Waymo บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ Alphabet ประกาศข่าวว่าให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ Waymo One จำนวน 50,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยตัวเลขนี้เป็นบริการแบบเสียเงินเต็มรูปแบบ ไม่นับรวมการทดลองให้บริการฟรีด้วย
โครงการรถยนต์ไร้คนขับของกูเกิล เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2014 (ครบรอบ 10 ปีพอดี) และแยกตัวจากกูเกิล เปลี่ยนชื่อเป็น Waymo ในปี 2016 จากนั้นก็ค่อยๆ ทดสอบจนมั่นใจและขยายบริการอย่างช้าๆ โดยปัจจุบันยังมีให้บริการเพียงแค่ 4 เมืองในสหรัฐ ได้แก่ ฟีนิกซ์ ซานฟรานซิสโก แอลเอ และออสติน
Luminar Technologies บริษัทสตาร์ตอัพด้านเซ็นเซอร์วัดระยะแสง lidar (ย่อมาจาก Light Detection and Ranging) เปิดเผยในรายงานที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า Tesla สั่งซื้อ lidar จำนวนมากจาก Luminar โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของรายได้ไตรมาส 1 ของ Luminar
ตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายว่า Tesla ซื้อ lidar ไปทำไม และในอดีตนั้น Elon Musk ก็ประกาศว่าไม่ต้องการติดเซ็นเซอร์อื่นๆ เพราะเชื่อมั่นในแนวทางใช้กล้องอย่างเดียว ข่าวนี้จึงทำให้สื่อวิเคราะห์กันว่า Tesla น่าจะเอา lidar ไปใช้ในรถยนต์สำหรับแท็กซี่ไร้คนขับ ที่ประกาศว่าจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม
Hyundai เปิดเผยว่าบริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมใน Motional บริษัทพัฒนาพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Hyundai กับ Aptiv โดย Hyundai จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ Motional เพิ่มเติมมูลค่า 475 ล้านดอลลาร์ และซื้อหุ้นอีก 11% จาก Aptiv มูลค่า 448 ล้านดอลลาร์
การลงทุนเพิ่มเติมทั้งหมดนี้ Hyundai บอกว่าเพื่อให้ Motional มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอสำหรับการดำเนินงานต่อไป เนื่องจาก Motinal มีแผนพัฒนาแท็กซี่ไฟฟ้าอัตโนมัติเชิงพาณิชย์ (Robotaxi) ซึ่งต้องใช้เงินทุนอีกมากกว่าจะสามารถทำกำไรได้
มีรายงานว่าหน่วยงานของจีนได้ตกลงเบื้องต้นอนุมัติให้ Tesla สามารถใช้งานระบบขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ FSD (Full Self-Driving) ในประเทศได้ หลังจาก Elon Musk เดินทางไปที่ประเทศจีนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งได้พูดคุยหารือกับตัวแทนของรัฐบาลรวมทั้ง Li Qiang นายกรัฐมนตรีของจีน
ทั้งนี้ระบบแผนที่และการนำทางของ Tesla ในจีน จะใช้เทคโนโลยีของ Baidu ซึ่งช่วยลดประเด็นการจัดเก็บข้อมูลใช้งาน ที่เป็นหัวข้อหลักที่หน่วยงานกำกับดูแลของจีนใช้พิจารณา
Elon Musk ซีอีโอ Tesla เดินทางไปเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อพบกับเจ้าหน้าระดับสูงของทางการจีน ซึ่งรวมทั้ง Li Qiang นายกรัฐมนตรีของจีน โดยรายงานบอกว่าเขาได้หารือเพื่อขออนุมัติการเปิดทดสอบใช้ ระบบขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ FSD (Full Self-Driving) ของ Tesla ในประเทศ
ปัจจุบัน Tesla มีตัวเลือกใช้งาน FSD ในจีน แต่ฟีเจอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติถูกจำกัดความสามารถไว้ และทำได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าของจีนรายอื่น
สิ่งที่เป็นความท้าทายของบริการ FSD ในจีนสำหรับ Tesla คือรัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้นำข้อมูลของผู้ใช้งานออกไปนอกประเทศ ขณะที่ Musk ต้องการนำข้อมูลนี้ไปรวมกับข้อมูลผู้ใช้งานในประเทศอื่นเพื่อนำไปพัฒนาระบบ
Tesla ประกาศลดราคา Subscription ซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ Full Self-Driving (FSD) สำหรับลูกค้าในอเมริกา จากเดิม 199 ดอลลาร์ต่อเดือน เหลือ 99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งราคา 199 ดอลลาร์นั้นเป็นราคาที่ใช้มานานแล้ว
การซื้อซอฟต์แวร์ FSD นั้นมีสองวิธีคือจ่ายรายเดือน หรือซื้อขาด ซึ่ง Tesla ปรับราคาขึ้นมาเรื่อย ๆ ราคาล่าสุดคือ 12,000 ดอลลาร์ ทำให้เมื่อเทียบกับการจ่าย Subscription แล้ว เท่ากับระยะเวลา 10 ปี ก็น่าจะทำให้คนที่ยังไม่ได้สมัครต้องพิจารณากันใหม่
ซอฟต์แวร์ FSD สำหรับ Tesla ในไทยหรือ ความสามารถในการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ คิดราคาเพิ่มเติม 244,000 บาท
Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ GM ประกาศกลับมาทดสอบการให้บริการอีกครั้ง หลังจากถูกสั่งหยุดให้บริการทั้งหมดไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เนื่องจากกรณีอุบัติเหตุรถชนคนแล้วลากคนบาดเจ็บต่อไปอีก 20 ฟุต เกิดผลสืบเนื่องทั้งซีอีโอ ผู้ร่วมก่อตั้งลาออก และการปลดพนักงานจำนวนมาก
Cruise บอกว่าบริษัทยังคงมีเป้าหมายเดิม คือกลับมาให้บริการรถยนต์ไร้คนขับ แต่ระหว่างนี้บริษัทต้องกลับมาสร้างความเชื่อถือให้ได้ โดยจะทดสอบวิ่งในบางเมือง แบบใช้คนควบคุมรถ ตามแผนที่และข้อมูลเส้นทางที่ระบบสร้างขึ้น ขั้นตอนนี้เป็นพื้นฐานก่อนจะก้าวไปสู่รถยนต์ไร้คนขับอีกครั้ง ซึ่ง Cruise จะทดสอบที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เป็นแห่งแรก
ในขณะที่บริษัทรถยนต์ไร้คนขับค่ายคู่แข่ง Cruise กำลังประสบปัญหาหนัก ฝั่งของ Waymo ในเครือ Alphabet ดูไปได้สวย ล่าสุดประกาศขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มอีก 2 เมืองในสหรัฐคือ ลอสแอนเจลิส และ ออสติน ตอนนี้มีเมืองให้บริการ 4 เมืองแล้ว (สองเมืองแรกคือ ฟีนิกซ์ และซานฟรานซิสโก)
กรณีของแอลเอ Waymo เปิดทดสอบให้คนทั่วไปใช้งานฟรีมาระยะหนึ่ง หลังได้รับอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ก็จะเปิดบริการเชิงพาณิชย์ เริ่มเก็บเงินในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยทยอยเปิดให้ลูกค้าที่ลงทะเบียนรอใช้งาน 50,000 คน ทยอยใช้ทีละกลุ่ม
Arm เปิดตัวชุดประมวลผลใหม่สำหรับยานยนต์ (Automotive Enhanced - AE) เพื่อรองรับความต้องการในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไร้คนขับที่ต้องการการประมวลผล AI มากขึ้น
เทคโนโลยีของ AE ออกแบบบนพื้นฐานของ Armv9 ร่วมกับแพลตฟอร์มการทำงานระดับเซิร์ฟเวอร์ Neoverse มาใส่ในยานยนต์เป็นครั้งแรก โดยผลิตภัณฑ์ที่ Arm เปิดตัวมีหลายรายการ อาทิ Arm Neoverse V3AE สำหรับงานประมวลผล AI และ ADAS, Arm Cortex-A720AE กับ Arm Cortex-A520AE ชิป SoC เน้นควบคุมการใช้พลังงานและความปลอดภัย, Arm Cortex-R82AE รองรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูงเรียลไทม์ 64-bit
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลเกี่ยวกับแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On ซึ่งคราวนี้เขาลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ ที่แอปเปิลตัดสินใจยุติโครงการ หลังจากตั้งทีมเฉพาะและพัฒนามาเกือบสิบปี
ครั้งนี้ Gurman ได้รายละเอียดเกี่ยวกับหน้าตาการออกแบบรถยนต์ที่แอปเปิลวางแผนพัฒนา โดยรูปแบบสุดท้ายที่ใช้ คล้ายกับรถ Canoo Lifestyle Vehicle ปี 2020 (ภาพขวา) เป็นรถดีไซน์โค้งมนรอบคันสีขาว กระจกรอบสีดำสามารถปรับระดับสีได้ หลังคากระจกซันรูฟ เป้าหมายคือขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ระดับ 5
จากข่าวแอปเปิลประกาศเป็นการภายในว่าบริษัทตัดสินใจยกเลิกโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า หรือโค้ดเนม Project Titan เพื่อย้ายพนักงานไปโฟกัสการพัฒนาด้าน AI แทน The New York Times มีข้อมูลเพิ่มเติมจากการสอบถามพนักงานแอปเปิลหลายคนที่เกี่ยวข้อง ทำให้พบข้อมูลน่าสนใจหลายอย่าง
มีรายงานว่าศาลชั้นต้น สำหรับเขตทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ได้ตัดสินคดีที่ Xiaolang Zhang อดีตวิศวกรที่เคยทำงานโครงการรถยนต์ไร้คนขับของแอปเปิล (Project Titan) ขโมยความลับทางการค้าของแอปเปิล ขณะย้ายไปทำงานที่ Xpeng บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน โดยให้จำคุกเป็นเวลา 120 วัน และควบคุมความประพฤติเป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 146,984 ดอลลาร์
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุดภายในแอปเปิลเกี่ยวกับโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งแอปเปิลได้พัฒนาและมีรายงานข่าวออกมานานหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้บอกว่าแอปเปิลปรับแผนโครงการอีกครั้ง โดยลดฟีเจอร์ความสามารถลง
ตามแผนเดิมนั้นแอปเปิลต้องการพัฒนารถยนต์อัตโนมัติที่ระดับ 4 ซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้เองแบบจำกัดพื้นที่ แต่ตอนนี้แอปเปิลได้ปรับแผนพัฒนามาที่ระดับ 2+ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับรถ คล้ายกับระบบปัจจุบันของ Tesla ที่ผู้ขับขี่ยังต้องดูถนนและคอยควบคุมรถ
Elon Musk สัญญาเรื่องระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบในรถ Tesla มานานหลายปีแล้ว แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไปไม่ถึงจุดนั้นเสียที แม้จะตั้งชื่อโหมดว่า FSD หรือ Full Self-Driving มาแต่แรกจนเป็นเรื่องเป็นราวมาบ้าง ล่าสุดวันนี้ Tesla เริ่มปล่อย FSD Beta v12 ให้รถบางคันแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ปล่อยให้เฉพาะพนักงาน Tesla เท่านั้น
Tesla ระบุว่า FSD Beta v12 อัพเกรดระบบขับอัตโนมัติในเมืองไปใช้โครงข่ายประสาท (neural network) ที่ฝึกบนคลิปวิดีโอหลายล้านคลิป และมาแทนที่โค้ด C++ กว่า 3 แสนบรรทัด หรือพูดอีกอย่างก็คือ Tesla ได้เปลี่ยนไปใช้ AI คุมรถแทนโค้ดที่มนุษย์เขียนขึ้นมาเพื่อรันระบบดังกล่าว
หลังจากโซนี่โชว์รถยนต์ต้นแบบ Afeela ที่ร่วมทุนพัฒนากับฮอนด้าไปตั้งแต่ต้นปี 2023 แล้วเงียบหายไปหนึ่งปีเต็ม ล่าสุดโซนี่ใช้เวทีงาน CES 2024 อัพเดตความคืบหน้าของ Afeela ดังนี้
Waymo ออกรายงานวิเคราะห์ข้อมูลจากการขับขี่ของรถไร้คนขับของตัวเองในเมือง Phoenix แอริโซนา, Los Angeles และ San Francisco กว่า 7.1 ล้านไมล์ โดยเป็นข้อมูลรถไร้คนขับล้วนๆ แบบไม่รวมการขับแบบมีคนนั่งหลังพวงมาลัย เพื่อเฝ้าระวัง
Waymo พบว่ารถไร้คนขับของตัวเอง มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุร้่ายแรงที่ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ ได้น้อยกว่าคนขับถึง 85% และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย (เช่น เฉี่ยวชน) ได้น้อยกว่าคนขับ 57% หรือคิดเป็นจำนวนอุบัติเหตุที่น้อยกว่าคนขับ 17 ครั้งและ 20 ครั้งตามลำดับ หากเปรียบเทียบให้คนขับเส้นทางเดียวกันระยะทางเดียวกันกับที่ Waymo ให้บริการ
เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว Waymo บริการแท็กซี่ไร้คนขับในเครือ Alphabet เริ่มให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารที่สนามบินของเมืองฟีนิกซ์ ถือเป็นบริการรถยนต์ไร้คนขับรายแรกในโลกที่ให้บริการในสนามบิน
อย่างไรก็ตาม บริการของ Waymo ยังไปไม่ถึงหน้าอาคารเทอร์มินัลสนามบินโดยตรง เพราะจะขับไปส่งแค่จุดจอดรถชัทเทิลบัสที่บริเวณสถานีรถไฟ 44th Street Sky Train ใกล้สนามบินเท่านั้น ผู้โดยสารต้องเปลี่ยนไปนั่งรถชัทเทิลเพื่อเข้าอาคารเทอร์มินัลอีกทีหนึ่ง
หน่วยงานด้านขนส่งทางบกของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Department of Motor Vehicles หรือ DMV) สั่งให้ Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ GM หยุดให้บริการไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
DMV ระบุว่า Cruise ไม่ปฏิบัติตามกฎด้านความปลอดภัย 4 ข้อ ข้อที่สำคัญคือรถยนต์ไร้คนขับของ Cruise ไม่ปลอดภัยเพียงพอสำหรับวิ่งบนถนนสาธารณะ
เว็บไซต์ TechCrunch เปิดเผยว่าสาเหตุมาจากรถยนต์ของ Cruise เกิดอุบัติเหตุในเมืองซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม เหตุการณ์คือ Cruise จอดรถติดไฟแดงคู่กับรถยนต์อีกคันยี่ห้อ Nissan แล้วมีคนเดินข้ามถนนมาพอดี โดนรถยนต์ Nissan ชนแล้วกระเด็นมายังทิศที่ Cruise กำลังออกตัว ทำให้คนข้ามถนนมาติดอยู่ใต้รถของ Cruise
General Motor, Cruise (บริษัทลูกของ GM ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ) และ Honda ประกาศในงาน Japan Mobility Show 2023 ถึงแผนการที่จะนำบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ(Robotaxi) มาสู่ประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดให้บริการในใจกลางกรุงโตเกียวช่วงต้นปี 2026
บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในญี่ปุ่นจะเริ่มต้นด้วยรถยนต์ไร้คนขับรุ่น Cruise Origins จำนวนหลาย 10 คัน และจะขยายเป็น 500 คัน พร้อมขยายพื้นที่ให้บริการนอกกรุงโตเกียวในอนาคต โดยทั้ง 3 บริษัทเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ
เกิดเหตุการณ์รถแท็กซี่ไร้คนขับของ Cruise ชนกับรถดับเพลิงในเมืองซานฟรานซิสโก จนทำให้ผู้โดยสารของ Cruise บาดเจ็บไม่ร้ายแรง
Cruise รายงานว่าเหตุการณ์เกิดช่วง 22.00 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม โดยรถของ Cruise กำลังข้ามสี่แยกในฝั่งที่เป็นไฟเขียว แต่ชนเข้ากับรถดับเพลิงที่เปิดไฟฉุกเฉินและวิ่งข้ามแยกเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันจันทร์ คณะรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้อนุมัติใบอนุญาตทดสอบรถยนต์ไร้คนขับระดับ L4 ในประเทศให้แก่ WeRide บริษัทรถยนต์ไร้คนขับสัญชาติจีน ให้สามารถนำรถมาวิ่งทดสอบบนถนนได้ทั่วประเทศ
UAE เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ค่อนข้างจริงจังเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับค่อนข้งมาก โดยล่าสุดนอกจากให้ใบอนุญาตกับ WeRide แล้ว คณะรัฐมนตรียังผ่านกฎหมายที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับออกมาพร้อมๆ กัน เช่นโครงการสร้างเครือข่ายแท่นชาร์จทั่วประเทศ, กฎหมายควบคุมตลาดรถไฟฟ้า หรือนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถไร้คนขับ เป็นต้น
Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ GM ประกาศว่าให้บริการบนถนนจริงครบ 1 ล้านไมล์ (ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในเขตเมืองซานฟรานซิสโก) ใช้เวลา 15 เดือนนับจากเริ่มให้บริการช่วงปลายปี 2021
Cruise ยังเผยสถิติว่ารถยนต์ไร้คนขับของตัวเองมีความปลอดภัยกว่าการขับโดยมนุษย์
The Washington Post มีบทความวิเคราะห์ปัญหา Full Self-Driving (FSD) ของ Tesla ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนถูกหน่วยงานความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐ NHTSA สั่งให้เรียกคืน (recall) เพื่ออัพเดตซอฟต์แวร์
แหล่งข่าวของ The Washington Post มาจากการสัมภาษณ์อดีตพนักงานและผู้เกี่ยวข้องหลายราย ซึ่งพูดตรงกันว่าสาเหตุหลักมาจากการที่ Elon Musk ตัดสินใจเลิกใช้ระบบเรดาร์เพื่อลดต้นทุน เปลี่ยนมาใช้กล้องอย่างเดียว ทำให้ระบบ FSD ไม่สามารถตรวจจับวัตถุรอบรถได้ดีพอ
Waymo รายงานถึงการให้บริการรถไร้คนขับพร้อมกับฉลองครบ 1 ล้านไมล์ (1.6 ล้านกิโลเมตร) แรกที่รถให้บริการโดยไม่มีคนขับจริงๆ ไม่เพียงแค่สามารถให้บริการได้จำนวนไมล์สูง แต่อัตราการเกิดอุบัติเหตุยังต่ำมาก มีเหตุชนแรงจนต้องใช้รถยกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกจากที่เกิดเหตุเพียง 2 ครั้ง และชนเล็กๆ น้อยๆ อีก 18 ครั้ง โดยรวมไม่มีผู้บาดเจ็บเลย
เกิดเหตุรถยนต์ Tesla Model S ขับไปชนรถดับเพลิงที่จอดอยู่บนไฮเวย์ I-680 ในพื้นที่มณฑล Contra Costa County ใกล้กับซานฟรานซิสโก คนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุและต้องตัดรถยนต์ด้านหน้าเพื่อนำศพออกมา ผู้โดยสารอีกคนบาดเจ็บต้องส่งโรงพยาบาล ส่วนพนักงานดับเพลิงบนรถบาดเจ็บเล็กน้อย
เหตุการณ์นี้อาจเป็นแค่อุบัติเหตุทั่วไป แต่ก่อนหน้านี้ กรมทางหลวงของสหรัฐ (NHTSA) ได้สอบสวนอุบัติเหตุรถยนต์ Tesla ชนรถฉุกเฉินบนไฮเวย์หรือที่วิ่งในเลนฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2021 คือเกิดเหตุชน 12 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 17 คน และเสียชีวิต 1 คน) จึงมีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ Autopilot ทำงานไม่ถูกต้อง