Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

มีรายงานข่าวจาก The Nation ว่าคณะรัฐมนตรีเตรียมสั่งย้ายปลัดกระทรวงไอซีที ไกรสร พรสุธี เข้าไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันอังคารที่จะถึงนี้ ด้วยเหตุผลว่าปลัดไกรสรไม่สามารถทำงานบรรลุตามนโยบายของรัฐบาลได้ ปลัดไกรสรรับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2004

แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ดร. สิทธิชัย โภไคยอุดม เป็นคนผลักดันคำสั่งนี้ด้วยตัวเอง

ที่มา - The Nation

อัพเดต (26/03/07) - สิทธิชัย ปฏิเสธใบสั่งคมช.เด้งปลัดไอซีที สำนักข่าวเนชั่น

Get latest news from Blognone

Comments

By: pittaya
WriterAndroidUbuntuIn Love
on 24 March 2007 - 22:59 #18599
pittaya's picture

ปลัดไกรสร นี่คือคนที่ตอบ 20 คำถามของ FACT แบบปัดความรับผิดชอบคนนั้นใช่มั้ย ถ้าได้คนใหม่มาเค้าจะตอบดีกว่านี้หรือเปล่า


pittaya.com

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 25 March 2007 - 00:01 #18603 Reply to:18599
lew's picture

อาจจะดีกว่าครับ เพราะตอบว่า ไม่รู้เรื่อง ให้ไปถามคนที่แล้ว.... :P ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: mo.zeal
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 24 March 2007 - 23:35 #18602
mo.zeal's picture

สงสัย รมว.ท่านจะไม่พอใจที่ตอบสนองวิสัยทัศน์ใหม่ๆของท่านได้ไม่ทันใจ... พอกันแหละ

By: ABZee on 25 March 2007 - 01:48 #18613

ชอบจริงๆเลยกระทรวงนี้ สนุกกว่าดูตลกเป็นไหนๆ

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 25 March 2007 - 03:07 #18615

คลิกไปอ่านที่มา.. ติดใจประโยคสุดท้ายจริงๆ

---------- iPAtS


iPAtS

By: wiennat
Writer
on 25 March 2007 - 17:02 #18673 Reply to:18615

นั่นสิ ผมก็ว่างั้น


onedd.net

By: chaba_bkk
Android
on 25 March 2007 - 08:16 #18629

สมควรแล้ว

It's my life. Open your mind for the future.

By: foxhound on 25 March 2007 - 11:47 #18641

ยังไงผมก็ยังเห็นว่า รมต สิทธิชัย ยังมีผลงานที่ดีเยอะแยะมากกว่านายทักษิณจอมโกงซะอีก นี่เป็นตัวอย่างผลงานของคุณ สิทธิชัย พลเอกสพรั่ง และ ดร.วุฒิพงษ์ คือเทเลคอมพูล http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/25/WW12_1239_news.php?newsid=60922

By: aimakung
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 25 March 2007 - 12:31 #18644 Reply to:18641

อันนี้คอลัมนิสต์เขาเสนอไม่ใช่หรือครับ เจ้าตัวยังไม่ได้ออกปากอะไรเลย :|

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 25 March 2007 - 14:46 #18654 Reply to:18641
lew's picture

ผมมองว่าเทเลคอมพูลนี่ไม่น่าถูกเรียกว่าผลงานเลยนะครับ โดยเนื้อแล้วมันไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ TOT และ CAT ไม่มีปัญญาทำกำไรจากโครงข่ายและใบอนุญาตเป็นตั้งของตัวเอง เลยจะเล่นง่ายขอดึงเครือข่ายจากเอกชนกลับมาเป็นของตัวเองแล้วขอเงินกินเปล่า อย่างที่คุณรู้ความคิดนี้ออกมาจากทาง TOT เอง (ดร. วุฒิพงษ์ เป็นคนของ TOT เต็มตัว)

ตอนนี้นโยบายนี้มีแต่การพูดถึงข้อดี เช่น ต้นทุนในการเข้าแข่งขันจะถูกลง หรือปริมาณการแข่งขันจะเพิ่มขึ้นต่างๆ นาๆ แต่ที่พูดทั้งหมดนั้นเป็นการแข่งขันในระดับปลายน้ำทั้งนั้น ไม่มีการพูดถึงว่าเมื่อไม่มีการแข่งขันในระดับการให้บริการโครงข่ายแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น

ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตไทยแพงเพราะทุกคนต้องจ่ายเงินให้ CAT ในอัตราเดียวกันโดยไม่มีการแข่งขันไม่ใช่หรือ เมื่อเดือนที่แล้วหลังกลุ่มทรูได้ทำ IG ของตัวเองสุดท้าย CAT ก็ต้องโดนบีบให้ลดค่าบริการลง

ยังไม่พูดถึงความสามารถในการบริหารเครือข่ายที่อ่อนด้อยของทั้ง CAT และ TOT ในระดับ Infra ผมอ่านจากรายงานของ ทช. แล้วมีการระบุว่า CAT ทำเครือข่ายล่มไปถึง 60 ชั่วโมงในปี 2004 (กำลังหาตัวเลขปีอื่นๆ อยู่) ถ้าเราเอาการบริหารที่แย่ขนาดนั้นมาให้บริการทุกโครงข่ายทั่วประเทศ ประชาชนจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากคุณภาพโครงข่ายที่แย่เท่าๆ กันไปหมด

ส่วนเรื่องประเด็นการเมืองนี่ผมว่าคุณ Foxhound น่าจะลดๆ การแสดงความเห็นทางการเมืองใน Blognone ลงบ้างนะครับ ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: foxhound on 25 March 2007 - 15:50 #18664

หัวข้อนี้ไม่ใช่การเมืองหรือครับ เห็นเกาะติด คุณสิทธิชัยจัง ที่ผลงานดีๆของเขาช่วยๆกันเอามาออกบ้างน่าจะดีนะ ถามว่าถ้ารมตเจ้ากระทรวงไม่เอาด้วย มันจะเกิดได้ไหม แล้ว ดร.วุฒิพงษ์ก็ไม่ใช่คนของTOTด้วย อย่าเขียนลอยๆสิครับ ถ้ามองในแง่ประสิทธิภาพอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง แต่ในแง่ผลประโยชน์ ทั้ง2ยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่นะครับแม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อไปแล้ว เปิดเสรีมันก็เอื้อเอกชนเต็มๆอยู่แล้ว ผลประโยชน์ระยะยาวมันไปตกกับเอกชนแทนที่รัฐนะครับ ลองไปหาอ่านเกี่ยวกับการคอรับชั่นของรัฐบาลทักษิณดูบ้างว่าขนาดไหน

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 25 March 2007 - 15:55 #18665 Reply to:18664
lew's picture

ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ที่เป็นกรรมการและโฆษกทีโอที

จากข่าวที่คุณอ้าง ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: foxhound on 25 March 2007 - 16:16 #18669 Reply to:18665

ดร.วุฒิพงษ์ แกเป็น ผอ.สถาบันสหัสวรรษ พึ่งจะเข้ามาเป็นกรรมการหลังรัฐบาลทักษิณ ถ้าบอกว่าห้ามพูดการเมือง ผมว่าไม่แฟร์ ลองอ่านผลงานอ.วุฒิพงษ์ดูจะได้ไม่โดนนักการเมืองอย่างทักษิณหลอก http://teno.exteen.com/20051220/ptt-egat-shin-energy http://tnews.teenee.com/politic/74.html แล้วจะบอกว่าแกเข้ามาทำงานTOTปีเดียวแล้วกลายเป็น "คนของTOT"ก็ไม่แฟร์เหมือนกัน

อันนี้ประวัติ

(mk ขออนุญาตแก้ลิงก์ เพราะ URL มันยาวจนล้นขอบ)

By: mk
FounderAndroid
on 25 March 2007 - 16:31 #18672 Reply to:18664
mk's picture

ผลงานดีๆของเขาช่วยๆกันเอามาออกบ้างน่าจะดีนะ

(ไม่เกี่ยวกับที่ถกกัน) ผมขอตอบแบบซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ ว่าอยากได้ต้องเขียนเองครับ Blognone เราเปิดช่องทางด้านนี้ไว้ให้แล้ว ถ้างานคุณภาพถึงก็ได้ลงหน้าแรกแน่นอน ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหรือศรัทธาว่าอยู่ค่ายไหน ขอยกเคสคุณ deans4j เป็นตัวอย่างที่น่าปฏิบัติตามมากๆ

By: mo.zeal
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 March 2007 - 18:29 #18674
mo.zeal's picture

ท่าทางอุณหภูมิของประเด็นนี้จะร้อนขึ้นเรื่อยๆนะครับ ผมขอชี้ประเด็นที่สำคัญของเรื่องนี้นิดนึงครับ (ความเห็นส่วนตัว ใครไม่เห็นด้วยก็แย้งได้ครับ)

การที่ รมว.จะย้าย (หรือเรียกอีกอย่างว่าปลด) ปลัดกระทรวงเนี่ย มันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องนึง ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. ทีนี้ครั้งนี้เหตุผลของเรื่องคือไม่สามารถสนองนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นนี้แหละครับที่น่าเป็นห่วง เพราะจากข่าวที่ติดตามมา วิสัยทัศน์ของรมว. มันแปลกๆ (ซึ่งในทางปฎิบัติก็คือนโยบายของกระทรวงนั่นเอง เพราะการทำงานของรัฐบาลนี้ไม่มีการเขียนแผน ว่ากันสดๆตลอด เพราะเวลามีน้อย) เช่น

ไม่สนับสนุนโอเพ็นซอร์ส (แล้วก็ปฎิเสธว่าเข้าใจผิด) การจะยึดคืนดาวเทียมไทยคม (แล้วก็ปฎิเสธว่าแค่ข่าวลือ) ต้องลดอำนาจ กทช. (แล้วในการพูดในงานเดียวกันตอนหลังบอกว่า กทช.ต้องมีอำนาจเด็ดขาด) การจะนำเอา TOT และ CAT กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ (ในขณะที่ รมว.คลัง บอกว่าสนับสนุนการแปรรูป) บอกว่าไม่ต้องการให้ไลเซ้นต์อินเตอร์เน็ตกับ การไฟฟ้า ทั้งสาม (แล้วก็เอา กฟน.มาเป็นเทเลคอมพูล) การที่อยากให้ค่ามือถือแพงขึ้น (อันนี้ยังไม่ปฎิเสธ เพราะเพิ่งพูดไป ยังไม่โดนด่า)

ผมก็เลยคิดว่าน่าเป็นห่วง ถ้าท่านตั้งปลัดกระทรวงใหม่ ที่ตอบสนองทุกนโยบายของท่านอย่างรวดเร็วทันใจ ก่อนที่ท่านจะออกมาแก้ตัวน่ะครับ แค่คิดก็หวาดเสียวแล้วครับ

อีกประการหนึ่งคือปกติเรื่องอย่างนี้เค้าทำกันเงียบๆ นี่รู้กันทั้งประเทศแล้ว ถ้า ครม.ไม่เห็นด้วย หรือไม่พิจารณา ผมก็เป็นห่วงว่ากระทรวงนี้คงมีเกาเหลาชามใหญ่ (ไม่กินเส้น) แล้วท่าน รมว.กับปลัดฯ จะทำงานกันยังไง

ผมว่าท่านกลับไปสอนหนังสือดีกว่า ต้นทุนทางสังคมและชื่อเสียงของท่านถูกใช้หมดไปในเวลาแค่ไม่กี่เดือน เป็นห่วงจริงๆครับ

By: tvchampion on 25 March 2007 - 18:48 #18676 Reply to:18674

--->การที่อยาก​ให้​ค่ามือถือแพงขึ้น​ (อันนี้​ยัง​ไม่​ปฎิ​เสธ​ ​เพราะ​เพิ่งพูดไป​ ​ยัง​ไม่​โดนด่า) โดนจุดชนวน SP GET OUT ใน mbk ของพันทิป แล้วครับ http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T5238014/T5238014.html

จริงๆไม่ต้องไล่ เดี๋ยวไงเขาก็ต้องไปอยู่แล้วนะ

By: foxhound on 25 March 2007 - 19:20 #18677 Reply to:18674

คุณ สิทธิชัยไม่ได้สนับสนุนยึดคืนดาวเทียมนะครับ แล้วก็อำนาจในการปลดปลัดกระทรวงเป็นของรัฐมนตรี มิใช่ ครม แล้วก็เว็บพันทิพย์สนับสนุนคุณทักษิณอยู่แล้วเพราะทักษิณสนับสนุนด้านการเงิน

By: sirn
WriteriPhone
on 25 March 2007 - 21:13 #18685 Reply to:18677

ผมรู้สึกว่าทุกโพสที่คุณโพสนี่เอาคุณทักษิณมาอ้าง เพื่อทำให้ ดร.สิทธิชัย ดูดีตลอดเลย ถ้าหากคุณอยากทำให้เขา "ดูดี" ขึ้นจริง จะยกไปเทียบทำไมครับ?

แล้วก็เว็บพันทิพย์สนับสนุนคุณทักษิณอยู่แล้วเพราะทักษิณสนับสนุนด้านการเงิน

ถึงผมจะไม่ชอบ Pantip แต่เอาหลักฐานมาอ้างหน่อยก็ดีนะครับ

By: mo.zeal
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 26 March 2007 - 00:14 #18696 Reply to:18677
mo.zeal's picture

อ่านข่าวหน่อยสิครับ คุณสิทธิชัยเตรียมนำเสนอ ครม. เพื่อพิวจารณาในที่ประชุมครมในวันอังคารนี้

และรมว.สิทธิชัยคนดีก็เป็นคนให้สัมภาษณ์มากมายเรื่องจะซื้อคืนดาวเทียม บอกเป็นตุเป็นตะว่าเทมาเสกจะซื้อหุ้นคืนทั้งหมด แล้ววันรุ่งขึ้นก็ออกมาสัมภาษณ์ใหม่ว่าเป็นข่าวลือ

ท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ผมไม่ทราบ และไม่สนใจ แต่ท่านได้พูดอย่างที่ไม่น่าจะเป็นคนในตำแหน่งนี้ควรจะพูด และก็พูดกลับไปกลับมา

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณด้วย อีกอย่างการกล่าวหาเว็บพันทิพย์แบบนี้อาจไม่ค่อยเข้าท่านักครับ

อยากให้คุณ foxhound กลับไปอ่านเรื่องราวต่างๆให้ดีก่อนครับ ไม่ได้อยากทะเลาะแต่เซ็ง

By: tvchampion on 26 March 2007 - 03:52 #18702 Reply to:18677

ผมว่าคุณfoxhound ดูถูก เว็บพันทิปมากนะครับ กรุณาอย่าโพสต์พล่อยๆครับ ลองเลื่อนหน้าแรกพันทิป ไปดูข้างล่างสุดบ้างนะครับแล้วคุณจะเห็นว่า การบริหารการโฆษณาในพันทิป เนชั่นมัลติมีเดียเป็นฝ่ายดูแลให้มาตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงปัจจุบัน แค่นี้ก็คงตัดประเด็นทักษิณสนับสนุนการเงินพันทิปของคุณไปได้แล้วละ

By: zendz
iPhone
on 25 March 2007 - 21:26 #18686

เท่าที่อ่านมา คุณ foxhound เอามาโยงกับทางทักษินมันเลยเป็นเรื่องการเมืองมากกว่านะครับ คือปกติเท่าที่ผมอ่านข่าวที่ blognone มาก็ตัวหัวเรื่องของข่าว มันไม่ได้อิงการเมืองมากมายตรงไหน การที่นำเอาคนใน ict หรือที่เกี่ยวข้องมาวิพากษ์วิจาร์ณ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ IT โดยตรงมากกว่า

ปล. ลดๆ หน่อยก็ดีครับ อย่าเหมารวมว่าใครโดนหลอกไม่โดนหลอก มันเหมือนคุณกำลังดูถูกผู้อื่นว่า คนที่ไม่มีความคิดเห็นเหมือนตนเองนั้นด้อยกว่า

By: foxhound on 25 March 2007 - 23:08 #18690 Reply to:18686

"ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ IT โดยตรงมากกว่า???" งงครับ การโยกย้ายปลัดคือเรื่องการเมืองครับ ไม่ใช่เรื่องITโดยตรงด้วยซ้ำ ผมขออภัยถ้ายกเรื่องคุณทักษิณแล้วทำให้คุณสิทธิชัยดูเด่น เพราะไม่ได้ตั้งใจแต่เหตุการณ์เงื่อนเวลา ทำให้ต้องพาดพิง ถ้าบอกว่า อย่าพูดเรื่องการเมืองเลย ผมว่า ไม่แฟร์นะ เพราะการโยกย้ายคนนี่แหละการเมืองชัดๆ

By: mo.zeal
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 26 March 2007 - 00:20 #18697 Reply to:18690
mo.zeal's picture

การย้ายปลัดน่ะไม่มีใครเขาสนใจกันนักหรอก ถ้าไม่ใช่เหตุผล "ไม่สามารถสนองนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ" เพราะฟังนโยบายแต่ละข้อแล้วมันเกี่ยวกับไอทีโดยตรงทั้งนั้นแหละคุณ

แค่นั้นแหละ กลัวจะได้คนปากไวใจเร็ว รีบทำสนองเจ้านายมาเป็นปลัด แล้วพวกเรานี่แหละจะรับกรรม

ผมก็ไม่เคยเชียร์ว่าใครดีใครไม่ดี ว่ากันตามที่ปรากฎทั้งนั้น และก็ไม่ได้เชียร์คุณไกรสร หรือใครๆด้วยเพราะอย่างที่โพสไว้ว่า พอกันนั่นแหละ

ผมจะยุติแต่นี้นะครับ แต่ถ้าจะจุดไฟต่อ ก็ว่ามา

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 26 March 2007 - 02:02 #18703 Reply to:18690

มันเกี่ยวเพราะคนในระดับนั้นเค้าจะเป็นนคุมนโยบายต่างๆ ของประเทศครับ แน่นอนว่า รวมถึงนโยบายด้าน IT ด้วย เพราะงั้น เกี่ยวแน่ๆ ครับ

ถ้าคุณอ่าน BN มานานพอสมควร ก็จะเห็นว่าที่นี่มีลงข่าวเกี่ยวกับบุคคลมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา ผู้ให้กำเนิดเทคโนโลยีต่างๆ การแสดงวิสัยทัศน์ของคนไอที แม้กระทั่งคนหายก็ยังมี (เพราะเป็นคนที่มีอิทธิพลกับวงการพอสมควร) ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนต่างประเทศ..

แล้วทำไม พอมีข่าวคนไทย ใกล้ๆ ตัว มันจะเอามาลงบ้างไม่ได้หล่ะครับ??

---------- iPAtS


iPAtS

By: ม่อน on 26 March 2007 - 00:13 #18695

ธีมเขียวๆ นี่ไม่ใช่หญ้านะ

By: ม่อน on 26 March 2007 - 00:30 #18700

กลับไปกินหญ้า ที่คอก manager เถอะ

By: foxhound on 26 March 2007 - 21:17 #18791 Reply to:18700

ไม่ลองเปิดหูเปิดตารับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างดูบ้างหรือครับ ไม่ใช่ว่าอ่านแล้วต้องเชื่อเขาทุกอย่างนี่ครับ ใช้สติปัญญาของตัวเองวิเคราะห์ดูเอาสิครับ

By: amyggie on 26 March 2007 - 01:46 #18701

ฟังสนธิ ลิ้มทุกวัน อ่านผู้จัดการทุกชั่วโมงหรือเปล่า

เป็นเอามาก

By: narok119
ContributoriPhone
on 26 March 2007 - 02:30 #18704

ผมอึ้งคุณ foxhound ตั้งแต่คุณบอกว่า เว็บพันทิพย์สนับสนุนคุณทักษิณอยู่แล้วเพราะทักษิณสนับสนุนด้านการเงิน

เท่าที่ผมรู้ คือ คุณวันฉัตร เขาให้ Nation บริหารงาน โฆษณานะครับ แล้วทักษิณไปมั่วอะไรด้วยละครับนั่น

แล้วก็

ลองอ่านผลงานอ.วุฒิพงษ์ดูจะได้ไม่โดนนักการเมืองอย่างทักษิณหลอก

อันนี้ผมยิ่ง งง ว่าคุณเอาทักษิณมาเกี่ยวกับข่าวนี้ได้ยังไง

ผมเลยขอถือโอกาสแนะนำให้เลิกอ่าน manager ซักเดือนนึงอาจจะเข้าใจอะไรดีขึ้นนะครับ

By: foxhound on 26 March 2007 - 20:34 #18782 Reply to:18704

ทำไมทักษิณจะไม่เกี่ยวละครับ บริษัท ชินคอร์ป ที่ทำธุรกิจสื่อสาร ของคุณทักษิณ ที่ขายไปให้สิงคโปร์ ก็ได้มาเพราะการวิ่งเต้นทั้งนั้น บริษัทสื่อสารโทรคมนาคมใช่ไหม ใครคิดว่าทักษิณเก่ง ต้องขอให้มองใหม่ เพราะธุรกิจสัมปทาน ยังไงก็ได้กำไร เพราะไม่ต้องแข่งขันกับคนอื่น มันเป็นธุรกิจกึ่งผูกขาดอยู่แล้ว ใช้เงินลงทุนสูง ช่วงที่ทักษิณบริหารประเทศก็ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองทั้งนั้น น่าเสียใจที่เกิดเป็นคนไทยปากบอกรักชาติแต่ดูพฤติกรรมสิ ขายสัมปทานผูกขาดให้บริษัทของรัฐบาลสิงคโปร์ไปได้เฉยเลย นี่แหละหนอ ประเทศไทยถึงได้โดนเวียตนามแซงหน้าไปแล้ว คนไทยยังหลงชื่นชมทักษิณอยู่เลย

By: sirn
WriteriPhone
on 27 March 2007 - 04:51 #18851 Reply to:18782

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ

เว็บพันทิพย์สนับสนุนคุณทักษิณอยู่แล้วเพราะทักษิณสนับสนุนด้านการเงิน

By: narok119
ContributoriPhone
on 27 March 2007 - 19:14 #18948 Reply to:18782

คุณยิ่งตอบผมยิ่งเห็นว่าทักษิณไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เข้าไปใหญ่เลยนะครับ

By: Wintermute on 26 March 2007 - 09:40 #18712

อืม แปลกดี ที่คุณ foxhound มีความเชื่อว่า เนื้อหาใน pantip เกิดขึ้นมาโดยถูก ทักษิณ ชี้นำ ด้วยเหตุผลทาง การเงิน (แต่ หลายๆท่านชี้แจงแล้วว่า เครือเนชั่นเป็นผู้ดูแล )

แต่ส่วนตัวผม เนื้อหาใน pantip นั้นเกิดจาก comunity นะครับ (แม้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกตามแห่ก็ตาม)ไม่เกี่ยวกับเจ้าของ หรือว่า คุณคิดว่า ทักษิน จะจ้างคนมาคอย post ซึ่งก็ฟังดูก็เข้าท่าดี สำหรับเอามาแต่ง นิยาย Taksin's code

แต่ผมว่ากระทู้ลงชื่อไล่ใน pantip นี่ แทบไม่มี impact อะไรเลย ชาว pantip ตั้งกระทู้ไล่ VJ get out มาเป็นชาติแล้ว กว่า VJ จะออกจริง ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับชาว pantip อยู่ดี

ส่วนเรื่อง รมต. ท่านนี้นั้น โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า ท่านพยายามจะสร้างผลงานเหลือเกิน ต่างจากนายกรัฐมนตรีที่ดูจะเก็บเนื้อเก็บตัว เพราะรู้ตัวว่าเป็นเพียงรัฐบาลชั่วคราว

ทอท และ กสท เป็นรัฐวิสาหกิจ น่าจะดีผลประโยชน์เข้ารัฐ และ พนักงานเต็มเม็ดเต็มหน่วยดี ผมยังจำได้เลยว่าสมัยผมเด็กๆ พ่อผมขอโทรศัพท์ไป รอแค่ 10 ปีเองครับ เขาก็มาติดตั้งแล้ว

ตอนนี้เทคโลยีทางการสื่อสารกำลังจะเปลี่ยนโฉมนะครับ มีเทคโนโลยีหลายตัวกำลังมา แต่บ้านเราดูชงักงันเรื่องนี้ไป จริงๆเราไม่จำเป็นต้องวิ่งตามเขาไปหมดหรอก แต่บางทีมันก็ทำให้เราเสียศักยภาพในการแข่งขันไป

By: foxhound on 26 March 2007 - 21:12 #18789 Reply to:18712

เราเสียศักยภาพในการแข่งขันมานานแล้วครับ ไม่ใช่พึ่งจะมาเสีย เพราะเราไม่มีบริษัทไทย บริษัทไหนที่ สร้าง เทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ตะหากละ ไม่ใช่เพราะเราไม่มีโทรศัพท์ใช้ ไม่ใช่เพราะเราไม่มีเน็ต10เม็กใช้ ซื้อเขาทั้งนั้น สิบปีก่อน จีนแดงก๊อปเขาสะบัด ล้าหลังกว่าไทยเป็นสิบปี มาวันนี้ จีนแดงแซงไทยไปแล้ว อีกสิบปี เราก็ยังแข่งกับพม่าไม่เสร็จ เพราะเรายังถนัดบริโภค ไม่เริ่ม สร้าง อะไรอะไร ของตัวเอง ไม่สร้างบริษัทเทคโนโลยี ของไทย ให้แข่งกับต่างชาติ ไม่สร้างบริษัทคนไทยให้เข้มแข็ง คนไทยก็เป็นได้แค่หมอนวดตามสปา ส่วนเจ้าของสปาหรอ สิงคโปร์นับเงินหน้าสลอนเต็มภูเก็ต....

By: Wintermute on 26 March 2007 - 22:32 #18799 Reply to:18789

คุณ foxhound พูดมา ถูกต้องนะคร๊าบบบ

เทคโนโลยีบางอย่างสร้างเองต้องลงทุนสูง ต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เราคงทำเองไม่ไหวในระยะเวลาใกล้ๆนี้ ซึ่งการต่อยอดเทคโนโลยีน่าจะเหมาะสมกว่า แบบที่เขาว่ายืนอยู่บนไหล่ยักษ์ แต่บางครั้งงานพัฒนาก็ที่ต้องพึ่งพา infrastructure บาง ถ้าหากว่าตัวรัฐนั้นมีนโยบายไม่ชัดเจน หรือไม่เกื้อหนุนก็ไม่น่าจะเป็นผลดี ใช่ไหมครับ ถ้าเพียงเรายืนเฉยๆก็มีคนมากมายแซงเราไปแล้ว

หมอนวดตามสปานี่ใช่ย่อยนะครับ ถ้าทำงานได้ดีจริง น้าแฟนผมเรียนก็ไม่จบ ม.ปลาย ตอนนี้ทำงานเป็นหมอนวดใน โรงแรมที่ L.A. ดารา Holywood มาประจำ อย่าง ชาลี ชีน (Platoon) มานี่ เจาะจงแต่น้าหนานคนนี้คนเดียวเลย ทำงานเดือนเดียว มากว่าผมทำทั้งปีอีก ปีหนึ่งหยุดกลับมาพักผ่อนที่บ้านเมืองไทยได้อีกสองเดือนต่างหาก ตอนนี้อยากลาออกมาใช้เงินบ้าง ทางนู้นบอกว่า อย่าพึ่งออกเลยพ่อคู้ณ มาทำอีกซักปีเถ้ออออ

ส่วนกับสิงค์โปร์นี่ไม่อยากพูดถึงครับ ประเทศเขาส่งออกผู้จัดการ ส่วนประเทศเราคงส่งออกได้แต่ กรรมกร กับ ก..... ถ้ายังไม่ปฏิรูปการศึกษา และทำให้การเมืองโปร่งใส

By: nuclearlab
In Love
on 26 March 2007 - 09:47 #18713
nuclearlab's picture

Wintermute: ทอท และ กสท เป็นรัฐวิสาหกิจ น่าจะดีผลประโยชน์เข้ารัฐ และ พนักงานเต็มเม็ดเต็มหน่วยดี ผมยังจำได้เลยว่าสมัยผมเด็กๆ พ่อผมขอโทรศัพท์ไป รอแค่ 10 ปีเองครับ เขาก็มาติดตั้งแล้ว

สิบปีเองเหรอครับ เร็วจัง ของผมนี่ผ่านไปเกือบยี่สิบปีแล้วท่านยังไม่มาติดตั้งให้ผมเลย

By: sugree
FounderWriterAndroidBlackberry
on 26 March 2007 - 10:16 #18714 Reply to:18713

ผมขอ ทอท ตั้งแต่ยังไม่มีสาย รอมา 11 ปีได้มาหนึ่งเบอร์จากเทเลคอมเอเชีย แต่ก็ยังรอ ทอท จนถึงทุกวันนี้ผ่านมา 22 ปี ผมก็ยังไม่ได้อะไรจาก ทอท ปัจจุบันบอกว่าคู่สายเต็ม ไม่มีกำหนดว่าจะเพิ่มเมื่อไหร่ 3-10 ปี

By: ม่อน on 26 March 2007 - 11:42 #18726 Reply to:18714

สมัยก่อน คนรู้จักของผม มีรายได้จากการขายคู่สาย จำได้เลยว่า เบอร์ธรรมดาๆ เนี่ย หลักหมื่นเลยละ

By: narok119
ContributoriPhone
on 26 March 2007 - 14:07 #18749 Reply to:18726

เงินมางานเดินคับ จากประสบการณ์จริง

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 26 March 2007 - 12:08 #18728

ผมขออนุญาตตอบในประเด็นเทเลคอมพูลหน่อยนะครับ (ถึงจะนอกประเด็นข่าวไปก็เถอะ เห็นแล้วมันอดไม่ได้) ไม่รู้คุณ foxhound ได้ข้อมูลมาต่างจากที่ผมได้มายังไงบ้าง แต่ตามความเห็นของผมแล้ว เทเลคอมพูลไม่ได้มีผลดีเลยนะครับ ข้อเท็จจริง ข้อแรก - โครงข่ายการสื่อสารของประเทศไทย "ทั้งประเทศ" (น่าจะยกเว้นบางอย่างเท่านั้น) เป็นของรัฐอยู่แล้วครับ ทั้งบริการมือถือ/โทรศัพท์บ้าน เป็นการทำในรูปแบบ "สัญญาสัมปทาน" ซึ่งหมายถึงว่า รัฐเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั่นคือโครงข่ายทั้งหมด เทเลคอมพูลที่จะเกิดขึ้นมาก็อาศัยช่องตรงนี้ โดยการ "เรียกคืน" สิ่งที่รัฐเป็นเจ้าของอยู่แล้วมาบริหารเองหมดเลย ซึ่งขัดกับเจตนาในการทำสัญญาสัมปทานตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่ง ทศท/กสท ทำการให้สัมปทานเอกชนไปบริหารโครงข่าย "เนื่องจากทางรัฐไม่มีความสามารถที่จะขยายโครงข่ายได้เพียงพอกับความต้องการ" การอ้างประเด็นความมั่นคงนั้น เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาทีเดียว หากลองนึกๆดูถึงต้นตอของประเด็นดังกล่าว จะเห็นว่ามาจาก ยุคของ "รัฐบาล" ทักษิณ ที่มีการอ้างว่ามีการดักฟังโทรศัพท์ ผมเน้นคำว่า "รัฐบาล" เพื่อแสดงให้เห็นว่า เป็นการใช้ "อำนาจรัฐ" นะครับ นั่นหมายถึงอีกนัยว่า "สื่อที่รัฐเป็นเจ้าของอาจไม่ปลอดภัย" การรวบโครงข่ายทั้งหมดเป็นเทเลคอมพูล จะมั่นใจได้อย่างไรว่า "รัฐบาล" ต่อๆไป หรือผู้มีอำนาจอื่นๆหลังจากนี้ จะไม่ดักฟังเรา? ตรงกันข้าม การปล่อยเสรีให้เอกชนแข่งขันกัน กลับจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ด้วยซ้ำ ในยุคที่บริษัท แข่งกันแจก sim มือถือฟรีๆ คุณคิดว่าบริษัทที่มีข่าวว่ามีการดักฟังโทรศัพท์ จะยังมีคนใช้อีกเหรอครับ? ส่วนเรื่องอื่นๆเช่นการบริการ ก็ตามที่หลายๆคนว่าไว้ ยุคที่ขอสายโทรศัพท์เป็นสิบปีนั้นเป้นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ ยังไม่รวมยุคเริ่มแรกของ ADSL ที่มีผู้ให้บริการเฉพาะคู่สัญญาของ TOT และไม่ได้มีการออก license ให้กับผู้ให้บริการรายอื่นๆ (จริงๆทรูก็ซิกแซกเอา ไม่งั้นไม่ได้ทำหรอก) ถ้าไม่มี "เอกชน" (ที่ผมรู้สึกเอาเองว่าคุณไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่) รับรองว่าป่านนี้คุณคงไม่ได้ใช้ ADSL (ถึงใช้ก็คงเสียเดือนละ 2000 ที่ความเร็ว 128Kbps)

จริงๆผลงาน ที่น่าจะทำ ไม่เกินวิสัยด้วย น่าจะเน้นผลักดันเรื่องเปลี่ยนเครือข่าย ใช้เลขหมายเดิมได้ (ช่วยเพิ่มการแข่งขัน ทั้งด้านราคาและบริการ)หรือเปิดเสรีโทรคมนาคมมากกว่า (พูดกันมานานแล้ว ทำไม่ได้ซะทีเพราะผลประโยชน์มันเยอะ ทั้งคนที่เป็นรัฐบาลเอง หรือเหล่าผู้ออกทุนของพรรคการเมืองทั้งหลาย ในเมื่อรัฐบาลนี้ อ้างว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ น่าจะเข้ามาทำตรงนี้ให้มันจบๆไปซะ)

ด้วยความเคารพ ผมเองก็เคยเรียนมหานคร เห็นทั้งด้านที่ดี (และไม่ดี) ของผอ.สิทธิชัยมาก็มาก ตอนท่านได้รับการเสนอเป็น รมต. ผมยังแอบดีใจเล็กๆด้วยซ้ำ แต่เรื่องไหนถูก เรื่องไหนไม่ถูก ก็ต้องว่ากันตามไป

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 26 March 2007 - 12:16 #18730 Reply to:18728
lew's picture

พูดถึงด้านที่ดีของเขา ผมนึกออกอยู่เรื่องเดียวครับ คือโครงการแปลตำรา ที่ว่าจะไปไล่ซื้อลิขสิทธิตำราจากต่างประเทศมาแปลขนานใหญ่ ผมสนับสนุนโครงการนี้ตั้งแต่เขายังเป็น อธิการบดีของมหานครอยู่ จำได้ว่าตอนนั้นเสนอให้รัฐแบ่งงบลงไปตรงนั้นสองพันล้าน ตอนนี้เป็นรัฐมนตรีก็ยังพยายามดันงบประัมาณตรงนี้ แต่เห็นว่าเหลือห้าร้อยล้านแล้ว โครงการนี้ผมสนับสนุนเต็มตัวครับ

แต่พอดีมันไม่เกี่ยวกับไอที และไม่น่าจะเกี่ยวกับกระทรวง ICT ที่เขาดูแล ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: foxhound on 26 March 2007 - 20:44 #18783 Reply to:18728

ต้องมองในแง่ของการลงทุนซ้ำซ้อนสิครับ แล้วก็มองในแง่รายได้ ถ้าเป็นของเอกชนมันก็จะมีกี่คนที่มีเงินพันๆล้านพอจะลงทุนกิจการกึ่งผูกขาดอย่างกิจการสื่อสารโทรคมนาคมล่ะครับ คุณกำลังโดนลัทธิทุนนิยมสุดโต่งหลอกอยู่หรือเปล่า ถ้าปล่อยเสรีอย่างที่คุณว่าจริง คนที่จะโต คือ ชินคอร์ป(เทมาเสก = รัฐบาลสิงคโปร์) ทรู (ซีพี) เทเลนอร์ ตาสีตาสาจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของสัมปทาน หรือกิจการโทรคมนาคมไหม? อย่าลืมว่า กิจการโทรคมนาคมพวกนี้กำไรเนื้อๆ ประเทศอื่นนะเขาไม่ยอมให้ต่างชาติเข้ามาทำหรอก แม้แต่อเมริกาประเทศที่ชื่อว่าเป็นทุนนิยมสุดโต่งก็ไม่ยอม ที่นี่ประเทศไทย รัฐบาลสิงคโปร์มาถือหุ้นใหญ่บริษัทชิน คนไทยคิดแค่ ขอให้ค่าโทรมือถือถูก แต่หารู้ไม่ว่า กำไรที่ได้จากกิจการพวกนี้ ส่งออกต่างประเทศหมด มันน่าเจ็บใจไหม

By: Wintermute on 26 March 2007 - 22:58 #18800 Reply to:18783

ประเทศไหน ตาสี,ตาสา,Sarah,Gorge,นาย ก. หรือ John doe ก็ไม่มีมีโอกาสจะได้เป็นเจ้าของสัมปทาน หรือกิจการโทรคมนาคม หรอกครับ ต้องเป็นพวกกลุ่มทุนขนาดยักษ์ทั้งนั้น (Bill gate ยังไม่เป็นเลย)

กิจการโทรคมนาคม กำไรเนื้อๆ อืมเขาก็ต้องลงทุนโครงข่ายนะครับ ไม่ใช่ส่งผ่าน เถาตำลึง แถวรั้วบ้านมาทำได้ ต้องเช่าที่หาคนดูแลอีก ตอนนี้ กิจการหลายรายยัง กระอักกะโครงข่าย 3G เลย ขนาด ใหญ่ๆอย่าง France Telecom ยังเป๋ เลย ทักษิณ กะ เจ้าของเก่า dtac ยังขายทิ้งเพราะไม่อยากลงทุนกะ 3G (ไม่ลงทุนก็ไม่ได้เพราะ 3G ยังไงก็ต้องมา)

อเมริกาไม่มี กิจการโทรคมของต่างชาติ ? จริงดิ - Orange เป็นของ France Telecom - T-Mobile เป็นของกลุ่มทุนใน เยอรมัน สองเจ้านี้มีบริการในอเมริกาครับ (สัดส่วนผู้ถือหุ้นผมไม่รู้ ก็คงว่ากันไปตามกฏหมายอเมริกา)

ยุโรป ญี่ปุ่น ก็มี Vodafone ไปบริการ

ผมว่าโลกยุคนี้ กลุ่มทุนมันข้ามกันไปกันมา แต่มาบิดเบือน อำพราง มี นอมินี อันนั้นมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามกฏหมายครับ เขาเปิดเสรีเพื่อให้ทุกรายอยู่ใต้กฏที่เป็นธรรมครับ ตามข้อตกลงของ WTO ซึ่งเราจะไม่เข้าก็ได้ อเมริการไม่มา Bomb เราหรอกครับ แต่ดูข่าวก็เห็นว่า พอจีนแดงกะเวียตนามเข้า WTO ได้เขา ไชโยโห่ฮิ้วกันใหญ่เลย

By: foxhound on 27 March 2007 - 02:48 #18846 Reply to:18800

จีนแดงไชโยสิครับ เพราะเขาเตรียมผู้ประกอบการภายในประเทศไว้ค่อนข้างจะเข้มแข็งแล้ว พอจะสู้กับทุนต่างชาติได้ระดับหนึ่งแล้วนี่ ไม่อยากบอกว่าไทยเคยเปิดเสรีการเงินทั้งๆที่ไม่พร้อมจนเจ๊งไปรอบแล้ว ยังไม่เข็ดอยากจะให้เขามาเทคโอเวอร์กิจการสัมปทานเยอะๆ กิจการพลังงานประเคนให้เขา อีกหน่อยลูกหลานไทยจะเหลืออะไรรับประทาน

By: Wintermute on 27 March 2007 - 03:58 #18849 Reply to:18846

อ๋อ เหรอครับ เวียตนามคงเตรียมตัวพร้อมเหมือนกันสิ แล้ว ผู้ประกอบการไทย กับ รัฐบาลไทย ทำไรอยู่เอ่ย ? หรือว่าฝันรอท่านจตุคาม มาช่วยให้รวย เราไปเจรจากะเขาตั้งแต่ มันยังชื่อ GAT ใบสมัครก็ไม่ได้ถูกบังคับให้ยื่น หรือว่าเราจะปิดประเทศดี ไม่ต้องคบกะใครละ

จีนแดงมีกิจการดาวรุ่งอยู่มากมายครับ แต่ที่เน่าๆไม่มีศักยภาพการแข่งขัน ก็ไม่น้อย คนรุ่น 40 ตกงานกันก็เยอะแยะ แต่ที่ไม่ค่อยมีปัญหาก็เพราะรัฐบาลเขาเข้มงวดครับ

ที่ว่ามาไม่ใช่ผมชอบ WTO นะครับ ผมห่วงเกษตรกรไทยจะได้รับผลกระทบจากสินค้าเกษตรมากว่า มันลดกำแพงภาษี แต่ไปตั้งแง่ด้านอื่น และเรื่องโควตาสิ่งทอ แต่ว่าชีวิตมันก็หลีกเลี่ยงความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ควรจะวางแผนรับมือกับมันดีที่สุด WTO มีผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ กับทุกประเทศครับ (WTO ไปประชุมในยุโรปเมื่อไร ก็เป็นเรื่องทุกที)

เรื่องวิเทศก์ธนกิจ (BIBF) ที่เปิดเสรีการเงินนี่ เนี่ย ที่มันเจ็งกัน เกิดจาก ความเป็นเสรี หรือ ว่าการฉ้อโกงของผู้ประกอบการครับ ค่าเงินตอน 25 บาท ต่อ us$ กลายเป็น 40 บาท ก่นด่า เจ้าโซรอส กะพ่อใหญ่จิ๋ว กันนัก ตอนนี้หละ เหลือ 34 บาท โวยกันขรมเลย อยากได้ 40 บาทกัน

กิจการสัมปทานคือกิจการที่เป็นการอนุญาติให้ประกอบกิจการในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่ขายให้ไปเลย จริงๆเราก็มีกฏหมายไม่ให้ต่างชาติครอบครองมากเกินไปอยู่แล้ว แต่คนพยายามฉ้อฉลกันเอง ก็ว่ากันไปตามกฏหมาย

ส่วนเรื่องหารับประทาน สมัยปู่ทวดผม รัฐบาลให้สัมปทานป่าไม้ให้ นายหลุยส์ ลูกแหม่มแอนนา เอาสัมปาน แร่ดีบุกให้ นายฝรั่ง รุ่นผมก็มีรัปประทานนะครับ บางคนบอกว่าตัวเองถือสัญชาติไทย รับเงินโครงการรัฐมาผลาญ สร้างผลประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง อย่างนี้ใครเลวกว่า

อย่าคิดว่าคนไทยเป็น ชาวประชาหน้าใส ต่างชาติเป็นผู้ชั่วร้ายจากแดนไกลสิครับ

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 27 March 2007 - 00:56 #18812 Reply to:18783

การลงทุนซ้ำซ้อน? คุณเข้าใจหรือเปล่าครับว่าการสื่อสารมีสิ่งที่เขาเรียกว่าช่องสัญญาณ เอาง่ายๆเมื่อ commart อาทิตย์ที่ผ่านมาคุณได้ใช้โทรศัพท์ในศูนย์สิริกิติ์ไหมครับ? ขนาดปัจจุบันนี้แข่งกันจะเป็นบ้ายังโทรออกได้บ้างไม่ได้บ้าง การบริโภคการสื่อสารมันไม่มีพอหรอกครับ ในไม่ช้าขนาดข้อมูลที่สื่อสารกันจะโตขึ้นเรื่อยๆ 3G ก็ต้องใช้ bandwidth ที่มากขึ้น, ADSL ยังบ่นกันแทบตายว่า ช้า ว่าอืด ตอนนี้ลงทุนเท่าไหร่ก็ไม่ซ้ำซ้อนหรอกครับ เพราะของที่มีมันไม่เพียงพอต่างหาก

รายได้ อยู่ที่คนลงทุน มันก็ถูกนี่ครับ เงินเขาลงไป เขาก็ต้องได้ผลกำไรกลับมา แต่ผลพลอยได้จากสิ่งนั้นๆ การจ้างงาน, ภาษีที่เก็บเข้ารัฐ ฯลฯ คนที่ได้ประโยชน์คือตาสีตาสานะครับ (พวกตาสีตาสาที่ไหนจะไปเป็นเจ้าของกิจการโทรคมนาคมได้ครับ อย่างมากก็ซื้อหุ้น 0.0000001%) กิจการที่รัฐเป็นเจ้าของ ก็ไม่ใช่ว่า "ตาสีตาสา" จะไปดูแลและได้ประโยชน์เต็มร้อย มันก็ขึ้นอยู่กับ "รัฐ" จะทำอะไรกับมัน (แม้ว่าจะเป็น "รัฐ" ที่ตาสีตาสาเลือกเข้ามา) เกิด "รัฐ" ตัดงบกิจการของรัฐบางอย่างเพื่อไปลงทุนอย่างอื่นแทน กิจการนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี เราไปห้ามได้ไหม เราบอกได้ไหมว่า "ฉันอยากให้ลงทุน ทำประปา ไฟฟ้าให้ครบทั้งประเทศ" เอาว่าปัจจุบันนี้ยังทำไม่ได้เลยครับ? บ้านแฟนผมน้ำประปาไหลบ้างไม่ไหลบ้าง? คุณลองใช้ "สิทธิของความเป็นเจ้าของประเทศ" ไปบอกเขาให้ปล่อยน้ำให้เพียงพอได้ไหมล่ะครับ?

ส่วนเรื่อง "ประเทศอื่น" ไม่ยอมให้ต่างชาติเข้ามาทำนี่ก็คง clear แล้ว ที่ชัดๆคือ Vodafone ไปเปิดกิจการที่ญี่ปุ่นไงครับ เป็นของต่างชาติเน้นๆ ชื่อบริษัทก็ต่างชาติเลย

ที่ผมยกแง่ของ "ความมั่นคง" มันเป็นเรื่องที่ รมต. สิทธิชัย กับ พล.อ.สะพรั่ง อ้างถึงจริงๆ และเป็นประเด็นหลักด้วย หาอ่านได้ตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไป ส่วนแง่การลงทุนซ้ำซ้อน กับเรื่องรายได้ ไม่เห็นเขาพูดถึงกันเลยครับ

ผมไม่ได้มองว่า อะไรๆก็ต้องแปรรูป แต่อะไรที่ไม่มีเหตุผลที่รัฐจะต้องดำเนินการเอง ก็น่าจะเปิดเสรีให้เอกชนดำเนินการ อย่าลืมว่ารัฐเองก็มีเงินทุนจำกัด จะให้บริหารจัดการเองทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ ผมว่าถ้ารัฐเปิดเสรีโทรคมนาคม แล้วเอาเงินที่ไปโปะหนี้, จัดซื้อของ ทศท./กสท. เอามาปรับปรุงด้านสาธารณสุขยังจะ work กว่าเยอะครับ

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 26 March 2007 - 12:39 #18736
khajochi's picture

ข่าวการเมืองทีไร ยาวทุกที


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: Wintermute on 26 March 2007 - 14:01 #18746

เรื่องแปลตำรานี่เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว อยากให้อ่านจากภาษาของเจ้าของเทคโนโลยี มากกว่า เพราะเทคโนโลยีบางอย่างกว่าจะแปลเสร็จอาจจะล้าสมัยไปแล้ว

อยากให้มีโครงการเอา text มา reprint เป็น low-price edittion มากกว่า แบบในอินเดียหรือกลัวจะไม่คุ้มก็ขอ licensed ให้นำเข้ามาจากอินเดียได้ก็ยังดีนะครับ (คือที่ licensed เขาให้แต่ อินเดียและประเทศแถบนั้นเท่านั้นหนะครับ)

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 26 March 2007 - 15:51 #18761 Reply to:18746

จะว่าไปมันก็ถูกครับ เทคโนโลยีปัจจุบันมันไปเร็วมากๆ แต่ผมว่าการแปลตำรามันก็ยังมีข้อดีสำหรับคนที่เขาไม่สามารถจริงๆที่จะอ่านตำราจากเจ้าของภาษา ผมจึงว่าการแปล น่าจะเป็นทางเลือกนึง การทำ low-priced edition โดยไม่ต้องแปลแบบ india ก็น่าจะทำไปควบคู่กัน รู้ช้าหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่รู้เลยนะครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 26 March 2007 - 16:35 #18766 Reply to:18746
lew's picture

ไหนๆ ก็นอกเรื่องล่ะ ขออีกหน่อยแล้วกัน

โครงการนี้ผมเห็นด้วยด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างครับ อย่างแรกคือยากมากที่ทางสำนักพิมพ์จะมาเจรจาทำ LPE กับเรา เพราะเหตุผลว่า

- เราไม่จนพอ เมือเทียบรายได้เฉลี่ยทั้งประเทศเข้าใจว่าอินเดียจนกว่าเราพอสมควร (อันนี้ไม่แน่ใจ) - ตลาดเราไม่ใหญ่พอ ที่เขาจะมาง้อเรา (อันนี้แน่นอน)

ผมเชื่อว่าการไปซื้อลิขสิทธิมาโดยขอต่อรองราคาถูกๆ เช่นเหมาสำนักพิมพ์แล้วให้เงินไปเลยร้อยล้าน น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากสำนักพิมพ์้เหล่านี้ได้เงินจากประเทศเราไปไม่มากอยู่แล้ว ให้เขาเพิ่มไปตรงนี้เมื่อเทียบเม็ดเงินแล้วเขาได้เยอะกว่าเดิมแน่ๆ

ขณะที่การแปลจะทำให้คุยง่ายขึ้นเพราะจะสร้างกำแพงภาษาทันที ต่อให้เราแจกฟรีเป็น eBook ก็มีแต่คนไทยที่อ่านออกดังนั้นตลาดรวมเขาไม่เสียอะไร งานนี้ win-win ครับ ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: foxhound on 26 March 2007 - 21:42 #18795 Reply to:18766

การเรียนรู้ภาษามองผิวเผินก็เป็นความรู้โดดๆ แต่การเรียนภาษานั้น มันไม่ได้มีภาษาโดดๆนะครับ มันมี วัฒนธรรมของชาตินั้นๆอยุ่ในภาษานั้นด้วย การเข้าใจภาษา ถ้าเข้าใจผิวเผินมันก็ได้แค่ผิวเผิน ถ้าจะเข้าใจลึกซึ่ง ก็ต้องเข้าใจวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมของเจ้าของภาษา การแปลภาษา หรือการแปลตำรา จะช่วยย่นระยะเวลา ในการเข้าถึงความรู้ที่เราต้องการ ยุธศาสตร์การแปลตำรา ญี่ปุ่นเขาใช้มาแล้ว ไปลองดูที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ได้หมายวามว่าเราแปลตำราตามแบบญี่ปุ่นแล้วเราจะพัฒนาได้อย่างเขา เพราะตัวแปรมันมีหลายตัว ทั้ง ความอดทน ความชาตินิยม และการทำงานเป็นทีม เราสู้คนญี่ปุ่นไม่ไ้ด้ แต่เกาหลีสู้ได้แล้ว :)

By: Wintermute on 26 March 2007 - 21:52 #18796 Reply to:18766

โดยเฉลี่ยแล้ว รายได้ต่อหัวอินเดียคงจะจนกว่าเราแน่ครับ เพราะมีชนบทเยอะเหลือเกิน แต่สำหรับประชากรที่อยู่ในเมืองนั้น ไม่จนกว่าเราเท่าไหร่ และLicensed ส่วนใหญ่มักจะรวมๆไปถึง Maldrives ด้วย ซึ่ง รายได้ต่อหัวของ Maldirves น่าจะสูงกว่าไทยนะครับ (แต่ผมว่าชาว Maldrives คงไปทำงานโรงแรมกันหมด)

ในบังกาลอร์ อาหารกลางวันทั่วๆไปประมาณ 15-20 บาท ของอุปโภคบริโภค อย่างผงซักฟอก สบู่ แป้ง ยาสีฟัน ก็ใกล้เคียงกับไทย สิ่งพิมพ์ที่อินเดีย ค่อนข้างถูกนะครับ หนังสือพิมพ์หัวสี บ้านเขาราคาประมาณ 3 บาท เหมือนว่ารัฐบาลเขาค่อนข้างสนับสนุนเรื่องสิ่งพิมพ์ เงินเดือนบุคลากรทาง IT เริ่มต้นประมาณ 8,000 บาท ไปจนถึงหลายๆแสน ถ้าได้อยู่ในตำแหน่งอย่าง Business Process Outsourcing Planer คือถ้าไม่นับบางกอกเมืองฟ้าอมรแล้ว ค่าครองขีพในอินเดียก็เหมือนๆแถวภูธร บ้านเรา แต่คนอินเดียมีโอกาสทำเงินมากกว่าคนบ้านเราอีก

ผมจึงว่ารายได้สำหรับคนในวงการนี้ต่างกันไม่มาก ประเด็นจนก็ไม่น่าจะเป็นปัจจัยเท่าไหร่

-ตลาดไม่ใหญ่ อันนี้จริงครับ สำหรับประเทศที่ประชากรอ่านหนึงสือ ปีละ แปดบรรทัด ผมถึงอยากให้เราไป import LPE มามากกว่าครับ ถ้ามา reprint บ้านเราคงไม่คุ้ม

ตอนสมัยผมเรียน เป็นเด็กหอมีเงินใช้จ่ายเดือนไม่ถึง 2,000 เจอ text ปาเข้าไป 3,000 แล้วจุกครับ ขอเงินพ่อแม่ซื้อทีนี่ ไม่รู้ต้องขายข้าวกี่เกวียนถึงมาเป็นเงินซื้อ text บางทีเขาก็บ่นๆว่าลูกบ้านอื่น เรียนๆไปไม่เห็นใช้เงินซื้อหนังสือขนาดนี้ จบมาก็ได้เป็นปลัด เป็นผู้หมวด แล้ว

เรื่องที่ คนญี่ปุ่น ไม่เก่งภาษาอังฤษนี่ เชยแล้วนะครับ ตอนนี้คนญี่ปุ่นรุ่นไหม่เก่งภาษาอังกฤษแล้วครับ จะติดบ้างก็ตรงสำเนียง แต่เรื่องอ่านนี่ไม่เป็นปัญหาใหญ่อีกแล้ว รัสเซียตอนนี้ก็ใช่ย่อย จนอินเดียยังมองเลยว่าจะมาแย่งงานของคนอินเดียไป

By: foxhound on 26 March 2007 - 22:18 #18798 Reply to:18796

ถ้าจะบอกว่า ภาษาอังกฤษสำคัญที่สุดในโลก ต้องบอกว่าภาษาจีนกำลังแซง เพราะจีนกำลังโต แล้วอย่างนี้ประเทศไทย ต้องเรียนภาษาจีนในตำราเรียนด้วยไหม ผมมองในแง่การเข้าถึงความรู้ ถ้ามันเป็นภาษาไทย มันจะช่วยให้การเข้าถึงความรู้มันง่ายขึ้น เพราะไม่ปฎิเสธว่าความรู้ภาษาอังกฤษของเด็กไทยส่วนใหญ่ยังอ่าน เขียนไม่รู้เรื่อง แล้วยิ่งระบบการศึกษาใหม่ ที่เรียนห่วยยังไงก็ไม่มีวันสอบตก ผมเป็นห่วงว่า การศึกษาไทยกำลังดิ่งเหว เพราะหลานผมมันยังท่องสูตรคูณไม่เป็นเลย มิพักพูดเรื่องวิทยาศาสตร์แขนงอื่นๆ แล้วจะเอาความรู้ที่ไหนไปแข่งกับ จีน อเมริกัน อินเดีย ฯลฯ ประเด็นกำลังจะเหมือน OLPC น่ะแหละ ที่คิดกันแต่ว่า ถ้าเอาไปแจกเด็กแล้วเด็กเราจะพัฒนาเหมือนเด็กอเมริกัน เราลืมไปว่า ครูต่างหากที่เป็นส่วนสำคัญในการเข้าถึงความรู้พื้นฐานของเด็ก ขอย้ำว่าครูตัวเป็นๆนี่แหละมีความสำคัญต่อความคิดในการพัฒนาขั้นพื้นฐานของเด็ก(ถ้าโตแล้วก็ต้องไปต่อยอดความรู้เอาเอง)

ส่วนเรื่องบริการโทรศัพท์ห่วยแล้วบอกว่าต้องแปรรูปให้เอกชนเป็นเจ้าของแล้วประเทศเจริญ ผมคิดว่าประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราไม่มียุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศให้สร้างเทคโนโลยี หรือมีการต่อยอดในการสร้างเทคโนโลยีของเราเอง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาชาติ มากกว่า เพราะเราคิดง่ายๆว่า ขอให้ราคาโทรถูกๆ อย่างอื่นไม่สน ตอนนี้ บริษัทโทรคมนาคมที่มีอยู่ กลายไปเป็นของต่างชาติเกือบหมด แล้วเราก็ไม่มีเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคมของตัวเองแม้แต่น้อย เงินส่วนนี้ไหลออกไปต่างชาติปีละเท่าไร? ตกถึงมือคนไทยซักกี่บาท แล้วแบบนี้ยังจะฝันว่าจะพัฒนาได้ยังไง เพราะประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยีของเราเองเลย เราได้แต่บริโภคอย่างเดียว

By: Wintermute on 26 March 2007 - 23:36 #18804 Reply to:18798

อืม ผมไม่ได้บอกซักคำหรือพูดถึงเลยว่า ภาษาอังกฤษสำคัญที่สุดในโลก

ผมบอกว่า "อยากให้อ่านจากภาษาของเจ้าของเทคโนโลยี" พอดีตอนนี้ผมอยู่สาย IT ซึ่งเจ้าของเทคโนโลยีมักจะเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าอีกหน่อยไปผมเลิกทำด้าน it ไปเรียน กระบี่ก้าวเดียวดาย หรือ ฝ่ามือยูไล ผมก็คงศึกษาภาษาจีน เหมือนกัน

ภาษาไทยก็สำคัญครับ บางคนนี่อ่านภาษาไทยยังอ่านไม่แตกเลย

แต่เรื่องสูตรคูณนี่ผมเซ็งมากเลย ตอนผมเรียนประถม เป็นช่วงที่เขาเปลี่ยนหลักสูตรใหม่ ยกเลิกการท่องสูตรคูณไปแล้ว เวลาเลิกเรียนกลับบ้าน ลุงป้าน้าอา ถามใหญ่เลย ว่า วันนี้ท่องสูตรคูณถึงแม่อะไรแล้ว พอผมส่ายหน้าดิ๊กๆ เขามาว่าเด็กเดี๋ยวนี้โง่ สูตรคูณก็ท่องไม่เป็นกันละ โถ่ลุงวัดประสิทธิ์ภาพการเรียนของผมง่ายๆงี้เลยเรอะ จริงๆยัง เจออีกเยอะ ทั้งพ่อผู้ใหญ่ ลุงกำนัน ถามแต่สูตรคูณกันทั้งนั้น ยังกะว่าสมัยลุงๆเขาเรียนกันแต่สูตรคูณ พอเพาะปลูก ปีไหนอะไรราคาดี ก็ปลูกตามๆกันไปหมด ขายไม่ออก ราคาตก ก็ไปก่อม๊อบเททิ้งกันซะอย่างนั้น

ทั้งเรื่อง OLPC กะ LPE Book นี่สำหรับผมมองว่าเป็นการเพิ่มโอกาศในการเข้าถึงความรู้นะขอรับ ส่วนจะสำฤทธิ์ผลยังไงก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้อีกที เหมือนมีดที่วางอยู่ เอาไปดายหญ้าก็เป็นอุปกรณ์การเกษตร เอาไปกระซวงพุงใครก็เป็นอาวุธ

ส่วนเรื่องครูนี่เห็นด้วยครับ แต่ผมว่าโยนภาระให้ครูอย่างเดียวก็ไม่ถูก ขนาดลูกครูใช่ว่าจะได้ดีทุกคน ความรู้ก็ใช่ว่าจะอยู่แต่ที่หน้าห้องเรียน สังคมก็ต้องมีบทบาทด้วย โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยสังคมที่เล็กที่สุด

ถ้าบริษัทโทรคมนาคมเป็นของตนไทย 100% เงินที่ไปนำเข้าเทคโนโลยี ก็ต้องใช้เงินคนไทยไปซื้อเขามาหมด เงินไทยก็ไหลไปต่างชาติเหมือนกัน ถ้าพัฒนาด้วยเทคโนโลยีตัวเองหมด ก็อาจจะเริ่มด้วยการเอากระป๋องนมผูกด้าย มาไข้วกันไปก่อนสิครับ

การพัฒนาก่อนอื่นต้องพัฒนาด้วยสิ่งที่เรามีก่อน ผมว่าคนไทยเก่งเรื่องงานบริการนะครับ แต่ขณะเดียวกันงานบริการก็เป็นงานที่ถูกคนไทยบางคนเหยียดหยามว่าเป็นงานต่ำต้อยเหมือนกัน ต่างจากบางประเทศที่เขาจะให้เกียรติกับคนทำงานบริการมากกว่า

อีกอย่างที่เราน่าจะพัฒนาได้คือเรื่อง Content ครับ ช่วงนี้ยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ถ้าพัฒนาต่อไปจะก้าวหน้า อย่างงานโฆษณาเราก็มาแรงเหมือนกัน

By: foxhound on 27 March 2007 - 00:38 #18805 Reply to:18804

บริษัทคนไทย กำไรของบริษัทก็ตกกับผู้ถือหุ้นไทยสิครับท่าน ไอ้เรื่องกระป๋องนมผูกด้ายเนี่ย รู้สึกว่าจะดูถูกคนไทยกันเองมากไปหน่อยนะครับ ประเด็นแรก ประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยี เขาไม่ได้เริ่มที่สร้างเทคโนโลยีเองตั้งแต่แรกหมดนะครับ ก๊อปเขามาก่อนทั้งนั้น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน แรกๆก็อาจจะก๊อปปี้ห่วยๆ ต่อมาก็พัฒนาต่อยอดทั้งนั้น แรกๆคุณดูสิ สินค้าญี่ปุ่น เกาหลี นี่ห่วยแตกแล้วก็ค่อยๆพัฒนาจนเทียบชั้นแล้วก็แข่งกับอเมริกันทั้งนั้น ทั้งๆที่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรท่ีสมบูรณ์เหมือนอย่างไทยเลย ถ้าไม่เริ่มให้บริษัทในปทเข้มแข็งพอ เปิดเสรีไปทื่อๆก็เสร็จต่างชาติหมดสิครับ ลองดูเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ตราบใดที่เรารับจ้างทำเพาเวอร์ซัพพลายอย่างเดียว มันจะไปพัฒนาได้ยังไง ใต้หวันเขายังพัฒนาทำเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์จนมีชื่อเสียงได้ ผมไม่เชื่อวา่คนไทยจะทำไม่ได้ แต่เราไม่ให้โอกาสคนไทยกันเองตะหากเล่า แล้วเราก็ไม่มียุทธศาสร์ในการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง อีกประเด็นที่จะชี้ให้เห็นคือ กิจการโทรคมนาคมเนี่ยมันเป็นกิจการกึ่งผูกขาด เพราะต้องลงทุนสูง หากเปิดเสรีแล้ว บริษัทต่างชาติเนี่ยเขาก็จะได้เปรียบในเชิงทุนอยู่แล้ว ผมไม่เชื่อในทฤษฎีทุนเสรี เพราะในทางพฤตินัย คนได้เปรียบคือทุนใหญ่ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นทุนต่างชาติเสียด้วย ผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรที่เราไปยกสัมปทานให้ต่างชาติ ได้เศษเงินจากเขา ทั้งๆที่กำไรเนื้อๆเขาเอาไปกิน แม้แต่อเมริกันเขายังไม่ให้ต่างชาติมาทำธุรกิจสัมปทานโทรคมนาคมหรอก พวกนี้เป็นยุทธศาสตร์ชาติทั้งนั้น จีนเคยจะซื้อธุรกิจพลังงานอเมริกัน คองเกรสเขายังห้ามเลย คุณไปดูปตททุกวันนี้ที่บอกว่าขาดทุนน่ะ จริงๆมันกำไรเป็นพันๆหมื่นๆล้าน เพราะไปกำไรตรงค่าการกลั่น คนไทยซักกี่คนที่สนใจ เพราะตอนนี้ครึ่งนึงกำไรต้องไปให้สิงคโปร์ ไหนล่ะที่ขาดทุน?

By: Wintermute on 27 March 2007 - 04:40 #18850 Reply to:18805

บริษัทคนไทย กำไรของบริษัทก็ตกกับผู้ถือหุ้นไทย ถ้าขาดทุนหละครับ ใครสูญครับ คนไทย ธุรกิจโทรคม ไม่ใช่จะกำไรอย่างเดียวนะครับ ขาดทุนยับเยินก็มี Motorola เผา ดาวเทียมอิริเดียม ขาดทุนเป็นหมื่นล้าน$ มาแล้ว ขนาด TAC ตอนนั้นโดนหางเลขยังสูญเป็น ร้อยล้านเลย True ตอนนี้ก็ยังไม่คืนทุนเลย Orange ไทยก็เจ็บตัวไปไม่น้อย

ดูถูกคนไทย อืม ดีกว่าดูผิดมังครับ แหะๆๆพูดเล่น

แต่ถ้าเราจะเริ่มจากเทคโนโลยีของเราเองไม่นำเข้า ให้เงินอยู่ในมือคนไทย 100% (ตอนก่อสร้างก็อย่าจ้างแรงงานพม่าด้วย) ก็คงต้องใช้กระป๋องนมผู้ด้ายหนะครับ บริษัท อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ในไทยเองก็มีต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้น (อืมกระป๋องนมท่าทางจะมีหุ้นด้วยแฮะ เปลี่ยนเป็นกระบอกไม้ไผ่ดีกว่า)

ผมไม่ได้คิดเลยนะครับเรื่องจะทำเองหมด ถึงได้บอกว่า ยืนอยู่บนไหล่ยักษ์ แต่ถ้าคุณจะอยากให้เงินมันอยู่กับคนไทยหมด ก็ต้องทำเองอย่างที่ว่า

ญี่ปุ่น ใต้หวัน หรือ เกาหลี ไม่ได้เริ่มมาจาก ศูนย์ นะครับ ประเทศเหล่านี้เคยอยู่ภายใต้อารักขาของ อเมริกาทั้งนั้น มีบริษัทอเมริกาเข้าไป ลงทุนช่วยเหลือด้าน อุตสาหกรรมส่วนประกอบ เพื่อเป็นแหล่งอะไหล่ราคาถูกป้อนเข้าโรงงานอเมริกัน

ญี่ปุ่นเองก็มีศักยภาพทางอุตสหกรรมสูงมากอยู่แล้วนะครับ ไม่งั้นคงบุกไป ครึ่งเอเซีย ตอนสงครามโลก จนทำให้อังสุมาลิน ต้องมาเป็น คู่กรรมกับ พ่อโกโบริ ตอนแรกนี่ เครื่องบิน Zero ของญี่ปุ่น นี่สหรัฐแทบต่อกรไม่ได้เลย จนต้องพัฒนาเครื่อง Crusader ขึ้นมาสู้ได้ในภายหลัง พอมาผลิตสินค้า ขยับปรู๊ดเดียวก็ตีราคาได้ทั่วโลกแล้ว

อืมเรารับจ้างทำ power supply อย่างเดียวเหรอครับ ผมผ่านไปแถวรังสิตอุตส่าห์ดีใจว่าเรามีโรงงานผลิต Harddiks แล้ว สงสัยเป็นที่ขายเสื้อผ้าชื่อ ประตูทะเล แข่งกับประตูน้ำมัง

แล้วคุณยังยืนยันเหรอครับ ว่า Orage หรือ T-Mobile ที่ให้บริการในอเมริกาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับต่างชาติ อืมสงสัยผมคงพลาดไปเองแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

คุณเห็นว่า ไม่จะมีประโยชน์อะไรที่เราไปยกสัมปทานให้ต่างชาติ แต่รัฐบาลเขาเห็นนะครับ (อย่ามาโทษทักษินนะครับ เราได้ให้ต่างชาติสัมปทาน สิ่งเรายังไม่มีความถนัด ตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยาแล้วครับ) มีประโยฃน์ต่อชาติแน่ครับ ถ้าสัมปทานนั้นไม่มีผลประโยชน์ซ่อนเร้นเพื่อใครบางคนโดยเฉพาะ

เอาไว้คุณตั้งพรรคการเมือง ก็บอกนะครับ ชูนโยบายเลยว่า ขับไล่นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับผลประโยชน์ออกไปให้หมด นอกจากลงทุนไม่หวังผลตอบแทนให้อยู่ได้ ผมจะได้ได้เตรียมตัวถูก

By: foxhound on 27 March 2007 - 22:21 #18970 Reply to:18850

โรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์ เจ้าของก็ฝรั่งทั้งนั้น ผมมองในแง่การลงทุน ถ้าคุณปล่อยให้ต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลมากๆเข้า หรือมีการผูกขาดตลาดโดยทุนต่างชาติ หรือทุนขนาดใหญ่ ลูกหลานคุณเองน่ะแหละจะอยู่ไม่ได้ คุณอาจจะมองแค่ขอให้ตัวเองรวย อนาคตช่างมัน ก็จนใจ ขอลา

By: kitty on 6 April 2007 - 13:07 #19891 Reply to:18746

ไปเวียดนามตั้งแต่ปี 2538 เห็นมีหนังสือคอมพิวเตอร์ที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ ใช้กระดาษคุณภาพต่ำวางจำหน่ายในร้านหนังสือเยอะมาก ยังรู้่สึกอิจฉาคนเวียดนามเลยเพราะตอนนั้นซื้อ text อ่านเล่มละ เป็นพัน(25 บาท/ดอล)

By: ม่อน on 26 March 2007 - 15:32 #18759

กระทู้ค่อยมีสาระหน่อย :)

By: Conductor
WriterAndroid
on 26 March 2007 - 21:07 #18787

ข่าวไม่แปลนี่ผิดกติกา blognone หรือเปล่าครับ

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมเสนอรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาแก้ไขชื่อกระทรวงไอซีที เป็นกระทรวงซีเฉยๆครับ ถึงอย่างไรไอทีก็ค่อยไม่ทำมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเกียร์ว่างเอาตอนนี้

By: mk
FounderAndroid
on 26 March 2007 - 21:16 #18790 Reply to:18787
mk's picture

เพิ่มเป็นลิงก์ให้ในเนื้อข่าวละกันครับ

By: kitty on 6 April 2007 - 13:02 #19890

ปลัดมันคือเสือกระดาษเราดีๆ นี่เอง _5555