Tags:

เผื่อใครมีความเห็นเพิ่มเติมนอกจากการลงชื่อ ให้มาโพสในนี้นะครับ

Get latest news from Blognone
By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 17 November 2006 - 00:24 #12341
lew's picture

อยากจะให้เพิ่มเนื้อหาที่ว่า ผู้ผลิตซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สยังสามารถจำหน่ายซอฟตฺ์แวร์ภายใต้ license แบบอื่นได้ ยอกตัวอย่างเช่น FFTW (้http://www.fftw.org) หรือ Qt (http://www.trolltech.com) ซึ่งเผยแพร่ซอฟต์แวร์สองแบบ แบบหนึ่งภายใต้ GPL และอีกแบบหนึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถดัดแปลงซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ดัดแปลงแล้วเหมือนซอร์แวร์โอเพนซอร์สอื่นๆ ได้

เป็นความเห็นของคุณ Pramook ครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: ต้น@212cafe.com on 17 November 2006 - 00:47 #12353

เวลามองอะไรอ่า มองให้หมดทั้งสองด้านนะครับ ผมไม่ได้ว่า Open Source ไม่ดี แต่ว่าคนที่ support อย่างเป็นทางการมันไ่ม่มี งานบางอย่างมันไม่ได้ทำเล่น ๆ เค้าไม่ได้มามองว่าใช้อะไรทำ มองแค่ให้มันทำงานได้ แล้วเวลามีปัญหามีคน support ไม่ให้ธุรกิจเค้าเสียหาย พวก software commercial เค้ามี support ตรงนี้ครับ ..

สมัยผมเด็ก ๆ ผมก็คิดแบบคุณแหละ แต่เวลาเปลี่ยนไป บางอย่างก็ต้องคิดให้มันรอบคอบขึ้น .. ทุกอย่างมันมีข้อดีของมัน ไม่อย่า่งนั้นพวก MS คงอยู่ไม่ได้หรอกครับ ..

การสนับสนุน Open Source เป็นสิ่งที่ดี ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมเองก็ใช้มาตลอด และทำเพิ่มเติมด้วย แต่บางทีความเชื่อมั่น ในส่วนนี้ สำหรับเมืองไทยของเราแทบจะไม่มี ถ้ามีก็จะแพงกว่า พวก software commercial ..

Everybody Imbalance ..

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 17 November 2006 - 00:57 #12362
lew's picture

ในฐานะที่เป็นผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับกลาง ขอเสรืมว่า แย่มากหากจะไม่ส่งเสริม Open Source ไม่เช่นนั้นแล้ว จะไปพัฒนาทันกับบริษัทเฉพาะทางได้รึ

ICT น่าจัดการเรื่องคอขวดของระบบ Internet ที่เชื่อนกับต่างประเทศก่อนดีกว่ากระมัง Submitted by ปีติ หวังชูเชิดกุล (not verified) on 17 November, 2006 - 00:53.


lewcpe.com, @wasonliw

By: ooITE@KMITL on 17 November 2006 - 01:12 #12367

หากไม่คิดที่จะลงทุน มีหรือจะได้สิ่งดีๆกลับมา อยากแต่จะเห็นความพัฒนา อย่างนี้คงไม่ได้อะไร

By: rerng007 on 17 November 2006 - 01:23 #12371

เห็นว่าสมควรรีบส่งจดหมายฉบับนี้ โดยเร็วที่สุด นัดรวมพลเมื่อไหร่ บอกทาง Blognone ได้เลยจะไปทันทีครับ

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 17 November 2006 - 01:33 #12377
keng's picture

เวลามองอะไรอ่า มองให้หมดทั้งสองด้านนะครับ ผมไม่ได้ว่า Open Source ไม่ดี แต่ว่าคนที่ support อย่างเป็นทางการมันไ่ม่มี งานบางอย่างมันไม่ได้ทำเล่น ๆ เค้าไม่ได้มามองว่าใช้อะไรทำ มองแค่ให้มันทำงานได้ แล้วเวลามีปัญหามีคน support ไม่ให้ธุรกิจเค้าเสียหาย พวก software commercial เค้ามี support ตรงนี้ครับ ..

สมัยผมเด็ก ๆ ผมก็คิดแบบคุณแหละ แต่เวลาเปลี่ยนไป บางอย่างก็ต้องคิดให้มันรอบคอบขึ้น .. ทุกอย่างมันมีข้อดีของมัน ไม่อย่า่งนั้นพวก MS คงอยู่ไม่ได้หรอกครับ ..

การสนับสนุน Open Source เป็นสิ่งที่ดี ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมเองก็ใช้มาตลอด และทำเพิ่มเติมด้วย แต่บางทีความเชื่อมั่น ในส่วนนี้ สำหรับเมืองไทยของเราแทบจะไม่มี ถ้ามีก็จะแพงกว่า พวก software commercial ..

Everybody Imbalance .. Submitted by M$ (not verified) on 17 November, 2006 - 01:31.

By: panuta
iPhone
on 17 November 2006 - 02:17 #12394

Do you think the content in this letter containing too much technical terms ... I don't think the minister will understand this letter clearly ... This is not for teasing him, I'm serious.

e.g. Integrate to solution, Proprietary Software, Patch, TON NHAM, and more (Sorry It's impossible to use this computer typing in thai).

----------------------- http://www.seasandsong.com/

By: เชกูวารา on 17 November 2006 - 05:06 #12414

สวัสดีครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติมเกี่ยวกับตัวจดหมายเปิดผนึก นะครับ

จริง ๆ ผมอยากร่วมลงชื่อด้วย เพราะเป็นคนหนึ่งที่ใช้งานซอร์ฟแวร์อยู่ แม้จะไม่ได้ใช้มากมายอะไร เหมือนคนวงการไอที ก็ตาม ...แต่เห็นคุณเทพ บอกว่า อาจจะแก้ไขจดหมายอีกรอบ...(แหะ ๆ) ก็เลยแอบชะลอไว้ก่อนครับ เพื่อรอจดหมายตัวสุดท้าย ...

นอกจากนี้ เลยขออนุญาตลองเสนอแนะในประเด็นเกี่ยวกับ ถ้อยคำ และเป้าหมายของจดหมาย ฯ นี้ นิดหนึ่ง ดังนี้ครับ

๑. "คำขึ้นต้น" นอกจาก เราไม่ต้อง ใช้ "เรียน และ เรื่อง" แล้ว เราน่าจะกล่าวไปด้วยว่า เราทำในนามใคร (เช่น ดังรายนามที่ลงท้ายจดหมายนี้) เพื่อเจาะจงกลุ่มให้ชัดขึ้น

"คำลงท้าย" เราไม่ต้องลงท้ายแบบข้าราชการรายงานเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชา ก็ได้นะครับ คือ ไม่ต้อง หรือ ไม่ควรใช้คำว่า "จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา" ทั้งนี้เพราะ เป้าหมายของเรา ... เราไม่ได้ต้องการรายงานอะไรให้เจ้ากระทรวงไอซีทีทราบหรือพิจารณาอะไรแล้ว ?

แต่เราต้องการแสดงความไม่เห็นด้วย หรือประท้วงคำพูด (ไม่ได้ความ) ของเขา และเราต้องการ ให้ข้อมูลอีกชุดหนึ่ง ที่เราคิดว่า "นี่ต่างหาก คือ สิ่งที่ถูกต้อง" ซึ่ง ถ้าเราเชื่อมั่น ในความเข้าใจตรงนี้แล้ว จึงย่อมไม่สำคัญเลยนะครับว่า เจ้ากระทรวงไอที จะเห็นด้วยกับหรือไม่

๒. "เป้าหมายของตัวจดหมาย" เราอาจจะลองทำให้ชัดเจนกว่านี้อีกนิดหนึ่ง แน่นอน ๑. เพื่อบอกว่าโอเพ่นซอสดีอย่างไร แต่เราก็ควรต้องสื่อ ให้ได้ด้วยว่า ๒. เรากำลังประท้วงถ้อยคำไร้วิสัยทัศน์ของเจ้ากระทรวงไอซีที อยู่นะ (ผมเห็นว่า เราไม่น่าใช้คำว่า "เราไม่ขัดข้องที่ท่านจะ....) และ นอกจากนี้ ควรมีเป้าหมายข้อ ๓. ด้วยนะครับ คือ "ข้อเสนอแนะ" หรือ "ข้อเรียกร้อง"

เพราะแทบจะเป็นปกติเลยทีเดียวว่า ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับวิธีคิด หรือ ถ้อยคำของใครคนใดคนหนึ่งแล้ว เราก็ควรนำเสนอด้วยว่า เราอยากได้ยินอะไร เราอยากให้เขาปรับความเข้าใจอะไร หรือเราอยากเห็นนโยบายรัฐในเรื่องนี้ อย่างไร ?

การโต้แย้ง หรือ ชี้แจง เพียงอย่างเดียว ด้วยเนื้อความ ที่แทบจะกลายเป็นเพียง "จดหมายชี้แจง" ไม่ใช่ "จดหมายเปิดผนึก" ตรงนี้ ย่อมไม่ต่างกับการ "บ่น" โดยไร้จุดหมาย และอาจทำให้น้ำหนัก และ ความแข็งแรงของตัวจดหมายมีไม่มากเท่าที่ควรครับ ...แอบคิดไปด้วยว่า หากคนไอทีรวมตัวกันได้ และจะส่งเสียงไปยังรัฐบาลทั้งที ก็น่าจะลองเสนอแนะอะไรดี ๆ พ่วงไปด้วยในครั้งนี้เลย (จะได้ไม่เสียเที่ยว แหะๆ)

๓. เป็นไปได้หรือไม่ว่า เราอาจเลือกใช้คำที่กระชับ แบ่งข้อให้น้อยที่สุด แต่ครอบคลุมที่สุด เท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้เพื่อให้ สื่อนำไปลงทั้งหมดโดยไม่ตัดทอน หรือ แม้แต่ ทำให้คนทั่ว ๆ ไป ที่แม้ไม่ได้อยู่วงการไอทีเต็มตัว.. อ่านง่ายขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และรู้ว่าจดหมายนี้ ทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของคน ๆ หนึ่ง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยน้อยมากอย่างผมครับ หากเป็นการก้าวก่าย หรือ ยุ่มย่ามไป ต้องขออภัย

ด้วยความเคารพในความคิดเห็นของผู้ร่าง ฯ

By: นายยุทธพิชัย บัวหอม on 17 November 2006 - 09:40 #12493

เห้นด้วยกับท่านเทพครับผม

สิ่งดี ๆ ที่เ็ป็นความรู้ ความสามารถของนักเขียนโปรแกรม

้เรื่องนี้สมควรที่จะได้รับการส่งเสริม แต่เมื่่อกระทรวงไม่สนับสนุน ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ต้องป่าวประกาศ

เราคอยแต่ต่างชาติหยิบยื่นมาให้ตลอดเวลา โดยที่เราไม่ได้พัฒนาเอง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไทยเก่ง

พูดไปมันก็เหมือนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง กับเรื่องแฟชั่นโลกแหล่ะ

ในหลวงพระองค์ทรงส่งเสริมให้รู้จักใช้ชีิวิตอย่างประหยัด แต่บางคนก็ไปเห่อกับพวกของนอกกาย โดยที่ลืมว่า ประเทศไทยมีอะไรดี ๆ มากมาย

เพราะฉะนั้น จึงขอลงชื่อร่วมด้วยช่วยกันกับท่านเทพ ครับผม

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 17 November 2006 - 09:46 #12497
keng's picture

open source คืออะไรครับ รู้จักมันดีแล้วหรอครับ หรือคุณรู้จักแค่ windows ครับ

Submitted by Banana (not verified) on 17 November, 2006 - 09:46.

By: จะบอกให้ on 19 November 2006 - 20:59 #13114 Reply to:12497

คนลงชื่อคงรู้ล่ะ คงไม่ตะบี้ตะบันลงชื่อหรอก วินโดว์ ไม่ใช่ open sources หรือคุณรู้จักแต่ windows!!!!

By: thep
Writer
on 17 November 2006 - 10:04 #12518

ก่อนอื่น ในฐานะผู้ร่างจดหมาย ขออธิบายจุดยืนของจดหมายก่อนนะครับ

เราไม่ได้ประท้วง แต่เราต้องการชี้แจงสิ่งที่ท่านได้กล่าวกับสาธารณชน ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิด

การใช้คำขึ้นต้นและลงท้าย เพื่อรักษามารยาทต่อผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะเราต้องการให้ท่านได้รับข้อความจริงๆ จึงไม่มีการรุกล้ำด่าทอ นี่ไม่ใช่ม็อบ แต่เป็นการทำความเข้าใจครับ

เป้าหมายของผม คือการได้มีโอกาสอธิบายให้สาธารณชนเข้าใจในข้อมูลที่ถูกต้อง โดยไม่ได้คาดหวังว่าท่านจะมีปฏิกิริยาเปลี่ยนมาสนับสนุน เพราะผมเห็นว่าการเติบโตของโอเพนซอร์ส ไม่ได้มีนโยบายส่งเสริมของรัฐเป็นปัจจัยที่สำคัญนัก แต่ภาคประชาชนสามารถรวมตัวกันทำงานเองแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ (ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้) ท่าทีของผม จึงไม่ได้เรียกร้องอะไร นอกจากขอให้ท่านอย่ามีท่าทีเป็นลบก็พอ

เรื่องการพึงตนเองของภาคประชาชน ผมเคยเขียนไว้คร่าวๆ ใน blog ตอนที่ตั้ง debian club แต่อยากขยายความสักนิด ว่าไม่ว่าภาครัฐจะสนับสนุนหรือไม่ ถ้าชุมชนไม่ดูแลกันเอง มันก็ไม่ยั่งยืน เพราะการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด อีกประการหนึ่ง การที่ภาครัฐจะสั่งการอะไรออกมาสักอย่าง เพื่อเป็นมาตรการ ก็จะต้องมีการเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากรไว้รองรับก่อนเสมอ ไม่อย่างนั้นก็เละเทะ ผมจึงเห็นว่าการเติบโตของชุมชนโอเพนซอร์สจะเป็นสิ่งที่เราต้องการมากกว่าในช่วงนี้ ก่อนที่จะเรียกร้องอะไรจากรัฐ

จึงได้ขอท่านเพียงว่า ไม่สนับสนุนก็อย่าขัดขวาง หรือพูดอะไรที่เป็นลบ แต่ถ้าท่านเกิดเปลี่ยนใจ อยากมีส่วนร่วมกับเราขึ้นมาจริงๆ ก็ให้ถือเป็นกำไร แต่เราไม่คาดหวังอะไรตรงนั้น

ส่วนเรื่องที่คุณ Pramook เสนอผ่านคุณ lew ผมก็เห็นด้วยที่จะเพิ่มครับ จะพยายามให้สั้นก็แล้วกัน เดี๋ยวจดหมายจะยาวเกินไป

By: thep
Writer
on 17 November 2006 - 10:14 #12527

/me จริงๆ แล้ว ไม่ชอบที่ Qt ทำเลย จริงๆ นะ ;-P

By: rerng007 on 17 November 2006 - 10:18 #12531

ผมเห็นว่าคุณเทพควรจะส่งจดหมายฉบับนี้โดยเร็วที่สุด อย่างช้า วันจันทร็นี้ครับ ผมยินดีไปร่วมด้วยครับ บอกเวลา สถานที่มาได้เลย

เพื่อไม่ให้ความเข้าใจผิดเลยเถิดไปมากกว่านี้

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 17 November 2006 - 10:34 #12555
keng's picture

เดิมทีเดียว Opensource ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใดๆ ในแต่ละประเทศอยู่แล้ว แต่ Opensource นั้นสนับสนุนโดยผู้พัฒนาและใช้งานใน Internet มากกว่า ในความคิดผมนะ ผลกระทบอาจจะมีบ้าง แต่ ไม่ใช่ว่าจะทำให้ Opensource ล้มหายตายจากไปหรอกครับ

Submitted by ไก่เชลชี (not verified) on 17 November, 2006 - 10:31.

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 17 November 2006 - 10:51 #12570
lew's picture

ขอเพิ่มเติมในสิ่งที่โอเพนซอร์สให้ได้แต่ไม่เห็นใน proprietary software 1. นวัตกรรมสร้างได้ด้วยโอเพนซอร์ส 2. สำนึกในจริยธรรมเกิดจากการมีส่วนร่วมดังที่โอเพนซอร์สได้เปิดโอกาสให้ 3. โอเพนซอร์สให้โอกาสทางธุรกิจที่เท่าเทียมกัน Submitted by วิรัช ศรเลิศล้ำวาณิช (not verified) on 17 November, 2006 - 10:11.


lewcpe.com, @wasonliw

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 17 November 2006 - 10:52 #12572
lew's picture

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า software opensource เป็นสิ่งที่ดีมาก และ จำเป็นมาก แต่ที่ผ่านๆมาการพัฒนา software opensource ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี และ ไม่ทราบแน่ว่ามีการพัฒนากันอย่างจริงจังหรือไม่ เท่าที่ผมเห็น มีน้อยมากๆๆนะ ดูแล้วไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เป็นรููปธรรมจริงๆ เท่าที่ผมทราบ ก็พวกทำภาษาไทย หรือพวก add-on ของ firefox , openoffice และคิดว่ามีอีกมากครับ เพียงแต่ มันไม่ได้มาใช้ประโยชน์ในวงกว้างจริงๆ ผมทราบว่าพวกพี่ๆ พยายามจัดกิจกรรมต่างๆ แต่เสียงมันคงดังไม่พอที่จะทำให้คนทั่วไปหันมามองคุณค่าของมันได้

การประชาสัมพันธ์ ประเทศเรายังมีคนเข้าใจเกี่ยวกับ การพัฒนา software น้อยมากๆ อย่างเช่น สำนักข่าวต่างๆ ก็ไม่มีความเข้าใจ เรื่องของ computer,IT เลย มีเรื่องอะไรก็เสนอข่าวไปให้พอจบๆไปวันๆ(กำลังพูดถึงข่าวเกี่ยวกับ IT) อย่างรายการเกี่ยวกับ IT ตอนกลางคืนที่ FM 100.5 ชอบเอาอะไรใหม่มาพูดถึงจริง แต่ส่วนสังเกตุดูครับว่ามีแต่เรื่อง พูดถึงสิ้นค้า ใหม่ๆ อีกทั้งความรู้ต่างๆ ที่เอามาออก ก็เป็นอะไรที่ ลอกเขามาแบบ แปลมาจาก web ต่างประเทศ แบบ word by word ไม่มีความเข้าใจ

ทั้งหมดนี้กำลังจะบอกว่า ท่านรัฐมนตรี อาจมองว่า พวกเรา ชาว opensource เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้ม เพราะถ้าผมเป็น รัฐมนตรี ที่เป็นผู้บริหาร และมี ความคิดแบบผู้บริหาร ผมก็คงจะทำแบบท่าน เพราะ opensource ไทย พัฒนาได้ยากจริงๆ คนที่เขียน software ได้ มีน้อยเกินไป ย้ำ คนที่เขียน software ได้ Submitted by นายนพัต พงษ์วิเชียร (not verified) on 17 November, 2006 - 10:22.


lewcpe.com, @wasonliw

By: Zhuq! on 17 November 2006 - 11:01 #12577

แต่ไหนแต่ไรรัฐบาลไทยก็มืดบอดกับเรื่อง Open Source มานานนักหนาอยู่แล้ว มีการสนับสนุนที่พอจะเป็นเรื่องเป็นราวก็ในระยะหลังๆ นี้เท่านั้น แต่ก็ทำอย่างแกนๆ ไปอย่างนั้น เพราะประโยชน์ที่ได้ มันไม่ใช่เกิดในทันทีทันใด และส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดในรูปของรายได้ แต่เกิดในรูปของการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งหลายๆ รัฐบาลน่าจะลืมไปว่าบัญชีเขามีด้วยกันอย่างน้อยก็ 2 ด้าน

อย่างไรก็ตาม หากจะไม่ให้การสนับสนุน ก็ไม่ควรที่จะพูดจาให้ร้ายเหมือนจะทำลายกัน มันไม่แปลกหากองค์กรภาครัฐจะใช้งานระบบที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด ทั้งในด้านของคุณภาพ และหลักประกันความเสียหายต่างๆ ซึ่งองค์กรใหญ่ๆ หลายแห่งเขาก็ต้องเลือกและพิจารณาจากความจำเป็นของเขา แต่นั่นก็เป็นคนละเรื่องกับเทคโนโลยีอยู่ดี

ถึงรัฐบาลจะไม่ยอมสนับสนุนเลยซักแดงเดียวกับสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวของประเทศ ผมก็ยังจะใช้ Open Source ต่อไป เพราะตัดสินใจเดินมาในทางนี้แล้ว แล้วก็เดินมาอย่างที่ไม่เคยสนใจด้วยว่าใครจะช่วย หรือจะไม่ช่วย ผมมองว่าสังคม Open Source เป็นสังคมที่น่ารัก และน่าที่จะประยุกต์ไปใช้ได้กับ model ทางสังคมอื่นๆ ได้ ... และเป็นแหล่งกำเนิดของชุมชนอย่างแท้จริง !!

By: แวะมาตอบ on 17 November 2006 - 12:03 #12608

่ขอแสดงความเห็นต่อจดหมายเปิดผนึก ดังนี้ครับ

- ควรเพิ่มข้อมูลตัวอย่างประเทศที่สนับสนุน open source ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเห็นความสำคัญของมันจริงๆ หรือแค่เพื่อคานอำนาจ Microsoft) จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นครับ

By: nagarindkx on 17 November 2006 - 12:52 #12628

คนเราแสดงออกตาม "ทัศนะคติ" ของตนเองเสมอ แสดงว่า ท่าน รมต. ทำอะไร ก็จะให้แต่สิ่ง "ห่วยๆ" แก่คนอื่นเสมอ ก็เลยคิดว่าให้เขาจะให้แต่ของ "ห่วยๆ" อย่างทั่น

ส่วนเรื่อง "ห่วยๆ" ของท่าน พวกเราในฐานะชาว Open Source ไม่เคยทำอะไร "ห่วยๆ" อย่างที่ท่านคิด ขอให้ท่าน รับผิดชอบกับ ความรู้ "ห่วยๆ" และ ทัศนะคติ "ห่วยๆ" ของท่าน เพราะพวกเราไม่ได้ทำอะไร "ห่วยๆ" อย่างท่าน แน่นอน ...

Hellen Keller: "To Blind is Bad, but eyes that can not see is worst"

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 17 November 2006 - 13:23 #12649
lew's picture

ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ใช้โดยตรง แต่เห็นด้วยค่ะ Submitted by on 17 November, 2006 - 13:14.


lewcpe.com, @wasonliw

By: Um on 17 November 2006 - 16:51 #12723

ผมมองว่าสังคม Open Source เป็นสิ่งที่ดีนะครับ ผมเห็นด้วยกับจดหมายปิดผนึกนี้อย่างยิ่ง ผมอยากให้ท่านรัฐมนตรนึกถึงกลุ่มคนที่มีความจำเป็นต้องใช้จริง กลุ่มคนที่โดนผลกระทบนี้ แล้วถ้าท่านเป็นอย่างพวกเขาท่านจะรู้สึกอย่างไง สังคมแบบ open source ไม่ได้ไปส่งผล กระทบแง่ร้ายให้กับใคร มีแต่การพัฒนาขึ้นๆ ไป ส่งเสริมแต่สิ่งดีๆ

หวังว่าทั้งหมดนี้คงมีค่าสำหรับท่านนะครับ

By: เชกูวารา on 17 November 2006 - 17:34 #12740

เรียนคุณเทพครับ

จริง ๆ ผมไม่ได้แย้งอะไรมากนักในเนื้อหา และเป้าหมาย (ถ้าท่านคิดว่า เป้าหมายมีเพียงเท่านี้ เนื้อหาก็ต้องเป็นแบบนี้ คงเป็นแบบอื่นไปไม่ได้) และคิดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากอยู่แล้ว... เพียงแต่จะเข้ามาบอกเท่านั้นว่า การขึ้นต้น และลงท้ายแบบนั้น ไม่ใช่ลักษณะของการเขียน "จดหมายเปิดผนึก" ครับ แต่เป็น จดหมายถึงเจ้ากระทรวงโดยตรง มากกว่า

นอกจากนี้ขอให้โปรดเข้าใจด้วยว่า การเขียนจดหมายเปิดผนึก ที่ทำ ๆ กันมา โดยไม่ได้ใช้ คำขึ้นต้น และลงท้าย ที่ดูเหมือนจะเรียบร้อย แบบที่จดหมายฉบับนี้ (ที่คุณเทพเขียน) ไม่ได้ถือเป็นการไม่มีมารยาทต่อผู้หลักผู้ใหญ่ หรือเป็นการรุกล้ำด่าทอใคร ด้วยครับ (เพราะผมไม่ได้แนะนำให้ คุณเทพ ใช้คำแรง ๆ เสียหน่อย)

หลักการของจดหมายเปิดผนึก ก็คือ ผู้เขียน หรือ ผู้ร่วมลงชื่อ ไม่ได้ส่งไปให้ใครคนใดคนหนึ่งอ่าน (แม้จะเขียนถึงใครคนใดคนหนึ่งก็ตาม) แต่ ต้องการส่งให้ "สื่อมวลชน" และ ส่งถึง "ทุก ๆ คน" ที่มีโอกาสได้อ่าน

ดังนั้น ผมจึงแย้งว่า การขึ้นต้นจดหมายแบบนี้ มันไม่ใช่ลักษณะของ จดหมายเปิดผนึก แต่เป็นแค่ "จดหมายถึงท่าน...." ซึ่งเป็นคนละกรณี มีเป้าหมายไม่เหมือนกัน น้ำหนักของจดหมายไม่เหมือนกัน (แต่ ถ้าผมเข้าใจผิดไปเองว่า ท่านจะส่งสื่อมวลชน เพราะจริง ๆ ที่ลงชื่อกันอยู่นี้ อาจต้องการส่งให้เจ้ากระทรวงโดยตรงเท่านั้นก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องขออภัย)

ด้วยความเคารพในความคิดเห็น

By: kamthorn
ContributorAndroidUbuntu
on 17 November 2006 - 18:06 #12748

วิศัยทัศน์ บ่งบอกว่า .... ..... น่าสงสารคนไทย เฮ้อ Submitted by คณกรณ์ หอศิริธรรม (not verified) on 17 November, 2006 - 13:09.


--

By: thep
Writer
on 17 November 2006 - 18:08 #12750

ผมอาจจะตีความเอาจากถ้อยคำที่ดูดุเดือดของคุณเชฯ มังครับ ทั้งคำว่า "ประท้วง", "ไม่ได้ความ" ฯลฯ เลยเข้าใจไปในทางนั้น ว่าให้รุกเขามากกว่านี้

แต่ผมยอมรับว่า ไม่เคยเขียนจดหมายเปิดผนึกมาก่อน ก็เลยเขียนไปตามปกติ ส่งตรงถึงท่าน แต่เปิดให้ทุกคนได้อ่านด้วยว่าเราพูดอะไรกับท่าน ผมไม่รู้จริงๆ ครับ ว่าควรเขียนแบบไหน ช่วยชี้แนะผมด้วย ขอบคุณครับ

By: เชกูวารา on 17 November 2006 - 18:44 #12756

เรียนคุณเทพครับ

ผมคงไม่มีอะไรชี้แนะเพิ่มเติมแล้ว เพราะได้ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นไปแล้วในครั้งแรก

อย่างไรก็ตามโปรดเข้าใจความตั้งใจของผมด้วยว่า ที่ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นต่อตัวจดหมาย มิได้ต้องการให้ปรับเปลี่ยนอะไรมากมายนัก จริง ๆ แล้วจดหมายของคุณเทพ มีเนื้อ และมีประโยชน์ในประเด็นให้ความรู้ ความเข้าใจ มากมาย และผมก็ไม่ได้ต้องการบอกว่า ฮั่นแน่...คุณเทพไม่เคยเขียนล่ะซี้ ...เพียงแต่ ผมรู้สึกทึ่งในความเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งของชุมชนคนไอที (ตัวจริง) ดังนั้น เลยคิดไปตามประสาว่า โห...ถ้ารวมกันได้ขนาดนี้นะ น่าจะทำอะไรให้มันสะเทือนวงการไอที ได้มากกว่าแค่เพียงการ "ชี้แจงต่อเจ้ากระทรวง"

โดยปกติแล้ว การทำจดหมายเปิดผนึกขึ้นสักฉบับ เมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น เป้าหมายไม่ใช่แค่เพียง ชี้แจงให้คนพูด ทราบเท่านั้น เพราะประโยชน์มันไม่เต็มที่... ตรงกันข้าม ผมแอบคิดด้วยซ้ำว่า บางที คนพูดอาจรู้อยู่แล้วก็ได้ว่าโอเพ่นซอสมีข้อได้เปรียบมากกว่าโครสซอส ...ไม่ใช่ไม่รู้ (ระดับเจ้ากระทรวงเชียวนะครับ) แต่ ทำไงล่ะ ในเมื่อ เขาต้องการจับมือกับอีกฟากหนึ่ง เขาก็ควรต้องกล่าวถึงอีกฟากหนึ่ง อีกแบบมิใช่หรือ..

ดังนั้น เป้าหมายจริง ๆ จึงไม่น่าจะใช้ชี้แจงกับเขาเท่านั้น แต่ ชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ การจ่าหน้าว่าจดหมายเปิดผนึกถึงเขา จึงเป็นแค่รูปแบบ เพื่อบอกประชาชนว่า "พวกเราไม่เห็นด้วยกับคนที่จ่าไปถึง" (แต่เราไม่ได้ส่งถึงเขานะ เราส่งถึงคุณนั่นแหละ ประชาชนทั้งหลาย)

(อิ อิ) สำหรับเรื่อง "ถ้อยคำที่ดุเดือด" ของผม ต้องชี้แจงกับคุณเทพจริง ๆ แล้วล่ะครับว่า ผมไม่ได้คิดขึ้นเอง แต่ผมไปเก็บตกมาจาก "ความคิดเห็น" ของคนไอทีมากมายที่เข้ามาแสดงไว้ที่บล็อกนันนี้ครับ ...

ซึ่งผมอ่านแล้วก็เห็นจริงกับพวกเขานะ แล้วก็เลยคิดไปด้วยว่า...เอ้า...ก็ในเมื่อโจมตีเขาที่นี่ เสียยกเบ้อเริ่ม ใช้คำสุด ๆ ไปเลย...เหตุใด จดหมายที่เราจะทำถึงเขา จึงดูเรียบร้อยนัก ?....แน่ล่ะ ผมไม่ได้ยุว่า เอาแรง ๆ เล่นเจ็บ ๆ ไปเล้ยเพ่... เพียงแต่ อยากให้ "สื่อ" ออกมาให้ได้ว่า "คุณไม่เห็นด้วยกับเขา" ส่วนระดับภาษานั้น ถ้าเราไม่อยากให้แรง เราเลือกใช้คำซอฟ ๆ แต่มีลักษณะของการ "ไม่เห็นด้วย" ได้ครับ

ด้วยความเคารพในความคิดเห็น

By: pittaya
WriterAndroidUbuntuIn Love
on 17 November 2006 - 19:06 #12760
pittaya's picture

ปกติ จดหมายเปิดผนึก นี่เค้ายื่นให้ด้วยวิธีไหนครับ? พิมพ์ใส่กระดาษ ใส่ซอง เดินเอาไปให้ที่กระทรวงเลยหรือเปล่า? ถ้าจะไป เมื่อไหร่ดีครับ อยากไปด้วย


pittaya.com

By: BonBon on 17 November 2006 - 20:46 #12782

google รวยด้วย open source...

By: thep
Writer
on 17 November 2006 - 21:33 #12800

คิดว่าวันจันทร์นี้น่าจะส่งได้ครับ เพื่อความสะดวก ก็อาจจะขอให้พวกเราที่อยู่ที่ SIPA ช่วยประสานงานให้ครับ

By: miraclebox on 17 November 2006 - 21:50 #12809

อ่านจากที่คุณธวัชชัย เอี่ยมไพโรจน์ ได้แจ้งไว้ ที่ท่าน รมต. ให้พวกเราเข้าชี้แจงแก่ท่านเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Open source เราน่าจะได้ยินข่าวดีในวันอังคารนะคะ

By: kamthorn
ContributorAndroidUbuntu
on 17 November 2006 - 22:44 #12826

I see bad behavior of this ICT minister for a while. He did talk to selfish company and refused to listen to good persons. He also look down OLPC with his own ignorant.

I against him because I know he will bring disaster to Thailand based on his ego.

supat http://supat.eu.org/ Submitted by supat (not verified) on 17 November, 2006 - 20:12.


--

By: dome on 17 November 2006 - 22:46 #12827
dome's picture

วันอังคารหลังชี้แจงเสร็จ ท่าน รมต. สำนึกผิดคิดได้ โอ้ วิชั่นฉันไม่เหมาะกับ รมต.ไอซีที เลยนี่นา อย่ากระนั้นเลย เช้าวันพุธ ท่าน ลาลอก เย้.............................

โทษทีนะครับ ผมฟั่นเฟือนชั่วขณะ ผมไม่เคยเห็นกระทู้ไหนของ blognone มี ความเห็นมากขนาดนี้มาก่อน mk กับ ลิ่ว ลองเช็ค code ของ drupal หน่อยก็ดีนะครับ มันมีจำกันจำนวนความเห็นไหม อิอิ กลัวมัน overflow น่ะ

By: โชติกา on 18 November 2006 - 00:47 #12855

ไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้ค่ะ -> Apart from Linux, he claimed that most open source software is often abandoned and not developed, and leads to a lot of low-quality software with lots of bugs.

เราใช้ opensource ในโครงการระบบงานใหญ่ๆ หลายโครงการ ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ยิ่งใช้ยิ่งรู้สึกว่า opensource is high quality software ค่ะ ... คงต้องลองใช้นะคะถึงจะทราบว่า low หรือ high

By: kamthorn
ContributorAndroidUbuntu
on 18 November 2006 - 01:03 #12858

ที่บอกว่าไม่มีประโยชน์นี่ช่วยบอกให้ชัดเจน หน่อยครับ ชี้มาชัดๆเลยครับ ท่าน รมต ที่เคารพ Submitted by นาย จิรพงศ์ มาศทอง (not verified) on 18 November, 2006 - 00:39.


--

By: kamthorn
ContributorAndroidUbuntu
on 18 November 2006 - 01:05 #12860

Honorable minister XXX, please get your ICT history lessons right before commenting on the added value proposition from OpenSource Software. The software industry has evolved to understand software to be something that is ( or at least should ) available to all and per se provides advantage to none.... .... Value comes in when software products and workflows are put together to a solution set that applies a specific problem domain... For this to to be possible, open standards and products have to exist in order to enhance interoperability between heterogenous worlds.... In the new world, money is still made from software but not necessarily from license fees but in providing software-based SERVICES and SOLUTIONS. This applies to the rest of the world and to a growing economy like that of Thailand particularly.

This philosophy has already made its way through to the microsoft boardroom... It sure will get clearer to you as the evolution rolls on... Roland N. Fru YakaSoftware

เพื่อนฝากมาจาก เยอรมันครับ โดม Submitted by dome on 18 November, 2006 - 00:01.


--

By: สมเจตน์ on 18 November 2006 - 10:18 #12897

thep say: "เรื่องการพึงตนเองของภาคประชาชน ผมเคยเขียนไว้คร่าวๆ ใน blog ตอนที่ตั้ง debian club แต่อยากขยายความสักนิด ว่าไม่ว่าภาครัฐจะสนับสนุนหรือไม่ ถ้าชุมชนไม่ดูแลกันเอง มันก็ไม่ยั่งยืน เพราะการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด อีกประการหนึ่ง การที่ภาครัฐจะสั่งการอะไรออกมาสักอย่าง เพื่อเป็นมาตรการ ก็จะต้องมีการเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากรไว้รองรับก่อนเสมอ ไม่อย่างนั้นก็เละเทะ ผมจึงเห็นว่าการเติบโตของชุมชนโอเพนซอร์สจะเป็นสิ่งที่เราต้องการมากกว่าในช่วงนี้ ก่อนที่จะเรียกร้องอะไรจากรัฐ"

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับกับข้อความดังกล่าว ส่วนเรื่องการรวมตัวของชุมชนโอเพ่นซอร์สจะทำอย่างไรดีครับ ผมว่า "ตีเหล็กมันต้องตีตอนร้อน" บางครั้งบางเหตุการณ์สถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษ ตอนนี้ผมไม่เห็นใครเหมาะสมกับการเป็นผูนำรวมตัวนอกจาก "คุณเทพ" อยากให้คุณเทพช่วยเสียสละ เป็นผู้นำชุมชนจัดตั้งองค์กรขึ้นใหม่ จะอยู่ในรูปมูลนิธิหรือองค์กรใดก็ได้ที่เกิดจากพวกเรากันเองโดยแท้จริง แต่ขอไม่ไปปัดฝุ่น TOSF นะครับ เพราะตอนนี้หรืออนาคตเราคงคาดหวังอะไรๆจากหน่วยงานของรัฐไม่ได้อีกแล้ว ทำกันเองดีที่สุด "ตนเป็นที่พี่งแห่งตน" อย่างน้อยผมก็ชื่นใจและประหลาดใจไม่คิดว่า "จดหมายเปิดผนึกฯ" ฉบับนี้สร้างปรากฏการณ์การรวมตัวของผู้เห็นด้วยกับแนวทางโอเพ่นซอร์สในประเทศไทย อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน น่าจะต่อยอดเหตุการณ์เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ตามวิถึของเรา

By: สุกัญญา on 18 November 2006 - 12:41 #12927

Open Source คือประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของการพัฒนาความรู้ของคนไทย เป็นประตูสู่ความคิดและปัญญาของมนุษยชาติ และเป็นหัวใจสำคัญของเสรีภาพในการสื่อสารในประเทศที่ประชาธิปไตยยังกระพร่องกระแพร่ง จำกัดจำเขี่ย การไม่ส่งเสริมเท่าที่ควรจะทำตามหน้าที่ของผู้นำด้านนี้ก็แย่พออยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมีความคิดและคำพูดแบบนี้อออกมาได้

ยิ่งกว่าความรู้สึกเสียใจ คือความผิดหวังและความเศร้าอย่างสุดซึ้ง

By: knight2000 on 18 November 2006 - 13:14 #12936

ผมได้รับความรู้มากมายจากการใช้โอเพนซอร์ส ที่ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน ในสมัยที่ผมเรียนนั้นลีนุกซ์ยังไม่เกิดเลย แต่ก็ได้มีโอกาสศึกษา Minix ในระหว่างเรียน หลังจากเข้ามาสู่โลกของโอเพนซอร์สแล้ว ผมพบว่าโอเพนซอร์สเป็นแหล่งวิชาความรู้ที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลเลย

สำหรับนายสิทธิชัยคนนี้ นับว่าผมโชคดีที่ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ในระหว่างที่นายสิทธิชัยดำรงตำแหน่ง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ลาดกระบัง ไม่ได้เป็นลูกศิษย์โดยตรงแต่ตามธรรมเนียมแล้วต้องถือว่าเป็น ซึ่งในขณะนี้ผมก็ทำใจยอมรับไม่ได้ครับ

สถาบันที่นายสิทธิชัยเป็นผู้ก่อตั้งนั้น ไม่เคยได้ประโยชน์จากโอเพนซอร์สเลยหรือครับ และส่งเสริมให้นักศึกษาใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมายหรือเปล่าครับ น.ศ. ของคุณนั้นใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย สร้างผลงานให้กับสถาบันมาไม่ใช่น้อย

จากคำสัมภาษณ์ "As a programmer, if I can write good code, why should I give it away? Thailand can do good source code without open source," he said."

ที่ว่าเราสามารถเขียนโค้ดได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งโอเพนซอร์สนั้น ปัจจุบันนี้เราเขียน os ที่ทำงานได้เทียบเท่า ลีนุกซ์ หรือยัง เราเขียน office ได้เทียบเท่า OpenOffice หรือยัง

สิทธิชัย เขียนได้หรือครับ เอามาเผยแพร่ให้คนไทยได้ใช้งานกันบ้างซิครับ หรือว่าเก่งแต่ปาก

หากวิสัยทัศน์มีเพียงเท่านี้ก็ลงจากตำแหน่งเถอะครับ คนระดับบริหาร ความคิดจะต้องกว้างไกล เมื่ออยู่ในตำแหน่งผู้บริหารและดูแลผลประโยชน์ของชาติ ยิ่งจะต้องมองทุกสิ่งที่จะทำให้เราได้ประโยชน์ และเสียค่าใช้จ่ายของรัฐฯ น้อยที่สุด

By: ศรีเดช ปัญจขันธ์ on 18 November 2006 - 13:43 #12942

ผมทำงานด้าน OpenSource มานานกว่า 9 ปีแล้วโดยส่วนใหญ่จะเป็นงานสนับสนุน ผู้ใช้งาน -เคยแต่งตำรา OfficeTLE ร่วมกับทีมงานอีก 1 คน ให้ NECTEC จัดพิมพ์และจำหน่าย -เคยบรรยายให้ในสถาบันของรัฐและเอกชนเรื่องการใช้งาน OpenSource -ปัจจุบันแต่งตำราคู่มือการใช้งาน OpenOffice.org 2.0 (Writer,Calc,Impress) ร่วมกับทีมงานอีก 2 คน ให้ใช้ในองค์กร เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการนำมาใช้งานในองค์กรโดยไม่ได้คิดค่าลิขสิทธิ์ เพื่อนำมาสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายให้องค์กร รวมทั้งไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น หากหน่วยงานสนใจสามารถส่งเมล์มาขอไฟล์ (PDF) เอกสารได้ครับไม่คิดเงิน (เฉาะ Writer ส่วน CALC กับ IMPRESS หากสนใจจะขอผู้เขียนให้คิดว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน) ตำราเช่นนี้ก็ถือเป็นลิขสิทธิ์เช่นกัน แต่ผมยินดีให้ฟรี (PDF) ครับ ส่วนการปรับปรุงแก้ไขสงวนไว้ให้ผมเป็นผู้แก้ไขเองครับ -ปีหน้าในองค์กรก็มีแผนนำ OpenSource มาใช้ในระดับของ WEB Application ให้มากที่สุดเพราะทนการคิดเงินในทุก ๆ ส่วนของ บริษัทที่ทำเพื่อการค้าไม่ไหวครับ

ท้ายนี้ผมอยากให้ รมต.ICT ลองศึกษาวิธีคิดเงินดูนะครับแล้วจะรู้ว่าเฉพาะในกระทรวง ICT ของท่านจะต้องใช้เงินไปแล้วเท่าไหร่ และ ทุกโปรแกรมที่ใช้งานจ่ายเงินครบทุกเครื่องทุกโปรแกรมหรือไม่

By: ดำรงค์ศักดิ์ สม... on 18 November 2006 - 14:40 #12950

ผมเคยศึกษา OpenSource ตอนอยู่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ผมทำงานแล้ว ถึงงานในหน้าที่ของผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับ OpenSource โดยตรงแต่ก็คงยังต้องใช้อยู่บ้างซึ่งก็ดีใจเสมอที่มีอาจารย์ด้าน OpenSource สอนวิชาความรู้ให้ มีวิชาติดตัวมาหากินได้ทุกวันนี้

ดังนั้นขอลงชื่อร่วมด้วยคนครับ

By: ธนกร on 18 November 2006 - 14:57 #12953

ถึงผมจะเป็นครูบ้านนอก ก็มีโอกาส ทำ Server ให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ได้ด้วย Open Source เช่น Linux RH หรือ แม้แต่ Linux SIS ที่ช่วยชาติ ประหยัดงบประมาณในการซื้อลิขสิทธิ์ และการที่จะต้องซื้อ HW ที่มีราคาแพงมาใช้งาน ช่วยประหยัดเวลาในการสร้างเว็บไซต์ ด้วย CMS อย่าง PHP-Nuke ช่วยสร้างระบบ E-Learning ดี ๆ อย่าง Moodle ได้เด็กตัวเล็กได้เรียนรู้ และหลายๆ อย่าง ที่มีคุณค่าต่อการศึกษา และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับโรงเรียนได้มาก นำส่วนที่จะต้องเสียเงินไป มาให้เด็กนักเรียนเป็นอาหารกลางวัน ดีกว่า

ขอขอบคุณโปรแกรมดีๆ ที่พัฒนาจาก Open Source ให้เด็กไทยได้เรียนรู้

หนึ่งเสียง ขอสนับสนุนคุณครับ

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 18 November 2006 - 17:09 #12971
keng's picture

กลัวตกงานกันใหญ่

Submitted by MS Lover (not verified) on 18 November, 2006 - 16:54.

By: miraclebox on 18 November 2006 - 21:25 #13002

คุณ keng ปล่อยเค้าไปเหอะ คนเราต่างจิตต่างใจ เค้ามีสติคิดได้แค่นี้ก้อปล่อยไป

By: Somsak Bootrsitha on 18 November 2006 - 22:36 #13012

ถ้าไม่สนับสนุนก็ไ่ม่ควรแสดงทัศนะแง่ลบที่ยังไม่แน่ใจว่าที่แสดงออกมา...ถูกหรือเปล่า ? ...คนระดับผู้บริหารต้องพูดอะไรด้วยความระมัดระวัง ยึดประโยชน์่ส่วนรวม และประเทศชาติไว้ก่อน เอาง่ายๆ ถ้าส่วนราชการทุกหน่วยตั้งงบประมาณซื้อของ Microsoft ให้ถูกต้องทุก PC รัฐบาลจะมีเงินให้หรือเปล่า...และมันจะผูกพันไปเรื่อยๆ ด้วยนะไม่ใช่แ่ค่จ่ายปีเดียวแล้วจบกัน มีโอกาสพึ่งตนเองไ้ด้แล้วจะไปมัวทำอะไรอยู่ ส่วนราชการนี่แหละตัวอย่างสำคัญละ อะไรที่ใช้ oss ได้แทนที่จะใช้ดันไม่ค่อยจะใช้ เรื่องแบบนี้ต้นทาง (ระดับรัฐบาล เ้จ้ากระทรวง อธิบดี) สำคัยนะ ที่ทำงานผมเป็นส่วนราชการ ก็ยังไม่เคยตั้งงบประมาณไป เพราะพยายามนำ oss มาใช้ โดยเฉพาะฝั่ง Server ก็ใช้ได้หมดแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้อ ส่วนฝั่ง client 99% เป็น m$ windows (illegal license) เรื่องการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน ต้องมาจากระดับบน ในความคิดผมนะ จะให้ฝ่าย IT ไปลุยกับ user ยากครับ คือเราใช้ m$ windows มานานแ้ล้ว ตอนนี้ผมเองเพิ่งจากลองทดสอบกับ Ubuntu อยู่เลย เท่าที่ใช้มา อาทิตย์กว่า ใกล้เคียงกันมากแล้ว ถ้าได้แรงสนับสนุนจาก leader oss ในไทย + รัฐบาล ผมว่าไม่นานเราน่าจะพูดไ้ด้เต็มปาก ว่าเราไม่ใช้คนเถือน uncivilize ที่ไปขโมยของฝรั่งตลอด อีกต่อไป ช่วยๆ กันเถอะ มันสำคัญนะต่ออนาคตในระยะยาว

By: keng
WriteriPhoneAndroidIn Love
on 18 November 2006 - 23:19 #13017
keng's picture

miraclebox - ผมย้าย comment ที่ไม่เกี่ยวกับการลงชื่อมาไว้ที่นี่น่ะ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 18 November 2006 - 23:56 #13022
lew's picture

เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ผมก็คนหนึ่งนะที่รู้จักคำนี้มานานละ และรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนความเอื้ออาทรเล็กๆที่อยู่บนความโลภ ในโลกไซเบอร์ แทนที่จะเป็นตลาดที่ผูกขาด ที่จะปรับเปลี่ยนอะไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ทำโปรแกรม เปลี่ยนจากผู้ใช้กลายเป็นผู้ช่วยสร้าง หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว คำนี้พิสูจน์ได้มานานแล้วครับ การทำงานแบบต่อยอด เอาไอเดียมารวมกัน โดยไม่ข้อกำหนด ในเรื่องค่าจ้างการแก่งแย่งชิงดี มีเพื่อแบ่งปันผู้อื่น ผมขอยืมคำพูดของคนอื่นมานะครับ

สิ่งที่และเปลี่ยนแล้วได้มากกว่าเดินนั่นก็คือความคิด คุณมีหนึ่งความคิด ผมมีหนึ่งความคิด มาแลกเปลี่ยนกัน ผมก็มีสองความคิด คุณก็มีสองความคิด

โดยรวมแล้วประเทศของเรายังเป็นประเทศกำลังพัฒนา จะมีสักกี่คนที่ซื้อวินโด้ Xp 6800บาท หรือ ออฟฟิศหมื่นกว่า ยกเว้นที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ และประเทศใหญ่ๆ ก็เห็นประโยชน์จากส่วนนี้ มีความช่วยเหลื่อจากภาพรัฐ ทำให้เทคโนโลยีของเขาพัฒนาไปได้เร็ว โดยต้นทุนที่ต่ำยกตัวอย่างประเทศ จีน

กลับมามองตัวอย่างในเมือง ไทย ผมคนหนึ่งที่เล่นเกมออนไลน์ หากยกหัวข้อ opensource ง่ายๆ ก็คือ โปรแกรม botkore ที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย คุณจะเชื่อไหมละครับ ว่าโปรแกรมพวกนี้ นำมาพัฒนาต่อยอด สามารถทำเป็นโปรเจ็คจบ สามารถหาเงินให้เด็ก ม.3 ได้เดือนละ 3 หมื่น ในการทำโปรแกรมให้ผู้เล่นเช่า อันนี้เป็นตัวอย่างประโยชน์ของ opensource ที่ทำให้เด็กจากผู้เล่นเกม กลายเป็นผู้ สร้างโปรแกรม

ในความแบ่งปั่นอันนี้ ผมยังหาโทษของมันไม่ได้เลย ขอสนับสนุนข้อความข้างต้นนะครับ

kot Submitted by kot (not verified) on 18 November, 2006 - 10:47.


lewcpe.com, @wasonliw

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 18 November 2006 - 23:58 #13023
lew's picture

Our company has been using open source software since January 2004 for file and printer server from Redhat Linux. We find that Linux provides a security, reliable, flexibility and scalable. In February 2005, we expand our use for open source by implenting a database server using mysql. Furthermore, in August 2006, we convert from proprietary office application to openoffice 2.03. Of course, we have a user obstacle at the begining. However, we solved this problem by arrange an appropriate training for all users. After training course, user satisfaction has increased. They have found no difference between proprietary office application and openoffice.

Next month, we are going to implement a internet room for Nareasuan University Dormitory. There will be 50 computers with a dual boot between window xp and ubuntu linux. Why dual boot? We want to share a good thing with students, we want to take them to a new frontier. We are going to have a traing class for linux desktop, openoffice, file and print server, dns, apache.

We desparately waiting for linuxtle 8 but there is no news update when it will be available. For the time being, we are going to use ubuntu linux. Once linuxtle 8 is ready, we are going to switch from ubuntu to linuxtle8.

Our company is committed to open source and will use it wherever possible. Submitted by narongsak (not verified) on 18 November, 2006 - 19:32.


lewcpe.com, @wasonliw

By: asf on 19 November 2006 - 11:12 #13054

ในความฝัน.... เช้าวันที่ 22 พ.ย. 2549 ที่กระทรวง ICT รมต.ICT ร่วมกับ รมต.วิทย์ฯ ออกแถลงข่าวหลังจากได้รับฟังคำชี้แจงเรื่อง OpenSource ได้รับชมการสาธิตการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ รวมถึงท่านทั้งสองได้ทดลองใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ (เมื่อวันที่ 21 พย. 2549) แล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. ทั้งสองกระทรวงเห็นชอบให้มีการส่งเสริมให้มีการใช้งานโปรแกรม OpenSource ในการเรีบนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงระดับปริญญาเอกทั้งสถาบันของรัฐ เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทที่ผลิตซอฟต์แวร์จำหน่ายลดราคาให้แต่สถาบันการศึกษา(ขนาดลดแล้วยังไม่เห็นมีลิขสิทธิ์ครบเลย) เพื่อหลอกล่อให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาได้ใช้งานเป็นอย่างเดียวเมื่อจบออกไปแล้วใช้งานโปรแกรมอื่นไปไม่เป็นทำให้เป็นภาระกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจัดหาซอฟต์แวร์ที่มีราคาแพงมากและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 2. ทั้งสองกระทรวงเห็นชอบให้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้งาน Software OpenSource ในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ โดยกำหนดให้มีรางวัลแข่งขันเพื่อเป็นสิ่งจูงใจในกรใช้งาน โดยหน่วยงานใดใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม และลดค่าใช้จ่ายได้จริง จะตอบแทนโดยคืนเงิน 25% ของที่ลดได้เป็นงบพัฒนาบุคลากรต่อไป ตามเหมาะสม 3. ทั้งสองกระทรวงเห็นชอบให้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้งาน Software OpenSource ในหน่วยงานเอกชนโดยจะตอบแทนโดยลดหย่อนภาษี 25% ของงบที่ลงทุนเกี่ยวกับ OpenSource (ได้สองต่อ ประหยัดเงินค่าซอฟต์แวร์และได้ลดภาษีอีก) 4. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐ NECTEC และ SiPA ส่งเสริม,พัฒนาและรณรงค์การใช้งานอย่างจริงจัง โดยให้ทำแผนการส่งเสริม,พัฒนาและรณรงค์เสนอต้นสังกัด โดยกำหนดให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน

06.00 ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด นาฬิกาปลุกดังขึ้นในเช้าวันที่ 21 พ.ย.2549 วันนี้ซินะที่เราจะรอคอยฟังคำชี้แจงจาก รมต. ICT ..... แล้วเราจะคอยฟัง

OpenSource เป็นทรัพย์สินที่ไม่มีใครครอบ ครองเพื่อประโชน์ส่วนตน แต่เป็นประโยชน์เพื่อมวลมนุษยชาติที่อยู่บนโลกใบนี้ที่มีจริยธรรมในการแบ่งปันและอยู่บนบรรทัดฐานของคำว่าพอเพียง ซึ่งตัวผมเองและอีกหลาย ๆ ท่านก็ได้เติมโตมาจาก Open Source Software รวมไปถึงทำธุรกิจอยู่กับ Open Source Software ที่หล่อหลอมให้รู้จักและเข้าใจในคำว่าสังคมของการแบ่งปัน ถึงแม้ว่าจำทำเป็นธุรกิจ ก็ยังคงเป็นธุรกิจในแบบพอเพียง ที่ประมาณตน ไม่โลภมาก ที่จะครอบครองเพื่อประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวกรือกำหนดทิศทางตลาดเทคโนโลยีเฉกเช่น Close Source Software อีกนับหมื่นนับแสนตัว

พอเถอะครับ พยายามทำความเข้าใจอะไรเสียใหม่และอย่างน้อยก็ขอให้รู้ว่าหากท่านเน้นการศกษาแบบถึงแก่นของ Open Source Software และ GNU/GPL และท่านจะรู้ว่า Software ในเชิงการศึกษาและธุรกิจทุกวันนี้ก็มี Logic ที่ไม่ได้แตกต่างกันเพียงยืนอยู่บนจุดยืนเดียวกันแต่หันหลังให้กันเท่านั้นเองครับ

By: กอล์ฟ on 19 November 2006 - 12:53 #13068

แต่ก็อยากให้เห้นเป็นรูปธรรมมากขึ้นเห็นด้วยครับ ตั้งเป็นองค์กร

ผมก็เห็นแล้ว ในองค์กรของแม่ผม เค้าก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์มาก ก็เป็ฯกระทรวงแนวหน้าของเรื่องITนะ ก็เซ็งแหละ คอมพิวเตอ์ใช้windows ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่เครื่อง ท่านก็คงรู้นะครับ แล้วไหนพอใช่ไปใช่ว้าจะเร็วนะ เซ็งเหมือนกันแหละ คอมอืด เพราะวินต้องใช้ทรัพยากรสูงมากเลย ปวดหัวจริงๆๆๆ

By: JavaDevil
iPhoneUbuntuIn Love
on 19 November 2006 - 19:27 #13104

ผมว่าการที่รัฐดูเหมือนจะเคยสนับสนุน opensource นะครับเช่น มีโครงการ พวก Linux tle, office .... etc ใช้งบประมาณชาติไม่ใช่น้อยๆ นะครับที่พัฒนาพวกนี้ ทำไม ไม่สนับ สนุนต่อหน่อย เช่นเอาให้เข้าทำงานในระดับ มัธยม หรือ มหาวิทยาลัย ด้วย อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเงินค่าลิขสิทธิ์ ของ windows หรือ ถ้าหากจะบอกว่าต้องเสียเงินเพิ่มในการ ฝึกบุคลากร ละก้อ ก็ไม่รู้จะว่าไงแหละคิดไม่ออกเหมือนกัน ก็คงต้องบอกว่าใช้ของแพงต่อไปละกัน จบ แหละ ผมเรียนมหาลัยมาจนมะเห็นจำเป็นต้องใช้ windows นอกจากเล่นเกมส์เลย

By: อังสนา on 19 November 2006 - 20:56 #13113

เห็นด้วยอย่างมาก ค่ะ คุณศิริพงษ์ สอนอยู่ภาควิชาบรรณารักษ์และพบโปรแกรมที่มีประโยชน์มากมาย หน่วยงานต่างๆในประเทศไทย เช่น ด้านพลังงาน มหาวิทยาลัย หลายแห่ง ก็ใช้กันอยู่ ประหยัดเงินมากมาย รัฐมนตรี ICT ท่านไปอยู่ที่ใหนมา เสียชื่อหมด รู้ไปที่ใหนอายไปถึงนั่น ท่านน่าจะมีที่ปรึกษาที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ และ แนะนำการพัฒนาให้คนไทย ใช้ไปได้มากกว่านี้ บ้านเมืองเรานี้เงียบเหงาพอดูเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงเพราะมันไม่มีค่าน้ำร้อนน้ำชา ลงชื่อด้วยคนค่ะ

อังสนา ธงไชย

By: BonBon on 19 November 2006 - 22:44 #13127

การที่ ทั่น รมต. มาแสดง วิสัยทัศน์ครั้งนี้ ลองมองในแง่บวก ทำให้เราตื่นตัว contribute สิ่งที่เป็นประโยชน์มากขึ้น แสดงให้เห็นว่า open-source ไม่ได้ เป็น low-quality software อย่างทั่นกล่าวไว้ ผลักดันกันแรงๆขึ้นครับ...

Don't judge the book by its cover..

By: นายต้นกล้า on 20 November 2006 - 02:02 #13139

ความเห็นของผมไปอ่านได้ที่ http://www.kaloho.com/?p=70 ขี้เกียจพิมพ์ซ้ำ

By: chaichana on 20 November 2006 - 15:00 #13208

ผมคิดว่า open source เป็นสิ่งที่ดีเพียงแต่ที่ผ่านมาภาครัฐรวมถึงภาคเอกชนของไทยก็ไม่ค่อยให้การสนับสนุนเท่าที่ควร อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม (อาจเพราะไม่ได้ค่าหัวคิว หรือโบนัสไปเที่ยวต่างประเทศหรือเปล่าไม่ทราบ)เพราะถ้าจะบอกว่าประสิทธิภาพไม่ดี linux ก็คงไม่เติบโตได้อย่างทุกวันนี้หรอกจริงมั้ย ในมุมมองของผม ผมคิดว่า open source จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเลื่อมล้ำทางด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศเราได้เป็นอย่างดี เข้าตำราของดีราคาถูก(ฟรี)ไม่น่าใช้กว่าหรือครับ

By: นายตาหวาน on 20 November 2006 - 18:09 #13237

ไปแอบรู้มาว่า Microsoft กำลังขึ้นราคา Academic License ที่จำหน่ายให้ตามมหาลัย (หรือไม่อย่างน้อยก็ที่มหาวิทยาลัยที่ผมจบมา ที่นึงล่ะครับ)

การที่ รมว.ICT ออกมากล่าวเช่นนี้ ผมว่ามันก็มีผลกระทบตรงนี้ด้วยนะครับ เหมือนกับว่าตามมหาวิทยาลัยก็อาจจะถูกกดดันให้ใช้ซอฟท์แวร์จาก Software House รายใหญ่ ๆ ซึ่งแน่นอนมันจะกลายเป็นเม็ดเงินจำนวนมากที่จะเข้าไปยังบริษัทซอฟท์แวร์เหล่านั้น

เมืองไทยเรายังไม่เข้มแข็งพอที่จะสร้างอุตสาหกรรมได้โดยปราศจาก OpenSource Software หรอกครับ ทุกวันนี้ขนาด Proprietary ยังใช้ LGPL Library เลย (เดี๋ยวนี้ซื้อ Router ตัวนึง มันยังมี Notice เกี่ยวกับ License ติดมาด้วยเลย เอากับมันสิ)

ส่วนเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับ OpenSource ผมว่าคนที่นี่น่าจะมีความรู้มากกว่าผมกระมัง :)

By: DrRider
WriterAndroid
on 20 November 2006 - 20:46 #13246
DrRider's picture

^ ^ เคยเห็น router ของ Linksys น่ะ บอกไว้เลยว่า firmware เป็น linux อยู่ภายใต้ GPL หากต้องการ source code ให้ดาวน์โหลดได้ที่เว็บของ linksys >> สุดยอด!!


We need to learn to forgive but not forget...

By: sirn
WriteriPhone
on 20 November 2006 - 23:52 #13270

<นอกเรื่อง>

เคยเห็น router ของ Linksys น่ะ บอกไว้เลยว่า firmware เป็น linux อยู่ภายใต้ GPL หากต้องการ source code ให้ดาวน์โหลดได้ที่เว็บของ linksys >> สุดยอด!!

WRT54G Series สินะครับ เป็นซีรีส์ที่ LinkSys แน่มากๆ ซอร์สของ Router มีเอาไปแก้ เพื่อทำ Third Party Firmware เพื่อเพิ่มความเสถียร, เพิ่มฟีเจอร์เพียบ ส่วนใหญ่ดีกว่าของ Stock เองเสียอีก ตั้งแต่ใช้มายังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย นอกจากไฟดับแล้วเน็ตหลุด (ฮา)

นี่ไง ที่ว่าทำไมโอเพ่นซอร์สถึงสำคัญ เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่ง เราก็ไม่ต้องไปง้อผู้ผลิตว่าเมื่อไหร่มันจะทำซะทีวะ </นอกเรื่อง>

By: lew
FounderJusci&#039;s WriterMEconomicsAndroid
on 21 November 2006 - 00:11 #13272
lew's picture

อยากเล่น WRT54G เหมือนกัน แต่เสียว่ามันแพงไปหน่อย... ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: ทรงฤทธิ์ on 21 November 2006 - 13:56 #13334

มันแย่จริงๆ ครับ แถวที่งานผมก็มีคนนึง วิสัยทัศน์แค่คืบแบบนี้ แต่เจ้าหมอนี่เขาบ้า อินเทล ครับ มันเอาเงินหลวงไปประเคนให้ หลายสิบล้านแล้ว