เป็นคำตอบที่ตรงประเด็นดีครับ 5555555

ตรงมากครับ 555+

55555555 อ่านข่าวก็ฮาแล้ว เจออันนี้ฮากว่า

ขอบคุณครับ

5555555555+ ฮาแต่เช้า หายง่วงเลยผม

5555555

55555+ นายหล่อมาก

ขายตั๋ว?

อ๋อ ขอเงินไปเล่นพนันนี่เอง

อ่านแล้ว สำลักเม็ดแตงโมเลย -3-

+5555

ตรงเกิ๊นนนนน ฮาๆ

แต่แอพนี้เค้าเลือกเฉพาะรายชื่อเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้ามมาให้เลือกไม่ใช่หรอคับ?

+1

เป็นความคิดเห็นที่อ่านแล้วอยากเอามือก่ายหน้า หาความเชื่อมโยงของเหตุผลไม่เจอ

ที่โยงเรื่องศาสนาคริสต์ เพราะแถบนั้นใช้ศาสนานี้เป็นมาตราฐาน และในเรื่องการมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งงานในสังคมแถบนั้น โดยแท้จริงแล้ว(ไม่เอาคนส่วนน้อยมาอ้างอิง) คนส่วนใหญ่ยังเห็นว่าการแต่งงานเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและยังหมายถึงการให้เกียติกัน เป็นการแสดงออก ประกาศความสัมพันธ์สู่สังคมภายนอก มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่แบบสังคม การที่เราประกาศความสัมพันธ์ต่อสังคมคือการยืนยันในความสัมพันธ์นั้น เป็นหลักประกันให้ทั้งสองฝ่าย เป็นการประกาศต่อสังคมว่าบุคคลที่เลือกคือบุคคลที่เหมาะสม เป็นการให้เกียติต่อคู่ครองโดยการแสดงออกต่อสังคม เป็นการแสดงออกถึงการยอมรับในตัวคู่ครองอย่างแท้จริง

การที่คู่ครองจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง(เพศ)ย่อมไม่มีการใช้ผ่าน Apps นี้แน่นอน ซึ่งเข้าใจความหมายดีอยู่แล้วว่า Apps นี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาสำหรับคนที่เป็นคู่ครองกัน

สำหรับ Apple นั้น แม้ในสื่อที่เป็น Erotic เป็นสื่อที่น่ารังเกียจ สำหรับศาสนานั้น ศาสนาในแถบนั้นก็ต่อต้าน Erotic

และการป้องกัน(ถุงยาง) ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง พื้นฐานความเป็นมนุษย์ไม่ได้มีความต้องการที่จะมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง(เพศ)โดยปราศจากความสัมพันธ์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ความสัมพันธ์เพื่อเพศอย่างเดียวแบบนี้จะนำไปสู่รากขมขืน การไร้คุณค่าในตนเอง ความว่างเปล่า ความเจ็บปวด ความทรงจำที่เจ็บปวด การแสวงหาที่ไร้ความหวัง การแสวงหาที่ไม่รู้ความต้องการตนเอง การแสวงหาที่ไร้ความหมาย และยังหมายถึงการทำร้ายจิตใจของตนเองในเบื้องลึกอีกด้วย เป็นการไม่ให้เกียติต่อร่างกายตนเอง

การการะทำนี้ถือเป็นการผิดบัญญัติ 10 ประการ

จงนมัสการ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระองค์เดียวของท่าน
อย่าออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ
อย่าลืมฉลองวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
จงนับถือบิดามารดา
อย่าฆ่าคน
อย่าผิดประเวณี
อย่าลักขโมย
อย่าพูดเท็จใส่ร้ายผู้อื่น
อย่าปลงใจผิดประเวณี
อย่ามักได้ทรัพย์สินของผู้อื่น

มธ 22:36-40
พระบัญญัติหลัก(ที่มาของบัญญัติ 10 ประการ)
รักพระเจ้า ด้วยสุดจิต สุดใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญา
รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง

มธ 7:12
กฏทอง (ขยายความหมาย รักผู้อื่นเหมือนรักตนเองในทางปฏิบัติ)
จงปฏิบัติต่อผู้อื่น อย่างที่ท่านปรารถนาให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน

รม 13:8-10
8อย่าเป็นหนี้ผู้ใด นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน ผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้วb 9พระบัญญัติกล่าวว่า อย่าผิดประเวณี อย่าฆ่าคน อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าโลภ และถ้ามีบทบัญญัติอื่นอีกก็สรุปได้ในข้อความนี้ว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง 10ความรักไม่ทำความเสียหายแก่เพื่อนมนุษย์ ความรักเป็นการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน

1คร13:4-7
4ความรักย่อมอดทนc มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง 5ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ 6ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง 7ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง

กท 6:7-9
7อย่าหลอกลวงตนเอง จะล้อพระเจ้าเล่นไม่ได้ ใครหว่านสิ่งใดก็ย่อมเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น 8ผู้ที่หว่านสิ่งใดตามธรรมชาติของตน ก็จะเก็บเกี่ยวความเสื่อมสลายจากธรรมชาติ ผู้ที่หว่านความดีในพระจิตเจ้า ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดรจากพระจิตเจ้า 9อย่าท้อแท้ในการทำความดี เพราะถ้าเราไม่หยุดทำความดี เราก็จะได้เก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลา

ฟป 4:8-9
8ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย สิ่งใดจริง สิ่งใดประเสริฐ สิ่งใดชอบธรรม สิ่งใดบริสุทธิ์ สิ่งใดน่ารัก สิ่งใดควรยกย่อง ถ้ามีสิ่งใดเป็นคุณธรรม ถ้ามีสิ่งใดน่าสรรเสริญd 9ท่านจงพิจารณาสิ่งเหล่านี้ด้วยการใคร่ครวญเถิด สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านได้เรียนรู้ ได้รับ ได้ฟังและได้เห็นในตัวข้าพเจ้านั้น จงนำไปปฏิบัติเถิด แล้วพระเจ้าแห่งสันติจะสถิตอยู่กับท่าน

เรื่องของ Moral เป็นความต้องการทางจิตวิญญาณ เหตุผลทางสังคมศาสตร์ ซึ่งอ้างอิงโดยใช้ความเข้าใจจากสัมผัสทั้ง 5 หรือ โลกทางวิทยาศาสตร์ ไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของมนุษย์ การป้องกันโดยการใช้ถุงยางไม่ใช่ทางออกที่ดี

และคริสต์ทั้ง 3 นิกาย ก็ยืนยันคำสอนแบบนี้มาโดยตลอด

แต่อาจจะเห็นสังคมแถบนั้นทำผิดต่อพระบัญญัติพระเจ้า เพราะ
รม 3:19-28
19เราตระหนักดีว่า ทุกสิ่งที่เขียนไว้ในธรรมบัญญัติf เขียนไว้สำหรับผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อทุกคนจะได้สงบปากคำและโลกทั้งโลกจะถูกนำมาให้พระเจ้าทรงพิพากษา 20เมื่อนั้น ไม่มีผู้ใดเป็นผู้ชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าได้โดยการปฎิบัติตามธรรมบัญญัติg สิ่งเดียวที่ธรรมบัญญัติทำได้ก็คือ บอกเราว่าอะไรเป็นบาป 21แต่บัดนี้ ความเที่ยงธรรมที่พระเจ้าทรงช่วยให้รอดพ้นตามที่หนังสือ ธรรมบัญญัติและประกาศกเป็นพยานถึงนั้น ปรากฏให้เห็นแล้วนอกเหนือธรรมบัญญัติ22ความเที่ยงธรรมที่พระเจ้าทรงช่วยให้รอดพ้นซึ่งพระองค์ประทานให้ทุกคนที่มีความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า 23ไม่มีความแตกต่างใด ๆ อีก ทุกคนกระทำบาปและขาดพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าh 24แล้วทุกคนก็ได้รับความชอบธรรมเป็นของประทานโดยทางพระหรรษทานiอาศัยการไถ่กู้เราให้เป็นอิสระjในพระคริสตเยซู 25พระเจ้าทรงสถาปนาพระเยซูเจ้าเป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปโดยอาศัยความเชื่อkและโดยอาศัยการหลั่งโลหิต เพื่อจะได้สำแดงความเที่ยงธรรมของพระองค์ โดยอดกลั้นไม่ลงโทษบาปในอดีตl 26ในเวลาแห่งความพากเพียรของพระองค์ พระองค์ทรงสำแดงความเที่ยงธรรมในปัจจุบันmเพื่อทรงเป็นผู้ที่เที่ยงธรรมn และเพื่อทรงบันดาลให้ผู้มีความเชื่อใน พระเยซูเจ้ากลับเป็นผู้ชอบธรรม 27ดังนั้น คำโอ้อวดของเราอยู่ที่ไหนเล่าo ไม่มีที่สำหรับจะโอ้อวดอะไรอีกแล้ว ด้วยกฎเกณฑ์อะไรหรือ ด้วยกฎเกณฑ์ของการกระทำหรือ ไม่ใช่ ด้วยกฎเกณฑ์ของความเชื่อp 28เนื่องจากเราถือว่ามนุษย์ได้รับความชอบธรรมโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยปฏิบัติตามสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้

การที่เขาทำผิดไม่ใช่เพราะเห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ผิด แต่เพราะ ความอ่อนแอของมนุษย์ครับ
แต่ก็มีความหวังอยู่ด้วยว่า

รม 8:1-11
1ดังนั้น ไม่มีการตัดสินลงโทษผู้ที่อยู่ในพระคริสตเยซูอีกต่อไป 2กฎของพระจิตเจ้าซึ่งประทานชีวิตในพระคริสตเยซูนั้นช่วยท่านaให้พ้นจากกฎของบาปและกฎของความตายb 3เนื่องจากสิ่งที่ธรรมบัญญัติทำไม่ได้เพราะธรรมชาติมนุษย์cเป็นเหตุให้อ่อนกำลังไปนั้น พระเจ้าทรงกระทำแล้วโดยทรงส่งพระบุตรของพระองค์มา ให้มีธรรมชาติเหมือนกับธรรมชาติมนุษย์ที่มีบาป เพื่อขจัดบาป พระเจ้าdทรงตัดสินลงโทษบาปในธรรมชาติมนุษย์ 4เพื่อให้ข้อเรียกร้องeอันชอบธรรมของธรรมบัญญัติสำเร็จไปในตัวเรา ซึ่งดำเนินชีวิตที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติที่บกพร่องอีกแล้ว แต่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า 5ผู้ที่ยังดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ ย่อมสนใจสิ่งที่เป็นของธรรมชาติ ส่วนผู้ที่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า ก็สนใจสิ่งที่เป็นของพระจิตเจ้า 6ความต้องการตามธรรมชาติมนุษย์นำไปสู่ความตาย แต่ความปรารถนาของพระจิตเจ้านำไปสู่ชีวิตและสันติ 7ความต้องการตามธรรมชาติมนุษย์นำไปสู่เป็นศัตรูกับพระเจ้า เพราะไม่ยอมเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระองค์ และไม่อาจอ่อนน้อมยอมรับด้วย 8ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติไม่อาจเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้ 9ส่วนท่านทั้งหลาย ท่านไม่ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ แต่ดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้า เพราะพระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวท่าน ถ้าผู้ใดไม่มีพระจิตของพระคริสตเจ้าผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ 10ถ้าพระคริสตเจ้าสถิตอยู่ในท่านแล้ว แม้ร่างกายของท่านตายเพราะบาป จิตของท่านก็มีชีวิตเพราะความชอบธรรมf 11และถ้าพระจิตของพระผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายนั้นสถิตอยู่ในท่าน พระผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเยซูทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายก็จะทรงบันดาลให้ร่างกายที่ตายได้ของท่านกลับมีชีวิต เดชะพระจิตของพระองค์ ซึ่งสถิตอยู่ในท่านด้วยg

ที่อ้างอิงเนื้อหาจากพระคัมภีร์ที่ยาวเพราะจะได้รู้แนวคิดของคนในแถบนั้น และรู้ที่มาของแนวทางการปฏิบัติตนและเข้าใจว่า ความอ่อนแอของพวกเขาและ(พวกเรา)ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เราทำทุกอย่างจะถูกทั้งหมด มนุษย์เป็นคนอ่อนแอ ก็ย่อมทำพลาดได้เสมอ แต่ความถูกต้องที่แท้จริงก็ควรได้รับการยืนยัน และพยายามหลีกเลี่ยงโอกาสบาป

http://en.wikipedia.org/wiki/File:Christian_distribution.png

+1 กับคุณ time3957

FYI

1. เพื่อนเมกันผมครึ่งๆ เป็น Christian กับ Atheist (ไม่นับถือศาสนา)
2. จากสถิติแถวนี้เพื่อนกลุ่มแรก นี่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยกว่าพวกหลังอีกนะครับ
3. ที่สำคัญกว่านั้นคือ สิ่งที่เราเห็นในหนังเป็นยังไง ความจริงก็ประมาณนั้นอ่ะครับ เจอกันในคลับ นัดเจอจากเดทออนไลน์ หรือแม้แต่เจอกันตามงาน St.Patrick หรือเจอกันใน fitness ใน apartment complex คุยกันถูกคอไม่กี่ชม ก็ไปจบลงที่เตียง และแน่นอนเท่าที่คุยมันก็ป้องกันกันหมด
4. ผมเชื่อว่าแอพนี้หายไปหนึ่ง เดี๋ยวมันก็มีมาใหม่ ถึงแม้มันหมดไปเลย ก็คงไม่เปลี่ยนอะไรในสังคมมากหรอกครับ

จริงๆสำหรับศาสนาพุทธ ถือความสัมพันธ์แบบ 1:1 เหมือนกัน
ข้ออื่นๆก็เช่นเดียวกัน

สำหรับข้อเรื่องพระเจ้านั้น พระเจ้าในที่นี้หมายถึงบุคคล และธรรมบัญญัติคือหลักความจริงเกียวกับคุณธรรม ศาสนาพุทธอธิบายธรรมชาติว่า สามารถมีผลทำให้คนชั่วได้รับผลชั่ว คนดีได้รับผลดี ดังนั้นแล้ว นิยามแบบนี้หมายความว่า ธรรมขาติมีความเป็นบุคคล และมีความหมายเดียวกันกับคำว่า พระเจ้า นะครับ

ศาสนาพุทธ ไม่จัดว่าเป็นกลุ่มทัศนคติแบบ atheist

สถิติผู้นับถือศาสนาพุทธ นั้นทำได้ยาก เพราะประเทศจีนไม่เอื้ออำนวยต่อการสำรวจนี้ จากสถิติบางสถิติ อาจจะมีอยู่ประมาณ 28.775% http://en.wikipedia.org/wiki/Buddhism_by_country
สถิติแล้วมีมากกว่าศาสนามุสลิม ( 23.4% ) http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_Muslim_population

ยังไม่รวม lumia ของโนเกียนะครับ อิอิ

ใครชื่อมี "พร" เนี่ย ผมว่าใช้ชีวิตลำบากในโลกออนไลน์มากเลยนะ อย่างหลายเว็บไซต์สมัครใส่ชื่อ pornpan ดันไม่ผ่านซะงั้น (ไม่รู้ว่าเมื่อก่อน FB เป็นด้วยรึเปล่า แต่ตอนนี้ใช้ได้ละ)

ผมเจอแทบทุกครั้งตอนที่ทำงานอบรมด้านไอที ต้องช่วยคนสมัครบริการนั่นนี่ พอเจอคนชื่อ พร แทบมีประเด็นซะเกือบทุกครั้ง บางเว็บไม่ได้บอกด้วยนะว่าเพราะอะไรแต่ error ไปเลย ต้องย้อนมาตรวจดูรายละเอียดที่กรอกไปโดยละเอียด อ่อ ชื่อมีคำว่า porn นี่เอง ต้องเลี่ยงไปใช้ pon อะไรก็ว่าไป

ที่แล้วๆ ก็แล้วกันไป แต่ถ้าคนไทย generation ต่อๆ ไป ถ้าจะต้องไปเจอโลกที่มัน globalization มากขึ้น ต้องใช้บริการของต่างชาติ เจอคนต่างชาติมากขึ้น เวลาตั้งชื่อลูก ลองเลี่ยงคำๆ นี้ไปดูก็ดีครับ

อย่าว่าเลย ชื่อผมยังขึ้นต้นด้วยคำว่า ฉี่ เลย XD โชคดีที่ไม่ใช่คำหยาบที่ต้องโดนกรอง

มันมีให้เลือกว่าอยากจะ bang หรือ อยากจะ hang นะครับ เข้าใจว่า อยากจะ hang ก็ประมาณเที่ยวด้วยกัน

Draw Something?

ว่าเขียนถึง แต่ไม่เอาละ เดี๋ยวมายาวตรงนี้อีก +_+

เล่นเอาขยาด