเอา contract ของคนที่เราคุยด้วยบ่อยๆ หรือกลุ่มเพื่อน
มาปักไว้ที่หน้า start ได้ ปักกี่คนก็ได้ครับ นอกจาก contract แล้ว
แอพอื่นที่ลองรับ secondary tile ก็ปักได้หมด เช่น here map ผมปักหมุด
ของจุดหมายปลายทางที่จะเดินทาง หลายๆที่ไว้ ตอนขับรถไปเที่ยว ไม่ต้องเปิดจากแอพแล้วนั่งหาจุดหมายปลายทาง แต่เปิดไปยังหน้าจุดหมายไปทางตรงๆได้เลย จากหมุดที่เราปักไว้
ใช้เสร็จก็ unpin เอา ได้เนื้อที่กลับมาเหมือนเดิมไม่ลกหน้าจอ นับว่าสะดวกมากเลยทีเดียว
แอพอื่นอย่าง office ก็ปักได้ผมเอาใฟล์ note ที่อ่านบ่อย เอามาปักไว้ข้างหน้าเลย
แล้วมีอีกหลายๆ แอพที่ทำลักษณะอย่างนี้ได้
แต่สิ่งที่ wp ทำไม่ได้คือปักหมุดค้างเอาไว้ 4slot ไม่ว่าจะเลื่อนไปไหนมันจะค้างไว้ตำแหน่งเดิม
ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะสามารถ manage ได้ ถ้าคุณอยากได้ 4slotของแอพที่ใช้บ่อยๆ ไว้คงที่ในตำแหน่งเดิม ก็ปักเอาไว้ส่วนบนของหน้า start เวลาเลื่อนไปไกลๆ หรืออยู่แอพเอื่น ก็กดปุ่ม windows มันจะกลับไปยังตำแหน่งบนสุดของหน้า start ผลลัพธ์ที่ได้ผมคิดว่าคงไม่แตกต่างมากนักกับการปักหมุดแบบ slot นะครับ เพราะไม่ต้องใช้ความพยามมากในการกลับไปยังกลุ่มแอพที่ใช้บ่อย และสามารถเข้าถึงได้ง่าย
เสริมเรื่องปักหมุดครับ
ผมเข้าใจว่าการดีไซน์ของ Windows Phone นั้น ต้องการให้หน้าแรก เป็นทั้ง Quick Launch และ Notification Panel ดังนั้นหากคุณต้องการใช้โปรแกรมอะไรบ่อยๆ ก็ต้องปักไว้หน้าแรก ซึ่งสามารถปักได้เยอะกว่าอีก 2 OS นั้นอีกครับ
การเลื่อนไปหน้าอื่นแล้วแอพบน Quick Launch ไม่ตามมา ไม่ใช่ปัญหากของ Windows Phone เพราะระบบนี้มันมีแค่ 2 หน้า คือ Start และ App เท่านั้น ถ้าคุณกำลังเลือกดูแอพอยู่แล้วเกิดอยากโทรศัพท์ ก็ แค่ปัดกลับไปด้านขวา แล้วกด tile โทรศัพท์ แค่นั้นเองครับ เมื่อใช้งานเสร็จก็เลื่อนกลับมาหน้าแอพอย่างเดิมได้
การผสมผสาน Quick Launch และ Notification Panel ลงในหน้าเดียวกัน ตามการออกแบบน่าจะเป็นประโยชน์มาก เพราะผู้ใช้แค่เลื่อนขึ้นลงอย่างรวดเร็วก็เห็นภาพรวมทั้งหมด แต่ในความเป็นจริง หน้า start กลับทำหน้าที่เป็น Quick Launch ซะส่วนใหญ่ อันเนื่องมาจากแอพไม่รองรับ tile notification ส่วนที่รองวรับก็ยังไม่ดีพอเพราะระบบมันอัพเดทช้า
ปล. การกลับหน้าหลักด้วยการกดปุ่ม Start จะทำลิสต์ของแอพเลื่อนกลับไปอยู่บนสุดเสมอ เพราะปุ่ม Start หมายถึงกลับไปเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ถ้าใช้ปุ่ม Back ลิสต์ของแอพจะอยู่ที่ตำแหน่งล่าสุด
เพราะ 1 ปีข้างหน้า ไม่มี Windows Phone อีกแล้ว
อืม...
งั้นอีก 1 ปีค่อยเหลียวมามองนะ
รุกหนักเขา หรือจะโดนเขารุกฆาต ? 1 ปีรอดูกันครับ
ส่วนตัวผมโอเคกับทุกอย่าง ยกเว้นแอพจำพวก Instant message ทั้งหมด ที่ทำได้ดีที่สุดคือ Whatsapp แต่คนอื่นเค้าก็ไม่ค่อยใช้กัน -_-
ข้างบนตกข่าวหลายคนเลยนะ เห็นเถียงกันแล้วขำ
Windows Phone ไม่กินแบต 3G แบบอีกสอง OS เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้ผมยังไม่ขายเครื่องทิ้ง
แม้พอดูโปรแกรทที่ให้โหลดเมื่อเทียบกับอีกสองเจ้า จะผิดหวังมาก ขอให้ทำออกมาเร็วๆนะครับ ยังหวังอยู่แม้จะน้อยนิดก็เถอะ
รอดู 1520 ว่าอัดแบตแข่งกับเค้าแล้วจะสู้ได้รึเปล่า ผมรู้สึกว่าพอมันจะกินแบตขึ้นมามันก็สูบเอาเรื่องนะครับ ยังสงสัยอยู่ว่าจำกัด background task ขนาดนี้แล้วยังมีปัญหาได้อีกเหรอ
Windows Phone ผมรำคาญที่มันไม่เตือนอัปเดทเฟสบุคจนกว่าเราจะกดเปิดเครื่องจากสลีปโหมดมันถึงเดือน แล้วก็เวลาอัปหลายรูปลงเฟสมันดันไม่รวมกันอีกแยกกันเป็นภาพๆ น่ารำคาญ ต่างกับแอนดรอยด์ตรงนี้แหละ แต่ส่วนที่ชอบก็คือโปรแกรมนำทางที่มีให้โหลดฟรี ดีมากเลย
อัพรูปลงเฟสทีละหลายภาพก็ได้นิครับ อัพเสร็จมันก็รวมกันนิครับ ??
หรือถ้าอัพเแบบเลือกโฟลเดอร์ก็ใช้แอพ JDB Facebook
เรื่องเฟสผมใช้แอพ JDB Facebook นะ แจ้งเตือนดีกว่าของไมโครซอฟท์ แต่แจ้งช้านิดหนึ่ง