หากใครยังจำกันได้ เมื่อสมัยซิลเวอร์ไลท์ออกมาใหม่ๆ ไมโครซอฟท์ได้เปิดบริการฟรีอย่างซิลเวอร์ไลท์สตรีมมิ่ง (Sliverlight Streaming) ที่ให้อัพโหลดคอนเทนต์ขึ้นมาทำสตรีมมิ่งบนซิลเวอร์ไลท์ได้ฟรี บนพื้นที่ถึง 10GB ต่อหนึ่งบัญชี ล่าสุดไมโครซอฟท์กำลังจะปิดบริการดังกล่าว (แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะปิดวันไหน) แล้วจะเปลี่ยนบริการเสียเงิน โดยมี Azure ทำงานอยู่เบื้องหลังก่อนสิ้นปีนี้

สำหรับใครที่ยังใช้อยู่ รีบไปเอาคอนเทนต์ออกมาก่อนที่บริการจะถูกปิดตัวลง ดูรายละเอียดได้ที่ Live Services

ชาว Blognone คงเห็นข่าวการแสกนหนังสือของกูเกิล พร้อมกับคดีความที่ตามมาอย่างไม่รู้จบกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร แต่กระแสของการแสกนหนังสือทั้งห้องสมุดของกูเกิลนั้นก็ทำให้หลายหน่วยงานเห็นความสำคัญของการแปลงเอกสารจำนวนมากเป็นดิจิตอลเต็มรูปแบบ

ที่เราหลายคนไม่รู้คือหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดนี้เป็นบริษัที่ก่อตั้งโดยคนไทย! ที่ชื่อว่าบริษัท Atiz Innovation

ช่วงเวลาการอัพเกรด Visual Studio ก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio 2010 Beta 2 พร้อมๆ กับประกาศว่าจะวางขายตัวจริงในวันที่ 22 มีนาคม 2010 โดยมีรายละเอียดทั้งราคาและแนวทางการอัพเกรดมาเสร็จสรรพ

ที่น่าสนใจคือ Visual Studio 2010 นั้นจะไม่มีรุ่น Standard (299 ดอลลาร์) อีกต่อไป แต่จะเริ่มต้นที่รุ่น Professional ที่มาราคา 799 ดอลลาร์เท่านั้น ในแง่หนึ่ง อาจจะเป็นเพราะ Visual Studio Express เองก็กำลังมีความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนความแตกต่างน้อยลง

อดีตศัตรูของลินุกซ์อย่าง SCO นั้นกำลังเป็นเรืออับปาง ล่าสุดผู้ดูแลทรัพย์สินของบริษัทที่แต่งตั้งโดยศาลล้มละลาย ได้ตัดสินใจไล่ออกนาย Darl McBride, CEO ของบริษัท

Darl McBride เป็นตัวการสำคัญในการนำ SCO เข้าสู่สงครามการต่อสู้กับโลกลินุกซ์ ด้วยการเริ่มฟ้องร้อง IBM และส่งหนังสืออ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในลินุกซ์ไปยังบริษัทต่างๆ จำนวนมาก

SCO ยังคงเป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายของลินุกซ์ เมื่อมีบริษัทอ้างสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่ใช้งานในลินุกซ์ทำให้มีบริษัทจำนวนมากถูกเรียกเก็บเงิน สร้างความหวาดผวาให้กับการใช้ลินุกซ์ในบริษัทต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง

SCO ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการต่อไป หลังจากที่ความพยายามหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมาล้วนล้มเหลวทั้งสิ้น

หลังจากที่ผู้ใช้อุปกรณ์ในแพลตฟอร์ม iPhone ได้ดาวน์โหลดโปรแกรมกว่าสองพันล้านครั้ง จากแคตาล็อกซึ่งเสนอโปรแกรมจำนวนกว่า 85,000 โปรแกรมนั้น App Store หรือร้านขายโปรแกรมออนไลน์ของ Apple ได้แสดงให้โลกเห็นว่าการประสบความสำเร็จด้านการขายโปรแกรมออนไลน์ต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ดี ถึงแม้ Apple จะสร้างป้อมปราการไว้แข็งแกร่งเพียงใด ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์ม iPhone ก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก

หลังจากข่าวโฆษณาชุด iDon't (iPhone ทำไม่ได้ Android ทำได้) ออกมาไม่นาน ตอนนี้เว็บไซต์ Boy Genius Report เจ้าเก่า ไปเอาเครื่อง Motorola Droid ของจริงมาได้แล้วครับ

ความเห็นจาก BGR หลังทดสอบการใช้งานประมาณหนึ่ง มีดังนี้

สัปดาห์นี้ Amazon เพิ่งเริ่มวางขาย Kindle หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของตนในยุโรป ในขณะเดียวกัน บริษัทอื่นๆ ต่างก็พยายามที่จะแข่งกัน Amazon เพื่อเป็นผู้นำด้านการเผยแพร่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยในตลาดนี้ การเป็นผู้นำไม่ได้ขึ้นอยู่กับการจำหน่ายอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการพัฒนารูปแบบการเผยแพร่สินค้า ซึ่งเป็นหัวสำคัญของการครองตลาด ดังที่สินค้าด้านวัฒนธรรมอื่นๆ อาทิ เพลง รายการทีวี หรือวีดิทัศน์ ได้แสดงให้เห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แล้วใครจะเป็นผู้นำตลาดด้านนี้ในอนาคต ?

โซนี่เตรียมนำเสนอต้นแบบจอภาพ 3 มิติ 360 องศาโดยไม่ต้องมองผ่านแว่นตาพิเศษในงาน Digital Contents Expo ณ กรุงโตเกียวในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

จอภาพของต้นแบบดังกล่าวสูง 10.6 นิ้ว และกว้าง 5.1 นิ้วในแต่ละด้าน รองรับการแสดงผลสี 24 บิท จำนวน 96x128 พิกเซล (ต้นฉบับใช้ "24-bit, 96 by 128-pixel stereoscopic color image") และอย่างที่บอกไว้คือ ไม่ต้องใช้แว่นตาพิเศษในการมองแต่อย่างไร

ต่อกับ PlayStation นี่ "เล่นได้รอบวงเลยนะ" ;P

ที่มา: Gizmodo

ในงานเปิดตัวทวิตเตอร์โมบายในประเทศญี่ปุ่น คุณ Biz Stone ผู้ก่อตั้งร่วมของทวิตเตอร์ได้กล่าวไว้ว่า "ทวิตเตอร์ไม่สนใจว่าใครจะมาซื้อ เรา [ทวิตเตอร์] ต้องการสร้างบริษัทที่น่าทึ่งด้วยมือของเราเอง และเชื่อว่าเราสามารถทำตามเป้าหมายนั้นได้" เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะไม่มีขายทวิตเตอร์อย่างแน่นอน

"Twitter is not interested in being acquired by a bigger company. We want to build an impressive company on our own and we believe that we can."

ถึงแม้การขยายตัวของฐานลูกค้านั้นจะไม่ได้เพิ่มรายได้ให้กับผู้ก่อตั้ง กระนั่นนักวิเคราะห์ก็คาดว่าทวิตเตอร์นั้นมีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นาย Peter Svensson นักข่าวสายเทคโนโลยีจาก AP เขียนบทความถึง Windows 7 ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ว่า เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่จะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ แต่ไม่เหมาะเท่าไหร่สำหรับคนที่จะอัพเกรดจาก Vista หรือ XP โดยเขาให้เหตุผลดังนี้ครับ

• ค่าอัพเกรดสำหรับรุ่น Home Premium ราคา 120 เหรียญฯ (ประมาณ 4,200 บาท) นั้นไม่คุ้ม เมื่อเทียบกับ Vista แล้วฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ ของ Windows 7 (ดูได้จากรีวิวของคุณ mk) นั้น "ดี" แต่ไม่ถึงกับ "จำเป็นต้องมี" ถ้าใช้งานทั่วไปเช่น ท่องเน็ต เช็คเมล์ Vista และ Windows 7 ให้ประสบการณ์แก่ผู้ใช้ไม่ต่างกันมากนัก

เอชพีได้เปิดให้สั่งประกอบรุ่น Envy รูปร่างคล้าย MacBook Pro (ทั้ง Envy 13 และ Envy 15) รวมถึง dv8 ที่มาพร้อมกับซีพียู 4 คอร์, dm3 และ Mini 311 รวมทั้งอัพเกรดรุ่นเดิมให้ติดตั้ง Windows 7 แล้วบนเว็บไซต์ของเอชพี

เท่าที่ผมเข้าไปดูหลายหน้าเว็บมีอาการ "มึน" พอสมควร อาทิ Envy 13 ราคาฮาร์ดดิสก์ 250GB กลับถูกกว่า 120GB หรือแรม 3GB ถูกกว่าแรม 2GB แถมโลโก้เอชพียังกลายเป็น VooDoo ไปซะนั้นในบางหน้า (รูปดูได้ข้างล่าง) เอาว่าถ้าดูรายละเอียดหลักๆ และราคามีดังนี้

Verizon ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ของสหรัฐ เริ่มถล่มคู่แข่งอย่าง AT&T และ iPhone ด้วยโฆษณาชุด iDon't ซึ่งชี้จุดอ่อนว่า iPhone มีข้อจำกัดอะไรบ้าง

สำนักข่าว CNET ได้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ 2 ตัว นั่นคือ Mac OS X 10.6 Snow Leopard กับ Windows 7 (ซึ่งเราจะได้เห็นรีวิวลักษณะนี้อีกมากในอีกไม่ช้า) โดยใช้ MacBook Pro 15" รุ่น Unibody 2.5GHz ซึ่งสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการทั้งสองตัวเป็นเครื่องทดสอบ ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็นรุ่น 64 บิททั้งคู่

ผลการทดสอบ

แม้ว่าไมโครซอฟท์จะเลือกใช้วิธี ballot screen ให้เลือกเบราว์เซอร์ สำหรับ Windows 7 รุ่นที่ขายในยุโรป (ภาพของ ballot screen) แต่ก็ยังมิวายโดนวิจารณ์เรื่องลำดับของเบราว์เซอร์ที่แสดงในหน้าจอนี้

Jenny Boriss นักพัฒนาของ Mozilla เขียนบล็อกวิจารณ์กรณีที่ Safari ได้อยู่เป็นอันดับแรกในรายการเบราว์เซอร์ (เรียงตามตัวอักษร Apple Safari, Google Chrome, Microsoft Internet Explorer, Mozilla Firefox, Opera) ว่าไม่แฟร์ เพราะธรรมชาติของการใช้งาน คนมักเลือกตัวเลือกอันดับแรกไว้ก่อน ซึ่งเขามองว่า Safari บนวินโดวส์ไม่ได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ผู้ใช้

เมื่อตอนต้นปีในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐกำลังโหมกระหน่ำเต็มที่ บริษัทไอทีในสหรัฐก็หนีไม่พ้นความจริงข้อนี้ กูเกิลเองประสบปัญหาผลประกอบการและกำไรลดลงอยู่บ้าง จนต้องปลดพนักงานออกบางส่วน

แต่ล่าสุดผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี สถานการณ์ของกูเกิลกลับมาดีดังเดิม แม้ว่าจะไม่ร้อนแรงเท่าเก่าแต่ก็ทำกำไรเพิ่มขึ้นแล้ว

ใครเป็นคอคอมพิวเตอร์มากกว่า 3-4 ปีน่าจะเคยได้ยินชื่อการ์ดจอยี่ห้อ Elsa มากันบ้างนะครับ แต่หลังจากนี้เราคงจะพบชื่อ Elsa บนหลอดไฟ LED แทน หลังมีรายงานข่าวว่าบริษัทจะเปลี่ยนสายการผลิตไปเป็นการผลิตหลอดไฟ LED ซะแล้ว

DIGITIMES อ้างจากแหล่งข่าวว่า Elsa ได้เพิ่มสายการผลิตหลอดไฟ LED มาระยะหนึ่งแล้วโดยเน้นทำตลาดประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทเอง อย่างไรก็ตาม Elsa ยังจะคงผลิตการ์ดจอต่อไปซึ่งจะเน้นตลาดประเทศจีนเช่นกัน และยังมีการผลิต netbook (Elsa Pal Book II) ที่มุ่งตลาดผู้ใช้ทั่วไปอีกด้วย

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าหลังจากการมาของ iPhone และกระแสของ BlackBerry ทำให้ตลาดของ Windows Mobile เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปเรื่อยๆ แต่กระนั้นก็เถอะ Steve Ballmer ซีอีโอของไมโครซอฟท์คงไม่เห็นด้วยแบบเดียวกันแน่

Ballmer กล่าวในงานที่ Boston College Chief Executives Club ว่าการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนเป็นช่วงเริ่มออกตัวเท่านั้น ยอดขายของ iPhone และ Windows Mobile ในปีที่แล้วก็ยังสูสีกันอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง และการแข่งขันคงยังไม่จบแค่นี้แน่ๆ

"ผมเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนวัตกรรมในตลาดสมาร์ทโฟนอีกมากมายที่กำลังจะตามมา ถึงแม้แอปเปิลหรือ BlackBerry กำลังได้เปรียบ แต่เรายังอยู่ในเกมการแข่งขันนี้"

คลิปนี้ผมได้มาแบบบังเอิญจริงๆ สาเหตุมาจากวันนี้ผมกับคุณ @lewcpe มีนัดเจรจาธุรกิจลับกับ @iMenn และ @iPattt เพื่อให้ Tiger Idea ออกแบบธีมใหม่ของ Blognone ให้ (ลับตรงไหนเนี่ย) แต่เมื่อคุณ @iMenn ไม่ได้มาคนเดียว พาแขกรับเชิญมาด้วย ทุกคนในโต๊ะนั่งแซวกันไปกันมา สุดท้ายก็ออกมาเป็นคลิปตามที่เห็น

วันวางจำหน่าย Windows 7 ใกล้เข้ามาทุกที ไมโครซอฟท์ในแต่ละประเทศก็ใช้วิธีทำตลาดที่แตกต่างกันไป เช่น เปิดร้านกาแฟ Windows Cafe ในฝรั่งเศส หรือ ขายราคาพิเศษ 777 กล่องในไทย ส่วนของประเทศเนเธอร์แลนด์พิเศษกว่าตรงแจกฟรี 777 กล่องแต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้นะ

Blognone เคยเสนอข่าว WeFollow สร้างรายชื่อผู้ใช้ Twitter ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกิจการทำสนุกของ Kevin Rose ผู้ก่อตั้งเว็บ Digg ตอนนี้มันรวมเข้ากับกิจการของ Digg แล้ว

WeFollow ตอนนี้มีฐานข้อมูลผู้ใช้ Twitter ประมาณ 654,000 บัญชี การรวมกิจการครั้งนี้ไม่เสียเงินซื้อเพราะเจ้าของเป็นคนเดียวกัน Kevin Rose เพียงแค่เปลี่ยนเอกสารความเป็นเจ้าของจากชื่อของตัวเองมาเป็นชื่อบริษัท Digg เท่านั้น

เดิมที WeFollow เรียงลำดับผู้ใช้ตามจำนวน follower แต่อีกไม่นานจะเปลี่ยนอัลกอริธึมในการเรียงลำดับใหม่ให้สนใจความเหมาะสมของ tag มากขึ้น ส่วน Digg ซึ่งเตรียมปรับเว็บให้รองรับประเด็นร้อนแบบเรียลไทม์ก็จะใช้ข้อมูลจาก WeFollow เข้าช่วยเช่นกัน

ผมสังเกตว่าสื่อฝรั่งซึ่งส่วนมากเป็นอเมริกันจะตื่นเต้นกับข่าว Motorola CLIQ มากเป็นพิเศษ ถ้าให้ตีความเอาเองก็คงเป็นเพราะ Motorola เป็นอีกตำนานหนึ่งของบริษัทอเมริกัน และเคยสร้างมือถือในตำนานมาแล้ว 2 รุ่นได้แก่ StarTAC และ RAZR

หลังจากไมโครซอฟท์เนเธอร์แลนด์ให้ลูกค้าที่อยู่เมือง Zevenhuizen รับวินโดวส์ 7 ฟรี 777 ไลเซนส์ (ดูข่าวจาก Ars Technica) และนักศึกษาในสหรัฐฯ สามารถซื้อวินโดวส์ 7 ในราคา 29.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ดูข่าวเก่า โดยคุณ Zerothman) เท่านั้น ก็มีโปรโมชั่นสำหรับชาวไทยเสียที!

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม (เมื่อวาน) ที่บล็อกของนายอิกอร์ มาลิเชฟ มีข่าวประกาศว่า IntelliJ เวอร์ชั่น 9 จะมีการแยกออกเป็นสองตัวคือ Community กับ Ultimate โดยที่รุ่น Community นั้นเป็นรุ่นที่ให้ฟรีภายใต้ Apache License 2.0 โดยเราสามารถดาว์นโหลดซอร์สโค้ดของมันได้ที่ http://git.jetbrains.org/

หลังจากไมโครซอฟท์จริงจังกับการใช้งานทวิตเตอร์ โดยเปิดบัญชี @Microsoft ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา (ดูข่าวเก่า) ล่าสุดได้เปิดบัญชี @MicrosoftHelps เพื่อให้ข้อมูลและการสนับสนุนวินโดวส์ 7 แบบเรียลไทม์ แต่บริการข้อมูลเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น

มีการคาดการณ์กันว่าไมโครซอฟท์จะขยายบริการดังกล่าวไปยังผลิตภัณฑ์อื่นในอนาคต

ที่มา: Ars Technica

หลังจาก Google Books/Book Search เผชิญแรงต้านจากสำนักพิมพ์อย่างต่อเนื่อง จนต้องยอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้บรรดาสำนักพิมพ์ ตอนนี้กูเกิลกลับมาพร้อมกับแผนใหม่ที่ประนีประนอมกับสำนักพิมพ์มากกว่าเดิม แผนใหม่นี้คือเปิดเป็นร้านขาย e-Book แล้วแชร์รายได้กับสำนักพิมพ์มันเสียเลย

ร้านหนังสือออนไลน์นี้ชื่อว่า Google Editions ความต่างกับร้าน e-Book ในท้องตลาดอย่าง Amazon หรือ Barnes & Noble คือกูเกิลจะทำตัวเป็นทั้งร้านขายปลีกและขายส่งครับ