Tags:

ผมต้องการศึกษา programming เพื่อเขียน app
ปัจจุบันศึกษา java ในระดับเริ่มต้นไม่นานนัก (สองเดือน) ไม่ได้จบเอกคอมพิวเตอร์ หรือเอก math โดยตรง

ตอนนี้อ่านหนังสือ Sybex- Javafoundation
OOp analysis design (HeadFirst)
และ Karel workshops

ต้องการ intensive ตัวเอง โดยกำหนดระยะเวลา คือ 3 เดือน ศึกษา
Java / oop ฝึกทำเวิร์คชอป เนื่องจาก เห็นว่า หา ref ง่ายกว่า ios
อีก 6 เดือนคือ cocoa กับ ios

ลึกๆก็ไม่ค่อยมั่นใจ ในคุณภาพของตัวเอง ว่าจะสู้เด็กๆที่จบ software engineer ได้หรือไม่
ไม่มั่นใจว่าเราจะมีคุณภาพพอ ที่บริษัทต่างๆจะรับหรือไม่ ไม่ทราบทั้งโครงสร้างหลักสูตรหรือ syllabus ว่าเขาเรียนอะไรกันบ้าง

โจทย์หรือโปรเจค ในแต่ละชั้นปี จนถึงปีสุดท้าย เขา ทำชิ้นงานในระดับใด

และถ้าหากผมศึกษาเอง ผม "น่าจะ"ขาดความรู้ ในส่วนใด ไปบ้าง เพื่อที่จะหามาศึกษาเองเพิ่มเติม

Get latest news from Blognone
By: 3000anv
iPhoneIn Love
on 28 April 2012 - 02:31 #413534

วิชา math ที่มีผลกับงานทางโปรแกรมมิ่ง ผมควรศึกษาอะไรบ้าง
จะหา workshop ต่างๆได้ที่ใหนบ้าง
งานที่เกี่ยวข้องกับ software engineering ผมสนใจการทำ mobile app เป็นพิเศษ อยากทราบ สายงานอื่นๆที่น่าสนใจ และต่อเนื่องกันได้

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 28 April 2012 - 02:36 #413537 Reply to:413534
PaPaSEK's picture

เอาทีละอย่างครับ ใจเย็นๆ

วิศวะกรรมซอฟท์แวร์เป็นเรื่องที่มากกว่า "ศาสตร์" ครับ มันต้องมีศิลป์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 28 April 2012 - 02:34 #413535
PaPaSEK's picture

คุณอาจขาดเรื่อง Data Structure ครับ ซึ่งมันเป็น concept

แต่ถ้าโดยทั่วไปแล้วศึกษาเองก็เขียนโปรแกรมจนใช้งานได้แน่นอนครับ เท่าที่เห็นจากชื่อหนังสือ เดาว่าเป็นหนังสือระดับกลาง ไม่ใช่ระดับเบื้องต้น

และจากกระทู้ก่อนๆ ผมพบว่า syntax คุณผิดเพียบเลยครับ

By: desci
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 29 April 2012 - 23:19 #414047 Reply to:413535
desci's picture

เจ้าพ่อมาตอบเอง

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 28 April 2012 - 03:52 #413556
mr_tawan's picture

คิดว่าจะมาทางสาย Java นะครับ ผมแนะนำดังนี้นะ

  • ควรเรียน Syntax ให้ถึงระดับ "แม่น" ถึงขั้นอ่านโค๊ดออก เห็นแล้วรู้ว่าโค๊ดทำงานอะไร คอมไพล์ผ่านมั้ย ฯลฯ ลองจากการอ่าน Java In A Nutshell ก็ได้ ถ้าอ่านแล้วยังงงอยู่แสดงว่ายังไม่แข็งพอ ต้องศึกษาเพิ่มครับ
  • คอนเซ็พท์เรื่อง OO อันนี้ต้องแม่นเหมือนกัน เพราะว่าเราเขียน Java ที่เป็น OO
  • คอนเซ็พท์เรื่อง Meta-programming ได้ด้วยจะดีมาก เพราะ Java เวอร์ชั่นใหม่ๆ มีฟีเจอร์นี้แล้ว
  • พอได้เรื่อง OO แล้วให้ศึกษาเรื่อง Design Pattern ต่อ (ถ้าอ่านของ GoF ได้จะดีมาก แต่มีหนังสือด้านนี้ที่เป็น Java โดยเฉพาะเหมือนกัน)
  • สนใจเทคโนโลยีตัวไหน ให้อ่านตัวนั้นให้เข้าใจ
  • อ่านเรื่อง Concurrency ด้วยก็ดี (ถึงจะมึนก็เถอะ) เพราะว่าเทคนิคสมัยนี้เป็น Multi-Thread หมดแล้ว ถ้าเราไม่เข้าใจมันดีพออาจจะโดนมันย้อนกลับมาเล่นงานได้ เล่มนี้ก็ดีนะ
  • อ่าน Effective Java 2nd Edition ให้จบเล่มสักสามรอบ (สำคัญมาก)
  • ผมแนะนำให้อ่าน Clean Code ด้วย จะเน้นการเขียนโค๊ดให้อ่านแล้วเข้าใจง่าย

อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจ และสำคัญที่สุดอีกอย่าง ระหว่างการศึกษา "ต้อง" ทำโปรเจคขึ้นมาสักตัวนึง ไม่งั้นเราจะไม่มีประสพการณ์อะไรเลย ถ้าเกิดว่าหาคนตรวจโปรเจคไม่ได้ก็เอามาให้คนแถว ๆ นี้อ่านก็ได้ครับ คนเก่ง ๆ เยอะ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: adente
ContributorSUSESymbianWindows
on 28 April 2012 - 11:31 #413632
adente's picture

ทางลัดสุดแต่อาจโหดสุดคือ ไปทำงานจริงๆเลย อาจหาสมัครงานเป็น intern ก็ได้จะได้รู้ว่าที่นั่งทำๆอยู่บ้านกับหน้างานจริงๆ อะไรหลายๆอย่างมันต่างกัน คุณอาจะได้เรียนรู้ระดับ 1 ปีของการศึกษาเอง ภายในเวลา 3 เดือนจากงานจริงๆ เรื่องเด็กจบ software engineering ไม่ต้องกลัวหรอกครับ แค่มีภาษีดีกว่าแต่คุณภาพ ผมว่าส่วนน้อยที่จะเก่งจริงๆ

By: dome on 28 April 2012 - 12:18 #413645
dome's picture

แล้วเริ่มสนุกกับมันหรือยังครับ ถ้าสนุกและชอบตอนหลับเอาไปฝันต่อ ก็แสดงว่ามาถูกทางนะครับ :)

By: rulaz07
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 28 April 2012 - 19:12 #413741

ผมแนะนำเล่มนี้ครับ เอาไปอ่านแล้วน่าจะเข้าใจ Java ขึ้นมาทันที ผมซื้อมาอ่านตอนเรียนมหาลัย คนเขียนเขียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายโครตๆๆๆ

เขียนโปรแกรม JAVA เบื้องต้น

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 30 April 2012 - 01:08 #414085 Reply to:413741

+1 เล่นนี้ตัวจุดประกายเลย อ่านสนุกดี อธิบายคอนเซป OOP ได้ดี เหมาะกับผู้เริ่มต้นจริงๆ

By: rulaz07
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 1 May 2012 - 18:49 #414806 Reply to:414085

อ่านสนุกเหมือนอ่านนิทาน ยกตัวอย่างให้นึกภาพตามได้ง่ายๆ เหมือนมีคนมาเล่าเรื่องให้ฟัง ตอนนํ้นมีอีกเล่มชื่อคัมภีร์จาวา ไม่เคยอ่านได้เกิน 5 หน้า ซื้อมาไว้หนุนนอนอย่างเดียว

By: 17November
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 1 May 2012 - 12:59 #414719 Reply to:413741
17November's picture

เมื่อวานจะซื้อแล้ว แต่มันเหลือเล่มเดียว สภาพแย่มาก

By: nevermore
Windows PhoneAndroidUbuntuWindows
on 1 May 2012 - 16:53 #414765 Reply to:413741
nevermore's picture

โอ้ เล่มนี้แหละ หาอยู่หลายเล่ม

เลือกเล่มนี้มาอ่านเข้าใจเลย

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 2 May 2012 - 11:50 #415085 Reply to:413741

คนเขียนเขาเกริ่นว่าจะมีภาคต่อ แต่ไม่เห็นออกสักที

By: naiaong
iPhone
on 28 April 2012 - 19:51 #413749

สู้ๆ ครับ