Andy Rubin หัวหน้าฝ่ายมือถือของกูเกิลให้สัมภาษณ์ว่า "ประวัติศาสตร์ได้สอนให้เรารู้ว่าผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียวมีข้อจำกัดในการขยายตลาด ซึ่งคนส่วนใหญ่แก้ปัญหาโดยการสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง แต่ทั้งหมดก็มีแค่ 2 รุ่น"
"แต่ผลิตภัณฑ์ Android มีได้เป็นพันรุ่น และความมหัศจรรย์ของมันอยู่ที่ทุกรุ่นทำงานเข้ากันได้หมด สามารถใช้ Marketplace ตัวเดียวกันได้"
ถึงแม้ว่า iPhone/iPod touch จะขายออกไปได้แล้ว 40 ล้านเครื่อง และ App Store มีโปรแกรมในหลัก 50,000 โปรแกรม ส่วน Android Market มีเพียง 5,000 โปรแกรมเท่านั้น แต่ Rubin บอกว่ากูเกิลเพิ่งเข้าตลาดนี้ได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น ตัวเลขนี้แสดงถึงศักยภาพของ Android ได้เป็นอย่างดี
Rubin ยังเอ่ยถึงข่าวเก่าที่เคยลงไปแล้วว่า "สิ้นปีนี้เตรียมพบกับมือถือ Android 18 รุ่น" แน่นอน
ที่มา - FT.com
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เรื่องการยืนระยะในการตลาดผมไม่รู้ครับ
แต่กับในย่อหน้าแรกนี่ ผมว่า Nokia เขาพิสูจน์แล้วล่ะ
แต่ปัญหามันน่าจะเป็น "มีเป็นพันรุ่น แต่ทั้งหมดโดนแต่ขึ้นมา" จะทำยังไงให้ยังยืนได้
http://twitter.com/darkleonic
I need healing.
ก็ช้าเองหรือเปล่า ตอนนี้ 40 ล้านเครื่องเชียวนะ ถึงแม้ตัวเครื่องจะแพงก็เหอะ
.
ถ้ามีเครื่องราคาถูกออกมาก็จะไปเร็วกว่านี้มาก
NiNeMarK.net <<< ทั้งชีวิตคิดถึงเกม
board.GoLoei.in.Th <<< จะไปไหน?...ไปเลยซิตี้ FC
ปัญหาหลักของไอโฟนคือจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อรุ่นต่อไปมันมี Feature มากขึ้นหรือความละเอียดจอไม่เหมือนเดิม...
Follow @toandthen
@TonsTweetings
ผมว่าไม่น่ายากสำหรับ Apple นะ ดูอย่างการ Transition จาก PowerPC มา Intel ก็ดูจะราบรื่นดีนะ
สุดท้าย Apple ก็ต้อง Force ให้ผู้ผลิต Update Software ตัวเองเพื่อ Compatible กับ Firmware รุ่นนั้นๆอยู่ดี
ดูอย่าง 3.0 ทาง Apple ก็ยังออกมาบังคับให้ผู้ผลิต Update Software ตัวเองให้ Compatible กับ 3.0 ไม่งั้น ก็โดนถอดออกจาก Appstore อยู่ดี
มันก็เหมือน Mac กะ PC อ่ะผมว่า แม้ Apple จะมี product น้อยกว่าแต่ก็อยู่ได้
อย่างน้อยก็ยังมี fanboy คอยช่วยซื้อ :D
ช่วยเถียงด้วยครับ :D
+1
เชื่อว่า apple feature หรูยังไง แต่หลายคนที่ซื้อ apple ก็เพราะว่าเปน apple รุสึกลูกค้า apple นี่ brand-loyaltee สูง ถ้า ROI ไม่ต่างฟ้ากะเหว ไงก็ขายได้
Brand Royalty ครับ
Brand Loyalty ครับ
royalty = พระบรมวงศานุวงศ์
loyalty = ความภักดี
แปลโดยอากู๋เกิล
ขอบคุณครับ ^^'
Android ออกกันทุกแบรนด์
iPhone ออกคนเดียว
Apple ไม่ได้เน้นการแข่งขันด้านปริมาณนี่ครับ ?
รู้สึกเหมือนเปิดประเด็นว่า Windows ออกได้เป็นพันรุ่น แต่ Mac 4 - 5 รุ่นเลยเนอะ ??
Hello !!
I am a iPhone.I am a Android ??
"Brand Apple is "Tool for creative minds" not "Tool for rich guy"
ตอนเปิดตัว iPhone จ็อบส์บอกว่าขอ 10 ล้านเครื่องนี่ครับ นี่คือไม่ใช่ปริมาณ?
ส่วนเรื่อง Windows ออกเป็นพันรุ่น แมค 4-5 รุ่น ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ นี่ครับ และแอปเปิลก็เกือบเจ๊งไปพักนึง ไมโครซอฟท์เลยครองโลกไง
ถ้าจ็อบส์บอกเช่นนั้น ก็ไม่เน้นปริมาณแน่ๆ
10 ล้านเครื่อง .. เหมือนเยอะ แต่เทียบขนาดตลาด ไม่ถึง 1%
เปนแค่ [break-even]+margin
น่ากลัวประวิติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนกัน เหมือนสมัย Steve Jobs โดนปลดจากบ. ตัวเอง แต่คราวนี้ผมว่า Jobs คงตายมากกว่าจะโดนปลด ถึงจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม
ในโลกนี้มีธุรกิจไหนมั่งครับ ที่ไม่อยากได้ปริมาณลูกค้า
พี่คับ เมื่อ android อยู่เท่าแอปเปิลในตอนนี้ (หมายถึง Market) จะมีแอพพลิเคชันเท่ากับในapp store รึเปล่าล่ะครับ =___= เข็น 2.0 ออกมาซักทีสิ รออยู่เนี่ย (cupcake อื๊ดอืด)
เห็นด้วยครับ andriod นั้นออกแบบอย่างน่าทึ่ง
สานฝัน Linux smartphone อย่าง OpenMoko (OpenMokoแทบจะปิดทิ้งไปเลย)
สุดท้ายแล้ว Android ก็เหมือน Windows Mobile หรือเปล่า
สุดท้ายแล้วมันก็ตัน เจาะได้บางตลาดบางกลุ่มลูกค้าเท่านั้นเอง
แต่ iPhone เขาเจาะตลาดได้กว้างกว่าครับ
ปัญญาของหลาย ๆ รุ่นคือการสร้าง app ครับ
ผู้พัฒนามักจะมีปัญหาปวดหัวกับ hardware แบบต่าง ๆ หน้าจอหลากหลาย
สู้ไปสร้างบน platform ที่มีเหมือนกันหมด มั่นใจได้ว่าเขียนขึ้นมานี่ใช้งานได้ทุกเครื่องยน platform นี้
อันนี้ app store พิสูจน์ให้เห็นแล้วนะ
iPhone กะ Windows Mobile .. คงเปนเรื่องจังหวะมากกว่า ความพร้อมของลูกค้ากับเทคโนโลยี ต่อ ราคากะสิ่งที่สามารถนำเสนอ และความเป็นหนึ่งเดียวในการทำตลาด ที่มีผลต่อพลังการสร้างกระแส
iPhone ลงตลาดในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังสุกงอม ทำให้ลูกค้า mass มี first impression ที่ดี ส่วน Windows Mobile มันค่อยๆ มา เลยซึมๆ
เคยคุยกะเพื่อนเมื่อซัก 3 ปีก่อน ประเมินตัวเลข 5 ปีไว้ ว่า touch มาแน่ๆ และจะทำให้ smart device บูม ตอนนี้ยังไม่ถึงตัวเลขที่กะไว้ แต่สงสัยถึงตอนนั้น จะทะลุ เพราะตอนนั้น ไม่ได้คิดว่า google จะลงมาเล่นด้วย
ที่แน่ๆ ตอนนั้นดูเหมือนเพื่อนคงคิคว่า "ไอ้นี่ แม่งโม้" แต่ตอนนี้ พวกนั้นใช้ iPhone กันหมดแล้ว แต่ไอ้โม้ ยังใช้เครื่องเดิม รุ่นแนวๆ 3310+GPRS+wap+กล้อง
ทีแรกรอ GPS+Video แต่รุ่นล่าดันมาตายตรงแบตอีก สงสัยต้องรอข้าม 2-3 รุ่น ให้มี frontcam+WiMax (ก้อพอจะรอได้ เฉยๆ เพราะปกติอยู่กะ ADSL ตลอด)
ส่วนการสร้างกระแส .. apple กิน Windows Mobile ขาด เพราะคุมได้ทั้งต้นน้ำยันปลายน้ำ ขนาด operator ยังโดนคุม BB เริ่มทำตามและไปได้ดี ส่วน Windows Mobile ยังสะปะ
แต่พอ Windows Mobile 7 ออก อาจมีคิวพลิกโลก ส่วน Android ยังสะปะต่อไป ไม่เหนแวว โชคดีได้ชื่อ Google ถ้ายังไม่สร้างกระแสเปนเรื่องเปนราว สุดท้ายคงต้องแข่งตรงราคา
ฐาน app กะ dev .. อีกหน่อยเรื่อง hardware คงมิใช่ประเดน hardware iPhone ไม่มีปัญหาแน่ๆ .. แต่ฐาน dev จิงๆ อ่อน ที่ตอนนี้เยอะ คิดว่าเพราะฐานลูกค้ากะกระแส ที่สร้างแรงจูงใจให้ dev
ส่วน Windows Mobile ด้วยสมรรถนะของ hardware ตอนนี้ แถมเรื่อง .NET client profile ก็คงพ้นจาก .NET CF ได้ ทำให้เหลือ platform เดียวได้ด้วย .NET แถมได้ฐาน dev อีก ได้ Mono ด้วย และยังได้ฐานลูกค้าจาก Windows desktop อีก แต่ยังไง ขอดู .NET กะ visual studio ตัวหลัง 2010 ก่อน
สำหรับ Android จิงๆ เกิดมาก้อมีแค่ platform เดียวเลย แต่ฐาน app กะ dev อาจจะตาย ก็ตอนเปิด native นี่แหละ จะรวมปัญหามาจากทั้ง iPhone กะ Windows Mobile เลย แต่ยังโชคดี ตรงที่ได้ชื่อ Google มาช่วยค้ำเช่นเคย
ผมว่า Android จะเจาะตลาดได้กว้างกว่าครับ เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม เพราะยัดเยียดติดตั้งไปให้มือถือทุกรุ่น (ไม่จำเป็นต้อง touch screen ก็น่าจะได้ แค่ปรับการใช้งานให้ง่ายขึ้นด้วยปุ่มและ joy stick) ต่อไปเครื่องละ 5,000 ก็อาจจะมี Android build มาให้เลย
แต่ปัญหาคือกลุ่มล่างๆ ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่จะมาซื้อ App ใช้เนี่ยซิ แล้วอะไรจะเป็นดึงดูดใจให้นักพัฒนามาทำ App ขายบน Android สุดท้ายก็อาจจะกลายเป้น App Opensource เป็นหลักเหมือน Linux :)
Apple พยายามเปลี่ยนกลไกตลาดและพฤติกรรมของผู้ใช้มือถือกลุ่มระดับกลางถึงสูง ที่เน้นเปลี่ยนมือถือเป็นว่าเล่นเพื่อสร้างภาพความมีรสนิยม มาเป็นความตื่นเต้นในการได้ลองสิ่งใหม่ๆ ในรูปแบบของ software ที่ราคาถูกกว่าการซื้อ hardware ใหม่
ลูกค้ากลุ่มล่างๆนี่แหละครับที่ซื้อเกมจาวาเกมละสี่สิบลงมือถือ
บางทีมันก็ไม่ง่อยเสียทีเดียวหนา ยังไงซะ แอพราคาย่อมเยาก็ยังจับตลาดนี้ได้อยู่ครับ
ปี 2008 Windows Mobile มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 12.8% ครับ ส่วน iPhone มี 10.7 ส่วน Blackberry นั้นมีอยู่ 19.5% ยิ่งถ้าเป็นซิมเบี้ยนนั้นไปถึง 47.1% โน่น
จะบอกว่า iPhone กว้างว่า WM นี่ ผมว่าตัวเลขมันชี้อีกทางเลยนะครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ช่วงหลังๆได้ยินข่าวว่า iPhone มีปัญหายิบย่อยออกมาไม่ขาดสาย ทั้งตัวเครื่อง ทั้งระบบ ทั้งสัญญา ผมว่าอาจเป็นกระแสทำให้คนไปซื้ออะไรอย่างอื่นใช้
โทรศัพท์มันไม่เหมือน Computer ครับ คนที่ซื้อ Iphone ใช้ก็ไม่ใช่ แฟนบอยของ apple 100% คนพวกนี้พร้อมที่จะเปลี่ยน มือถือ ทันทีที่รุ่นใหม่ออกมา ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้มือถือเป็นเครื่องมือสื่อสารจริงๆ UI ของ Android ออกแบบมาแบบใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ไม่เหมือนกับ iphone ที่มีแต่ icon เหลี่ยมๆ สื่อความหมายอะไรไม่ได้ แล้ว AppStore ที่มีโปรแกรมกว่า 50,000 โปรแกรม มากกว่าครึ่งเป็นเกมส์ กับโปรแกรมไร้สาระ ที่ใช้ได้จริงๆจังมีไม่มากเท่าไร ถ้า apple ยังออกแบบ Iphone ตามแนวทางเดิมๆ ในระยะยาวก็คงเสร็จ Android อย่างเขาว่าจริงๆนะแหละ
***อีกหน่อยมี "อุปกรณ์พกพาที่ใหญ่กว่ามือถือ แต่เล็กกว่า netbook" ออกมา มี ทัชสกรีน แจ่มๆ อาจเป็น Android หรือ chrom OS ถึงตอนนั้น iphone ที่อยู่กลาง ระหว่างโทรศัพท์ห่วยๆ+เครื่องเล่นเพลง+เล่นอินเตอร์เน็ต ต้องปรับตัวกันใหม่แน่นอน
MID???
อย่าว่า icon และ UI ของ iPhone นา ผมเถียงขาดใจเลย เหมือนจะไม่มีอะไร แต่เห็นเด็กเล็กๆ อายุไม่กี่ขวบ (เด็กจริงๆ) จับ iPhone 2-3 ทีใช้เป็นแล้ว (สามารถเข้า camera ไปถ่ายรูป และเปลี่ยนหน้าไปเข้าโปรแกรมแต่งภาพ(app เสริม)ได้ เพียงแค่เห็นผมใช้สองครั้งเท่านั้น) ผมว่า UI ที่ใช้ง่ายที่สุดนี่ต้องดูที่เด็กเลย ถ้าเด็กใช้ได้นี่คือออกแบบได้เข้ากับธรรมชาติของคนที่สุดละ ส่วน Android เคยจับแป๊บๆ ก็ดูโอเค แต่ไม่เคยเห็นว่าเด็กเล็กๆ ใช้ได้หรือเปล่า ถ้าคิดว่าคงง่ายเหมือนกัน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
โทรศัพท์ไม่ใช่ของเล่นเด็กนะครับ ใช้ง่ายกับใช้งานก็ไม่เหมือนกันด้วย หน้าจอที่มีแต่ icon มารวมกันไม่มีการจัดหมวดหมู่
แต่หน้า home ของ Android สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานได้ ตรงนี้ผมคิด android ออกแบบมาได้เหมาะกับการใช้งานจริงๆ
ใช้ง่าย นี่มันไม่ได้แปลว่าใช้งานได้ดีเหรอครับ แล้วเด็กสามารถเรียนรู้ ui ได้เร็ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความไม่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพของ ui ไม่ใช่เหรอครับ
ใช้ง่าย ไม่ได้แปลว่าใช้งานได้อย่างดีนี่ครับ ผมจะบอกว่า หน้าจอ iphone มันไม่สามารถปรับแต่งเพื่อการใช้งานแบบตามใจเหมือน Android ต่างหาก โทรศัพท์ nokia 3310 ที่มีแต่ปุ่มกดตัวเลขใช้กดโทรศัพท์ได้ง่ายกว่า iphone เยอะ แต่ไม่เห็นมีใครบอกว่ามันดีกว่า iphone เลย
ผมยอมรับในเรื่องการปรับแต่งหน้าจอที่ยืดหยุ่นของแอนดรอยนะครับ แต่เรื่องเทียบกับ 3310 นี่ผมว่ามันคนละเรื่องเลย
เปรียบเทียบแค่ในส่วนของการใช้โทรศัพท์นะครับใครๆก็ใช้ 3310 โทรออกได้ แต่มาจับ iphone เพื่อที่จะโทรศัพท์ครั้งแรกนี่ซิครับ จะต้องมีคำถามตามมาว่ากดตรงไหนวะตลอด แต่พอได้ใช้แล้วก็ไม่เห็นมีใครบ่นทั้งที่ขั้นตอนมันเยอะกว่า 3310
มันมีปุ่ม phone นี่ครับ กดครั้งเดียวก็มีคีย์เหมือน 3310 เลย
3310 ไม่ต้องกดปุ่ม Phone ไงครับ ในการใช้ครั้งแรกส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มตรงไหนก่อนกับชาวบ้านทั่วไปนี่นะไม่กล้ากดด้วยซ้ำไป
มันก็เพิ่มแค่ขั้นตอนเดียวเองนี่ครับ
กด "Phone" แค่นี้ก็เหมือนโทรศัพท์ทั่วไปแล้ว (มันยุ่งยากขนาดนั้นเลยเหรอ สงสัยๆ = =")
คืออย่างผมไม่เคยใช้ไอโฟนมาก่อนแล้วไปลองกับตัวทดลองของทรู เห็นไอคอนเขียวๆเขียนว่า"Phone" ชาวบ้านทั่วไปอย่างผมก็กดโทรออกได้แล้ว ผมว่าแอปเปิลเค้าออกแบบมาดีนะ
และเมื่ออาทิตย์ก่อนลองไปใช้ Diamond 2 (TouchFlow 3D) ของ HTC ผมว่าจะเข้าหน้ากด keypad ยังหลายขั้นตอนกว่าเลยกว่าจะเจอ -*-
เพิ่มตั้ง 1 ขั้นตอนต่างหาก
onedd.net
onedd.net
อย่าเอาตัวคุณเป็นเกณท์วัดคนอื่นซิครับ
ผมไม่ได้ตั้งใจจะวัดคนอื่นนะครับ (ไปกันใหญ่แล้ว - -")
ผมเข้าใจว่าคนเราชอบไม่เหมือนกันและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดใครได้ง่ายๆ ผมจะเอาเกณฑ์ที่ไหนมาวัดคนอื่นครับ?
เพียงแต่ผมพยายามสื่อให้เหมือนคุณ Zatang เพราะคุณบอกว่า "iphone ที่มีแต่ icon เหลี่ยมๆ สื่อความหมายอะไรไม่ได้"
ผมเพียงสงสัยว่า อะไรที่มันสื่อสารไม่ได้เหรอ? (ฟังก์ชันพื้นฐานนะ แต่ App อื่นๆอ่ะ ดูไม่รู้เรื่องจริง) เพียงเห็นปุ่ม Phone กดไปมันก็เข้าหน้าเหมือน 3310 ได้แล้วอ่ะจิ แค่นั้นเองประเด็นของผม = =
ผมไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นครับ แค่อยากจะบอกว่าคุณรู้แต่คนอื่นไม่รู้เหมือนคุณ คือจากประสบการณ์ผมเอง ไอโฟนเครื่องที่ผมใช้อยู่เนี่ย มีหลายคนมาลองจับแล้วส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งจะถามว่าโทรยังไง ที่บอกว่าสื่อความหมายไม่ได้ผมคงใช้คำผิดไปหน่อย คือ หน้า Home ของไอโฟนมีแต่ icon ที่บอกอะไรเราไม่ได้มากต้องเปิดขึ้นมาใช้งานจริงๆเท่านั้นถึงจะรู้ ซึ่งมันปรับแต่งไม่ได้มากนัก ผิดกับ Android ซึ่งมันมีหน้า Home ที่ปรับแต่งได้ซึ่งดูแล้วน่าจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
iPhone user ตัวจริงเลยแฮะ :D
HTC Hero ดู preview ในคลิปแล้วอยากได้มากครับ มัน customize ได้ตามใจจริงๆ แถม HTC ออกแบบเองด้วย
แต่เสียดายมีงอๆตรงคาง ผมรู้สึกแปลกๆ
ส่วนเรื่องเมื่อกี้ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าอ่านแล้วทำให้รู้สึกเคืองๆไป ต่อไปผมก็จะพยายามระมัดระวังคำพูดให้มากขึ้นเหมือนกันครับ ^^"
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีเช่นกันครับ :D
ดีกันๆ เย้ๆๆ \^^/
reply เพราะอยากรุว่ากรอบมันจะบีบได้ถึงไหน เหะๆ
คิดเหมือนผมเลย วุ้ย +1
ขอ ลอง ด้วย คน
My Blog / hi5 / Facebook / Follow me
My Blog
มีคนลองมาเยอะแล้ว....
เหลือบรรทัดละ 1 คำเลยล่ะ
เอ่อ ทราบว่าเป็น iPhone User แต่ว่าเป็น Android user ด้วยรึเปล่าฮะ ผมเองนี่แหละ วันๆตอบคำถามว่า Android ใช้งานยังไง (และตอบไป อีกสิบห้านาทีก็บอกว่าลืม ขออีกหน ทู้กกกคน)
ส่วนตัวผมว่า Android นี่แหละฮะ ถ้า First Impression เนี่ย ไม่เมคเซนส์จริงๆ โอเค ปุ่มโทรเข้าโทรออก เขียนชัดนะ แต่จนทุกวันนี้จะเรียก setting แต่มือลากข้างล่างขึ้นเฉยๆ ส่วนจะเรียกเมนูก็ดันกดปุ่มเข้าเซตติ้งซะงั้น (ไม่รู้ติดนิสัยสลับกันได้ยังไง) ส่วนคนที่มายืมผมเล่นยิ่งแล้วใหญ่ ส่วนใหญ่ถ้าไม่เปิดแอพให้ ยืมไม่เกินสี่สิบวินาทีจะเอามาคืนกันแล้ว (เพราะงง)
ผมว่า iPhone เมคเซนส์กว่า แอนดรอยด์เยอะ แต่สำหรับผมเล่น Windows Mobile ไม่เป็น เลยไม่รู้สึกว่ามันทับซ้อนกัน แต่สำหรับคนที่เล่น WinMo มาก่อนอาจจะรู้สึกว่ามันแตกต่างกันบ้าง
และสุดท้าย G1 มันกินแบตชิบเป๋งเลย -____- หวังว่า 2.0 (Donut) จะสามารถอยู่ได้ข้ามวันโดยไม่ชาร์จนะเนี่ย
ต้องแลกกันครับ ไม่มีอะไรดีที่สุดหรอก
iphone ดูดีกว่าชาวบ้านเพราะทัชสกรีนเท่านั้นเอง ลองเอา UI ของ iphone เดิมๆมาเปรียบเทียบกับ UI มือถือ Sony workman ว่ามันใช้งานต่างกันยังไงบ้าง
ส่วนเรื่องกินแบตนี่ปัญหาใหญ่ของ iphone เลยครับ ตั้งแต่ OS3 ออกมา ออกจากบ้านไม่กล้าเปิดเกมส์เปิดเพลงฟัง เดี๋ยวแบตไม่พอใช้โทรศัพท์
ล่าสุด Apple แนะนำเรื่องการยืดเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ว่า ให้ ปิด PushMail, Wifi, Bluetooth, 3G, location services, ปิด EQ ในการฟังเพลง, ปรับหน้าจอให้สว่างน้อยลง ....???????....... ตลกวะ แต่ทำไมไม่ขำก็ไม่รู้ :(
อย่างนี้ออกนอกบ้านก็ใช้โทรอย่างเดียว แล้วมันจะ Stay connected from anywhere ตามที่ Apple บอกไว้ได้ยังไง = ="
แต่ผมสงสัยว่า ถ้าเปิด PushMail กับ EDGE ไว้ทั้งวันมันจะเพียงพอมั้ยครับ?
พอสิครับ ผมเป็น edge wifi bluetooth ตลอดไม่เคยปิด ตอนเย็นกลับบ้านเหลือประมาณ 60-70% แล้วแต่ใช้มากน้อย กลับบ้านก็ชาร์จ
ไม่รู้ประเด็นมันไปถึง 3310 ได้ไง ผมบอกแค่ว่า UI ของ iPhone ก็ไม่ใช่ไม่สื่อความหมายนะ คนมาใช้ iPhone ก็ไม่ได้ต้องเรียนรู้มากเลย จะเอาประเด็นความสามารถแต่ละเครื่องมาทำไมกัน คุยยังไงก็ไม่จบ - -
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ใช้งานได้ดี ในการวัด usability หมายถึงมี quality
แต่การใช้งานได้ง่าย หมายถึง learnability ครับ ตรงนี้ต่างกัน
UI ของเครื่องคิดเลขก็เรียนรู้ได้ง่าย แต่เพราะว่ามันมี function ที่น้อยไงครับ
ต่างกับ UI ของ Science ซึ่งใช้งานได้ยากกว่า เพราะมี function ที่เยอะกว่า
ผมเถียงเพราะข้อความนี้ครับ "ไม่เหมือนกับ iphone ที่มีแต่ icon เหลี่ยมๆ สื่อความหมายอะไรไม่ได้" ผมจึงบอกว่าเด็กยังใช้ได้เลย จะบอกว่าสื่อความหมายอะไรไม่ได้นี่ไม่ถูกอย่างแรงครับ ส่วนเรื่องการใ้ช้งานของ android ยังสัมผัสไม่มากพอ ไม่รู้เรื่องครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ให้อากงอาม้า มาลองใช้ดีก่า.. กะของ hi-tech รุสึกว่าคนกลุ่มนี้ จะเรียนรู้ได้ช้ากว่าเด็ก
** ไม่ได้ว่าอะไรนะ เปนสิ่งที่สังเกตเหน ซึ่งอาจเปนเพราะธรรมชาติโดยทั่วไปของมนุษย์ เหมือนเอาเด็กไปเรียนภาษา ให้เวลาหนึ่งปีเท่ากัน คิดว่าผมต้องแพ้เด็กแน่ๆ เลย =='
กำลังคิดจะซื้อ iPhone 3G ก็มีรุ่นใหม่ 3Gs ออกมา ตอนนี้ เจอข่าวนี้อีก Nokia 5130 ต่อไปก่อนและกัน ^O^
- Design
- เนื้องานของผลิตภัณฑ์ Apple วัสดุค่อนข้างดีทีเดียว (ยกเว้นรุ่นพลาสติก ห่วยไม่สมราคา)
ส่วนมากคนที่ซื้อ "ราคา" ไม่ใช้สิ่งสำคัญแล้วครับ เขามองไปที่ brand มองไปที่ ความสวยงาม มากกว่า เพราะมือถือดีกว่า iphone บนโลกนี้ยังมีและราตาถูกกว่า 50% แต่คนก็ยังซื้อ
ความคิดผม android เกิดยากครับ ถ้้า มันยังต้องไปติดกับผู้ผลิตร้อยพ่อ พันแม่ มีตั้งแต่ design ทุเรศ จนถึงขั้นงามยิ่งนัก แต่ มันทำให้ผู้ประกอบการ หรือ ผู้ผลิตโทรศัพท์ เอาเท้าก่ายหน้าผากได้
จะเป็นเช่นไร ถ้า มือถือ รุ่น top กับ ไม่ top os เดียวกัน ลูกเล่นห่างกันไม่มาก แต่ราคาห่างกัน 1 หมื่น นั้นคือสิ่งที่ HTC กำลังเจออยู่ คนซื้อ ไปซื้อรุ่นถูก ในเมือ Function ที่ใช้ได้จริงๆ ไม่ต่างกันมากนัก
SYMBIAN คือ ตัวอย่างรุ่นพี่ที่กำลังตาย ครับ มันคือระบบปฎิบัติการชนิดหนึ่งในโทรศัพท์มือถือ เกิดก่อน iphone เกิดก่อน android แต่มันก็ไปไม่ถึงฝั่ง
ทั้งที่มี nokia ดันสุดๆ มีออกมา 2 รุ่น ? 5 รุ่น ? 20 รุ่น ? เปล่าเลย มันมีออกมามากกว่า 50 รุ่นในทุกยี่ห้อที่ใช้ symbian
แล้วเป็นยังไงครับ ตายสนิท ผมมองอย่างเป็นกลาง Google กำลังหลงตัวเอง และเชื่อมั่นตัวเองอย่างแรง..
yahoo เมื่อ 10 ปีก่อน ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ปัจจุบัน ก็อย่างที่รุ้
ผลิตภัณฑ์ดีๆ ของ google เอง ก็คือ search engine อย่างเดียวครับ แตก line มากระวังจะพังหมด
ผมสงสัยว่า "ตาย" กับ "ไม่ถึงฝั่ง" ของ Symbian นี่หมายถึงอะไรเหรอครับ
ตัวเลขใหม่ที่สุดที่ผมหาได้คือไตรมาสแรกของปี 09 (Gartner) โนเกียมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 41.2% ส่วนแอปเปิลมี 10.8%
ถ้า 41.2% ของโนเกียเรียก "ตายสนิท" นี่ของแอปเปิลเรียกว่ายังไงดีอะครับ
ถ้าเอาส่วนแบ่งการตลาดของ Symbian ในปีทีผ่านมา ตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน มา plot graph... มันจะเป็นยังไงหรอครับ? (อันนี้ถามเพราะไม่รู้จริงๆ)
สิ่งนั้นน่าจะบอกแนวโน้มของ Symbian ได้มากกว่า ว่ามันจะขึ้นหรือลง ถ้าจะเอา % ทางการตลาดมาเทียบจริงๆ เฉพาะปีเดียว ผมว่าเอาจำนวนอายุที่เกิดมาเทียบ % กันน่าจะสื่อให้เห็นอนาคตมากกว่านะครับ
หรือว่า Symbian คลอดออกมาก่อน iPhone ไม่กี่ไตรมาส?
ผมไม่เห้นด้วยกับคำว่าตายสนิท น่าจะเรียกว่า "ถ่านที่ใกล้ดับ" มากกว่า มีโอกาสกลับมาคงต้องหา Innovation ใหม่ที่ดีกว่าการทำ App ขาย ^_^
Symbian กำลังเปิด open source อยู่นะครับ และแนวโน้มที่โนเกียจะเลิก support นั้นยังไม่หมดไปนะครับ ปีหน้าจะปรับรูปโฉม interface ใหม่ จะดีขึ้นหรือแย่ลง ต้องรอดูแหละครับ
community Symbian ยังมีอยู่เยอะแยะ
Windows Mobile ที่คนใช้น้อยกว่า ยังอยู่ได้เลยครับ
ถ้าจะว่าตายสนิทต้อง เทียบกับตอนที่ Palm รุ่นเก่าที่หายจากตลาดไป
40% ยังไม่เรียกว่า มอด หรือ ตายสนิทหรอกครับ ถึงแม้จะสมมติว่า trend ขาลง
คนทั่วโลกถึงแม้จะเล่น smartphone ไม่เต็มที่ แต่คงไม่ซื้อโทรศัพท์ที่แย่ ๆ หรอกครับ
อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากความรู้สึกตัวเองครับ
My blog
My blog
ยังไม่ถึงขั้นตัดสินครับ แค่พยายามทายแนวโน้มในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเราจะได้รู้ว่าเราควรเตรียมตัวเอามันมาหากินยังไง แม้ symbian จะกลับมาด้วยอะไรต่างๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิมผมก็ยังมองว่าก็น่าจะไม่สำเร็จใน 2-3 ปีนี้ครับ
ผมเห็นด้วยกับการที่บอกว่า Symbian กำลังมีปัญหานะครับ ยอดส่วนแบ่งตลาดก็เริ่มลดลงจริงๆ
แต่ถ้าบอกว่า iPhone เป็นเจ้าตลาดนี่มันก็ไม่ใช่แน่ๆ
Iphone ครับไม่ใช่ Macbook บ้านเราคนใช้ iphone บางคนยังไม่รู้จัก apple เลยซื้อมาใช้ตามกระแสเท่านั้น App ยังให้ร้านเขาลงให้เลย ถ้าอีกหน่อยกระแส BB หรือ Android มาแรง คนส่วนหนึ่งที่ไม่ใช้แฟนบอยของ apple เขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นๆเหมือนกัน
+1
The Phantom Thief
ผมไม่มองอย่างนั้นนะ จุดอ่อนของ symbian คือสมรรถนะ Symbian ช้ามาก และใช้งานยาก (ในความคิดผมนะ) Android น่าจะใช้ประโยชน์ของ "เว็บ" ได้ดีที่สุด รวมกับบริการที่ออนไลน์อยู่ของกูเกิ้ล ผมว่าตีได้ไม่ยาก ที่สำคัญเป็นแพลตฟอร์มเปิด ผมเชื่อว่าจะมีค่ยโทรศัพท์หลายๆค่ายใช้ Android เป็นไพ่เด็ดพลิกสถานการณ์บริษัท (อย่างเช่น Motolora หรือ SE)
เรื่องดีไซน์นี่ผมว่าแล้วแต่รสนิยมนะ ผมเองมองว่า iphone ไม่ได้สวยอะไร แต่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของตัวเองได้ดีมากกว่า แต่เรื่องเนื้องานเนี่ย โทรศัพท์รุ่นสูงๆก็ผลิตออกมาทนทานดีไม่แพ้กันนะผมว่า
จะว่า Symbian ช้าก็ไม่ถูกหรอกนะ ต้องดู hardware ด้วยนะ
ตัวเทพๆของ Nokia อย่าง N-Series CPU มันก็ไม่เยอะ และ Ram ก็นิดๆ้เอง
ตัวยืดหัวหาดแบบ 5800 เนี่ย ก็ให้มาแค่ 300 นิด + แรม 81 Mb ... (ทำให้เซ็งเป็ดอยู่เนี่ย แรมหายไป 1 Mb ... ต้องหาทางเอาคืนให้ได้เลยกรู ..)
ส่วนเรื่องใช้งานยาก ก็ .... ไม่รู้ดิ ถ้าในความคิดนะ ... สมัยเ่ล่น Moto E2 ที่เป็น Linux กับ Symbian ไอ้ตัวหลังนี่ทำการบ้านมาดีกว่าเยอะเลย จับ concept การใช้งานได้ก็ใช้ได้เลย ส่วนไอ้ตัวหน้า อ่าน f_cking manual ไปหลายรอบอยู่ ...
แต่ที่ symbian กำลังแย่ คือ การ integrate กับเว็บนี่แหละ ที่เรียกว่าแย่ ... เหมือนจับ Win95 ไปเล่นเน็ต ที่ต้อง config อะไรวุ่นวายหลายอย่างเลย ... แต่รอดูไปก็คงไม่เสียหลาย อิอิ...
ผมกลับมองว่า Google วิสัยทัศน์กว้างมากเลยนะ ถ้าอนาคตคอมพิวเตอร์เล็กเท่ามือถือก็เสร็จ Android, ถ้าอนาคตไปทาง centric server ก็เสร็จ Chrome OS เพียงแต่ Google หวังผลระยะที่ยาวเอามากจนดูเหมือนกับเพ้อฝันไป แต่ผมว่า Google วางแผนมาอย่างดี เพียงแต่มันต้องอาศัยเวลากว่าจะถึงยุคของเขา
ผมว่ากูเกิลเขาก็ไม่ได้หวังว่าจะตี iPhone ให้ตายเท่าใหร่นะครับ แต่เขาอยากให้คนส่วนใหญ่ไปใช้ Android ตรงนั้นล่ะครับที่สำคัญ
เชื่อผมเถอะครับ คนส่วนมากมองที่ราคา กลยุทธ์ราคาใช้ได้เสมอในตลาดหลังไล่ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์มานับแต่ RISC/CISC, MS-DOS (ถูกที่สุดใน 7 OS ที่ IBM ขายพร้อมเครื่อง), Ethernet/TokenRing, GSM, DDR/RAMBUS, IDE/SCSI และอื่นๆ ที่ผมไล่ไม่หมด
ถ้าแอปเปิลยังไม่ยอมลงมาเล่นสงครามราคา (ซึ่งไม่ผิดหรอกครับ เพราะการลงมาเล่นตลาดหลักโดยที่ยังไม่พร้อมก็พาตัวล่มจมได้ง่ายๆ) ก็ไม่แปลกอะไรที่ส่วนแบ่ง "รวม" ของแอปเปิลจะถูกจำกัดอยู่ที่ระดับหนึ่ง ซึ่งก็คือคนกลุ่มที่คุณบอกว่าไม่ได้มองราคานั่นล่ะ
แต่ถ้าขายได้เยอะพอตัว แถมทำกำไรต่อชิ้นได้ดี มีเงินปันผล ผู้ถือหุ้นเค้าไม่ว่าอะไรหรอกครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
แต่สาวกจะมองว่ามันเกร่อนะ
คนขายของใครไม่อยากให้ของตัวเองขายได้ "จนเกร่อ" มั่ง
ถ้าสาวกอยากให้ของแอเปิล "แนว" ได้ตลอดไป อาจจะต้องเก็บเงินเตรียมเทคโอเวอร์
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ที่ได้สัมผัสมา กลุ่มที่ไม่สนราคาล้วนมองว่า iPhone เกร่อแล้วจริงๆละครับ ระดับผู้บริหาร และวัยรุ่นระดับที่ซื้อตามเซเล็บฯ ก็ม BBาใช้ กันหมด โดยเฉพาะผู้บริหารรุ่นใหญ่ๆไม่อยากถูกมองว่าใช้ iPhone ซึ่งดูเหมือนเป็นของเล่นมากว่าของใช้นะ ในด้านหนึ่งคือใช้ BB แล้วมันดูแบบว่า...เข้าสังคม "ระดับนี้" ได้อะครับ(แต่ยอมรับว่าฟังค์ชั่นสื่อสารมัน Practical จริงๆนะ ใช้แล้วคิดถึง Palm Treo)
\(@^_^@)/
M R T O M Y U M
เห็นด้วยที่ว่ากูเกิ้ลไม่ได้หวังตี iPhone แต่น่าจะเป็น WM มากกว่า เพราะทิศทางกลุ่มเป้าหมายต่างกันพอสมควร อาจจะมีฟีเจอร์ที่ปัจจุบันiPhoneทำจนกลายเป็นมาตรฐานไปแล้วเท่านั้นเองที่จะแข่งกันอยู่บ้าง(ในดีกรีที่ก่อให้เกิดการพัฒนาตลาดมากกว่าจะทำลายกันให้ล้มไปข้าง) แต่เป้าหมายหลักของ Android น่าจะเป็นกลุ่มนักพัฒนา App ธุรกิจมากกว่า ซึ่งเป็นการแซะฐานลูกค้าของ M$ โดยตรง(อันนี้เห็นชัดว่าอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้)
\(@^_^@)/
M R T O M Y U M
เรื่องแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ จริงๆ แต่ก็ต้องขอบคุณ google น่ะ ที่ออกระบบปฏิบัติการ ทั้ง android และ chrome มาให้เราได้มีทางเลือกมากขึ้น บนโลกใบนี้จะมีระบบ os อะไรขึ้นมาอีกน่ะเนี่ย หรือ yahoo จะเอามั้ง
Backlink|dofollow|PR..28.5 PR4! by Cloudkr
เย้ ๆ การแข่งขัน ใครไม่ไหวก็ดับไป ลูกค้าได้ผลประโยชน์
My blog
My blog
ถกกันเครียดเลยข่าวนี้ ให้ไปดูระยะยาว แต่ถึงเวลานั้นแอ๊ปเปิ้ลคงไปทำอย่างอื่นแล้วล่ะ (เหมือนไอพ็อดนั่นแหละ ใครทำตามออกมาก็ตายกันเป็นแถว กว่าจะได้แชร์ตรงนี้ พี่ท่านก็หนีไปไอโฟนซะแล้ว)
เห็นด้วย ผมว่าบริษัท Apple ต่างจากทุกค่ายโดยสิ้นเชิง แม้จะมีทั้ง Mac OS X, iPhone OS แต่จุดขายหลักจริงๆ เขาก็คือผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ไม่เหมือนกับ Google กับ Microsoft ที่ขายโปรแกรมใช้งานกับบริการเป็นหลัก
หากสินค้าตัวใดหมด Life Cycle (= ขายไม่ค่อยออก) ก็แค่มองตลาดแล้วผลิตสินค้ารุ่นใหม่ตามทิศทางของตลาดออกมาขาย เพียงแต่ Apple ออกจะแปลกอย่างหนึ่งก็คือ เขาจะเล่นตลาดที่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของ และพยายามสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากสินค้าในท้องตลาด
ผมว่ายังไง Apple ก็ไม่ตาย ถึงยุคมือถือที่มี OS ใหญ่ๆ มาเป็นเจ้าตลาด Apple ก็หาทางออกให้ตนเองได้ โดยยังขาย iPhone ของตนเองต่อไปเหมือน Macbook (+ Mac OS X) ในปัจจุบัน เพราะถึงคนส่วนใหญ่จะไม่เลือกใช้ แต่จะก็มีคนกลุ่มที่ชอบความแตกต่างอย่างที่ OS ค่ายใหญ่ๆ ให้ไม่ได้ ไปเลือกใช้อยู่ดี หรืออาจถึงยุคที่มือถือลงหลาย OS ได้ Apple ก็อาจทำ Boot Camp ออกมาก็ได้ เพราะไม่ว่ายังไงตนเองก็ขายเครื่องได้ ด้วยการออกแบบและ OS เฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ และพอทุกคนไปสนใจมือถือกันหมด Apple ก็อาจออกสินค้าที่ไม่คาดฝันขึ้นมาอีก ซึ่งอาจจะสังหารหมู่มือถือและ PC ตายหมดก็เป็นไปได้... เพราะสินค้าทุกชนิดไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่าง Apple
ถ้าวันนั้นยังมีจ็อบนะ
ได้ข่าวว่าเกือบเจ๊งมาแล้ว
ขอไว้อาลัยให้กับ Comment ประเภทนี้
That is the way things are.
+1
Follow @toandthen
@TonsTweetings
แอนดอยคืออะไรคับ
ถ้าจะบอกว่าแอนดอรยตันผมไม่เชื่อครับ เพราะยังไงเทรนในอนาคตต้องเป็น opensource ที่ช่วยกันคิดช่วยกันทำอยู่แล้ว
ยิ่งล่าสุดปล่อยให้จีนไปทำ มือถือ 4,000 กว่าบาทใช้ core android ต่างกันแค่ GUI ที่แต่ละค่ายสร้างมาไม่เหมือนกัน
ทาง Meizu เองยังหันมาจับ android เลยเพราะ Windows มันก็ยังคงเป็น windows อยู่ดีที่ทำได้หลายอย่างจริงๆแต่ไม่ราบลื่นซะอย่าง
โดยล่าสุดการหันมาใช้ android ของ meizu ได้เปิดขีดจำกัดต่างๆที่กั้นอยู่ออกไปมากมายครับ ดูจาก UI ตัวใหม่สดซิงได้เลย
http://bbs.meizu.com/attachment.php?aid=372070&k=6d30781d21f909aa9a102eb66cdda80a&t=1247417349&noupdate=yes
http://bbs.meizu.com/attachment.php?aid=372071&k=c78a781e6e6cc259391f09a5714053f5&t=1247417349&noupdate=yes
แอบเสียใจกับ CE6 นิดนึงเรื่องที่มันมีทั้ง .net flash java เกือบจะครบอยู่แล้วเชียว
ถ้าแอนดรอยฟังเพลงเพราะๆเท่า iphone ผมก็จะซื้อนะ
ผมรอ SE มีแอนดรอยบ้าง จะได้ซื้อ ^^
กำ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับ OS ตรงไหนครับเนี่ย - -
@TonsTweetings
ชี้ประเด็นไปที่วัสดุไงครับ (เกี่ยวทางอ้ออม)
ผมเชื่อว่าที่คุยๆกันอยู่ คงจะเห็นภาพชัดขึ้นในปีหน้า
ว่าแต่ละ OS หรือ Platform จะอยู่อย่างไร
iPhone จะสู้ Andriod ในระยะยาวได้หรือไม่
เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องตัดสิน แต่ที่แน่ๆ
ต้นแบบของธุรกิจที่มี iPod เป็นตัวนำทาง
ก็ยังไปได้เรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง ตั้งแต่ปี 2001
จนจะครบ 10 ปีอยู่แล้ว คู่แข่งเยอะแยะแต่ก็ไม่สามารถ
ทำให้ยอดขายลดลง เพราะ Apple รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร
ที่น่ากลัวที่สุดในสมรภูมิ Smartphone คือผู้มาใหม่ๆ
ไม่ว่าจะเป็น Palm pre หรือ ผู้ผลิตโทรศัพท์ Andriod หลากหลายยี่ห้อ
ที่ต้องขายผลิตภัณฑ์ในตลาดเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ที่ ไม่มี ความแตกต่าง
และไม่ให้คุณค่าที่ผู้บริโภคต้องการ ก็คงจะอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงไม่ได้
บริษัทที่เสี่ยงมากๆ คือ
1.บริษัทที่เพิ่งเข้ามาในตลาด
2.บริษัทที่ทำทั้ง hardware + Software
3.บริษัทที่มีสายป่านทางการเงินไม่ยาว บริษัทที่ไม่มีฐานลูกค้าที่แน่นอน
4.บริษัทที่ไม่สามารถเอาสินค้าไปขายทั่วโลกได้
5.บริษัทที่ผลิตสินค้าหลากหลายรุ่นแล้วไม่มีจุดเด่น
6.บริษัทที่ขายของไม่เก่งกลยุทธ์การขายไม่ดี
7.บริษัทที่ไม่รู้ความต้องการของผู้บริโภค
อาจจะมีอีกหลายข้อ......รอดูดีกว่า
ถูกต้องครับ ถ้าเรียนในด้าน Market Positioning หรือ Marketing หรือ Organizational Behavior จะรู้เลยว่าแอปเปิลโดนจับมาเป็น Case Study บ่อยมากทั้งในด้านความเสี่ยง ความมั่นคงของตลาด ฯลฯ
สำคัญคือ บางครั้งต้องไม่ลืมด้วยว่าผลิตพันธ์ที่ดีหรือเจ๋งสุดท้ายอาจจะแพ้ได้ตรงส่วนนี้มากกว่า ไม่ใช่ที่ตัวผลิตพันธ์เอง
คลาดที่ Generic มาก ๆ เลยตอนนี้ดูเหมือนจะเป็น Netbook จริง ๆ ออกมาสเปคแทบเหมือนกันหมด ล่อ XP ไปเป็นส่วนใหญ่ และยังไม่มีผู้นำในตลาดที่ชัดเจน ทางการตลาดนี่ตลาดนี้เป็นตลาดไม่อิ่มตัว ยังไม่มีคนตีบทแตก
@TonsTweetings
OS มือถือแต่ละตัวมันมีข้อดีข้อด้อยต่างกันครับ อย่าง WM นี่ที่เห็นชัดๆคือมันสามารถปรับแต่งได้จนตายกันไปข้างหนึ่งเลย ซึ่งมันค่อนข้างจะเหมาะกับพวกที่อยู่กับอะไรไม่นานครับ ชอบเปลี่ยนบ่อยๆ (ถ้าตลาด PC มี Windows แผ่นเถื่อนโดนแปลงมากที่สุด ตลาดมือถือก็มีรอม WM โดนแปลงออกมามากที่สุดเหมือนกันครับ) แต่ข้อเสียของ WM คือเรื่องของความเสถียรของมัน และการใช้งานที่ยากครับ รวมทั้งวตอนแรกๆจะเร็วมาก ส่วนหลังๆจะอืดมากอีกด้วย
ส่วน Symbian ผมรู้สึกว่ามันใช้งานง่ายนะครับ โดยรวมที่ใช้มา Symbian จะอืดช้ากว่า WM ครับ ซอฟท์แวร์ก้มีเยอะ แต่ผมยังรู้สึกไม่ค่อยดีกับ Touch Screen ของ Symbian สักเท่าไหร่ แต่ตลาดมือถือ button base ผมว่า Symbian ทำได้ดีมากๆครับ
พอ ขี้เกียจพิมพ์ ในหัวมีแต่เรื่องขุดว่ายน้ำของแฟน :P
[ JIRAYU.INFO ]
+1
The Phantom Thief
จะ iPhone, Android หรือ Symbian คงต้องรอดูไป.. แต่ตอนนี้ ผมอยากดู "ชุดว่ายน้ำ" เหอๆ
---------- iPAtS
iPAtS
อ่านข่าวนี้แล้วเหมือนเป็นคำประกาศว่า "เราจ้องจะผูกขาดตลาดอยู่นะ" ยังไงยังงั้นเลย - -"
ในสายตาของบริษัท ผูกขาด = max profit ครับ เป็นเรื่องที่ทุกคนทำกันหมด ไล่ดูได้เลย IBM, Microsoft, Oracle ฯลฯ
ผมชอบ App Store ตรงที่ขาย App ราคาไม่แพงนี่แหละ แต่เรื่องแบบนี้ใครๆ ก็เลียนแบบกันได้
แต่ไม่ชอบที่ iPhone ยึดติดกับ iTunes มากๆ
ขอแอบเชียร์ Android ละกันครับงานนี้
Google คงละเมอไปล่ะมั้งครับ
iPhone มันก็แค่ iPod รุ่นหนึ่งที่โทรศัพท์ได้ ไม่ใช่โทรศัพท์ที่ฟังเพลงได้เหมือน Symbian หรือ Android ซะหน่อย
.
.
My Experiences : Pexeriences
ผมก็เชื่อว่าระยะยาวคงเป็นเช่นนั้น แต่ก็คงยาวจริงๆ
ณ สถานการณ์ปัจจุบันก็ต่างกับ PC vs Mac พอควรเลย
หลายคนไม่เลือก mac เพราะเกมน้อย โปรแกรมที่จำเป็นรันไม่ได้ โปรแกรมรองรับน้อย
ผมคิดว่า iPhone แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เพราะ app บน iPhone เยอะ และเรียกได้ว่าแจ๋วๆ ทั้งนั้น แต่ระยะยาว ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ android มีทุกยี่ห้อ ซักวันก็ต้องเยอะกว่า แต่ก็น่าจะอีกหลายปี ผมคิดจะเลือกมือถือใหม่ ตอนนี้ก็ยังตัดสินใจเป็น iPhone อยู่เพราะ app และ game แต่ถ้าในอนาคต android มีพวกนี้เทียบเท่า iPhone ผมก็พร้อมจะไป android เหมือนกัน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าเทียบ Mac เป็น Android แล้ว PC เป็น iPhone ล่ะครับ?
อ้าวพูดงี้ได้ไง
ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก
Android ต่างกับ WM หรือ Symbian ตรงไหน
มีเป็นพันรุ่นเหมือนกัน ยังเป๋เพราะ iPhone เลย
จุดสำคัญมันอยู่ที่นวัตกรรม การที่แอนดรอยด์มีบริษัทผู้ผลิตจำน่ายหลายรุ่นทำให้มีข้อได้เปรียบคือมีโอกาสสูงที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งจะคิดค้นนวัตกรรมออกมา และทุกบริษัทที่อยู่ในตลาดก็จะได้ส่วนแบ่งอานิสงค์กัน ในขณะที่ไอโฟนขึ้นอยู่กับความสามารถของแอปเปิ้ลเจ้าเดียว ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าแอปเปิ้ลจะขยายตลาดได้แค่ไหนหรือแอปเปิ้ลต้องการแค่ขายสินค้าเอาเงินมาจ่ายปันผลแค่นั้น ได้ตลาดแคบๆมาส่วนหนึ่งก็พอใจแล้ว
ผมเองมองว่า Android มันไม่ ว้าว!! แบบ iPhone มันก็เท่านั้นเอง (แถมตอนนี้ก็ไม่ได้มีตัวที่ถูกกว่าจนเห็นชัด) อีกทั้งในขณะที่ Apple เป็นผู้นำทางด้านนวัฒกรรมในหลายด้านและก้าวนำด้านนี้อยู่
..แต่ถ้า
ไอ้นวัฒกรรม ที่ว่านั้นอย่างโปรแกรม ซึ่งอาจถูกเลียนแบบโดยกลุ่มนักพัฒนา Android WM(ซึ่งก็อาจจะมากกว่า 1 กลุ่ม) ถึงตอนนั้นก็คงอาจจะพูดได้ยากว่า คุณสมบัติเด่นที่ว่านั่นจะมีแค่บน iPhone หรือแม้แต่ กลุ่มผู้ผลิตจีนเลียนแบบโครงสร้างเครื่อง ในรุ่นถัดๆ ไป แต่มีทั้งตัวที่เป็นระบบ WM รึว่า Android (ตอนนี้ก็มีแบบ WM แล้ว) ถึงตอนนั้นก็อาจจะมีเครื่องพวกนี้ขายเกร่อในราคาย่อมเยาว์ซึ่งเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าผู้บริโภคในหลายๆ พื้นที่ในโลกกลมๆ ของเรา ไม่ได้มีกำลังถึงขนาดจะซื้อสินค้าแบรนด์กัน เค้าต้องพยายามเลือกของถูกสมบัติใกล้เคียงเครื่องรุ่นดีๆ (ซึ่ง Android ในช่วงเวลาหลังจากนี้น่าจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีขึ้น ..แต่หวังอย่างยิ่งที่จะให้ช่วงเวลานี้ไม่นานนัก)
และแม้คนที่มีกำลังซื้อของดีๆ มาใช้จะมองผู้ใช้กลุ่มนี้เป็นพวกไร้รสนิยมรึอะไรก็ตาม ผมว่าเค้าก็ไม่ได้แคร์อะไรนัก ในเมื่อเค้ามีข้อจำกัดในการเลือก
..ท้ายที่สุดเมื่ออุปกรณ์พวกนี้ก้าวเข้าสู่ช่วงราคาที่ต่ำลง คนที่มีกำลังซื้อไม่มากนักซึ่งต้องการแค่เครื่องที่ตอบสนองความต้องการระดับนี้กับเค้าได้ผมว่า Android มีภาษีดีว่าที่จะกระจายตัวในกลุ่มลูกค้าระดับนี้ ซึ่งผมเดาว่าเย่อะมาก(เดาจากสัดส่วนที่ว่าบนโลกคนจนเย่อะ แต่เค้าก็คนนะจ๊ะ และเค้าก้มีความต้องการในระดับนึงนั่นละ) อีกย่างไอ้นวัฒกรรมที่ว่าดีตอนนี้ เดี๋ยวมันก็เสื่อมครับ
ผมเองไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรกับสินค้าเทคโนโลยีนักหรอก มีของน่าเล่นออกมายั่วกิเลศตลอดเลย ได้แต่สะกดใจว่าเดี่ยวมันก็เสื่อม แล้วราคาก็ตกฮ่าๆ
สู้กันมิติไหนดีล่ะ
ผมมองว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ใช่ทั้ง Software และ Hardware แต่เป็น "ประสบการณ์รวม" นะ
รู้สึกดีที่ซื้อ รู้สึกดีที่มี รู้สึกดีที่พก รู้สึกดีที่หยิบออกมาใช้ รู้สึกดีที่ใคร ๆ รู้ว่าเราใช้ ฯลฯ ใครทำได้ดีกว่านี้ ก็เบียด Apple ได้เอง
God's believed in many names.
ปัจจุบันผมรู้สึกแบบนั้นกับ ThinkPad ผมอยู่ เกี่ยวมะ :D
ผมก็แฟน ThinkPad นะ แต่เรื่องนี้น่าจะเป็นจุดแข็งที่ผลิตภัณฑ์มากกว่าประสบการณ์โดยรวมนะ
\(@^_^@)/
M R T O M Y U M
เมื่อไหร่มือถือ Android ในไทยจะมีราคาถูกๆซักที จะได้เจาะตลาดกลุ่มกลางๆได้ด้วย
ถ้าราคาซัก 16000 นี่ คนใช้เพิ่มขึ้นอีกบานเลย
จะหวัง HTC Magic ราคาก็คงไม่ลดลงไปกว่านี้แล้วมั้ง (มือถือ HTC ราคาลงช้ามากๆ แถมขายผ่าน AIS อีก)
my android-blog
ข่าวประเภทนี้ ยาวววว ทุกที
7blogger.com
ถ้าดูจากตอนนี้ ก็ต้องบอกว่ายังห่างกันไกลอยู่
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เรตติ้งข่าวนี้เยอะจริงๆ
ส่วนตัว เชียร์ Android แต่ชอบดู Magic of Steve Job ครับ มีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอ
รอแอนดรอยด์ รุ่นต่อไปปล่อยของออกมาก่อน
จะได้มาเทียบกันสนุกๆ ตอนนี้ยังตามหลังอยู่พอควร
Acting Reporter & My Elder Brother Blog
Apple เค้าเป็นแบรนด์ที่ช่วยศัลยกรรมบุคลิคภาพของคนใช้ได้ เวลาถือแล้วมันหล่อ เท่ กิ๊ง เป็นแบรนด์ที่มีไว้กำจัดปมด้อยได้เป็นอย่างดี แต่แอนดรอย มันมาในรูปซอฟแวร์ เหมือนอยู่คนละตลาดเลย เพราะถ้าเอาแอนดรอยยัดในโทรศัพท์แบรนด์กากๆ มันก็ดูไร้ค่าทันที
มันช่วยได้จริงหรอครับ ... ???
เหมือนที่มีคนชอบบอกว่า ถือ Vaio แล้วดูหล่อขึ้น 10%
ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนที่ไม่ค่อยมั่นใจหน้าตาตัวเองอยู่ด้วยหรือป่าว ???
หรือคนที่หล่อ (และบ้านรวย) มักเลือก Vaio / iPhone ไว้ถือ ???
มันสะท้านถึง ความหล่อของคนถือ หรือ สะท้าน เงินในกระเป๋า คนถือกันหว่า ???
ถ้ามันช่วยให้ดูดีขึ้นได้จริง ... น่าจะมีคนถือ iPhone ไปเดินแบบ
Domon man จะได้ติดเข้ารอบได้ง่ายขึ้น เพราะหล่อขึ้นอีกนิดนึง ???
สงสัย ??
คุณยังไ่ม่เข้าใจคำว่าหล่อขึ้น 10% อย่างแท้จริง หล่อในที่นี้ไม่ใช่หน้าตาหล่อแต่เป็นความประทับใจแรกพบต่อผู้อื่น
That is the way things are.
แนะนำเอา iphone ไปแขวนคอแทนพระเครื่องด้วย จะได้หล่อแบบชัดเจน
ฮา ก๊ากกก เลยอิอิ
ไม่มีอะไรหรอก แค่ใส่ๆให้มันมี sig เหมือนชาวบ้านเค้ามั่ง
ไซส์เดียวกับจตุคามเลย :D
รู้สึกเหมือนโดนดูถูก ผมซื้อ iPhone เพราะฟังก์ชั่นไม่ได้หรอครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1
+100 ผมก็อยากซื้อเพราะ features ของมันนี่แหละ
ของผมก็ VAIO เพราะตอนนั้น ในหมู่ Note Book ขนาดเล็ก มันแรงสุด -_-''
แต่คุณไม่โดนไง แค่รู้สึก(ไปเองรึเปล่า?)
เพราะคนที่ซื้อเพราะมันเป็นไอโฟนมันมีจริงๆ (แล้วเยอะด้วย)
Acting Reporter & My Elder Brother Blog
มาเก็บ 101
สงครามน้ำลายสร้างเฟลมวอร์ได้ดีจริงๆให้ตาย
:โอ้แม่เจ้าาาาา นานาจิต
@watcharate.w
ฟังคนของ Google ก็ต้องได้ข้อความประมาณนี้ (ถ้าพูดเป็นอีกอย่าง วันรุ่งขึ้นคงต้องไปของาน Apple ทำ)
ไปถาม Steve Jobs เกี่ยวกับ Android ก็จะได้คำตอบอีกแบบ (หรืออาจจะแค่ยิ้มเหยียดๆ แล้วไม่ออกความเห็น)
พอไปถาม Nokia, Nokia บอก Qt คืออนาคต !!
So what!?
ความจริงคือ ในตลาด SmartPhone/Mobile Computing ยุคใหม่ ยังไม่มีใครแข็งแรงพอจริงๆ สักคน ความเห็นหรือข้อมูลเชิงตัวเลขต่างๆ ยังน่าจะเป็นการยกมา Bluff มากกว่าจะเป็นการแสดงความมั่นใจจริงๆ เหมือนการทำสงครามของจีนโบราณ ก่อนจะเปิดศึกกันจริงๆ มักจะส่งแนวหน้าปากจัดออกมาด่ากันก่อน
บ้านเราก้อทำ ออกข่าวทุกวัน
เอาเวลา "พูด" ไป "ทำงาน" เถอะคร้าบบบ
เรื่องแข็งแรงนี่สาวกอาจจะบอกว่า iPhone+iPod touch ขายได้เกือบ 50 ล้านเครื่องทั่วโลก
App store มีคนดาวน์โหลดซอฟแวร์+เกมส์ ไปเยอะ มี ขาย+แจกฟรีกว่า 60,000 items
ซึ่งทั้งหมดเป็นตัวเลขที่ยืนยันแน่ชัดได้ แค่เอามาข่มชาวบ้าน ขึ้นกับว่าคนอื่นๆจะเชื่อหรือไม่
จะแข็งแรงแค่ไหน คงต้องรอดูกันต่อไป
สำหรับลูกค้าระดับบน ผมว่า android ก็ยังไต่ไปไม่ถึง
แต่ระดับล่าง ถ้าปล่อยให้บ.จีนเอาผลิตใส่มือถือได้ทั่วเนี่ย มันจะสร้างความคุ้นเคยให้คนกลุ่มใหญ่เลย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเงื่อนไขของการจะเอา android ไปใส่เนี่ย เป็นไง ถ้ามันง่ายๆไม่ติดอะไรมาก ผมว่าผู้ผลิตมือถือถูกๆ ก็คงขี้เกียจออกแบบฟังก์ชั่นเอาไว้ใส่ในมือถือแล้ว แค่หาว่าจะใส่ android ลงไปยังไงยังจะดีกว่า
มีคนคิดให้ แล้วตัวเองก็แค่รอใส่
ระดับล่างถ้าได้ลองใช้แล้วชอบ พอมีตัง ก็ซื้อรุ่นที่หรูขึ้นมาหน่อยแต่ก็อาจจะเป็น android เหมือนเดิมก็ได้
ลองคิดดูสิ มือถือจีนเป็น android ดูทีวีได้ 2sim
คนอยากได้ android ก็ซื้อ คนอยากได้ดูทีวีได้ก็ซื้อ
มันก็น่าจะโอเคอยู่นะ