แอปเปิลรายงานส่วนแบ่งผู้ใช้งาน iOS แต่ละเวอร์ชัน โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2024 ก่อนงานแถลงข่าว WWDC24 ที่เปิดตัว iOS 18 รุ่นล่าสุด
ภาพรวมนั้น iOS 17 มีส่วนแบ่งผู้ใช้งาน 77% ของ iPhone ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 66% ที่รายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ส่วน iOS 16 อยู่ที่ 11% ที่เหลือเป็นเวอร์ชันเก่ากว่านั้น หากดูเฉพาะ iPhone รุ่นที่ขายย้อนหลังไม่เกิน 4 ปี ตัวเลขอยู่ที่ 86%
ฟีเจอร์ที่ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งาน iPhone ของเด็กผ่าน Screen Time มีมาตั้งแต่ iOS 12 อย่างไรก็ตามมีรายงานมาตลอด ว่าฟีเจอร์นี้มีช่องโหว่ทำให้เด็กสามารถใช้งานได้นอกเหนือข้อกำหนด ซึ่งแอปเปิลก็บอกว่าได้แก้ไขแล้ว แต่ยังมีรายงานช่องโหว่มาเรื่อย ๆ
ล่าสุด The Wall Street Journal ซึ่งรายงานปัญหานี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เปิดเผยว่า Screen Time มีช่องโหว่ใหม่ที่ทำให้เด็กสามารถเข้าชมเว็บไซต์ไม่เหมาะสมได้ แม้ผู้ปกครองจะตั้งค่ากำหนดไปแล้ว โดยมีการแชร์วิธีการเข้าถึงช่องโหว่นี้ในโซเชียลหลายช่องทาง
แอปเปิลออกอัปเดต iPadOS 17.5.1 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุง มีผลเฉพาะ iPad 10th Gen เท่านั้น
เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แอปเปิลออกอัปเดต iPadOS 17.5.1 และ iOS 17.5.1 ที่แก้ไขบั๊กรูปภาพลบไปแล้วกลับมาปรากฎใน Photos อีกครั้ง ส่วนอัปเดตสำหรับ iPad 10th Gen โดยเฉพาะนี้ยังใช้เลขเวอร์ชันเดิม แต่ตัวเลข Build ปรับปรุงเป็น 21F91 (เดิม 21F90)
แอปเปิลไม่ได้ชี้แจงว่าในอัปเดตเฉพาะนี้มีการแก้ไขปัญหาอะไร แต่คาดจะเป็นบั๊กที่พบเฉพาะใน iPad รุ่นดังกล่าว ผู้ใช้งานก็สามารถอัปเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
แอปเปิลออกอัปเดต iOS 17.5.1 และ iPadOS 17.5.1 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad ในวันนี้ ซึ่งเป็นอัปเดตต่อจาก 17.5 ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update
ในอัปเดตนี้แอปเปิลระบุว่าได้แก้ไขบั๊กซึ่งมีรายงานออกมา ที่ผู้ใช้งานพบว่ารูปภาพซึ่งเคยลบไปแล้วกลับมาปรากฎใน Photos อีกครั้ง โดยบอกว่าพบในกรณีที่ฐานข้อมูลเสียหาย (Database corruption) ทำให้รูปที่ลบไปกลับมาปรากฎอีกครั้ง โดยเป็นกรณีที่พบได้ยาก (Rare issue)
มีข้อมูลยืนยันจาก iCulture ว่า iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่ ได้เพิ่มเมนู Battery Health หรือสุขภาพแบตเตอรีใน Settings แล้ว ซึ่งไม่เคยมีข้อมูลนี้ใน iPad รุ่นก่อนหน้า และฟีเจอร์นี้น่าจะจำกัดไว้เฉพาะ iPad รุ่นใหม่
โดยในหน้า Battery Health จะมีข้อมูลเพิ่มเติมได้แก่ ความจุสูงสุด (Maximum Capacity), จำนวนรอบการชาร์จ (Cycle Count) รวมถึงการตั้งค่าให้ชาร์จจำกัดที่ 80% รวมทั้งข้อมูลวันที่ผลิตของแบตเตอรีและการชาร์จครั้งแรก ในแบบเดียวกับข้อมูลแบตเตอรีของ iPhone 15
แอปเปิลออกอัปเดต iOS 17.5 และ iPadOS 17.5 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad เวอร์ชันล่าสุด สองเดือนหลังจากอัปเดตใหญ่เวอร์ชัน 17.4 ออกมาในเดือนมีนาคม ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัปเดตนี้แอปเปิลได้เพิ่มการแจ้งเตือนหากพบอุปกรณ์แทร็กเกอร์บลูทูธที่ติดตามตัว แม้จะลงทะเบียนด้วยระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างแอปเปิลและกูเกิลที่ประกาศเมื่อปีที่แล้ว
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.4.1 สำหรับ iPhone, iPadOS 17.4.1 สำหรับ iPad และ visionOS 1.1.1 สำหรับ Vision Pro ซึ่งเป็นอัพเดตย่อย สองสัปดาห์หลังจากแอปเปิลออกอัพเดต iOS 17.4
ในอัพเดตนี้แอปเปิลไม่ได้ระบุรายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ บอกเพียงเป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย และแก้ไขบั๊กทั่วไป โดยมี iPadOS 17.4.1 ที่แอปเปิลอธิบายเพิ่มเติมว่าผู้ใช้ iPad 7th Gen, iPad 6th Gen, iPad Pro 12.9 นิ้ว 2nd Gen และ iPad Pro 10.5 นิ้ว ที่พบปัญหาแอปกล้องไม่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ ปัญหานี้ได้แก้ไขแล้วใน iPadOS 17.4.1
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.4 สำหรับคนใช้ iPhone และ iPadOS 17.4 สำหรับคนใช้ iPad วันนี้ โดยเป็นอัพเดตใหญ่หลังจาก iOS 17.3 เมื่อปลายเดือนมกราคม สามารถอัพเดตแบบ OTA โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้มีของใหม่หลายรายการดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 17.3.1 ระบบปฏิบัติการใน iPhone และ iPadOS 17.3.1 สำหรับ iPad โดยอัพเดตนี้ระบุว่าแก้ไขบั๊กที่ตัวอักษรอาจซ้อนทับ หรือซ้ำขณะพิมพ์ป้อนข้อมูล โดยไม่ได้ระบุว่ามีการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยหรือบั๊กอื่นเพิ่มเติม
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
แอปเปิลยังออกอัพเดตระบบปฏิบัติการอื่นด้วยเช่นกันได้แก่ watchOS 10.3.1 ของ Apple Watch ที่ระบุว่าแก้ไขบั๊กทั่วไป และ macOS Sonoma 14.3.1 ที่บอกว่าแก้ไขบั๊กขณะพิมพ์ตัวอักษรเช่นกัน
แอปเปิลประกาศจะออกอัพเดตใหญ่ iOS 17.4 ในเดือนมีนาคม ที่รองรับกฎหมาย DMA ของกลุ่มประเทศ EU
แอปเปิลอัพเดตส่วนแบ่งผู้ใช้ iOS แต่ละเวอร์ชัน โดยเป็นการรายงานตัวเลขครั้งแรก หลังจาก iOS 17 ออกมาเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นตัวเลขวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024
iOS 17 มีส่วนแบ่งผู้ใช้งาน 76% ของผู้ใช้ iPhone ทั้งหมดที่ขายในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ส่วน iOS 16 มี 20% หากนับรวม iPhone ทั้งหมดทุกรุ่น iOS 17 คิดเป็น 66% ตัวเลขนี้น้อยกว่าตอน iOS 16 ที่มีส่วนแบ่งถึง 81% ในระยะเวลาเดียวกัน
มีประเด็นเล็ก ๆ เพิ่มเติม จากประกาศของแอปเปิล เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใน App Store, iOS และ Safari เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย DMA ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เช่น สามารถโหลดแอปจากสโตร์อื่นได้ หรือเบราว์เซอร์สามารถใช้เอ็นจินอื่นที่ไม่ใช่ WebKit ได้ นั่นคือ บางอย่างมีผลกับทุกแพลตฟอร์มของแอปเปิล (ในสหภาพยุโรป) แต่บางอย่างมีผลแค่ iPhone เท่านั้น iPad ไม่ได้สิทธิ์นี้
สาเหตุก็เพราะตอนที่สหภาพยุโรปหรือ EU ระบุว่าแพลตฟอร์มใดบ้างที่เข้าข่าย gatekeeper นั่นคือ ต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่, มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีสถานะป้องกันการแข่งขันได้ดี ระบบปฏิบัติการของแอปเปิลที่เข้าข่ายคือ iOS สำหรับ iPhone ส่วน iPadOS ของ iPad ถือว่าเป็นคนละระบบปฏิบัติการ และยังไม่เข้าเกณฑ์ gatekeeper
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 17.4 และ iPadOS 17.4 เวอร์ชันเบต้าสำหรับให้นักพัฒนาทดสอบ ก่อนที่เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปจะออก ซึ่งนอกจากอัพเดตสำคัญที่ทำเพื่อรองรับกฎหมายดิจิทัลของ EU ให้ผู้ใช้งานโหลดแอปผ่านช่องทางอื่นนอกจาก App Store ได้ ยังพบข้อมูลสินค้าใหม่ด้วย
โดย 9to5Mac พบโค้ดใน iPadOS 17.4 เบต้า ที่ระบุถึง iPad รุ่นใหม่ เนื่องจากมีการเปลี่ยนข้อความตอนตั้งค่า Face ID จากเดิมบอกว่า Face ID ทำงานได้เมื่อ iPad วางในแนวนอน เป็น ตอนตั้งค่า Face ID นั้น iPad ต้องอยู่ในแนวนอน ที่กล้องหน้าอยู่ด้านบนของจอ เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว Face ID สามารถทำงานได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการรอบใหญ่ iOS 17.3 และ iPadOS 17.3 สำหรับคนใช้ iPhone และ iPad ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ สามารถอัพเดตแบบ OTA โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดต iOS 17.3 นี้ มีฟีเจอร์สำคัญคือ Stolen Device Protection ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับ iPhone ที่ถูกขโมย เช่น เพิ่มการใช้ Face ID ยืนยันตัวตนถ้าเปลี่ยนรหัสผ่าน, มีการหน่วงเวลาเปลี่ยนรหัสผ่าน หากพบอุปกรณ์อยู่ในพิกัดที่ไม่คุ้นเคย เป็นต้น
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.2 สำหรับคนใช้ iPhone และ iPadOS 17.2 สำหรับคนใช้ iPad ซึ่งเป็นอัพเดตใหญ่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่ Settings เลือก General เลือก Software Update
iOS 17.2 มีฟีเจอร์เด่นในอัพเดตนี้คือ Journal (บันทึก) ไดอารีบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ในชีวิต และเก็บรักษาความทรงจำเอาไว้ โดยใช้ระบบแนะนำเนื้อหาจากข้อมูลรูปภาพ เพลง การออกกำลังกาย และอื่น ๆ โดยข้อมูลมีการเข้ารหัสทุกจุด
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการเพื่อแก้ไขช่องโหว่ระดับ Zero-Day สองรายการ ซึ่งมีรายงานการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที
โดยอัพเดตที่แก้ไขช่องโหว่นี้แล้วได้แก่ iOS 17.1.2 สำหรับ iPhone, iPadOS 17.1.2 สำหรับ iPad และ macOS Sonoma 14.1.2 สำหรับ Mac
ช่องโหว่ทั้งหมดเป็นของเอ็นจิน WebKit CVE-2023-42916 และ CVE-2023-42917 ที่ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านเว็บเพจที่ปรับแต่งเฉพาะ ซึ่งสำหรับ iOS แอปเปิลบอกว่าช่องโหว่นี้พบได้ใน iOS เวอร์ชันก่อน 16.7.1
ที่มา: 9to5Mac
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการในเครือ โดยเป็นอัพเดตเวอร์ชันย่อย รายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.1 สำหรับผู้ใช้ iPhone ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่และแก้ไขปัญหาหลายรายการดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.0.2 และ iPadOS 17.0.2 สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad ทุกรุ่นที่รองรับแล้ววันนี้ โดยสามารถอัพเดตได้ที่ Settings > General > Software Update
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลก็ออกอัพเดต iOS 17.0.2 แต่ได้เฉพาะผู้ใช้ iPhone 15 เพื่อแก้ปัญหาการโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ โดยซอฟต์แวร์เป็นเลข build 21A350 ส่วนเวอร์ชันที่อัพเดตทั่วไปนี้เป็นคนละเลขกันคือ 21A351 ซึ่งก็ระบุว่าแก้ไขปัญหาการโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่เช่นกัน
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการในเครือวันนี้ ได้แก่ iOS 17.0.1 สำหรับ iPhone, iOS 17.0.2 สำหรับตระกูล iPhone 15, iPadOS 17.0.1 สำหรับ iPad, watchOS 10.0.1 สำหรับ Apple Watch, macOS Ventura 13.6 สำหรับ Mac ทั้งนี้ macOS เวอร์ชันใหม่ Sonoma จะออกอัพเดตทั่วไปในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้แอปเปิลยังอัพเดตระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่า หรืออุปกรณ์ที่ยังไม่อัพเดตไประบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ด้วย ได้แก่ iOS 16.7, iPadOS 16.7, watchOS 9.6.3, macOS Monterey 12.7
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ประจำปีแล้วในวันนี้ ได้แก่ iOS 17 สำหรับ iPhone, iPadOS 17 สำหรับ iPad, watchOS 10 สำหรับ Apple Watch, tvOS 17 สำหรับ Apple TV และ HomePod 17 สำหรับ HomePod
iOS 17 มาพร้อมของใหม่คือ StandBy หน้าจอล็อกสกรีนแบบใหม่ขณะชาร์จ ทำหน้าที่แสดงวิดเจ็ดที่ต้องการ, NameDrop ฟีเจอร์แลกนามบัตรเพียงนำโทรศัพท์มาแตะกัน, การแสดงผลแบบใหม่โปสเตอร์เต็มหน้าจอเมื่อสายโทรเข้า ส่วน iPadOS 17 เพิ่มความสามารถปรับแต่งหน้าล็อกแบบใน iPhone เวอร์ชันก่อนหน้า
หลังการเปิดตัว iPhone 15 และ Apple Watch Series 9 แอปเปิลก็ประกาศวันออกอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด iOS 17 สำหรับ iPhone และ watchOS 10 ของ Apple Watch มาพร้อมกันด้วย
โดยทั้ง iOS 17 และ watchOS 10 จะเริ่มปล่อยอัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทุกคนในวันจันทร์ที่ 18 กันยายนนี้ (เข้าสู่วันที่ 19 กันยายน ตามเวลาในไทย) รวมทั้ง iPadOS 17 สำหรับ iPad และ tvOS 17 สำหรับ Apple TV ก็จะออกอัพเดตในวันที่ 18 กันยายนด้วยเช่นกัน
ส่วน macOS Sonoma จะออกมาหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ กำหนดอัพเดตในวันที่ 26 กันยายน
แอปเปิลปรับเงื่อนไขของ Apple Developer Program สำหรับนักพัฒนา ซึ่งมีอัตราค่าสมาชิก 99 ดอลลาร์ต่อปี โดยเพิ่มเทียร์สมัครใช้งานใหม่ แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เพียง Apple ID เท่านั้น ก็สามารถดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการเวอร์ชันทดสอบรอบนักพัฒนาได้ด้วย
การออกระบบปฏิบัติการของแอปเปิล จะเริ่มด้วย เบต้าสำหรับนักพัฒนา ซึ่งเดิมต้องเป็นสมาชิก Apple Developer เท่านั้น จากนั้นเป็นพับลิกเบต้า ที่ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถดาวน์โหลดทดสอบได้ แล้วแอปเปิลจะออกอัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทุกคนในเวลาต่อมา ซึ่งตอนนี้ iOS 17, iPadOS 17, macOS Sonoma และซอฟต์แวร์อื่นที่เพิ่งเปิดตัวใน WWDC23 ยังอยู่ในสถานะเบต้าสำหรับนักพัฒนา และจะเป็นพับลิกเบต้าในเดือนกรกฎาคม
แอปเปิลอัปเดตฟีเจอร์ในแอปฯ Health ใหม่ที่จะมีใน iOS 17, iPadOS 17, watchOS 10 และเพิ่มแอปฯ Health บน iPad แล้ว
แอปเปิลประกาศอัพเดตระบบปฏิบัติการชุดใหญ่ประจำปีในงาน WWDC23 เป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลามาดูว่าแล้วอุปกรณ์ทั้ง iPhone, iPad, Mac, Apple Watch ต้องรุ่นไหนขั้นต่ำ ที่สามารถอัพเดตได้บ้าง และรุ่นไหนที่อัพเดตไม่ได้ รายละเอียดดังนี้
รุ่นที่ไม่ได้อัพเดตคือ iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
ในงาน WWDC23 แอปเปิลประกาศอัพเดต iPadOS 17 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad เวอร์ชันใหม่ของปีนี้ โดยยกความสามารถการปรับแต่งต่าง ๆ ที่มีใน iOS มายัง iPad แล้ว ทั้งหน้าจอล็อกและ widget ต่าง ๆ
โดยส่วนของหน้าจอล็อก นอกจากการปรับแต่งข้อมูลที่แสดงในจอแบบ iPhone ทั้งสี ฟอนต์ ยังมีตัวเลือกพื้นหลังจากแกลเลอรี และรองรับการแสดงข้อมูล Live Activities ด้วย เช่นเดียวกับ Widget ที่ทำให้สามารถควบคุมแอปต่าง ๆ กดโต้ตอบ หรือดูข้อมูลได้หลากหลายในหน้าจอเดียว