Tags:
Node Thumbnail

ข่าวนี้เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ด้านคอมไพเลอร์ ศัพท์เทคนิคเฉพาะทางจะเยอะหน่อยนะครับ

เกริ่นก่อนว่าผู้อ่าน Blognone คงคุ้นเคยกับชื่อ GCC หรือ GNU Compiler Collection ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ด้านคอมไพเลอร์สำหรับภาษาโปรแกรมต่างๆ มากมาย (ตอนแรกเน้น C/C++ เป็นหลัก) มันถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ GNU และใช้สัญญาอนุญาตแบบ GPL ปัจจุบันมันเป็นคอมไพเลอร์มาตรฐานบนแพลตฟอร์มลินุกซ์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สต่างๆ

แต่ GCC ไม่ใช่คอมไพเลอร์แบบโอเพนซอร์สเพียงโครงการเดียว เพราะมีโครงการคู่แข่งที่มาแรงในช่วงหลังคือ LLVM ซึ่งพัฒนามาจากโครงการวิจัยของมหาวิทยาลัย University of Illinois at Urbana–Champaign ในปี 2003

LLVM เป็นโอเพนซอร์สเหมือนกัน แต่ใช้สัญญาอนุญาตแบบ BSD ที่ให้อิสระมากกว่า GPL ทำให้ซอฟต์แวร์สาย BSD มีแนวโน้มจะใช้ LLVM มากกว่า GCC เพราะมีสัญญาอนุญาตแบบเดียวกัน

LLVM ใช้แนวคิดแบบเวอร์ชวลแมชีนกับการคอมไพล์โปรแกรม โดยมันจะแปลงภาษาโปรแกรมที่เราคุ้นกันดีมาอยู่ในรูป intermediate form หรือ IF (คล้ายกับ Bytecode ของ Java หรือ CIL ของ .NET) จากนั้นค่อยแปลง IF เป็นภาษาเครื่องอีกทีหนึ่ง

แนวทางของ LLVM ช่วยให้การรีดประสิทธิภาพทำได้ง่ายขึ้น เพราะนักพัฒนาของ LLVM สามารถเน้นไปที่การแปลง IF เป็นภาษาเครื่องเพียงขั้นตอนเดียว ส่วนการแปลงภาษาโปรแกรมเป็น IF จะใช้โค้ดอีกส่วนที่เรียกว่า front end ซึ่งรองรับภาษาที่แตกต่างกันไป (front end หลักของ LLVM สำหรับภาษา C/C++/Objective-C มีชื่อว่า Clang)

จุดเด่นของ LLVM อยู่ที่ประสิทธิภาพของการคอมไพล์ ทั้งในแง่เวลาที่ใช้คอมไพล์โปรแกรม และทรัพยากรของเครื่องที่ใช้คอมไพล์โปรแกรม (เช่น ซีพียู แรม ดิสก์) ผลทดสอบในบางกรณีแสดงให้เห็นว่า LLVM/Clang คอมไพล์ได้เร็วกว่า GCC ถึง 3 เท่าตัว อย่างไรก็ตาม LLVM ยังมีจุดอ่อนตรงที่โปรแกรมที่คอมไพล์แล้วยังมีประสิทธิภาพดีไม่เท่ากับโปรแกรมที่คอมไพล์ด้วย GCC (อธิบายง่ายๆ ว่า compile time ชนะแต่ run time ยังแพ้) และยังไม่รองรับซีพียูหลากหลายเท่ากับ GCC

กลับมาที่เนื้อข่าวครับ โครงการ FreeBSD มีแผนจะใช้ LLVM มานานแล้วด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นคือต้องการให้ซอฟต์แวร์ในดิสโทรของตัวเองใช้สัญญาอนุญาตแบบ BSD ให้มากที่สุด และในแผนการของ FreeBSD รุ่นหน้า 10.0 ทางนักพัฒนาก็มั่นใจแล้วว่า LLVM/Clang สามารถทดแทน GCC ได้แล้ว

FreeBSD 10.0 จะใช้ Clang 3.0 เป็นคอมไพเลอร์มาตรฐาน และเตรียมรองรับ Clang 3.1 ที่จะออกรุ่นจริงในวันนี้

LLVM/Clang ได้รับการสนับสนุนจากแอปเปิล (ซึ่งใช้ FreeBSD เป็นแกนกลางของ Mac OS X ด้วยเช่นกัน) โดยแอปเปิลได้จ้างทีมงานบางส่วนจาก Urbana–Champaign ไปนั่งพัฒนา LLVM เพื่อใช้ใน Mac OS X ด้วย (ปัจจุบันใช้งานเป็นบางส่วน)

ที่มา - Phoronix

Get latest news from Blognone

Comments

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 14 May 2012 - 23:10 #419900
lew's picture

รองรับ C++11 เยอะมาก


lewcpe.com, @wasonliw

By: thep
Writer
on 14 May 2012 - 23:22 #419906

Debian เองก็มีการทดลองเหมือนกันครับ ที่ clang.debian.net

แต่เรื่องการตัดสินใจใช้แทน GCC จริง ก็ยังติดที่ arch ที่ LLVM ยังไม่รองรับ (ปัจจุบัน Debian ต้องรองรับทั้งหมด 13 arch อย่างเป็นทางการ) ก็ถือเป็นการทดลองเพื่อเพิ่ม portability ของซอร์สขี้นอีกเท่านั้น

By: bow_der_kleine
WriterAndroidUbuntu
on 14 May 2012 - 23:51 #419924
bow_der_kleine's picture

เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วว่าอีกเหตุผลที่คนสนใจ LLVM คือโค้ดของ LLVM มัน developer friendly กว่า เลยมีคนเสนอ GNU ว่าน่าจะเขียนโค้ดให้มันเข้าใจง่ายกว่านี้หน่อย แล้ว Richard Stallman ก็ออกมาบอกว่า โค้ดอ่านยากน่ะดีแล้วมันจะได้เอาไปใช้เชิงพาณิชย์ได้ยาก เรื่องนี้ไม่ยืนยันนะ

แต่หลัง ๆ โปรแกรมที่ได้จาก GCC มัน optimized ขึ้นมากครับ บางอย่างเริ่มเทียบเท่า compiler ของ Intel แล้ว LLVM อาจต้องวิ่งตามในเรื่องนี้อีกมาก เรื่องการรองรับภาษาหรือ platform ด้วยโครงสร้างของ LLVM น่าจะตาม GCC ได้ไม่ยาก

By: mk
FounderAndroid
on 15 May 2012 - 00:31 #419938 Reply to:419924
mk's picture

เรื่องรองรับภาษานี่มันใช้ GCC เป็น front end ได้ครับ ส่วนแพลตฟอร์มคงต้องใช้เวลาอีกแหละ

By: leonoinoi
AndroidUbuntuWindows
on 15 May 2012 - 00:56 #419944

os สมัยใหม่ต้องมี vm