เมื่อก่อนใครเคยเจอปัญหาลง Eclipse แล้วอยากลงปลั๊กอินเสริมตัวอื่น เช่น WTP, VE แล้วพบว่าระบบต้องการไลบรารีเพิ่มเติมมากมาย อย่างไลบรารีด้านการแสดงผล GEF, GMF เป็นต้น ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากช่วงเวลาของการออกโปรเจ็คแต่ละตัวไม่ตรงกัน ทำให้บางทีผู้ใช้จำเป็นต้องลงเลขรุ่นที่รับกันได้เท่านั้นอีกถึงจะทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
Callisto ออกมาเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยมันได้รวม Eclipse โปรเจ็คหลักๆ ที่รับประกันความเข้ากันได้ 10 ตัวเข้าด้วยกัน
* Business Intelligence and Reporting Tools (BIRT) Project 2.1 * C/C++ IDE (CDT) 3.1 * Data Tools Platform (DTP) 1.0 * Eclipse Modeling Framework (EMF) 2.2 * Graphical Editing Framework (GEF) 3.2 * Graphical Modeling Framework (GMF) 1.0 * Eclipse Project 3.2 * Eclipse Test and Performance Tools Platform Project (TPTP) 4.2 * Eclipse Web Tools Platform Project (WTP) 1.5 * Visual Editor (VE) 1.2
ทั้งหมดนี้สามารถเลือกลงเฉพาะตัวที่ต้องการได้ นอกจากนี้ Eclipse 3.2 ยังเพิ่มความสามารถของตัว Editor พอสมควร ตัว content assist, refactoring ที่ว่าเก่งอยู่แล้วก็เก่งขึ้นมาเทียบเท่า หลายๆ ความสามารถที่มีใน IDE ที่เก่งที่สุดตัวนึงอย่าง IntelliJ IDEA
ถ้า NetBeans 6.0 จะตาม Eclipse ให้ทัันก็ต้องเร่งปรับปรุงจุดอ่อนจุดนี้ของตัวเอง ที่ยังตามหลังอยู่มาก
ที่มา - Eclipse.org, OnJava
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
นั่งนับวันรอเลยนะเนี่ยะ ออกมาซะที เฮ้อ
เห็นไหม การรวมกันเนี่ย ... ชีวิตมีความสุขขึ้นนะ ( สนับสนุนโปรแกรมที่รวมสิ่งที่ต้องการมาให้แล้ว ไม่ใช่ลง extension เอง - แต่ก็ต้องเพิ่มเองได้ ลดเองได้นะ )
ก็เหมือนเดิมไม่เห็นจะเปลี่ยนอะไรมากนัก สำหรับ plugin อ่ะนะ เพราะยังไงก็ไม่ได้ integate เข้ามาใน SDK เลย ยังคงต้อง download มาเพิ่มเติมเองอยู่ดี และที่สำคัญต้องผ่าน update manager ของ eclipse เอง หากจะดาวน์โหลดแยกต่างหากก็ได้ แต่จะปวดหัวกับ WTP มาก ไม่รู้จะเลือกอันไหนดี สุดท้ายแล้ว NetBeans 5.5 คงชนะอีกตามเคย
อย่างน้อย ก็ช่วยลดปัญหา version compatibility ไปได้ล่ะครับ ผมใช้ eclipse 3.1.2 m5 ตอนใช้ update manager ก็ไม่ยุ่งยากครับ เลือก plugins ที่จะใช้ที่เหลือก็แค่ click next.
อ่านใน onjava มี feature ที่ไม่ค่อยโฆษณาซ่อนอยู่เยอะนะครับ แต่ว่าตอนเลือกลงปลั๊กอินจาก Callisto นี่ค่อยๆ เลือกทีละตัวนะครับ ไม่งั้น เดี๊ยงเอาได้ง่ายๆ 5 5 5 ผมลองมาแล้ว
มาซะทีหลังจากซุ่มไปนาน ตอนนี้มีมิร์เรอร์ในไทยแล้วด้วย คราวนี้ฟีเจอร์เกี่ยวกับพวก editing นี่เด็ดดีทีเดียว
WTP มี all-in-one pack ครับ เพิ่งโหลดมาลองเล่นดู ไม่รู้ว่าคิดไปเองเหรอเปล่า เหมือนจะ speed ของ code assist เร็วขึ้นกว่าเก่า
WTP นี่ ใช้ๆไปเจอแฮงค์กันบ้างมั้ยค่ะ ตอนนี้ใช้ทำ JSF ด้วย เครื่องแรม 1 GB, 3GHz แต่พอใช้ไปนานๆซักสองสามชม.จะเกิดอาการเดี้ยงหลายทีแล้ว หรือสเปคเครื่องเรายังไม่พอเนี่ยะ
ในที่สุดก็มี VE เวอร์ชั่น Mac (แอบน้อยใจมานาน ทำไมเหมือนมันเป็น plugin ตัวเดียวในชุดที่ไม่ได้ทำออกมาให้ Mac ใช้)
@smilelovehappiness
ผมไม่เคยเจอ hang นะ spec พอๆ กันกับของคุณล่ะคับ มีเจอแต่ค้าง นานๆ เนื่องจากมันไป validate xml ตาม url จริง - -'' ก็แก้ได้ โดยโหลด dtd มาไว้ที่เครื่องอะึคับ ^^'
ที่รอมานานก็คือ javadoc ตอนนี้สามารถอ่าน javadoc ของไลบราลี่ต่างๆจาก html ได้ซักที ไม่จำเป็นต้องแปะซอร์สโค้ดเข้าไปด้วยแล้ว เดิมทีถ้าเป็นไลบราลี่ที่ไ่ม่มีซอร์สมาให้ก็จบกัน
ezy นี่ละครับปัญหาของ swt
ejel ปกติก็เพิ่ม doc เองโดยไม่ต้องมีซอร์สได้นิครับ
smilelovehappiness ยินดีด้วยครับคุณไม่ได้โดดเดี่ยวคนเดียวในโลกนี้ มีถึง NetBeans evangalist คนดังเป็นเพื่อนเชียว
vavar - เดี๋ยวไปลองดูค่ะ
deans4j - ง่า.......-_-'
ลืมบอกไปว่าตอนนี้มี mirror ในประเทศ (ที่ยังไม่ได้ register) อีกที่นะครับ ftp://mirror.in.th/eclipse/