มาถึงรีวิว Windows Phone 7 vs. Android จากเว็บไซต์ต่างประเทศ ตอนที่ 2 กันแล้ว หากใครพลาดตอนแรกเข้าไปดูได้ที่นี่

• การเชื่อมต่อกับชุมชนออนไลน์
  • Windows Phone 7 แอพฯ Facebook ที่ฝังมากับ WP7 ทำให้ผู้ใช้สามารถดู feed ล่าสุดของเพื่อนๆ ผ่าน People Hub หรือกระทั่งเรียกดู feed ของเพื่อนแต่ละคนและโต้ตอบได้ผ่านสมุดรายชื่อผู้ติดต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอพฯ เหมือนอย่างใน Android แต่หากต้องการใช้ฟีเจอร์มากกว่าแอพฯ ที่ฝังมากับโอเอสก็สามารถดาวน์โหลดได้ แต่แอพฯ ที่ผู้ใช้ลงเองนั้นทำงานช้าและน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ส่วน Twitter นั้น WP7 ไม่ได้ฝังมันมาด้วย ต้องลงเอง และก็มักมีปัญหาที่พอใช้ไปผู้ใช้ก็จะถูกโยนออกจากแอพฯ ให้ไปใช้งานผ่านหน้าเว็บแทน
  • Android แอพฯ Facebook ที่ดาวน์โหลดจาก Android Market ทำงานได้เป็นอย่างดีแต่ก็ไม่ใช่ไม่มีปัญหาเลย เพราะหลายครั้งที่ผู้ใช้จะถูกโยนออกจากแอพฯ ให้ไปใช้งานผ่านหน้าเว็บแทน
  • ผู้ชนะ: เสมอกัน เพราะทั้งสองแพลตฟอร์มทำไม่ได้ดีไปกว่าแพลตฟอร์มอื่น
• เบราว์เซอร์
  • Windows Phone 7 IE Mobile ยังน่าผิดหวังอยู่เช่นเคย ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะพยายามเพิ่มฟีเจอร์เข้ามามากมาย (อาทิ pinch-to-zoom, เปิดได้หลายหน้าในเวลาเดียวกันพร้อมทั้งมีพรีวิวเวลาสลับหน้าเว็บ, สามารถปักหมุด (pin) หน้าเว็บได้) แต่การแสดงผลหน้าเว็บก็ยังแย่อยู่เช่นเดิม ลองดูรูปภาพเปรียบเทียบการแสดงผลกับเบราว์เซอร์ที่ติดมากับ Android ได้ข้างล่าง นอกจากนั้นที่ยิ่งแย่เข้าไปอีกคือยังไม่รองรับ Flash บน WP7
  • Android การแสดงผลทำได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ และหากผู้ใช้ไม่ชอบเบราว์เซอร์ที่ติดมากับโอเอส ผู้ใช้ก็สามารถติดตั้งตัวอื่นได้ ซึ่งต่างกับ WP7 ที่ไม่ค่อยมีแอพฯ ให้เลือกลงได้ซักเท่าไร
  • ผู้ชนะ: Android

ภาพด้านซ้ายเป็นการแสดงผลเว็บ Neowin.net บน IE Mobile ส่วนภาพด้านขวาเป็นการแสดงผลเว็บเดียวกันบนเบราว์เซอร์ที่ติดมากับ Android

อีกภาพ ... ภาพด้านซ้ายเป็นการแสดงผลเว็บ Reddit บน IE Mobile ส่วนภาพด้านขวาเป็นการแสดงผลเว็บเดียวกันบนเบราว์เซอร์ที่ติดมากับ Android

• การรับชมวีดีโอ
  • Windows Phone 7 แอพฯ เล่นวีดีโอดูเรียบง่าย สามารถเล่นวีดีโอได้ราบเรียบไม่กระตุก แต่ WP7 กลับไม่ติดตั้งแอพฯ YouTube มาในตัว ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดเอง แต่เมื่อเปิดแอพฯ ดังกล่าวจาก Zune Hub ผู้ใช้ก็จะถูกโยนออกจากแอพฯ ไปให้ค้นหาคลิปวีดีโอผ่านหน้าเว็บบนมือถือ และเมื่อผู้ใช้เลือกรับชมคลิปแล้วก็ Zune ก็จะเปิดขึ้นมาเล่นคลิปดังกล่าวอีกครั้ง แต่กลับพบว่าผู้ใช้ไม่สามารถข้ามไปดูคลิป ณ เวลาที่ต้องการได้ ทำได้แค่เพียงคลิกปุ่ม Fast Rewind(FR) หรือ Fast Forward (FF) เท่านั้น
  • Android ติดตั้งแอพฯ YouTube มาในตัว สามารถทำได้ทุกอย่างทั้งการค้นหา รับชมคลิป กระทั่งคอมเมนต์ใต้คลิปก็ทำได้ในแอพฯ ตัวเดียว
  • ผู้ชนะด้านวีดีโอ: Windows Phone 7 ส่วนผู้ชนะด้าน YouTube วีดีโอ: Android
• การฟังเพลง
  • Windows Phone 7 เมื่อใส่เพลงในสมาร์ทโฟน Zune Hub จะดาวน์โหลดภาพที่เกี่ยวข้องกับอัลบั้มเพลงนั้นเพื่อใช้เป็นภาพพื้นหลังภายใน Zune Hub และ Zune live tile เอง ส่วนการควบคุมการเล่นเพลงทำได้โดยกดปุ่มปรับระดับเสียงแล้วเครื่องมือควบคุมการเล่นเพลงลงเลื่อนลงมาจากขอบบนของจอภาพ นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถซื้อเพลงจากบริการ Zune Marketplace ไดีอีกด้วย ซึ่งต่างจากเครื่องเล่นเพลงบน Android ที่ไม่มีบริการดังกล่าว
  • Android ปกอัลบั้มจะไม่ถูกโหลดรวมเข้ากับเพลงโดยอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้ก็สามารถเพิ่มปกอัลบั้มได้เอง ส่วนการควบคุมการเล่นเพลงแบบรวดเร็วต้องทำผ่าน widget ให้ไม่ก็ให้แสดง "ongoing notification" บนหน้าจอเมื่อมีการเล่นเพลง
  • ผู้ชนะ: Windows Phone 7
• การเล่นเกม
  • Windows Phone 7 มีเกมชื่อดังตั้งแต่เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ นอกจากนั้น WP7 ยังรองรับการแสดงผล 3 มิติ ซึ่งถึงแม้จะใช้เวลาเปิดเกมค่อนข้างนานแต่ก็เกมก็น่าเล่นอย่างยิ่ง (อาทิ เกม The Harvest) แพลตฟอร์มใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ Xbox Live ในตัว
  • Android มีเกมชื่อดังไม่มากบน Android ส่วนการแสดงผลแบบ 3 มิติที่แท้จริงก็ยังไม่มี ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ gaming บน Android จะยังไม่เทียบเท่ากับบน WP7 ที่เพึ่งเปิดตัวเลย
  • ผู้ชนะ: Windows Phone 7

สรุป:

• Windows Phone 7 ชนะด้าน Home Screen, Lock Screen, การรับส่งข้อความ, การรับส่งอีเมล, การรับชมวีดีโอ, การฟังเพลง และการเล่นเกม
• Android ชนะด้าน การพิมพ์ข้อความ, เบราว์เซอร์, และการรับชมวีดีโอบน YouTube
• ทั้งคู่เสมอกันด้าน การเชื่อมต่อกับชุมชนออนไลน์

ที่มา: Neowin.net ตอนที่ 2, ตอนที่ 3

ป.ล. ขอเอา thumbnail ของ Android ขึ้นข่าวบ้าง ตอนที่แล้วเอา thumbnail ของ Windows Phone 7 ขึ้น ... ยังไงซะก็คงต้องรอพิสูจน์กันอีกทีว่า Windows Phone 7 จะรุ่งมากน้อย และจะมากอบกู้ตลาดโมบายของไมโครซอฟท์ได้หรือไม่