By: arjin 
on 3 March 2013 - 17:44
Tags:
Topics:
ภายหลังจากยาฮูได้มีคำสั่งภายในห้ามพนักงานรีโมทจากที่บ้านเข้ามาเพื่อทำงาน โดยทุกคนต้องมาทำงานที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น มันได้กลายเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันอย่างมาก เพราะในมุมหนึ่งการให้พนักงานทำงานที่บ้านคือความยืดหยุ่นและเพิ่มคุณภาพชีวิตพนักงาน ผู้บริหารหลายบริษัทก็ออกมาให้ความเห็นว่าบริษัทของตนจะไม่มีการห้ามแบบยาฮูแน่
แต่สาเหตุที่ยาฮูตัดสินใจแบบนี้นั้น ซีเอฟโอ Ken Goldman เปิดเผยว่าเรื่องมันเริ่มจากซีอีโอ Marissa Mayer ตั้งข้อสังเกตว่าที่จอดรถบริษัทค่อนข้างโล่ง จึงได้ติดต่อขอดูข้อมูลล็อกการใช้งาน VPN ของบริษัท จากนั้น Mayer ได้นำเสนอข้อมูลนี้ต่อผู้บริหาร ซึ่งสรุปออกมาว่าการใช้งาน VPN ออกมาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถ้าหากพนักงานทำงานอยู่ที่บ้านจริง เธอจึงออกนโยบายห้ามด้วยเหตุผลนี้นั่นเอง
ที่ผ่านมา Mayer มีประวัติการบริหารแบบใช้ข้อมูลตัวเลขประกอบการตัดสินใจที่เข้มข้นมากกว่าใช้ความรู้สึก เธอเคยรับผิดชอบการออกแบบหน้าแรกของกูเกิล และเลือกการออกแบบที่ดีที่สุดโดยใช้ข้อมูลการคลิก และระยะเวลาตอบสนองเป็นหลัก ไม่มีการพิจารณาในแง่ความสวยงามแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวระบุว่าหลังนโยบายนี้ประกาศออกไป บรรยากาศระหว่างพนักงานในยาฮูก็มีความตึงเครียดมากขึ้น
ที่มา: Business Insider และ All Things D
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ตีความง่าย ๆ ได้ว่า พนักงานอู้งาน นั่นเอง ...
(หรือไม่ก็ใช้วิธีที่ไม่ปลอดภัยในการทำงาน)
หรือแปลอีกอย่างว่า "อยู่บ้านก็ไม่ได้ทำงานอย่างที่อ้าง" นั่นเอง
คงมีพนักงานหลอกกินเงินเดือนฟรีด้วยวิธีนี้อยู่ไม่น้อย...
ใจร้าย VPN มันคือสิ่งจำเป็นของ Dev นะ
ใช้ในกรณี BCP อย่างเดียวก็พอแล้วครับ
BCP คืออะไรอะ ผมใช้เข้าไปแก้งานด่วน ดึกๆ ให้ออกจากบ้านก็ไม่ไหวนะ
นั่นคือเคส BCP ไงครับ แบบถ้ามีงานด่วนนอกเวลาก็ VPN เข้ามาได้
แต่เคสที่เค้าบังคับให้มาทำงานที่ บ เพราะพบว่าพนักงานอยู่บ้านก็ไม่เห็นจะต่อ VPN เข้ามาทำงาน
Business Continuity Plan แผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ธุรกิจยังรันต่อไปได้ครับ
-
ทำงานที่บ้านเหมือนจะดี แต่เป็นไปได้ยาก
อยู่บ้านก็ขี้เกียจ นอน เล่นเกม กิน ข้อมูลรั่วไหลก็ง่าย -*-
นะ .. ซื่อสัตย์กันซะแต่แรกก็ไม่มีปัญหา
มิน่าบริษัทเลยขาดทุน
blog
ขอดูหน้าเว็บที่คุณ Mayer เป็นคนเลือกและดูแลหน่อยสิครับ
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
บริษัทไทยจึงไม่กล้าด้วยเหตุนี้เอง
มีคนต่างชาติที่มาทำที่ผมรู้จัก พยายามจะทำเหมือนกันครับ เพื่อให้ไม่มีค่าใช้จ่ายด้าน Offfice
ไม่รู้สรุปว่ายังไงบ้าง
อ.ผมทำ แล้วก็ ประสพความสำเร็จระดับหนึ่งครับ
เห็นว่ากำลังจะจดทะเบียนเป็นบริษัทเร็ว ๆ นี้ (ตอนนี้ยังเป็น คณะบุคคล อยู่)
แปลว่าอ.แกได้ลูกน้องดี =v=)b
ผมมองว่าถ้างานเป็นลักษณะที่มอบเป็น job แต่ละ job มี deadline ที่แน่นอนมันก็จะลดไปหาไปได้เยอะครับ
จำเลยเปลี่ยนข้างแล้ว ?
มันก็งี้แหละ ฝรั่งก็ไม่ได้มีระเบียบแบบที่เราคิดไว้เสมอไป ^^
ตอนแรกคิดว่าเธอแรงไปหน่อย พอรู้เหตุผลเข้า... เอ่อ สมควรแล้ว
Jusci - Google Plus - Twitter
ความเห็นส่วนตัว...การที่กลับมาอยู่บ้านมันทำให้มีอะไรที่จะพาเราไปจากงานที่ทำอยู่ได้ง่ายกว่าที่ทำงานแล้วหากเป็นที่ทำงานเลี้ยงข้าวด้วยแล้วผมว่ามันก็หน้าทำงานนะ
ก็ดีครับ
Billing for Unified Communications
เป่าหมาย Product นี้ คือ เก็บ Log ด้าน Network ( และ Pop-up ดูรายละเอียด @ สัมพันธ์ ...กัน ) ทั้งหมด ทั้ง VoIP, E-Mail, Chat หรือ อื่น ๆ ที่สำคัญ คือ Document Workflow เพื่อการรักษาความลับของธุรกิจ
ปล. ส่วนตัว ผมมองว่า น่าจะใช้ข้อมูลนี้ ...ไล่ พนักงานออก มากกว่า
VoIP กำลัง …ล้าสมัย
ทั้ง Microsoft, Oracle & Cisco กำลังสร้าง Platform สำหรับ UC # Unified Communications โดย Microsoft ได้เปรียบที่มี Application ครบทุกด้าน ขาดแต่ดึงมารวมกันเป็น UC เท่านั้น ส่วน Oracle กำลังพัฒนา Java EE for Unified Communication
สำหรับ Telecom ค่ายอื่น ๆ ต้องหวังพึ่ง OpenSource เท่านั้น
WCF # Unified Framework
WCF # Windows Communication Foundation ซึ่งมีอยู่ตั้งแต่ .NET Framework 3.0 เป็นต้นมา Microsoft ถือว่า เป็น Unified Framework หรือ Unified Protocol ของ Microsoft โดยต้องพัฒนาบนพื้นฐาน SOA : Service-Oriented Application / Architecture
ทำงานวันละ 8 ชั่วโมงมันคิดไม่ออกอ่ะ ถ้าออฟฟิตไม่ใช่แบบกิน ขี้
บี้นอนในตัว สำหรับผมคงยากครับบี้ The Ska?
เหตุผลคือป้องกันการอู้งาน ก็น่าฟังครับ มันขึ้นอยู่กับการควบคุมนะ สมัยผมทำที่ Yahoo! ผู้บริหารก็ไม่ค่อยอยากให้ทำงานจากบ้าน แต่นานๆ ทีก็ปล่อยให้ทำงานจากบ้านได้
ผมทำจากที่บ้าน 100% มาเกือบปี พบว่า ต่อให้เราปรับ mindset เราได้ว่าขณะนี้ทำงานอยู่ แต่ยากที่สุดคงเป็น mindset คนรอบข้างครับ จังหวะยุ่งสุด ๆ ลุกไปหาน้ำกินสักแก้ว กลับมาอีกที เมียยึดคอมไปเก็บผักเฉย
อันนี่เงิบ ส่วนของผมเวลามั่วสะเบ่สะป่ะ ตี1-2มานั่งเขียนควบคู่ก่ะการดูสงครามบิกินนีช่องญี่ปุ่น=A=)/กำลังใจการทำงาน
ทำงานที่บ้านเหมาะกับคนโสดครับ
ถ้ามีครอบครัวแล้วและมีลูกน้อย แล้วหมดสิทธิ์
สายตาของแม่เด็กจะคอยจ้องจังหวะให้เราอุ้มลูกตลอด
ไม่งั้นก็พ่ออุ้มหนูหน่อยๆๆๆ เสร็จกันเลยคราวนี้
ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ...
..อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของงานสายไอทีรับคนอายุไม่เกิน 30 ปี
ประสบการณ์ตรงสินะครับ
โสกก็ไม่เว้นครับ งานยุ่งๆโดนเรียกไปทำอย่างอื่นเฉย พอปฏิเสธก็ว่าเณรคุณ
เจริญครับ
+1
จริง ๆ น่าจะให้ยกเว้นเฉพาะบางแผนก เกิดมีปัญหาอะไรตอนดึก ๆ ให้ขับรถบึ่งมาออฟฟิตนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ
ถ้าตอนกลางคืนก็คงได้แหละครับ แต่ตอนกลางวันดันไม่ยอมทำงานนี่สิ
เค้าไม่ได้ห้ามใช้ VPN นอกเวลางานมั้งครับ
จริงๆ แล้วผมคิดตั้งแต่ข่าวก่อนแล้ว
คงไม่มีใครอยากจะๆปเผลี่ยนวัฒนธรรมแบบกะทันหันอย่างนี้หรอกครับ ผลงานมันชี้ชัดนะ บริษัทก็ยังร่อแร่ถ้าไม่ช่วยกันเห็นทีก็คงต้องอัญเชิญไปที่อื่น
ถ้าว่างจนเขียนอัลกอริธึมบีบอัดแบบใหม่ได้ก็ว่าไปอย่าง
อัญเชิญไปที่อื่นนี่ CEO หรือพนักงานที่อู้ครับ? ขอถามย้ำเอาแน่ใจ เดาเองผมไม่ชัวร์
ฮ่า ... ถ้าเป็นแบบยาฮูนี่ต้องเชิญคนที่กินเงินเดือนเสียเปล่าครับ
แต่ถ้าเป็นที่อื่นๆ ก็คงให้คนอื่นออกอยู่ดี ยังไม่เคยเห็นผู้บริหารคนอื่นคิดว่าตัวเองผิด -__-
ต้องถามคนที่ทำงานอยู่บ้านว่างานที่ Yahoo! เป็นงานหลักหรือรอง -_-"
my blog :: sthepakul blog