Tags:

openSUSE 10.2 ออกมาทีหลังน่าจะดีกว่าใช่เปล่าครับ หรือมันใช้งานคนละประเภท

แล้วถ้าต้องการใช้ทำ Home server ควรเลือกตัวไหนดี? ขอบคุณครับ

Get latest news from Blognone
By: survivalsin on 15 March 2007 - 00:15 #18014

ไม่มีใครมาตอบเลยแฮะ.. พอดีไปเจอที่เค้า comment ไว้นะครับ เอามาให้ดูกัน..

%%%

Q: I can't really see the difference between openSUSE 10.2 and SLED, except for in OpenOffice. What exactly does SLED do better?

A: There is not too much difference between SLED 10 and openSUSE 10.2 (Gnome). Except that there are literally hundreds of more packages available for openSUSE (even out of the box).

SLED is more similar to openSUSE 10.1 (but still without many, many useful packages).

openSUSE is a desktop and/or server distribution. SLED is Novell's opinion of what a desktop distribution should contain. The only problem is that *ix was never about either/or but rather always about having access to everything so that a local admin could choose the packages they wanted.

Even worse, SLES, is strictly a server and does not contain hundreds of useful packages that a desktop user might want. Granted, I can understand about not wanting to support a lot of packages in SLES (it's cheap!), but SLES is expensive, and I see no good reason why SLES can't be deployed has a "server" or as a "desktop". I have talked to Novell directly about this, and everyone I've talked to thought I had a good idea... so maybe SLES 11 won't be so stupid.

%%%

ยังงงว่าตกลง SLED นี่เค้าให้ใช้ฟรีหรือต้องเสียตังค์ เห็นในเว็บมันให้ทดลอง 60 วัน หลังจากนั้นไม่ support แปลว่าไรอ่ะ ปกติเราก็ไม่ใช้ support อยู่แล้วนี่?

อยากเปลี่ยนมาใช้ Linux เร็วๆจัง..

By: Xrickung on 24 November 2007 - 00:17 #36057

พอดีมันเกี่ยวกับงานที่ผมทำ ก็ขอตอบหน่อยแล้วกันนะครับ

ทั้งSLES และ SLED ใช้ฟรีครับ ค่า License ในที่นี้คือการซื้อ support จาก Novell เท่านั้น เช่น พวก Technical support(สอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์),Document หรือ บริการดาวน์โหลดข้อมูลจาก Online Repositopry ของ Novell

ระยะเวลา 60 วันที่คุณเห็นในเว็บไซต์ นั้นคือ ช่วงEvaluation ซึ่งจะทำให้คุณมีสิทธิในการดาวน์โหลดหรืออัพเกรดซอฟแวร์ได้ฟรีผ่านทาง Internet หากครบ 60 วันแล้วคุณไม่ต้องการต่อ License คุณก็ยังคงใช้งานฟรีต่อไปตราบจนกว่าเครื่อง PC ของคุณจะพังครับ เพียงแต่คุณจะไม่สามารถสอบถามข้อมูลหรือรับบริการใดๆจาก Novell ได้เท่านั้นเอง

ข้อแตกต่างระหว่างตัว Enterprise และ Open คือ

1.Suse Linux Enterprise

  • SLED เหมาะสำหรับ Desktop User ทั่วไปหรือบุคคลในองค์กร ที่มีพื้นฐานความรู้ทางด้าน IT ไม่มากนัก และไม่ต้องการแบกรับภาระการแก้ปัญหาที่เกิดจากตัวระบบปฏิบัติการ เช่น Hardware, driver,.....ซึ่งเป็นปัญหาหลักของ Linux หรือ การ conflict กันระหว่าง software Version บนเครื่อง พูดง่ายๆคือลง SLED เสร็จแล้วสามารถใช้งานฟังก์ชั่นพื้นฐานทั่วๆได้ทันที ตัวอย่างเช่น ดูหนัง ฟังเพลง เปิดเว็บ พิมพ์งาน แชท งานกราฟฟิคหรืออื่นๆ ข้อดีคือช่วยลดต้นทุนและช่วยลดภาระให้ Admin

  • SLES เหมาะสำหรับบุคคลในองค์กรทีีมีความรู้ทางด้าน IT สูง เช่น Admin หรือ Engineer ทั้งหลาย เหมาะสำหรับใช้ลงเป็น Server ที่ให้บริการ service ต่างๆทีสำคัญๆ เช่น NIS,DNS,High Availability,Web server,Database Server หรืออื่นๆอีกมากมาย หลายคนเข้าใจผิดว่ามีแต่ Text-mode จริงๆแล้วมี X-Window มาให้เช่นกัน แต่ส่วนมากจะเห็นใช้กันในแบบ text mode เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรเครื่องนะครับ

2.OpenSuse

  • เหมาะกับการใช้งานตามบ้าน(Home User) นักพัฒนา หรือผู้ที่ชอบค้นคว้าทดลองสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ เนื่องจากประกอบไปด้วยSoftware ที่หลากหลาย ทำให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างกว้า่งขวาง และที่สำคัญซอฟแวร์ต่างๆจะมีการอัพเดทอยู่เสมอๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนระบบได้ตามความต้องการของผู้ใช้เอง

สรุป

Enterprise
เหมาะกับการใช้งานเชิงธุรกิจ ที่ต้องการลดความเสี่ยงและระยะเวลาในการแก้ปัญหาจากการใช้ OS กล่าวคือ ให้ user ใช้มันทำงานของเค้าได้ก็พอ

Open
เหมาะกับการใช้ในงานวิจัย การพัฒนา Opensource หรือผู้มีความรู้ หรือผู้ที่ไม่ต้องการใช้วินโดว์ หรือเพื่อความบันเทิงตามบ้าน (จริงๆก็เหมาะกับทุกๆคนอ่ะแหละ อิอิ) ที่ใช้งานแบบขำๆ (หรืออาจไม่ขำ) และไม่ Critical เท่ากับงานในเชิงธุรกิจ

ปล.ผิดถูกอย่างไรขออภัยนะครับ มือใหม่หัดโพส

ปล2.ใช้ตามบ้าน ผมแนะนำตัว Open ครับ เพราะ Software จะครบกว่า

By: vmlinix on 24 November 2007 - 08:05 #36085

ปกติ openSUSE จะออกก่อนประกอบด้วยซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่มีในขณะนั้น ประเด็นว่าใหม่ล่าสุดอาจจะมีข้อดี และข้อเสี่ยง เช่น มีบั้กหรือไม่ ได้รับการทดสอบมากพอหรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนใช้ลินุกซ์ ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาการแฮงค์เมื่อใช้ไทยปนอังกฤษที่เกิดกับ OpenOffice.org รุ่นล่าสุด 2.3.0 เป็นต้น แต่ผู้ที่เลือกใช้ลินุกซ์ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นพวกที่มีความรู้พื้นฐานพอสมควรอยู่แล้วเรื่องพวกนี้คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

แต่สำหรับผู้ใช้ในองค์กรเขาอาจจะไม่ได้เป็นผู้เลือกที่จะใช้ อาจจะมีคนอื่น (เจ้านาย)เลือกให้ใช้ ในแง่ความรู้พื้นฐานด้านลินุกซ์ก็คงไม่เหมือนกลุ่มข้างบน ตรงนี้ผมว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่ Novell นำมาทำธุรกิจ และเพื่อเป็นการลดปัญหาในการใช้งานในองค์กร ผมมีข้อสังเกตว่า Novell น่าจะมีแนวคิดแบบนี้

1) หลังจากปล่อย openSUSE ออกไปสักพักน่าจะได้รับ feedback เรื่องบั้กต่างๆ ที่อาจจะมี หรือการแก้ไขพอสมควรแล้ว - เพิ่มระดับความเสถียร และลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

2) เลือกซอฟท์แวร์มาจัดชุดใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้ใช้ในองค์กรเรียก Suse Linux Enterprise โดยแบ่งกลุมออกเป็น SLED กับ SLES - เพราะถ้าผู้ใช้ไม่มีความรู้ด้านนี้ คงเป็นเรื่องเจ็บปวดที่จะต้องมาเลือกซอฟท์แวร์ที่จะลงเอง ตามที่คุณ Xrickung ได้อธิบายไว้อย่างละเอียดแล้วครับ

สรุปสำหรับคำถามข้างต้น

openSUSE ดีกว่า SUSE Linux Enterprise Desktop หรือเปล่าครับ?

ขึ้นอยู่กับว่าต้องการอย่างไร ถ้าต้องการฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดน่าจะเลือก openSUSE ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องใหม่สุด เลือกที่จะเจอปัญหาน้อยกว่า ทางออกน่าจะเป็น Suse Linux Enterprise

ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องซอฟท์แวร์ต่างๆ ก็ลงเพิ่มทีหลังได้อยู่แล้ว อย่างเช่น SLED ก็สามารถเอามาทำเซิร์ฟเวอร์ได้ โดยลงพวกซอฟท์แวร์เซิร์ฟเวอร์เพิ่ม ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

เคยลองทั้ง openSUSE, SLED, SLES ก็ไม่ได้แตกต่างกันเราสามารถที่จะเลือกซอฟท์แวร์ที่จะลงหรือไม่ลงได้ตามต้องการอยู่แล้ว

ตอนนี้เลือกใช้ openSUSE ทำทั้งเซิร์ฟเวอร์ และใช้เป็น desktop (laptop) ด้วยครับ