Tags:

เห็นคุณ n3tr เขียนไว้แล้วในบทความ รีวิว iPhone SDK 3.2 Beta แต่พอดีผมเองก็เขียนไว้ในเวลาไล่เลี่ยกัน เท่่าที่อ่านก็มีหลายจุดที่สองข่าวมีไม่เหมือนกัน เลยขอโพสต์เป็นกระทู้เอาไว้เผื่อว่าใครสนใจครับ :)

แอปเปิลเปิดตัว iPad มาพร้อมๆ กับออก iPhone SDK 3.2 สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่วนที่น่าสนใจสำหรับ SDK ตัวนี้ก็คือมันมี iPad Simulator, เอกสารทางเทคนิคเกี่ยวกับ iPad และข้อมูลที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง

ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกว่า iPad Simulator ที่แอปเปิลให้มานั้น เป็นเวอร์ชันที่กั๊กมาก คือแทบจะไม่มีอะไรให้เล่นเลย ถ้าเทียบกับ iPhone Simulator จะมีโปรแกรมดูรูป มี Safari ให้ลองเล่น แต่พอมาเป็น iPad กลับเหลือแค่ 2 โปรแกรมคือ Contacts และ Setting (อันหลังไม่น่าจะนับเป็นโปรแกรมด้วยซ้ำ)

เรื่องน่ารู้ทั่วไปเกี่ยวกับ iPhone SDK 3.2 beta

  • ขนาดใหญ่มาก !! อยู่ที่ 2.32 GB
  • พอแตกออกมากินเนื้อที่ไปกว่า 5 GB
  • ใน Guideline แอปเปิลพยายามบอกว่า สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง iPhone กับ iPad คือเรื่องขนาดหน้าจอเท่านั้น แต่ผมพบว่ามันมีมากกว่านั้นเยอะเลย

No Description

ตัวอย่าง iPhone Simulator จะเห็นว่ามีโปรแกรมให้เล่น 4 ตัวด้วยกัน

No Description

เมื่อเปลี่ยนโหมดมาเป็น iPad พบว่าหน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นมากจนล้นจอ แต่ก็มีให้เราสามารถเลือก scale ขนาดให้เล็กลง 50% ได้

No Description

ในหน้า setting จะเห็นว่าการเลือกหน้าจอจะต่างจากไอโฟนพอสมควรโดยแทนที่จะเลือกไปทีละหน้า ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แอปเปิลเลยออกแบบหย้สจอให้มี 2 panel ซ้ายกับขวา

No Description

หน้า about จะเห็นว่าเป็น iPhone OS เวอร์ชัน 3.2 (ยังไม่ได้ขึ้นเวอร์ชัน 4)
ส่วนการกลับไปเมนูก่อนหน้ายังคงไอคอนหัวมุมข้างบนซ้ายเหมือนเดิม

No Description

คีย์บอร์ดยังไม่มีภาษาไทยมาให้ เข้าใจว่าเพราะมันไม่เหมือนคีย์บอร์ดบนไอโฟนเลยไม่สามารถพอร์ตมาได้ตรงๆ (อนาคตน่าจะมี)

No Description

ส่วนของ Region มีภาษาไทยให้เลือก (เฮ)

No Description

พอเลือกแล้วก็จะเปลี่ยนรูปแบบวัน เวลา เป็นแบบไทย จะเห็นว่าแสดงผลภาษาไทยได้ไม่มีปัญหาใดๆ

No Description

ในส่วนเมนูของโปรแกรม Simulator จะมีให้เราเลือกใส่ command ต่างๆ ลงไปได้ ส่วนใหญ่จะเหมือนกับไอโฟน ทั้งหมุนซ้าย ขวา เขย่า กดปุ่ม home, lock

แต่ที่น่าสนใจคือมีปุ่มจำลองสถานะการณ์ว่าถ้ามีคนโทรเข้ามาจะเป็นอย่างไร (แปลว่า iPad ใช้โทรศัพท์ได้ ?)

No Description

เมื่อลองกดดูแล้วก็จะมีปุ่มสีเขียวๆ ขึ้นมาข้างบน เช่นเดียวกับในไอโฟน แสดงว่าแอปเปิลทำคำสั่งนี้รองรับการโทรศัพท์บน iPad ไว้แล้ว

No Description

มาดูโปรแกรม Contacts กันบ้าง ก็จะแบ่งหน้าจอเป็น 2 ส่วน ซ้าย ขวา เช่นเดียวกับ setting

No Description

ที่น่าสนใจคือพอลองกดไปที่ปุ่มรูปคน มีเมนูให้เลือกได้ว่าจะเอารูปจากเครื่องหรือจะถ่ายรูป (แปลว่าสามารถติดตั้งกล้องได้ หรืออาจจะมีรุ่นที่มีกล้องในตัว ?)

No Description

พอกดเข้าไปก็มีหน้าจอรองรับเวลาถ่ายรูปไว้แล้ว

No Description

ลองกดเข้าไปที่ปุ่ม add field ถ้่าเป็นบนไอโฟนจะเข้าไปหน้าใหม่ แล้วเลือก field ที่ต้องการ
แต่บน iPad จะเป็น popup ขึ้นมาแทนให้เลือก เป็นอีกส่วนที่ต่างกัน ถ้าจะเขียนโปรแกรมบน iPad

No Description

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือตัวคีย์บอร์ด ที่แอปเปิลบอกว่ามีขนาดเท่ากับคีย์บอร์ดปกติเลย

No Description

สั่งเกตุว่ามีความต่างกับในไอโฟนหลายจุดดังนี้

  • ปุ่ม shift มีทั้งซ้ายและขวา
  • ปุ่มที่เปลี่ยนโหมดตัวเลขกับตัวอักษรก็มีทั้งซ้ายและขวา
  • ปุ่มขวาล่างสุดเอาไว้ซ่อนตัวคีย์บอร์ด (แต่ถ้าจะมห้คีย์บอร์ดกลับมาใหม่ จะต้องคลิ๊กอีกครั้งนึงใน text field)
  • มีปุ่ม Undo มาให้ด้วยทางซ้ายล่าง (เยี่ยมมาก)

No Description

แต่ถ้าไม่ชอบปุ่ม undo ก็สามารถเขย่าเครื่องเพื่อให้มี action Undo ขึ้นมาได้เหมือนไอโฟน (เขย่าทั้งเครื่องคงตลกพิลึก)

No Description

ถ้าเข้าโหมด Lock เครื่องจะเป็นดังรูป ต้องสไลด์เพื่อเข้าหน้าหลัก

No Description

จากหน้าหลัีกถ้าเลื่อนไปทางซ้ายหนึ่งครั้งจะได้หน้า Spotlight สำหรับหาข้อมูล ซึ่งเท่าที่ลองใช้ดู ปรากฏว่าหา Contact ชื่อผมไม่เจอ -_-"

มาลองในส่วนของตัว SDK ที่ใช้เขียนโปรแกรมกันบ้าง ซึ่งก็มีข้อน่าสังเกตุดังนี้

  • ในขั้นตอนสร้างโปรแกรมจะมีให้เลือกเลยเ้ราจะทำโปรแกรมสำหรับ iPhone OS รึเปล่า ไม่ได้แยกว่าเป็น iPhone หรือ iPad
  • แต่ในส่วนของการสร้าง Interface นั้นจะต้องเลือกว่าจะใช้หน้าจอแบบ iPhone หรือ iPad
  • เพราะงั้นหมายความว่าในโปรแกรมตัวเดียวกันเราสามารถสร้างหน้าจอสองแบบเอาไว้ได้ แล้วเขียนโปรแกรมให้ดักเอาว่าตอนนี้เปิดบน iPhone หรือ iPad แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจจะมีหลายคนที่เขียนโปรแกรมแยกไปเลยมากกว่า
  • ตัว controller , input , windows ต่างๆ ที่ให้มาเหมือนกับที่เคยมีมาบนไอโฟน ไม่ได้มีอะไรเพิ่มมาพิเศษ

No Description

ลองเอาตัว controller ต่างๆ มาแปะดูเล่นๆ จะเห็นว่าขนาดหน้าจอนั้นใหญ่เหลือเฟือ เอามาวางซ้อนกันได้
สำหรับคนที่เขียนโปรแกรมบนไอโฟนก็คงต้องเปลี่ยนรูปแบบการวางหน้าจอพอสมควร เพราะขนาดจอต่างออกไปเยอะเลย

No Description

ลองเขียนแล้วให้ทำงานดู โดยลองเลือกสร้างหน้าจอแบบไอโฟน พอสั่งทำงานบน iPad ก็จะได้หน้าจอเล็กๆ ขนาดเท่าไอโฟน แต่ก็มีปุ่มให้ขยายได้ทางขวาล่าง

No Description

พอกดขยายก็จะได้หน้าจอเต็มๆ ซึ่งต้องชมว่าแอปเปิลทำไว้ให้เราสามารถใช้โปรแกรมเดิมบนไอโฟน มาเล่นบน iPad ได้เลย

No Description

ถ้าเรากดที่ไอคอนแช่เอาไว้ ไอคอนโปรแกรมก็จะสั่นและสามารถเรียงลำดับ ลบ หรือย้ายไปหน้าใหม่ได้เหมือนไอโฟน

No Description

ขนาดของ dock ใส่ได้มากกว่าเดิม คือ 6 โปรแกรม (ผมว่าวางแบบนี้ดูเต็มและสวยกว่าที่แอปเปิลวางไว้แค่ 4 โปรแกรมในหน้าเว็บ มันดูโล่งมากๆ)

ข้อสรุปเพิ่มเติมจากเอกสารของแอปเปิล

  • Architecture ของ OS เหมือนกับไอโฟนทุกประการ
  • มีแค่บาง class หรือ method เท่านั้นที่เพิ่มขึ้นมาบน iPad (จะใช้ไม่ได้บนไอโฟน)
  • สามารถต่อออกไปจอข้างนอกได้
  • สามารถแชร์ไฟล์ได้ผ่านทาง share folder
  • ยังคงไม่มี multitasking

หวังว่าใน SDK เวอร์ชันหน้าคงจะมีอะไรให้เล่นมากกว่านี้ :P

ที่มา - รีวิว iPad Simulator 3.2

Get latest news from Blognone
By: fozarn
iPhone
on 28 January 2010 - 13:56 #152664

ถ้ามี โทรศัพท์นี่ผมจะซื้อวันแรกที่ขายเลย
กล้องอีกอย่าง

ขอถามหน่อยครับ ทำไมถึงรู้ว่าต่อไปจอข้างนอกได้?
ต่อผ่านรูไหน? 32-pin?

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 28 January 2010 - 14:55 #152684 Reply to:152664
khajochi's picture

อ่านจากใน developer guide ของ ipad ครับ


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 28 January 2010 - 14:54 #152682
khajochi's picture

แอบมาบอกว่า keynote มาให้ direct download แล้วนะครับ
-> http://movies.apple.com/datapub/us/podcasts/apple_keynotes/ipad.m4v


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: expextoz
In Love
on 28 January 2010 - 14:55 #152683

ยังคงไม่มี Multitasking กับ Flash

By: designil on 28 January 2010 - 19:15 #152765 Reply to:152683

ตอนทำแอพน่าจะไม่ได้ใช้แฟลชอยู่แล้วล่ะครับ แต่เสียดายตรงที่เล่นเกมส์ Flash บนเว็บไม่ได้นี่สิ ถ้าได้จะสะดวกมาก ๆ

คิดว่าที่รันไม่ได้อาจจะเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของ Adobe ด้วยหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจครับ

By: JavaDevil
iPhoneUbuntuIn Love
on 29 January 2010 - 00:52 #152843 Reply to:152765

เพราะว่า Apple ไม่ยอมให้โปรแกรมแนว Sandbox ขึ้นไปอยู่บน Appstore
Adobe อยากจะเอา Flash 10.1(OpenScreenProject) ไปไว้บนทุก Platform จะตาย

By: GeBaN on 29 January 2010 - 13:48 #153006 Reply to:152843

สงสัยยังตกลงเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัวมั้ง -*-

By: Bongbank
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 29 January 2010 - 19:18 #153073 Reply to:153006
Bongbank's picture

Apple กลัวนักพัฒนาจากฝั่ง Flash Dev มาแย่งส่วนแบ่งนักพัฒนา Obj-c Dev ล่ะมั้งครับ ฮาๆ

By: paween_a
Android
on 21 February 2010 - 08:55 #158720
paween_a's picture

มีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากกว่าที่ได้จากข่าวเยอะเลยนะครับเ้นี่ย
ทั้งเรื่องกล้องเอย ทั้งเรื่องโทรศํพท์เอย
แต่ตอนนี้ติดอยุ่แค่เรื่องการตลาดมากกว่า เพราะอัดเข้าไปเดี๋ยวจะทำให้ราคา iPad มันแพงเกิน
เปิดตัวแล้วจะไม่สวย อาจจะต้องรอเป็นรุ่น iPad Pro ที่ครบเครื่องทุกเรื่อง แต่ราคาอาจจะเหยียบ ๆ 3 หมื่นได้ หึหึ